[CR] รีวิวสัมผัสแรกกับว่ากันว่าเป็นที่สุดแห่งคีย์บอร์ด

พอดีรู้สึกว่าเนื้อหาที่ทำไปมันขาดๆ ไปเยอะก็เลยขอทำอันใหม่ แต่ไม่ได้อัพเดทลงพันทิพย์ละครับ

ถ้าผู้ใดสนใจก็ตามไปอ่านได้ที่กระทู้ของ overclockzone เลยครับ

http://www.overclockzone.com/oczone/forum/hardware-zone/general-hardware/4822-review-%E0%B8%84%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%94-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%94-realforce-hi-pro







สวัสดีปีใหม่ทุกท่านครับ เนื่องในโอกาสปีใหม่ผมก็เลยขอลองทำ Customer Review ซักหน่อย โดยสิ่งที่จะเอามาพูดก็คือ Keyboard ยี่ห้อ Realforce รุ่น 104 UG Hi-Pro ครับ

Introduction

ความเป็นมาในการเล่นคีย์บอร์ดของผมเริ่มจากอยากจะหาคีย์บอร์ดสวยๆ มาเพื่อใช้เล่นเกม ซึ่งเมื่อ 3 ปีก่อนนั้นเป็นช่วงที่ mechanical keyboard เริ่มจะบูมออกมาทีละนิด ซึ่งตอนนั้นผมก็ได้เก็บเงินและเริ่มลองเล่น mechanical keyboard ครั้งแรก ตัวแรกที่ผมเล่นคือ Razer Blackwidow cherry mx blue switch รุ่นที่ไม่มีไฟ ได้มาในราคา 2900 พอใช้ไปได้ประมาณเกือบๆ 2 ปี ก็ได้ลองเล่นอีก 2 switch คึอ black กับ brown ก็เลยลองสอยมาลองใช้ดู ผลก็คือถูกใจตัว Filco มากกว่าก็เลยขาย G710+ ทิ้งไปและยก Blackwidow ให้ญาติไป เก็บ Filco ไว้ใช้เองจนเกือบๆ 1 ปี ก็ได้ลองหาข้อมูลคีย์บอร์ดไปเรื่อยๆ เนื่องจากเอา black sw มาพิมพ์งานแล้วบางที่ก็รู้สึกเมื่อยๆ นิ้ว จนมาสะดุดตากับ Realforce Hi-pro ขึ้นมา จึงทำการหาข้อมูลเปรียบเทียบผลสุดท้ายก็สั่งไอตัวนี้มาลองใช้นี่แหละ

อันนี้เป็นภาพที่ระลึกของคีย์บอร์ดทั้ง 3 ที่ผมเก็บไว้



Realforce เป็นคีย์บอร์ดที่ผลิตจากบริษัท Topre ย่อมาจาก Tokyo Press Kogyo ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตทั้งพลาสติค อุปกรณ์อิเล็คโทรนิค และโลหะ ของญี่ปุ่น(สามารถเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ http://www.topre.co.jp/en/)

Keyboard ที่เอามาให้ดูวันนี้เป็นสวิตซ์แบบ  Non-contact capacitive switch ซึ่งเป็นสวิตซ์ที่ผสมระหว่าง Rubber dome กับ Mechanical spring และ Capacitive sensor ลักษณะของสวิตซ์เป็นแบบรูปด้านล่างเลยครับ



และเมื่อดึงปุ่มออกมาตัวสวิตซ์จะมีหน้าตาแบบนี้เลย ซึ่งจะต่างกับสวิตซ์ของ CM storm Novatouch เนื่องจากสวิตซ์ของ Realforce จะไม่มีแกนรูป + ทำให้ไม่สามารถเอา keycap อื่นๆ มาใส่แทนได้เหมือนกับ Novatouch



Features

ก่อนอื่นมาดูจุดเด่นของคีย์บอร์ดตัวนี้กันก่อนดีกว่าครับ

*** เป็น ANSI layout แบบ Full size keyboard (โดยส่วนใหญ่ที่ผมไปลองๆ หามา Topre แต่ละตัวส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นแบบ Happy Hacking keyboard ไม่ก็เป็น Tenkeyless คือตัด numpad ออก ส่วนยี่ห้อ Type heaven เป็น full size ก็จริง แต่ keycap ดันเป็น ABS นี่สิ พอดีได้ลองใช้ keycap แบบ polybutylene terephthalate (PBT) แล้วค่อนข้างติดใจในสัมผัสมันอ่ะครับ)
*** สวิตว์เป็นแบบ Non-contact capacitive หรือเรีกสั้นๆ ว่า Topre
*** การ paint ตัวอักษรบน keycap เป็นแบบ Dye subliminate คือการเอาสีผสมลงไปในพลาสติคที่ใช้ทำ keycap เลย ทำให้สีไม่ลอกออกจาก keycap ได้ง่ายๆ (คาดว่าคงไม่ลอกเลยแหละ)
*** ปุ่มเป็นแบบ Spherical keycap เลยเป็นที่มาของคำว่า High profile
*** น้ำหนักที่ใช้กดเท่ากันหมดทุกปุ่มคือ 45 g (ถ้าเป็น Realforce รุ่นอื่นๆ มักจะเป็นแบบ variable คือน้ำหนักในแต่ละปุ่มต่างกันไปตั้งแต่ 30, 45 และ 55 g)


Package & Content

เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบว่าไม่มีอะไรแถมมาให้เลย นอกจากคีย์บอร์ดล้วนๆ ร้องไห้
ส่วนหน้าตากล่องก็จะแบบบ้านๆ เลยครับไม่มีลวดลาย ตกแต่งความสวยงามใดๆ ทั้งสิ่น





External Build

ตัว body ของ Realforce จากที่ลองลูบๆ คลำๆ ดูจะเป็นพลาสติคแบบด้าน รอยนิ้วมือติดได้ยากมาก








อีกอย่างตัว body มีความหนากว่าของ Filco ค่อนข้างมากครับ (ลองวางเทียบกับ Filco ให้ดู)




Layout

จากที่บอกไปข้างต้นว่าเป็นแบบ High profile ผมก็เลยลองถ่ายรูปเทียบให้ดูครับว่า layout ของตัวนี้มันต่างจากคีย์บอร์ดทั่วไปยังไง (ขอเทียบกับ Filco ละกันนะครับ)





จะเห็นว่าการวางปุ่ม F1-F12 ของ Realforce จะอยู่ต่ำกว่าแถวตัวเลข 1-0 และตำแหน่งของ ctrl ก็จะอยู่ต่ำกว่า shift เช่นกัน

ลักษณะของ keycap ผมลองวางเทียบให้ดูครับ




Feeling

และแล้วก็มาถึงหัวใจหลักของการซื้อคีย์บอร์ดนั่นก็คือ ความรู้สึกเวลาที่ได้กด อมยิ้ม02

ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าผมก็พึ่งจะเคยลองคีย์บอร์ดที่เป็นปุ่มแบบ spherical เป็นครั้งแรกเหมือนกัน ทำให้การกดในตอนแรกก็ยังไม่ค่อยชินกับการวาง layout แบบ high profile ซักเท่าไหร่ กดผิดๆ ถูกๆ (ขณะที่เขียนรีวิวก็ลองเอาคีย์บอร์ดอันนี้นี่แหละเขียน) แต่พอได้กดไปเรื่อยๆ จนมันเริ่มเข้ามือก็มีความรู้สึกว่าพิมพ์ได้ค่อนข้างเร็วขึ้นและสนุกกับมันมากขึ้น คือลักษณะการวางปุ่มของมันจะแปลกๆ หน่อยแต่ถ้าลองพิมพ์ๆ ไปก็จะเริ่มชินและรู้สึกดีกับ layout แบบนี้จริงๆ แต่ในแง่ของการเอาไปเล่นเกม พอดียังไม่ได้ลองเปิดเกมขึ้นมาเล่น ก็เลยยังไม่ขอพูดถึงละกันครับว่าจะกดเพลินหรือเล่นได้แย่ลงแค่ไหน

ในส่วนของ Feeling สัมผัสแรกที่ผมเปิดกล่องและลองกดมันลงไปก็มีความรู้สึกเฉยๆ ไม่รู้สึกหวือหวาอะไรเหมือนกับการได้ลองกด blue sw ครั้งแรก ซึ่ง ณ เวลานั้นก็แบบงานเข้าละ ซื้อมาตั้งแพงละดันไม่ถูกมือ
แต่พอได้ลองเอามาต่อกับคอมและเอามาพิมพ์รีวิวอันนี้ดูไปเรื่อยๆ ก็พบว่าสมชื่อยี่ห้อ Realforce จริงๆ คือยิ่งพิมพ์ก็ยิ่งรู้สึกถึงสัมผัสที่แท้จริงที่มันค่อยๆ ปล่อยออกมา คือพอได้เริ่มพิมพ์ซักคำๆ หนึ่งมือมันจะพยายามให้พิมพ์คำต่อไปเอง เหมือนมันมีแรงดึงดูดให้อยากพิมพ์ต่อยังไงก็ไม่รู้

ความรู้สึกเวลากด จากความรู้สึกของผมมันจะคล้ายๆ เอา feeling ของ Blue ที่เวลากดลงไปจะไม่มีแรงต้าน กดได้ใสๆ สบายๆ มาผสมกับ Black sw ที่ต้องใช้แรงในการกดหน่อย หรือถ้าให้อธิบายอีกแบบก็คือมันจะนุ่มและเด้งแต่ไม่หนืด (พอเข้าใจไหมหว่า :smellie_loveยิ้ม ส่วนเสียงของ Topre + hi pro เสียงจะออกแนวทุ้มๆ ประมาณ Thock Thock ไม่ดังแสบแก้วหูแบบ Blue sw แต่ถ้าเทียบกับ black sw (ของ filco) จะดังกว่าหน่อย แต่ก็ไม่ถึงขั้นน่ารำคาญ


Conclusion

จากการทดลองใช้พิมพ์รีวิวอันนี้ก็พบว่ามันเป็นคีย์บอร์ดที่ถ้าได้ลองกดแค่แปปเดียวก็จะมีความรู้สึกว่าไม่มีความรู้สึกอะไรแปลกใหม่เลย ซึ่งมันต้องเอามาลองใช้ไปเรื่อยๆ จนเริ่มชินกับปุ่ม hi profile นี่แหละครับจึงจะรู้สึกว่าเอามาพิมพ์ได้สนุกขึ้นเยอะเลย อิอิ (แต่ตอนนี้ก็ยังพิมพ์ผิดๆ ถูกๆ อยู่ดี :smellie_coolยิ้ม และจากที่ซื้อมาใช้แล้วพบว่าข้อดี ข้อเสียของมันมีประมาณนี้

ข้อดี

++ ลักษณะปุ่มที่เป็นแบบทรงกลม ทำให้กดแล้วรู้สึกกระชับมือดี
++ รู้สึกมีความสบายในการพิมพ์ เพราะพิมพ์ไปนานๆ ไม่ค่อยเมื่อยและไม่น่าเบื่อเท่า blue (blue พิมพ์สนุกจริง แต่พิมพ์ไปเรื่อยๆ สำหรับผมแล้วรู้สึกมันน่าเบื่อยังไงก็ไม่รู้อ่ะ)
++ มีที่เก็บสายให้ด้านใต้คีย์บอร์ด

ข้อเสีย

-- กล่องไม่สวย สำหรับคนที่ชอบสะสมกล่องอาจจะไม่ถูกใจเป็นอย่างยิ่ง แต่สำหรับผม ขอของข้างในดีเป็นอันใช้ได้
-- ไม่มี macro ใดๆ ทั้งสิ้น
-- ไม่มีไฟ เป็นคีย์บอร์ดแบบดิบๆ หน้าตาโบราณๆ เลย (ส่วนตัวผมชอบแบบนี้แหละไม่ค่อยชอบไฟอยู่ละ)
-- ราคาโหดร้าย
-- ไม่มีปุ่มตรง F และ J ซึ่งช่วยให้สามารถวางมือได้ถูกตำแหน่ง แต่สำหรับคนที่พิมพ์สัมผัสได้คล่องๆ ก็อาจจะมองข้ามข้อนี้ไปก็ได้ครับ)

โดยภาพรวมแล้วถือว่าเป็นการลองของแปลกๆ ที่ค่อนข้างให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่ได้ดีเป็นอย่างยิ่งเลยแหละครับ เพราะอย่างแรกได้ลองปุ่มทรงกลมที่ตั้งแต่เล่นคีย์บอร์ดมายังไม่เคยเจอปุ่มแบบนี้เลย ถ้าเจอก็เจอแค่ในพิมพ์ดีด อีกอย่างได้ลอง สวิตซ์ที่ผมใฝ่ฝันว่าจะต้องลองกดให้ได้ซักครั้งในชีวิตอีกด้วย
และจากที่ลองใช้ไปเรื่อยๆ จนเริ่มชินกับมันก็พบว่ามันให้ความเพลิดเพลินในการพิมพ์จริงๆ ครับคือมันจะมีแรงดึงดูดบางอย่างอยากให้พิมพ์ได้เรื่อยๆ ไม่เบื่อ

ส่วนการเอาไปเล่นเกมจากการลองเอาไปเล่นเกมแนว adventure และแนว mmorpg ก็พบว่าไม่ต้องปรับตัวมากซักเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับปุ่มทรงเดิมๆ แถมบางทียังรู้สึกเอาปุ่มทรงกลมไปเล่นเกมยังรู้สึกสนุกไปอีกแบบดีครับ

สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่าไม่มีคีย์บอร์ดไหนที่ดีที่สุดในโลกหรอกครับ จะมีก็แต่คีย์บอร์ดที่ถนัดมือคนใช้มากสุดก็เท่านั้นแหละครับ เท่




ปล. เผื่อบางคนอยากลองซื้อมาใช้บ้างแต่ไม่รู้จะหาจากไหน หาซื้อได้จากแหล่งตามนี้เลย

http://www.amazon.com/Realforce-104UG-High-Profile-Black-Gray/dp/B00DONW9D6/ref=sr_1_2?s=videogames&ie=UTF8&qid=1452072308&sr=8-2&keywords=realforce+104

หรือหาได้ตามเว็บของญี่ปุ่น Rakuten, Yodobashi รวมถึง Ebay ด้วยครับ




เพิ่มเติมเกี่ยวกับเสียงเวลาพิมพ์ของคีย์บอร์ดตัวนี้ครับ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ชื่อสินค้า:   Realforce 104 UG Hi-Pro
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่