JJNY : 5in1 มองทำMOA ไม่ขัดรธน.แถมเพิ่มโปร่งใส│ปชน.ห่วงปมแรงงาน│เขมรเกณฑ์เด็ก│ปธ.สรท.หวังรบ.ใหม่│รัสเซียส่งโดรนถล่มเคียฟ

นักวิชาการ มองพรรคการเมืองทำ MOA ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ แถมเพิ่มโปร่งใส
https://www.matichon.co.th/politics/news_5358776
.

.
นักวิชาการ  มองพรรคการเมืองทำMOA ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ แถมเพิ่มโปร่งใส หลัง “เพื่อไทย”เดินหน้าร้องศาลตัดสมาชิกภาพสส. “อนุทิน”
.
เมื่อวันที่ 7 ก.ย.2568 รศ.ดร.มุนินทร์ พงศาปาน อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย เข้ายื่นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ส่งคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส.ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.พรรคประชาชน ว่าสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (3) ประกอบมาตรา 185 (1) (2) หรือไม่
.
โดยมีเหตุผลอ้างอิงจากการทำบันทึกความเข้าใจ (MOA) ระหว่างพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชน เพื่อสนับสนุนนายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี แม้พรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาล แต่ได้กำหนดเงื่อนไขให้รัฐบาลต้องยุบสภาภายใน 4 เดือน และห้ามไม่ให้แสวงหาเสียงสนับสนุนจนเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ซึ่งฝ่ายเพื่อไทยเห็นว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการประชาธิปไตย ขัดรัฐธรรมนูญ และกฎหมายพรรคการเมือง เพราะเข้าลักษณะการครอบงำการทำงานของพรรคการเมืองอื่น รวมถึงอาจเป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ทางการเมือง
.
โดย รศ.ดร.มุนินทร์ระบุว่า การทำ MOA ของพรรคการเมืองไม่มีสภาพบังคับทางกฎหมาย จึงไม่ถือว่าขัดรัฐธรรมนูญ ในทางกลับกันยังช่วยสร้างความโปร่งใสและเปิดให้ประชาชนตรวจสอบได้มากขึ้น ถือเป็นสิ่งที่รัฐธรรมนูญต้องการให้เกิดขึ้นในระบบการเมือง
.

.
ปชน.ห่วงปมแรงงานไทยเก็บเบอร์รี่ ขอ ‘อนุทิน’ อย่าดึงคนเอี่ยวค้ามนุษย์ นั่ง ครม.หนู 1
https://www.matichon.co.th/politics/news_5358907
.
พรรคประชาชน เรียกร้องนายกฯ ‘อนุทิน’ ทบทวนตั้งครม. ชุดใหม่ ห้ามคนเอี่ยวการค้ามนุษย์นั่งเก้าอี้รัฐมนตรี หลังแรงงานไทยถูกหลอกไปเก็บเบอร์รี่ที่ฟินแลนด์
.
เมื่อวันที่ 7 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก พรรคประชาชน มีข้อเรียกร้องถึงกรณีการจัดโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเชื่อมโยงกับกรณีแรงงานไทยเก็บเบอร์รี่ในประเทศฟินแลนด์ว่า
.
คนมีคดีค้ามนุษย์ติดตัว ไม่ควรเป็นรัฐมนตรี
.
เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา ศาลเขตลัปแลนด์ ประเทศฟินแลนด์ มีคำพิพากษาจำคุกอดีตผู้บริหารระดับสูงของหนึ่งในบริษัทผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเบอร์รี่รายใหญ่ของฟินแลนด์ และนายหน้าชาวไทย ฐานมีส่วนในขบวนการค้ามนุษย์
.
คดีนี้มีความสำคัญต่อประเทศไทยอย่างมาก เพราะเหยื่อการค้ามนุษย์คือแรงงานคนไทยกว่า 60 ชีวิตที่ถูกหลอกให้ไปทำงานเก็บผลไม้ป่า โดยมีการโฆษณาว่าเป็นงานรายได้สูง ได้เงินเป็นแสนภายในเวลาไม่กี่เดือน แต่ความเป็นจริงแรงงานต้องทำงานอย่างหนัก ไม่มีค่าจ้างขั้นต่ำ หลายคนถูกยึดเอกสารสำคัญ เจ็บป่วยก็ยังถูกกักขังให้ทำงานต่อ ต้องหลับนอนในที่แออัดคับแคบท่ามกลางอากาศหนาวเย็น
.
ย้อนไปเมื่อ 25 มีนาคม 2568 สหัสวัต คุ้มคง ส.ส.ชลบุรี เขต 7 พรรคประชาชน ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องนี้ โดยอ้างอิงสำนวนคดีจากฟินแลนด์และสำนวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ที่ส่งไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่ามีอดีตข้าราชการระดับสูงและอดีตรัฐมนตรีในกระทรวงแรงงานเกี่ยวข้อง โดยร่วมเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการค้ามนุษย์จากการรับสินบนจากนายหน้าชาวไทย เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดส่งแรงงานไทยไปเป็นแรงงานทาสที่ฟินแลนด์และสวีเดน
.
จากสำนวนคำให้การคดีติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐดังกล่าว เราจะเห็นความเชื่อมโยงระหว่างนายหน้าชาวไทย กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานในขณะนั้น ทั้งการเดินทางไปเยี่ยมบริษัทที่มีปัญหาถึงฟินแลนด์ รวมถึงแชตและกล่องเงินระหว่างนายหน้ากับข้าราชการระดับสูงในกระทรวงแรงงาน ซึ่งก่อนหน้านี้ทางฟินแลนด์เองมีคดีที่เกี่ยวเนื่องกันและมีพฤติการณ์ในลักษณะเดียวกันที่ทำให้ข้าราชการระดับสูงของฟินแลนด์ถูกตัดสินโทษจากเรื่องนี้ไปแล้ว
.
คดีนี้เป็นคดีที่เราติดตามมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยพรรคก้าวไกล ร่วมกับภาคประชาชนและเหยื่อการค้ามนุษย์อีกหลายภาคส่วน มาจนถึงวันนี้ศาลฟินแลนด์ได้ชี้แล้วว่าคดีค้ามนุษย์ดังกล่าว ผู้ต้องหาคือนายหน้าชาวไทย มีความผิดจริง
.
สหัสวัตจึงเรียกร้องให้ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ทบทวนถึงความเหมาะสมและคำนึงถึงความรู้สึกของพี่น้องประชาชนที่กำลังจับตาการตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ไม่ให้คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีค้ามนุษย์มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี
.
สหัสวัตจะดำเนินการตามกลไกของฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อให้กระบวนการของคดีนี้ในฝั่งไทยเร่งสอบสวนและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด โดยเสนอว่าควรนำคำตัดสินล่าสุดของศาลที่ฟินแลนด์ในคดีค้ามนุษย์ มาประกอบการพิจารณา เชื่อว่ามีแนวโน้มสูงมากที่จะเป็นน้ำหนักเพิ่มเติมในการเอาผิดอดีตรัฐมนตรีและข้าราชการระดับสูงของกระทรวงแรงงาน
.
พรรคประชาชนยืนยันว่าเราพร้อมดำเนินการทุกช่องทางเพื่อให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับบทลงโทษโดยปราศจากการละเว้นหรือการแทรกแซงจากฝ่ายบริหาร เพื่อพิสูจน์ว่ากระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยมีมาตรฐาน บังคับใช้กับทุกคนอย่างเสมอหน้า และประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์อีกจำนวนมาก จะได้รับความยุติธรรม
.
https://www.facebook.com/PPLEThai/posts/122169257084480817
.

.
เขมรเกณฑ์เด็ก รวมตัวกดดันไทยอีกที่ชายแดนบ้านหนองจาน
https://news.ch7.com/detail/825691
.
วันนี้ (7 ก.ย. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านหนองจาน ม.3 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ภายหลังหลังจังหวัดสระแก้ว ออกแถลงการณ์และติดประกาศ 3 ภาษา แจ้งให้ชาวกัมพูชาที่รุกล้ำดินแดนประเทศไทย บริเวณศูนย์อพยพชาวกัมพูชาเดิม เนื้อที่ประมาณ 99 ไร่ ระหว่างหลักเขตแดนที่ 46-47 ซึ่งมีชาวกัมพูชาอาศัยอยู่รวมประมาณ 170 ครัวเรือน ให้ออกจากพื้นที่ประเทศไทยโดยด่วน มิฉะนั้นเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งชาวกัมพูชาได้ลุกฮือรวมตัวกดดันยั่วยุทหารไทย ไม่พอใจการดำเนินการดังกล่าว ที่บริเวณใกล้กับหลักเขตแดนที่ 46 ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย. 68 ที่ผ่านมา
.
ล่าสุดวันนี้ เพจเฟซบุ๊ก Army Military Force ได้โพสต์อัปเดตสถานการณ์ล่าสุด พร้อมกับระบุว่า ช่วงเวลา 12.34 น. มีเด็ก ๆ ถูกกำนันลีเกณฑ์เข้าพื้นที่บ้านหนองจาน (ฝั่งกัมพูชา) เยอะขึ้นเรื่อย ๆ ถ่ายจากริมถนนหมายเลข 58 ฝั่งเขมร เพื่อรวมตัวกดดันและยั่วยุเจ้าหน้าที่ไทย โดยใช้เด็ก คนพิการ และผู้หญิง เป็นโล่มนุษย์ โดยเวลา 13.38 น. ทหารกัมพูชาถ่ายคอนเทนต์ในซุ้มศาลาเพิงพักที่กำนันลีให้ชาวเขมรสร้างขึ้นชั่วคราว ซึ่งสิ่งก่อสร้างแห่งนี้ปัจจุบันถูกใช้เป็นจุดปลุกระดมและสั่งการชาวบ้าน โดยกำนันลีและทหารกัมพูชา
.
ต่อมาช่วงเวลา 14.02 น. มีภาพรายงานว่า ได้มีชาวบ้านกัมพูชาเดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณถนนหมายเลข 58 ปากทางเข้าพื้นที่บ้านหนองจาน ใกล้กับหลักเขตแดนที่ 46 เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบความเคลื่อนไหวของชาวกัมพูชาจำนวนประมาณ 50 คน เข้ามารวมตัวกันอยู่ใกล้กับหลักเขตแดนที่ 46 พร้อมทั้งได้รวมตัวกันอยู่ที่บริเวณจุดที่สร้างเพิงพักชั่วคราวใกล้แนวชายแดน แต่ไม่มีเหตุการณ์ความวุ่นวายหรือการกระทบกระทั่งแต่อย่างใด
.
อย่างไรก็ตาม กำลังเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยความมั่นคงของไทย ที่วางกำลังปฏิบัติหน้าที่ประจำตลอดแนวชายแดน ยังคงตรึงกำลังดูแลพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของชาวกัมพูชาดังกล่าว ส่วนสถานการณ์บริเวณด่านบ้านหนองจาน บริเวณจุดตรวจ จต.ส.40 ถนนศรีเพ็ญ ฝั่งประเทศไทย เจ้าหน้าสารวัตรทหาร ซึ่งเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตามประกาศกฎอัยการศึก ได้เข้ารักษาความสงบบริเวณถนนศรีเพ็ญและด่านตรวจดังกล่าว ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังบูรพา และเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 ซึ่งประจำฐานในจุดดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเต็มกำลัง ซึ่งมีประชาชนเดินทางเข้ามาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ไม่มากนัก เนื่องจากเกิดฝนตกอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ตลอดทั้งคืนจนถึงช่วงเช้า และช่วงสายที่ผ่านมา
.
https://www.facebook.com/armymilitaryforcenews/videos/1025307032895508/
https://www.facebook.com/armymilitaryforcenews/videos/666932249763561/
https://www.facebook.com/armymilitaryforcenews/videos/1127838999412441/
.

.
ปธ.สรท. หวังรบ.ใหม่ จัดการ 4 เรื่องใน 4 เดือน ชี้ถ้าทำได้อาจมีสิ่งที่ดีขึ้น
https://www.matichon.co.th/economy/news_5358615
.
ปธ.สรท. หวังรบ.ใหม่ จัดการ 4 เรื่องใน 4 เดือน ชี้ถ้าทำได้อาจมีสิ่งที่ดีขึ้น
.
เมื่อวันที่ 7 กันยายน นายธนากร เกษตรสุวรรณ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวภายหลังนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 แถลงลุยงาน 4 เรื่อง และประกาศยุบสภาใน 4 เดือน ว่า แม้ระยะเวลาในการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดนี้จะสั้นเพียง 4 เดือน แต่ทุกการเปลี่ยนแปลงล้วนสร้างความหมายใหม่และอาจเปิดโอกาสใหม่ให้เกิดขึ้นได้
.
สำหรับภาคเอกชนและประชาชน สิ่งนี้ถือเป็นสัญญาณสำคัญที่สร้างความคาดหวังว่า “อาจมีสิ่งที่ดีขึ้น
.
1. การปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี
• การคัดเลือกและแต่งตั้งรัฐมนตรีประจำกระทรวงต่าง ๆ มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นผู้กำหนดทิศทางเชิงนโยบายในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ
• หากได้บุคคลที่มีความสามารถ โปร่งใส และเข้าใจปัญหา จะสร้างความเชื่อมั่นได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
.
2. การทบทวนนโยบายที่มีอยู่
• รัฐบาลควรใช้ช่วงเวลานี้พิจารณาว่านโยบายใดที่เหมาะสม ควรเดินหน้าต่อ และนโยบายใดที่ไม่เหมาะสมควรปรับหรือหยุด
• การกล้าตัดสินใจเชิงนโยบายในช่วงสั้น ๆ นี้ แม้ไม่ครอบคลุมทั้งหมด แต่จะสะท้อนถึงความตั้งใจจริงในการแก้ปัญหา
.
 3. การบริหารงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ
• ในภาวะที่เศรษฐกิจกำลังลำบาก งบประมาณประเทศควรถูกใช้ไปในโครงการที่จำเป็นและเกิดประโยชน์สูงสุด
• ต้องเลือกให้ถูกทิศ ถูกเวลา และตอบโจทย์ประชาชนและภาคธุรกิจ เช่น การลดต้นทุนโครงสร้างพื้นฐาน การสนับสนุน SMEs และการอำนวยความสะดวกทางการค้า
.
4. การสร้างความหวังและความเชื่อมั่น
• แม้เวลาเพียง 4 เดือนจะสั้น แต่การแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ที่ชัดเจน เช่น ความโปร่งใส (Anti-Corruption), ความจริงใจต่อการแก้ปัญหา และการสื่อสารที่ตรงไปตรงมา จะช่วยให้ประชาชนและเอกชนเห็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลง
• ความหวังแม้เพียงเล็กน้อยในช่วงนี้ อาจกลายเป็นแรงผลักดันสำคัญให้เศรษฐกิจและสังคมเดินหน้าต่อไปได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่