เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ที่สภาการพยาบาล รศ.ดร.ทัศนา บุญทอง นายกสภาการพยาบาล มอบโล่เชิดชูเกียรติแก่ นางศรีกัญญา เชื้อรบ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ประจำหอผู้ป่วยศัลยกรรมประสาทชาย รพ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเข้าช่วยเหลือนายกุนเทอร์ เร็ชเชอะ นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน ซึ่งช็อกหมดสติ และหัวใจหยุดเต้น ในขณะกำลังเดินทางไปพักผ่อนกับครอบครัวในช่วงเทศกาลปีใหม่ และนางกัณนิสา บุญวิโรจน์ พยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการวิสัญญี รพ.ศูนย์ยะลา ซึ่งได้เข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุจักรยานยนต์ชนกำแพงล้มคว่ำกลางถนน ทำให้หมดสติโดยเข้าช่วยเหลือและช่วยดูแลนำส่งโรงพยาบาล
รศ.ดร.ทัศนา กล่าวว่า พยาบาลนั้นเป็นผู้ที่ได้รับการฝึกอบรมให้เป็นผู้ที่พร้อมทั้งทักษะ คุณธรรม จริยธรรม ในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยจิตวิญญาณของพยาบาล ปัจจุบันประเทศไทยถือว่ากำลังขาดแคลนพยาบาล เพราะอาชีพนี้ต้องทำงานหนักและเหนื่อย โดยต้องอยู่เวรครั้งละ 8 ชั่วโมง อยู่เวรประมาณ 37 เวรต่อเดือน ทำให้พักผ่อนไม่พอ เสี่ยงต่อการติดโรค มีอาการเครียดสะสมตลอดเวลา จึงอยากให้ประชาชนเข้าใจ และเมตตาพยาบาล และเป็นกำลังใจให้
นายกสภาการพยาบาล ยังกล่าวถึงการเคลื่อนย้ายแรงงานพยาบาล หลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเป็นทางการ ว่า การเคลื่อนย้ายแรงงานพยาบาลนั้นเปิดมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่วิชาชีพเหล่านี้เมื่อเข้าไปทำงานที่ประเทศใด ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศนั้น ๆ เช่น ประเทศไทยยังต้องคงเรื่องการสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเอาไว้เป็นหลัก ซึ่งที่ผ่านมามีแรงงานพยาบาลเข้ามาไม่มาก ส่วนใหญ่เข้ามาทำงานในโรงพยาบาลเอกชน ในลักษณะล่ามแปลภาษาให้กับคนไข้ต่างชาติ หรือเข้ามาทำงานเป็นจิตอาสา เป็นต้น ส่วนพยาบาลไทยเองนั้น ไม่ค่อยออกไปทำงานนอกประเทศมากนัก เพราะธรรมชาติของคนไทย มักอยากจะทำงานที่บ้านตัวเองมากกว่า แต่ในเรื่องศักยภาพนั้นพยาบาลของไทยถือว่ามีมาตรฐานในระดับสากลอยู่แล้ว ยังติดเรื่องเดียวคือภาษาอังกฤษ ที่ยังสื่อสารได้ไม่คล่อง ทางสภาการพยายาลเองก็กำลังพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน เพื่อเสริมศักยภาพทางด้านภาษาให้กับพยาบาลของไทย
รศ.ดร.ทัศนา กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามสิ่งที่กังวลว่าจะเป็นการผลักให้คนเหล่านี้ออกไปมากที่สุดคือเรื่องของความมั่นคงในอาชีพ โดยเฉพาะการบรรจุเป็นข้าราชการ แต่กลับให้เป็นลูกจ้างชั่วคราว หรือพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พกส.) ที่ผ่านมาเพียงปีแรก มีพยาบาลออกไปร้อยละ 48 ปีที่ 2 ออกไปอีกร้อยละ 25 บางคนเลิกประกอบวิชาชีพพยาบาลไปเลย.
http://www.dailynews.co.th/politics/371717
http://bit.ly/เพจข่าวดี
สภาการพยาบาลมอบโล่เชิดชู ๒ พยาบาลช่วยชีวิตชาวต่างชาติ - เตรียมฝึกทักษะภาษารับเออีซี - วิตกเรื่องการบรรจุเป็นราชการ
เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ที่สภาการพยาบาล รศ.ดร.ทัศนา บุญทอง นายกสภาการพยาบาล มอบโล่เชิดชูเกียรติแก่ นางศรีกัญญา เชื้อรบ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ประจำหอผู้ป่วยศัลยกรรมประสาทชาย รพ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเข้าช่วยเหลือนายกุนเทอร์ เร็ชเชอะ นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน ซึ่งช็อกหมดสติ และหัวใจหยุดเต้น ในขณะกำลังเดินทางไปพักผ่อนกับครอบครัวในช่วงเทศกาลปีใหม่ และนางกัณนิสา บุญวิโรจน์ พยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการวิสัญญี รพ.ศูนย์ยะลา ซึ่งได้เข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุจักรยานยนต์ชนกำแพงล้มคว่ำกลางถนน ทำให้หมดสติโดยเข้าช่วยเหลือและช่วยดูแลนำส่งโรงพยาบาล
รศ.ดร.ทัศนา กล่าวว่า พยาบาลนั้นเป็นผู้ที่ได้รับการฝึกอบรมให้เป็นผู้ที่พร้อมทั้งทักษะ คุณธรรม จริยธรรม ในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยจิตวิญญาณของพยาบาล ปัจจุบันประเทศไทยถือว่ากำลังขาดแคลนพยาบาล เพราะอาชีพนี้ต้องทำงานหนักและเหนื่อย โดยต้องอยู่เวรครั้งละ 8 ชั่วโมง อยู่เวรประมาณ 37 เวรต่อเดือน ทำให้พักผ่อนไม่พอ เสี่ยงต่อการติดโรค มีอาการเครียดสะสมตลอดเวลา จึงอยากให้ประชาชนเข้าใจ และเมตตาพยาบาล และเป็นกำลังใจให้
นายกสภาการพยาบาล ยังกล่าวถึงการเคลื่อนย้ายแรงงานพยาบาล หลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเป็นทางการ ว่า การเคลื่อนย้ายแรงงานพยาบาลนั้นเปิดมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่วิชาชีพเหล่านี้เมื่อเข้าไปทำงานที่ประเทศใด ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศนั้น ๆ เช่น ประเทศไทยยังต้องคงเรื่องการสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเอาไว้เป็นหลัก ซึ่งที่ผ่านมามีแรงงานพยาบาลเข้ามาไม่มาก ส่วนใหญ่เข้ามาทำงานในโรงพยาบาลเอกชน ในลักษณะล่ามแปลภาษาให้กับคนไข้ต่างชาติ หรือเข้ามาทำงานเป็นจิตอาสา เป็นต้น ส่วนพยาบาลไทยเองนั้น ไม่ค่อยออกไปทำงานนอกประเทศมากนัก เพราะธรรมชาติของคนไทย มักอยากจะทำงานที่บ้านตัวเองมากกว่า แต่ในเรื่องศักยภาพนั้นพยาบาลของไทยถือว่ามีมาตรฐานในระดับสากลอยู่แล้ว ยังติดเรื่องเดียวคือภาษาอังกฤษ ที่ยังสื่อสารได้ไม่คล่อง ทางสภาการพยายาลเองก็กำลังพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน เพื่อเสริมศักยภาพทางด้านภาษาให้กับพยาบาลของไทย
รศ.ดร.ทัศนา กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามสิ่งที่กังวลว่าจะเป็นการผลักให้คนเหล่านี้ออกไปมากที่สุดคือเรื่องของความมั่นคงในอาชีพ โดยเฉพาะการบรรจุเป็นข้าราชการ แต่กลับให้เป็นลูกจ้างชั่วคราว หรือพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พกส.) ที่ผ่านมาเพียงปีแรก มีพยาบาลออกไปร้อยละ 48 ปีที่ 2 ออกไปอีกร้อยละ 25 บางคนเลิกประกอบวิชาชีพพยาบาลไปเลย.
http://www.dailynews.co.th/politics/371717
http://bit.ly/เพจข่าวดี