ยักษ์ 'ไอที-มือถือ' ยิ้มรับปี '59 '4G-ศก.ดิจิทัล-เออีซี' ฟื้นตลาด
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2559
นับเป็นอีกปีที่ท้าทาย และน่าตื่นเต้นทีเดียวสำหรับธุรกิจสื่อสาร และไอที โดยมีแรงขับเคลื่อนสำคัญจากหลายปัจจัย ทั้งการโหมกระแส 4G ของค่ายมือถือ 3 รายเดิม และการเข้าสู่ตลาดของรายใหม่ "แจสโมบาย บรอดแบนด์" ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเขย่าตลาดอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์แบบมีสาย (ฟิกซ์ บรอดแบนด์) มาแล้ว ภายใต้ชื่อ 3BB จึงเป็นที่จับตาว่าปี 2559 นี้คงเป็นผู้เล่นรายใหม่ที่สร้างสีสันได้ไม่น้อย ไม่นับว่ารายเดิมไม่ใครก็ใครอาจลุกขึ้นมารับน้องใหม่ด้วย
เมื่อรวมเข้ากับการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจที่ดิจิทัลของรัฐบาล, การเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) และการลงทุนของภาครัฐ ขณะที่หลายฝ่ายต่างหวังว่ามู้ดจับจ่ายของผู้บริโภคน่าจะฟื้นกลับมาอย่างน้อย ๆ ก็ดีกว่าปีที่แล้วอย่างแน่นอน
นายปรัธนา ลีลพนัง รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานการตลาด บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า
ความท้าทายในปี 2559 สำหรับเอไอเอสคือการตอบสนองความต้องการในบริการ 4G และการขยับไปสู่การเป็น Digital Life Service Provider เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์ มากขึ้น รวมถึงสภาพการแข่งขันในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยที่จะมีการเปลี่ยนแปลงจากการมีผู้ให้บริการ 4 รายในตลาด โดยคู่แข่งแต่ละรายน่าจะเน้นไปที่การนำเสนอบริการ 4G มากกว่า 3G และ 2G ซึ่งลูกค้าจะใช้อินเทอร์เน็ตได้เร็วขึ้นกว่าเดิมมากในยุคของ 4G ทำให้มีการใช้ดาต้าเยอะขึ้น โดยเฉพาะคอนเทนต์วิดีโอ และคอนเทนต์เพื่อความบันเทิงต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บริการโทรศัพท์ มือถือในปัจจุบันยังใช้เครื่องที่รองรับระบบ 2G และ 3G เป็นหลัก มีที่ใช้เครื่องที่รองรับ 4G ได้ประมาณ 10% แต่จากการโหมบริการ 4G ของผู้ให้บริการทุกรายคาดว่าจะทำให้มีลูกค้าเปลี่ยนมาใช้เครื่อง 4G เพิ่มขึ้นมาก แต่รวมแล้วไม่เกิน 20% ดังนั้นทั้ง บริการ และเครื่องที่รองรับ 3G จึงยังมีบทบาทสำคัญสำหรับปีนี้
ด้าน
นายวิชัย พรพระตั้ง รองประธานองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคม และไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าวว่า
กำลังซื้อของผู้บริโภคในปีนี้น่าจะดีขึ้น เพราะความเชื่อมั่น และสภาพเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว จากปี 2558 ที่ค่อนข้างชะลอตัว แม้ว่าการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือจะยังคงมีแนวโน้มเติบโต เนื่องจากเป็นสินค้าที่จำเป็นมากขึ้น โดยเฉพาะสมาร์ทโฟน ซึ่งจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2559 จากความต้องการในการใช้โมบายอินเทอร์เน็ต และความเร็วระดับ 4G ของโอเปอเรเตอร์แต่ละราย
โดยซัมซุงยังเดินหน้าทำตลาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดโทรศัพท์มือถือเอาไว้ โดยใช้กลยุทธ์เดิม คือ ปูพรมโทรศัพท์มือถือทุกเซ็กเมนต์ ไล่ตั้งแต่ฟีเจอร์โฟน ไปจนถึงสมาร์ทโฟนรุ่นไฮเอนด์ ซึ่งปี ที่ผ่านมา Galaxy Note 5 เป็นอีกรุ่นที่ทำยอดขายได้ดีมากในช่วงสิ้นปี 2558 คาดว่ารุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในปี 2559 จะทำได้ดีเช่นเดิม
ทั้งนี้ การที่โอเปอเรเตอร์ในประเทศไทยให้บริการ 4G อย่างแพร่หลายส่งผลถึงการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือโดยตรง เพราะเป็นแรงกระตุ้นสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคที่มีเครื่องรองรับ 2G หรือ 3G ต้องซื้อเครื่องใหม่เพื่อให้รองรับการใช้งานความเร็วโมบายอินเทอร์เน็ตระดับ 4G ได้ ประกอบกับ โอเปอเรเตอร์ทุกรายจะขับเคลื่อนตลาดมากขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคเปิดใช้ระบบ 4G จึงถือเป็นอีกโอกาสของบริษัท และปัจจุบันซัมซุงมีสมาร์ทโฟนที่รองรับเทคโนโลยี 4G มากกว่า 20 รุ่น ที่ราคาระดับกลางถึงบน
ฟาก นายธเนศ อังคศิริสรรพผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปี 2559 บริษัทจะใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า "ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น" หรือการยกระดับองค์กรไปสู่การใช้งานระบบดิจิทัล ทั้งด้านฮาร์ดแวร์ และโซลูชั่นต่าง ๆ โดยเน้นไปที่ลูกค้ากลุ่มองค์กรเป็นตลาดหลัก เพราะมีการลงทุนด้านไอทีอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมประสิทธิภาพในการแข่งขัน แตกต่างจากกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปที่จะกระทบโดยตรงจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
"ปี 2559 น่าจะมาถึงจุดที่องค์กรต่าง ๆ พร้อมลงทุนเต็มที่ เพราะชะลอการใช้จ่ายมาตั้งแต่ปี 2557 พอเข้าปี 2558 ภาครัฐเริ่มขยับมีการลงทุนมากขึ้น แม้จะลงทุนเทคโนโลยีช้ากว่าเอกชนพอสมควร แต่ความต่อเนื่องมีมากกว่า คาดว่าปี 2559 จะมีการลงทุนเรื่อง IoTs (Internet Of Things) และ M2M (Machine to Machine) มากขึ้น โดยจะทำงานบนคลาวด์เบสทำให้มีการใช้โซลูชั่นต่าง ๆ เข้ามาทดแทนการลงทุนฮาร์ดแวร์ เป็นต้น"
ขณะเดียวกัน เดลล์จะเข้ามารุกตลาดองค์กรขนาดกลาง และเล็ก (เอสเอ็มอี) มากขึ้นด้วย เนื่องจากเป็นฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย ด้วยการทำตลาดผ่านคู่ค้าเพื่อให้การขยายตลาดทำได้เร็ว และครอบคลุมมากขึ้น ทั้งยังมีแรงกระตุ้นจากการก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลขององค์กรต่าง ๆ เพื่อให้แข่งขันได้ในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) โดยจะปรับทั้งเทคโนโลยี และราคาให้เหมาะสม กับเอสเอ็มอี
สำหรับเรื่อง 4G บริษัทเตรียมอุปกรณ์เน็ตเวิร์กเพื่อตอบโจทย์โอเปอเรเตอร์ทุกรายในการเข้าไปติดตั้งระบบเชื่อมต่อสัญญาณ ปัจจัยทั้งหมดนี้จะทำให้รายได้ในปี 2559 ยังเติบโตได้
ขณะที่ นางพรรณสิรี อมาตยกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ปีนี้ความพร้อมในการลงทุนด้านไอทีขององค์กรต่าง ๆ ในประเทศไทยเริ่มไปสู่ยุคดิจิทัลมากขึ้น หลังจากปี 2558 ที่ผ่านมา ต่างลงทุนระบบพื้นฐาน เช่น คลาวด์, การวิเคราะห์บิ๊กดาต้า และระบบเครือข่ายที่ตอบโจทย์การทำงานแบบ โมบิลิตี้ เป็นต้น ทำให้ปี 2559 จะมีการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ต่อยอดการลงทุน พื้นฐานในการขับเคลื่อนองค์กร โดยไอบีเอ็มมองว่าการก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลหรือการใช้ประโยชน์จากดิจิทัลกลายเป็นปัจจัยพื้นฐานของโลกธุรกิจ และนำไปสู่วิวัฒนาการของยุค "ค็อกนิทิฟ" (Cognitive) ซึ่งคือการที่องค์กรมุ่งสร้างความแตกต่างด้วยการผนึกเทคโนโลยี เพื่อขยายขีดความสามารถในการเข้าใจข้อมูลรูปแบบต่าง ๆ
"Cognitive Computing เป็นเทคโนโลยีคอมพิวติ้งรูปแบบใหม่ที่รวมนวัตกรรมด้านการวิเคราะห์ความสามารถในการประมวลผลข้อมูลที่เป็นภาษามนุษย์ รวมถึงความสามารถของระบบในการเรียนรู้ เข้าใจ และให้เหตุผลได้ด้วยตนเอง โดยไอดีซี คาดการณ์ว่าในปี 2561 ผู้บริโภคจะปฏิสัมพันธ์กับบริการที่มีเทคโนโลยีค็อกนิทีฟอยู่ เบื้องหลัง แม้ไม่ใช่เรื่องใหม่ในโลก แต่ในไทยยังไม่มีการใช้งานมากนัก มีเพียงองค์กรขนาดใหญ่ เช่น โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์นำระบบนี้ไปวิเคราะห์การรักษาคนไข้ แต่ในปี 2559 องค์กรอื่น ๆ เริ่มมีความพร้อมมากขึ้น รวมถึงฝั่งเอสเอ็มอีที่เริ่มตื่นตัวกับเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งไอบีเอ็มจะนำระบบวัตสันที่มีอยู่เดิมไปผนวกให้การวิเคราะห์ข้อมูลแบบ Cognitive Computing ทำได้ดีมากขึ้นเช่นกัน"
และเพื่อรองรับตลาดในอนาคต ไอบีเอ็มได้เปิดตัวกลุ่มธุรกิจให้คำปรึกษาด้านโซลูชั่นค็อกนิทิฟ โดยนำผู้เชี่ยวชาญด้านแมชชีนเลิร์นนิ่ง, อนาไลติกส์ขั้นสูง, วิทยาศาสตร์ และการพัฒนาข้อมูล, การบริหารความเปลี่ยนแปลง รวมถึงผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ ก้าวเข้าสู่ยุคค็อกนิทิฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2559 (หน้า 24, 22)
ยักษ์ 'ไอที-มือถือ' ยิ้มรับปี '59 '4G-ศก.ดิจิทัล-เออีซี' ฟื้นตลาด
ยักษ์ 'ไอที-มือถือ' ยิ้มรับปี '59 '4G-ศก.ดิจิทัล-เออีซี' ฟื้นตลาด
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2559
นับเป็นอีกปีที่ท้าทาย และน่าตื่นเต้นทีเดียวสำหรับธุรกิจสื่อสาร และไอที โดยมีแรงขับเคลื่อนสำคัญจากหลายปัจจัย ทั้งการโหมกระแส 4G ของค่ายมือถือ 3 รายเดิม และการเข้าสู่ตลาดของรายใหม่ "แจสโมบาย บรอดแบนด์" ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเขย่าตลาดอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์แบบมีสาย (ฟิกซ์ บรอดแบนด์) มาแล้ว ภายใต้ชื่อ 3BB จึงเป็นที่จับตาว่าปี 2559 นี้คงเป็นผู้เล่นรายใหม่ที่สร้างสีสันได้ไม่น้อย ไม่นับว่ารายเดิมไม่ใครก็ใครอาจลุกขึ้นมารับน้องใหม่ด้วย
เมื่อรวมเข้ากับการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจที่ดิจิทัลของรัฐบาล, การเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) และการลงทุนของภาครัฐ ขณะที่หลายฝ่ายต่างหวังว่ามู้ดจับจ่ายของผู้บริโภคน่าจะฟื้นกลับมาอย่างน้อย ๆ ก็ดีกว่าปีที่แล้วอย่างแน่นอน
นายปรัธนา ลีลพนัง รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานการตลาด บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ความท้าทายในปี 2559 สำหรับเอไอเอสคือการตอบสนองความต้องการในบริการ 4G และการขยับไปสู่การเป็น Digital Life Service Provider เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์ มากขึ้น รวมถึงสภาพการแข่งขันในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยที่จะมีการเปลี่ยนแปลงจากการมีผู้ให้บริการ 4 รายในตลาด โดยคู่แข่งแต่ละรายน่าจะเน้นไปที่การนำเสนอบริการ 4G มากกว่า 3G และ 2G ซึ่งลูกค้าจะใช้อินเทอร์เน็ตได้เร็วขึ้นกว่าเดิมมากในยุคของ 4G ทำให้มีการใช้ดาต้าเยอะขึ้น โดยเฉพาะคอนเทนต์วิดีโอ และคอนเทนต์เพื่อความบันเทิงต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บริการโทรศัพท์ มือถือในปัจจุบันยังใช้เครื่องที่รองรับระบบ 2G และ 3G เป็นหลัก มีที่ใช้เครื่องที่รองรับ 4G ได้ประมาณ 10% แต่จากการโหมบริการ 4G ของผู้ให้บริการทุกรายคาดว่าจะทำให้มีลูกค้าเปลี่ยนมาใช้เครื่อง 4G เพิ่มขึ้นมาก แต่รวมแล้วไม่เกิน 20% ดังนั้นทั้ง บริการ และเครื่องที่รองรับ 3G จึงยังมีบทบาทสำคัญสำหรับปีนี้
ด้านนายวิชัย พรพระตั้ง รองประธานองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคม และไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าวว่า กำลังซื้อของผู้บริโภคในปีนี้น่าจะดีขึ้น เพราะความเชื่อมั่น และสภาพเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว จากปี 2558 ที่ค่อนข้างชะลอตัว แม้ว่าการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือจะยังคงมีแนวโน้มเติบโต เนื่องจากเป็นสินค้าที่จำเป็นมากขึ้น โดยเฉพาะสมาร์ทโฟน ซึ่งจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2559 จากความต้องการในการใช้โมบายอินเทอร์เน็ต และความเร็วระดับ 4G ของโอเปอเรเตอร์แต่ละราย
โดยซัมซุงยังเดินหน้าทำตลาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดโทรศัพท์มือถือเอาไว้ โดยใช้กลยุทธ์เดิม คือ ปูพรมโทรศัพท์มือถือทุกเซ็กเมนต์ ไล่ตั้งแต่ฟีเจอร์โฟน ไปจนถึงสมาร์ทโฟนรุ่นไฮเอนด์ ซึ่งปี ที่ผ่านมา Galaxy Note 5 เป็นอีกรุ่นที่ทำยอดขายได้ดีมากในช่วงสิ้นปี 2558 คาดว่ารุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในปี 2559 จะทำได้ดีเช่นเดิม
ทั้งนี้ การที่โอเปอเรเตอร์ในประเทศไทยให้บริการ 4G อย่างแพร่หลายส่งผลถึงการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือโดยตรง เพราะเป็นแรงกระตุ้นสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคที่มีเครื่องรองรับ 2G หรือ 3G ต้องซื้อเครื่องใหม่เพื่อให้รองรับการใช้งานความเร็วโมบายอินเทอร์เน็ตระดับ 4G ได้ ประกอบกับ โอเปอเรเตอร์ทุกรายจะขับเคลื่อนตลาดมากขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคเปิดใช้ระบบ 4G จึงถือเป็นอีกโอกาสของบริษัท และปัจจุบันซัมซุงมีสมาร์ทโฟนที่รองรับเทคโนโลยี 4G มากกว่า 20 รุ่น ที่ราคาระดับกลางถึงบน
ฟาก นายธเนศ อังคศิริสรรพผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปี 2559 บริษัทจะใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า "ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น" หรือการยกระดับองค์กรไปสู่การใช้งานระบบดิจิทัล ทั้งด้านฮาร์ดแวร์ และโซลูชั่นต่าง ๆ โดยเน้นไปที่ลูกค้ากลุ่มองค์กรเป็นตลาดหลัก เพราะมีการลงทุนด้านไอทีอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมประสิทธิภาพในการแข่งขัน แตกต่างจากกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปที่จะกระทบโดยตรงจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
"ปี 2559 น่าจะมาถึงจุดที่องค์กรต่าง ๆ พร้อมลงทุนเต็มที่ เพราะชะลอการใช้จ่ายมาตั้งแต่ปี 2557 พอเข้าปี 2558 ภาครัฐเริ่มขยับมีการลงทุนมากขึ้น แม้จะลงทุนเทคโนโลยีช้ากว่าเอกชนพอสมควร แต่ความต่อเนื่องมีมากกว่า คาดว่าปี 2559 จะมีการลงทุนเรื่อง IoTs (Internet Of Things) และ M2M (Machine to Machine) มากขึ้น โดยจะทำงานบนคลาวด์เบสทำให้มีการใช้โซลูชั่นต่าง ๆ เข้ามาทดแทนการลงทุนฮาร์ดแวร์ เป็นต้น"
ขณะเดียวกัน เดลล์จะเข้ามารุกตลาดองค์กรขนาดกลาง และเล็ก (เอสเอ็มอี) มากขึ้นด้วย เนื่องจากเป็นฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย ด้วยการทำตลาดผ่านคู่ค้าเพื่อให้การขยายตลาดทำได้เร็ว และครอบคลุมมากขึ้น ทั้งยังมีแรงกระตุ้นจากการก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลขององค์กรต่าง ๆ เพื่อให้แข่งขันได้ในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) โดยจะปรับทั้งเทคโนโลยี และราคาให้เหมาะสม กับเอสเอ็มอี
สำหรับเรื่อง 4G บริษัทเตรียมอุปกรณ์เน็ตเวิร์กเพื่อตอบโจทย์โอเปอเรเตอร์ทุกรายในการเข้าไปติดตั้งระบบเชื่อมต่อสัญญาณ ปัจจัยทั้งหมดนี้จะทำให้รายได้ในปี 2559 ยังเติบโตได้
ขณะที่ นางพรรณสิรี อมาตยกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ปีนี้ความพร้อมในการลงทุนด้านไอทีขององค์กรต่าง ๆ ในประเทศไทยเริ่มไปสู่ยุคดิจิทัลมากขึ้น หลังจากปี 2558 ที่ผ่านมา ต่างลงทุนระบบพื้นฐาน เช่น คลาวด์, การวิเคราะห์บิ๊กดาต้า และระบบเครือข่ายที่ตอบโจทย์การทำงานแบบ โมบิลิตี้ เป็นต้น ทำให้ปี 2559 จะมีการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ต่อยอดการลงทุน พื้นฐานในการขับเคลื่อนองค์กร โดยไอบีเอ็มมองว่าการก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลหรือการใช้ประโยชน์จากดิจิทัลกลายเป็นปัจจัยพื้นฐานของโลกธุรกิจ และนำไปสู่วิวัฒนาการของยุค "ค็อกนิทิฟ" (Cognitive) ซึ่งคือการที่องค์กรมุ่งสร้างความแตกต่างด้วยการผนึกเทคโนโลยี เพื่อขยายขีดความสามารถในการเข้าใจข้อมูลรูปแบบต่าง ๆ
"Cognitive Computing เป็นเทคโนโลยีคอมพิวติ้งรูปแบบใหม่ที่รวมนวัตกรรมด้านการวิเคราะห์ความสามารถในการประมวลผลข้อมูลที่เป็นภาษามนุษย์ รวมถึงความสามารถของระบบในการเรียนรู้ เข้าใจ และให้เหตุผลได้ด้วยตนเอง โดยไอดีซี คาดการณ์ว่าในปี 2561 ผู้บริโภคจะปฏิสัมพันธ์กับบริการที่มีเทคโนโลยีค็อกนิทีฟอยู่ เบื้องหลัง แม้ไม่ใช่เรื่องใหม่ในโลก แต่ในไทยยังไม่มีการใช้งานมากนัก มีเพียงองค์กรขนาดใหญ่ เช่น โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์นำระบบนี้ไปวิเคราะห์การรักษาคนไข้ แต่ในปี 2559 องค์กรอื่น ๆ เริ่มมีความพร้อมมากขึ้น รวมถึงฝั่งเอสเอ็มอีที่เริ่มตื่นตัวกับเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งไอบีเอ็มจะนำระบบวัตสันที่มีอยู่เดิมไปผนวกให้การวิเคราะห์ข้อมูลแบบ Cognitive Computing ทำได้ดีมากขึ้นเช่นกัน"
และเพื่อรองรับตลาดในอนาคต ไอบีเอ็มได้เปิดตัวกลุ่มธุรกิจให้คำปรึกษาด้านโซลูชั่นค็อกนิทิฟ โดยนำผู้เชี่ยวชาญด้านแมชชีนเลิร์นนิ่ง, อนาไลติกส์ขั้นสูง, วิทยาศาสตร์ และการพัฒนาข้อมูล, การบริหารความเปลี่ยนแปลง รวมถึงผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ ก้าวเข้าสู่ยุคค็อกนิทิฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2559 (หน้า 24, 22)