คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
กรณีที่น้า มีชื่อเป็นผู้กู้ร่วม ไม่ได้หมายความว่า น้า มีสิทธิ์ในทรัพย์สินที่กู้ร่วม ต้องดูที่ผู้มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ คือ เป็นเจ้าของบ้าน (ดูได้จากหน้าแรกของทะเบียนบ้าน ถ้าเป็นรุ่นใหม่จะมีบอกไว้ แต่ถ้ารุ่นเก่าอาจจะไม่ได้ระบุ ให้ไปที่ อำเภอ หรือ เทศบาล ตรวจดูว่า ใครเป็นคนขออนุญาตก่อสร้าง คนนั้นก็เป็นเจ้าของบ้าน หรือเจ้าของกรรมสิทธิ์)
กรณีแม่เสียชีวิต คุณซึ่งเป็นบุตร และพี่น้อง (ผู้สืบสันดาน) ก็มีสิทธิรับมรดกของคุณแม่ โดยไม่จำเป็นต้องมีพินัยกรรม
กรณีที่ดิน มีชื่อแม่และพี่น้องรวม 4 คน ส่วนของแม่ ก็จะตกเป็นของคุณและพี่น้อง โดยคุณต้องยื่นคำร้องต่อศาลขอเป็นผู้จัดการมรดก และคุณก็สามารถโอนที่ดินและทรัพย์อย่างอื่น มาเป็นของคุณและพี่น้องได้ ซึ่งพี่น้องแม่ที่มีชื่อร่วมที่ดิน ไม่มีสิทธิ์ใด ๆ ที่จะไม่ให้คุณเข้าชื่อเป็นเจ้าของแทนแม่คุณได้
กรณีของบ้าน ต้องไปตรวจสอบดูว่า แท้จริงแล้วกรรมสิทธิ์ในตัวบ้านเป็นของใครกันแน่ ถ้าเป็นของแม่ ก็สามารถโอนมาเช่นเดียวกับ กรณีที่ดิน ถ้าไม่ใช่ ก็โอนมาไม่ได้
กรณีของการเป็นเจ้าบ้านในทะเบียนบ้าน ไม่เกี่ยวกับการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บ้าน มันคนละเรื่องกัน คนหนึ่งคนเป็นเจ้าบ้านได้เพียงหนึ่งหลัง โดยมีชื่อในทะเบียนบ้านนั้น ๆ แต่เจ้าของกรรมสิทธิ์ไม่จำเป็นต้องมีชื่อเป็นเจ้าบ้าน แต่สามารถเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในบ้านเป็นสิบ เป็นร้อยหลังก็ได้
ทะเบียนบ้านหาย ให้ไปแจ้งความ และขอออกใหม่ที่อำเภอ หรือเทศบาล แต่คนที่ขอออกควรจะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์
ขั้นตอน
1.ไปยื่นขอเป็นผู้จัดการมรดก คุณแม่ของคุณก่อน โดยการจ้างทนาย หรือทำเองก็ได้ (หาความรู้ในเนต มีให้อ่าน หรือไม่ก็ไปปรึกษาอัยการ จังหวัด)
2. ตรวจสอบดูว่า บ้าน มีชื่อใครเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ถ้าเป็นคนอื่นก็ผ่านไป ถ้าเป็นชือคุณแม่คุณ หรือคุณพ่อคุณ ก็สามารถโอนมาเป็นของคุณและพี่น้องได้ หลังจากแต่งตั้งผู้จัดการมรดกแล้ว
3.ตรวจสอบดูว่า ที่ดิน มีแม่คุณถืออยู่กี่ส่วน ก็สามารถโอนมาเช่นเดียวกับข้อ 2
กรณีแม่เสียชีวิต คุณซึ่งเป็นบุตร และพี่น้อง (ผู้สืบสันดาน) ก็มีสิทธิรับมรดกของคุณแม่ โดยไม่จำเป็นต้องมีพินัยกรรม
กรณีที่ดิน มีชื่อแม่และพี่น้องรวม 4 คน ส่วนของแม่ ก็จะตกเป็นของคุณและพี่น้อง โดยคุณต้องยื่นคำร้องต่อศาลขอเป็นผู้จัดการมรดก และคุณก็สามารถโอนที่ดินและทรัพย์อย่างอื่น มาเป็นของคุณและพี่น้องได้ ซึ่งพี่น้องแม่ที่มีชื่อร่วมที่ดิน ไม่มีสิทธิ์ใด ๆ ที่จะไม่ให้คุณเข้าชื่อเป็นเจ้าของแทนแม่คุณได้
กรณีของบ้าน ต้องไปตรวจสอบดูว่า แท้จริงแล้วกรรมสิทธิ์ในตัวบ้านเป็นของใครกันแน่ ถ้าเป็นของแม่ ก็สามารถโอนมาเช่นเดียวกับ กรณีที่ดิน ถ้าไม่ใช่ ก็โอนมาไม่ได้
กรณีของการเป็นเจ้าบ้านในทะเบียนบ้าน ไม่เกี่ยวกับการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บ้าน มันคนละเรื่องกัน คนหนึ่งคนเป็นเจ้าบ้านได้เพียงหนึ่งหลัง โดยมีชื่อในทะเบียนบ้านนั้น ๆ แต่เจ้าของกรรมสิทธิ์ไม่จำเป็นต้องมีชื่อเป็นเจ้าบ้าน แต่สามารถเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในบ้านเป็นสิบ เป็นร้อยหลังก็ได้
ทะเบียนบ้านหาย ให้ไปแจ้งความ และขอออกใหม่ที่อำเภอ หรือเทศบาล แต่คนที่ขอออกควรจะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์
ขั้นตอน
1.ไปยื่นขอเป็นผู้จัดการมรดก คุณแม่ของคุณก่อน โดยการจ้างทนาย หรือทำเองก็ได้ (หาความรู้ในเนต มีให้อ่าน หรือไม่ก็ไปปรึกษาอัยการ จังหวัด)
2. ตรวจสอบดูว่า บ้าน มีชื่อใครเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ถ้าเป็นคนอื่นก็ผ่านไป ถ้าเป็นชือคุณแม่คุณ หรือคุณพ่อคุณ ก็สามารถโอนมาเป็นของคุณและพี่น้องได้ หลังจากแต่งตั้งผู้จัดการมรดกแล้ว
3.ตรวจสอบดูว่า ที่ดิน มีแม่คุณถืออยู่กี่ส่วน ก็สามารถโอนมาเช่นเดียวกับข้อ 2
แสดงความคิดเห็น
ในกรณีที่มารดาเสียชีวิตในขณะที่บ้านเป็นชื่อกู้ร่วม บ้านจะเป็นของชื่อผู้กู้ร่วมคนเดียวหรอคะ
แม่ดิฉันได้เสียชีวิต โดยแม่มีทรัพย์สินคือบ้านและที่ดิน
แต่ไม่ได้เป็นทรัพย์สินของแม่คนเดียว บ้านมีชื่อน้ากู้ร่วมด้วยในตอนแรก (แต่ตอนนี้ไม่ได้เป็นหนี้ธนาคารแล้วนะคะ ผ่อนหมดแล้ว โฉนดที่ดินอยู่ที่บ้านแล้ว)
ส่วนที่ดินมีชื่อพี่น้องแม่รวมแม่แล้วทั้งหมด สี่คน
โดยที่แม่ไม่ได้ทำพินัยกรรมอะไรไว้ เพราะตอนแม่ป่วยหนักดิฉันคิดว่าลูกเป็นทายาทโดยธรรมอยู่แล้ว ในส่วนของแม่จะกลายเป็นของลูกโดยอัตโนมัติ
เช่น บ้านก็เป็นของดิฉันกับน้า ที่ดินก็จะเป็นพี่น้องแม่แล้วก็ดิฉันแทนที่ชื่อแม่
แต่เมื่อได้คุยกับน้าที่มีชื่อในบ้าน น้าบอกว่า ถ้าแม่ไม่ได้ทำพินัยกรรม ลูกก็จะไม่ได้ บ้านตอนนี้เป็นชื่อน้าคนเดียว ส่วนที่ดินก็ต้องขึ้นอยู่กับความยินยอมของอีกสามคนว่าจะยอมไหม เค้ามีสิทธิไม่เพิ่มชื่อให้ก็ได้ เพราะไม่ได้เป็นแม่โดยคนเดียว
มันเป็นอย่างนั้นจริงๆหรอคะ ตอนนี้แม่ก็เสียชีวิตมาหลายเดือนแล้วก็ไม่มีอะไรคืบหน้า เจ้าบ้านก็ยังไม่ได้แต่งตั้งใหม่ แค่ไปแจ้งตาย
คือตอนแรก แม่ดิฉันสร้างบ้านกับพ่อ แต่เงินเดือนพ่อไม่พอเลยต้องยืมชื่อน้ากู้ร่วมอะค่ะ แล้วพ่อมาเสียชีวิตตอนผ่อนไปแล้วสิบกว่าปีค่ะ เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมาแม่ก็เสียชีวิตอีก ก่อนเสียชีวิตตอนแม่ป่วยหนักแม่ยังบอกอยู่เลยว่า บ้านนี้ก็จะเป็นของลูก กับ น้า (น้าไม่มีทายาทนะคะ โสด แต่ถ้าน้าเสียชีวิตโดยที่ยังไม่ได้ดำเนินเรื่องเพิ่มชื่อหรืออะไรพวกนี้ กลัวบ้านจะตกเป็นของพี่น้องคนอื่นๆโดยที่เค้าไม่ได้มาผ่อนเลยอะค่ะ)
มีใครมีประสบการณ์แบบนี้ไหมคะ
ขั้นตอนต้องทำอย่างไรบ้าง
เอกสารใช้อะไรบ้างคะ
แล้วในกรณีที่ทะเบียนบ้านหายด้วยต้องทำอย่างไรคะ
เริ่มต้นไม่ถูกเลยค่ะ
เพราะดิฉันไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้ เพิ่งเรียนจบ ตอนพ่อเสียชีวิต ก็ยังเด็กๆ แม่ก็ดำเนินการอะไรเองหมด
ขอคำปรึกษาด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ