สวัสดีค่ะ เมื่อวันที่ 29 เราไปทำเรื่องยื่นรับรองทะเบียนบ้านที่กงสุล โดยที่เราแปลเองค่ะ เราดาวน์โหลดแบบฟอร์มจากในอินเตอร์เน็ตนะคะ เสิชหาทั่วๆไป และดูเอกสารตัวอย่างการแปลทะเบียนบ้านของกงสุลไปด้วย เจอที่โดนแก้เล็กน้อย ทั้งๆที่ใช้คำตามในตัวอย่างของกงสุล วันนี้เราเลยจะแชร์คำที่ถูกต้องสำหรับคนที่แปลเอง ไม่อยากจะใช้บริการการแปลนะคะ ตอนที่เราไปที่กงสุล มีคนยืนออที่ทางเข้า พอคนเดินผ่านก็จะพูดว่า รับแปลเอกสารด่วน บลาๆ ไม่ค่ะ เรางก เราจะแปลเอง ฮิฮิ (ใครไม่สะดวก ก็มีบริการแปลเยอะแยะนะคะ แนะนำว่ามาถึงแล้ว เดินขึ้นบันไดเลื่อน จะเจอศูนย์บริการแปลเลย)
นี่คือตัวอย่างที่เราแก้ไขแล้ว และได้รับการรับรองถูกต้องจากกงสุลแล้ว เราแบ่งรูปเป็นสองส่วนนะคะ
*ตรงที่เป็นสีฟ้าคือเรากรอกข้อมูลของเราลงไปนะคะ
รูปที่ 1
ข้อควรระวัง
1. ใส่คำว่า District, Sub-district ไปที่หลังคำว่าอำเภอ, ตำบลด้วยนะคะ
2. หมู่ 2 > Village No. 2
3. ตรงชื่อของนายทะเบียน ถ้าเป็น นาง ใส่ Mrs. ถ้าเป็น นางสาว ใส่ Ms. ผู้ชายใช้ Mr. นะคะ
4. ตรงวันที่ สามารถเขียนได้ 2 แบบ 8th September 2000 (อย่าลืมห้อย st/nd/rd/th หลังวันที่ด้วยน้า) แต่เราเลือกใส่แบบ September 8, 2000 ไม่ต้องห้อยอะไรทั้งสิ้น และอย่าลืมเครื่องหมายคอมม่า
รูปที่ 2
1. ถ้าในทะเบียนบ้านเรามี นางสาว นาง นาย ก็แปลเป็นอังกฤษตามนั้นด้วยเด้อ ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่
2. ผู้อาศัย > Resident เจ้าบ้าน > Head of Household (เราใช้ Owner เลยโดนแก้มาตามระเบียบ)
3. ตรงที่เราไฮไลท์สีม่วง -signature- หมายถึงในทะเบียนบ้านมีการเซ็นต์กำกับ (มีการขีดแก้เอกสาร เลยต้องเซ็นกำกับ) ตรงไหนมีเซ๊นต์กำกับลอยๆ ก็พิมพ์แค่ -signature- นะคะ ไม่ต้องไปถอดตัวอักษร และถ้ามีการเขียนชื่อ ก็เขียนชื่อไปเลยค่ะ (ตรงนี้เราโดนแก้ เพราะเราลืมใส่ Mrs. ให้นายทะเบียนทั้งๆที่ในต้นฉบับมีคำว่า นาง อยู่)
4. Civil registration database, มีคอมม่าข้างหลังส่วนนี้ด้วยน้า อันนี้เค้าแก้มาให้เราเช่นกัน
5. Moved into this house on: (ต้องเป็น moved น้า เราลืมพิมพ์ตัว d) ตรงนี้ตอนแรกเราพิมพ์ว่า Date of transferring แต่เค้าแก้ให้เราใช้คำนี้ค่ะ
6. เห็นเลข 1 กับเลข 3 ของมุมล่างส่วนที่ 1 กับ 2 มั้ยคะ ที่เป็นเลขหน้าของทะเบียนบ้าน อย่าลืมใส่ด้วยนะคะ เราลืมใส่ เค้าก็แก้มาให้
*** สำคัญมาก ถ้าใครในทะเบียนบ้านมีการขีดแก้ไข คุณพลิกไปแปลหน้า 18 ด้วยนะคะ เพราะรายละเอียดการแก้ไขจะอยู่ในหน้านี้
ไม่แน่ใจว่ารูปจะเล็กไปมั้ยนะคะ แต่หน้านี้เราดาวโหลดมาจากในอินเตอร์เน็ตเช่นกัน แต่ขออภัยที่ลืมแหล่งที่มา พอดีเราเพิ่งรู้ เลยนั่งแก้ลกๆตรงนั้นเลย (ที่ร้านถ่ายเอกสารที่ตึก B นะคะ นั่งมอไซค์รับจ้างไป 10-20 บาท) เราไม่ได้แก้ข้อความอะไรเลย เราแก้แต่ส่วนที่เ็นรายละเอียดที่เป็นตัวอักษรสีฟ้าเท่านั้น เขียนหมายเลขให้ถูก ถ้ามีลายเซ็นต์ ให้ใส่ -Signature- แทนที่ลายเซ็นต์นั้นไปเลยนะคะ (ในรูปของเราลืมแก้อะค่ะ ฉบับที่ส่งไปรับรอง รู้สึกว่าจะใช้ -signature- แหละ) วันที่เราใช้หลักการเดิม เดือน วันที่, ปีคศ. (พศ.แก้เป็น คศ. ให้หมดนะคะ ยกเว้นที่เป็นหมายเลขเอกสาร ใส่ตามเดิม ไม่ต้องแก้เป็นคศ.)
ทั้งนี้ทั้งนั้น เราคิดว่าการแก้ไขครั้งที่ 2 ของเรา เค้าน่าจะไม่ได้ดูละเอียดมากมั้งนะคะ
**สำคัญคือ ในทะเบียนบ้านของเรามีอะไร เราก็ใส่ไปตามนั้นเลยนะคะ เหมือนถ่ายเอกสารออกมาเลย แค่เปลี่ยนจากไทยเป็นอังกฤษ เช่นถ้ามีลายเซ็นต์ลอยๆมา ก็พิมพ์ -signature- ให้ลอยอยู่บริเวณเดียวกันด้วยเลย
อย่าลืมเลขหน้า อย่าลืมใส่ Mr. Ms. Mrs. อย่าลืมเข้าไปเช็คการสะกดชื่ออำเภอ จังหวัดต่างๆ เราไม่ได้เช็ค โดนแก้เลย
สิ่งที่ควรรู้อีกอย่างคือ ที่กงสุลไม่มีที่ปริ้นท์นะค้าาาา มีแต่ถ่ายเอกสารและคนที่รอรับแปลเต็มไปหมด ที่ไม่มีเครื่องปริ้นท์เพราะเค้า (เค้าตรงนี้คืคนที่รับแปลทั้งหลาย) กลัวว่าจะไม่ได้ตังจากลูกค้าที่ต้องการแค่แก้ไขเอกสารนิดหน่อยอย่างเรา ตอนที่เรารู้ว่าแถวนั้นไม่มีเครื่องปริ้นท์เนี่ย โหย คิดหนักเลย กลัวไม่ทัน เพราะไม่มีเวลามาวันอื่นแล้ว ในใจก็คิด ทำไงดีๆ หรือว่าช้านจะต้องยอมเสียเงินให้พวกคนที่รับแปล ไม่ๆๆ เสิชอินเตอร์เน็ตเลยค่ะ มีทุกอย่างที่คุณต้องการจริงๆ แล้วก็เจอจนได้ ที่ตึก B นะคะ (อยู่ด้านหลังๆของตึกกงสุล แต่นั่งมอไซค์ไปเถอะ) พอถึงตึก B ให้เดินลงบันไดไปชั้นใต้ดิน ซึ่งประตูที่เราเข้าไปเนี่ย เป็นประตู 1 ให้เราเดินไปทางฝั่งตรงข้ามของประตู 1 (เข้าใจเนอะ เหมือนจะเดินทะลุเป็นเส้นตรง แต่ตรงกลางเป็นร้านค้าไง เดินทะลุไม่ได้ (มีรูให้ทะลุตรงห้องน้ำ แต่ก็เผื่อหาไม่เจอนะ)) เดินๆไป ตาก็มองด้านบน จะเจอพวกป้าย Photoo copy หรืออะไรประมาณนี้ ตอนที่เราไป เราถามหาร้าน Double A ค่ะ พอไปถึงนะ พนักงานบอกว่า หมึกจางค่ะ ปริ้นท์ไม่ได้ แทบทรุดค่ะ ณ จุดจุดนั้น นี้ชั้นดั้นด้นมาทำม้ายย แต่ยังค่ะ ยังไม่โชคร้ายขนาดนั้น พนักงานคนเดิมบอก ร้านข้างๆปริ้นได้ค่ะ เฮ่!!
ที่ร้านมีคอมด้วยนะคะ เราก็นั่งแก้นั่งแปลตรงนั้นแหละ พอเสร็จก็ปริ้น กลับไปยื่นใหม่ค่ะ และก็รอเค้าเรียก เราเดาเอาเอง ว่ารอบสองน่าจะผ่านง่ายหน่อยล่ะ ถ้ามันไม่มีอะไรหนักหนาจริงๆ (แต่รอบแรกเค้าจะขีดแก้ และกำกับสิ่งที่ถูกมาให้แล้วนะคะ แก้ตามนั้นเลย เห็นมั้ย ชั้นต้องการแค่คอมกะที่ปริ้นท์แค่นั้นเอ๊งง)
*เกร็ดเล็กน้อย*
บังเอิญได้ยืนอยู่กลางวงที่มีคนเอาเกียรติบัตรมาแปล ทางกงสุลประทับตราที่ตัวสำเนาให้ แต่เจ้าของเอกสารบอกว่า ต้องการให้ประทับที่ตัวจริง (เอกสารเป็นภาษาอังกฤษอยู่แล้วนะคะ ไม่เกี่ยวกับการแปล) เค้าก็ยืนเถียงๆกันซักพัก เราจะสรุปให้เลยว่า
1. ถ้าคุณต้องการประตราตัวจริง *ไม่ต้องส่งสำเนาเอกสารมานะคะ*
2. ถ้าคุณต้องการให้รับรองสำเนาฉบับเดียว ก็ส่งสำเนามาด้วย
3. เอกสารบางอย่าง ต้องประทับตราที่ตัวจริงเท่านั้น > อันนี้เราฟังเจ้าหน้าที่พูดนะคะ คือหมายถึงว่า ถ้าคุณแนบสำเนามาด้วย เค้าก็ประทับตราที่ตัวจริงอยู่ดี
เพราะฉะนั้น เพื่อไม่ให้เสียเวลา โทร.สอบถามนะคะ โทรไปที่เบอร์โทรที่ขึ้นต้นด้วย 02 นะคะ มันจะมีเบอร์ที่เหมือนเป็นสายด่วน คอลเซ็นเตอร์ นั่นน่ะ เค้าเปิดหน้าเว็บ แล้วอ่านให้เราฟังค่ะ เปลืองตังมากมาย
อ้อ ลืมเลย ใครที่ต้องการรับรองทางไปรษณีย์นะคะ ให้ส่งธนาณัติ ค่าแปล + ค่า EMS นะคะ อย่างของเราแปล 1 ชุด ก็ 400 + 60 = ซื้อธนาณัติ 460 บาท สามารถแนบไปกับเอกสารที่ต้องการรับรองได้เลย อย่างเราเนี่ย ไม่เคยซื้อธนาณัติ เลยงงมากๆ ว่ามันมีกระบวนการยังไง ก็ถามทางไปรษณีย์อีกทางนะคะ
ยังค่ะ ยังไม่จบ ค่าเอกสาร * ที่มีการแปล นับเป็นชุดน้า อย่างแปลทะเบียนบ้าน แปลหลายหน้าก็นับ 1 ชุด (สำเนาเวอร์ชั่นไทย + สำเนาเวอร์ชั่นที่แปล จะกี่หน้าก็ช่าง) 1 ชุด = 400
ส่วนค่าเอกสารที่ไม่ได้มีการแปล น่าจะนับเป็นแผ่นๆค่ะ แผ่นละ 200
โถ นี่แค่ทะเบียนบ้านฉบับเดียว T_T
ยังไงก็แล้วแต่ ที่ดีที่สุด โทรถามให้ชัดเจนนะคะ มีคำถาม ถามเราได้ค่ะ หรือใครอยากจะร่วมแบ่งปันข้อมูล จัดมาเลยค่ะ (เราไม่รับแปลน้า)
แชร์ประสบการณ์แปลทะเบียนบ้านเอง และการยื่นรับรองเอกสารที่กงสุล
นี่คือตัวอย่างที่เราแก้ไขแล้ว และได้รับการรับรองถูกต้องจากกงสุลแล้ว เราแบ่งรูปเป็นสองส่วนนะคะ
*ตรงที่เป็นสีฟ้าคือเรากรอกข้อมูลของเราลงไปนะคะ
รูปที่ 1
ข้อควรระวัง
1. ใส่คำว่า District, Sub-district ไปที่หลังคำว่าอำเภอ, ตำบลด้วยนะคะ
2. หมู่ 2 > Village No. 2
3. ตรงชื่อของนายทะเบียน ถ้าเป็น นาง ใส่ Mrs. ถ้าเป็น นางสาว ใส่ Ms. ผู้ชายใช้ Mr. นะคะ
4. ตรงวันที่ สามารถเขียนได้ 2 แบบ 8th September 2000 (อย่าลืมห้อย st/nd/rd/th หลังวันที่ด้วยน้า) แต่เราเลือกใส่แบบ September 8, 2000 ไม่ต้องห้อยอะไรทั้งสิ้น และอย่าลืมเครื่องหมายคอมม่า
รูปที่ 2
1. ถ้าในทะเบียนบ้านเรามี นางสาว นาง นาย ก็แปลเป็นอังกฤษตามนั้นด้วยเด้อ ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่
2. ผู้อาศัย > Resident เจ้าบ้าน > Head of Household (เราใช้ Owner เลยโดนแก้มาตามระเบียบ)
3. ตรงที่เราไฮไลท์สีม่วง -signature- หมายถึงในทะเบียนบ้านมีการเซ็นต์กำกับ (มีการขีดแก้เอกสาร เลยต้องเซ็นกำกับ) ตรงไหนมีเซ๊นต์กำกับลอยๆ ก็พิมพ์แค่ -signature- นะคะ ไม่ต้องไปถอดตัวอักษร และถ้ามีการเขียนชื่อ ก็เขียนชื่อไปเลยค่ะ (ตรงนี้เราโดนแก้ เพราะเราลืมใส่ Mrs. ให้นายทะเบียนทั้งๆที่ในต้นฉบับมีคำว่า นาง อยู่)
4. Civil registration database, มีคอมม่าข้างหลังส่วนนี้ด้วยน้า อันนี้เค้าแก้มาให้เราเช่นกัน
5. Moved into this house on: (ต้องเป็น moved น้า เราลืมพิมพ์ตัว d) ตรงนี้ตอนแรกเราพิมพ์ว่า Date of transferring แต่เค้าแก้ให้เราใช้คำนี้ค่ะ
6. เห็นเลข 1 กับเลข 3 ของมุมล่างส่วนที่ 1 กับ 2 มั้ยคะ ที่เป็นเลขหน้าของทะเบียนบ้าน อย่าลืมใส่ด้วยนะคะ เราลืมใส่ เค้าก็แก้มาให้
*** สำคัญมาก ถ้าใครในทะเบียนบ้านมีการขีดแก้ไข คุณพลิกไปแปลหน้า 18 ด้วยนะคะ เพราะรายละเอียดการแก้ไขจะอยู่ในหน้านี้
ไม่แน่ใจว่ารูปจะเล็กไปมั้ยนะคะ แต่หน้านี้เราดาวโหลดมาจากในอินเตอร์เน็ตเช่นกัน แต่ขออภัยที่ลืมแหล่งที่มา พอดีเราเพิ่งรู้ เลยนั่งแก้ลกๆตรงนั้นเลย (ที่ร้านถ่ายเอกสารที่ตึก B นะคะ นั่งมอไซค์รับจ้างไป 10-20 บาท) เราไม่ได้แก้ข้อความอะไรเลย เราแก้แต่ส่วนที่เ็นรายละเอียดที่เป็นตัวอักษรสีฟ้าเท่านั้น เขียนหมายเลขให้ถูก ถ้ามีลายเซ็นต์ ให้ใส่ -Signature- แทนที่ลายเซ็นต์นั้นไปเลยนะคะ (ในรูปของเราลืมแก้อะค่ะ ฉบับที่ส่งไปรับรอง รู้สึกว่าจะใช้ -signature- แหละ) วันที่เราใช้หลักการเดิม เดือน วันที่, ปีคศ. (พศ.แก้เป็น คศ. ให้หมดนะคะ ยกเว้นที่เป็นหมายเลขเอกสาร ใส่ตามเดิม ไม่ต้องแก้เป็นคศ.)
ทั้งนี้ทั้งนั้น เราคิดว่าการแก้ไขครั้งที่ 2 ของเรา เค้าน่าจะไม่ได้ดูละเอียดมากมั้งนะคะ
**สำคัญคือ ในทะเบียนบ้านของเรามีอะไร เราก็ใส่ไปตามนั้นเลยนะคะ เหมือนถ่ายเอกสารออกมาเลย แค่เปลี่ยนจากไทยเป็นอังกฤษ เช่นถ้ามีลายเซ็นต์ลอยๆมา ก็พิมพ์ -signature- ให้ลอยอยู่บริเวณเดียวกันด้วยเลย
อย่าลืมเลขหน้า อย่าลืมใส่ Mr. Ms. Mrs. อย่าลืมเข้าไปเช็คการสะกดชื่ออำเภอ จังหวัดต่างๆ เราไม่ได้เช็ค โดนแก้เลย
สิ่งที่ควรรู้อีกอย่างคือ ที่กงสุลไม่มีที่ปริ้นท์นะค้าาาา มีแต่ถ่ายเอกสารและคนที่รอรับแปลเต็มไปหมด ที่ไม่มีเครื่องปริ้นท์เพราะเค้า (เค้าตรงนี้คืคนที่รับแปลทั้งหลาย) กลัวว่าจะไม่ได้ตังจากลูกค้าที่ต้องการแค่แก้ไขเอกสารนิดหน่อยอย่างเรา ตอนที่เรารู้ว่าแถวนั้นไม่มีเครื่องปริ้นท์เนี่ย โหย คิดหนักเลย กลัวไม่ทัน เพราะไม่มีเวลามาวันอื่นแล้ว ในใจก็คิด ทำไงดีๆ หรือว่าช้านจะต้องยอมเสียเงินให้พวกคนที่รับแปล ไม่ๆๆ เสิชอินเตอร์เน็ตเลยค่ะ มีทุกอย่างที่คุณต้องการจริงๆ แล้วก็เจอจนได้ ที่ตึก B นะคะ (อยู่ด้านหลังๆของตึกกงสุล แต่นั่งมอไซค์ไปเถอะ) พอถึงตึก B ให้เดินลงบันไดไปชั้นใต้ดิน ซึ่งประตูที่เราเข้าไปเนี่ย เป็นประตู 1 ให้เราเดินไปทางฝั่งตรงข้ามของประตู 1 (เข้าใจเนอะ เหมือนจะเดินทะลุเป็นเส้นตรง แต่ตรงกลางเป็นร้านค้าไง เดินทะลุไม่ได้ (มีรูให้ทะลุตรงห้องน้ำ แต่ก็เผื่อหาไม่เจอนะ)) เดินๆไป ตาก็มองด้านบน จะเจอพวกป้าย Photoo copy หรืออะไรประมาณนี้ ตอนที่เราไป เราถามหาร้าน Double A ค่ะ พอไปถึงนะ พนักงานบอกว่า หมึกจางค่ะ ปริ้นท์ไม่ได้ แทบทรุดค่ะ ณ จุดจุดนั้น นี้ชั้นดั้นด้นมาทำม้ายย แต่ยังค่ะ ยังไม่โชคร้ายขนาดนั้น พนักงานคนเดิมบอก ร้านข้างๆปริ้นได้ค่ะ เฮ่!!
ที่ร้านมีคอมด้วยนะคะ เราก็นั่งแก้นั่งแปลตรงนั้นแหละ พอเสร็จก็ปริ้น กลับไปยื่นใหม่ค่ะ และก็รอเค้าเรียก เราเดาเอาเอง ว่ารอบสองน่าจะผ่านง่ายหน่อยล่ะ ถ้ามันไม่มีอะไรหนักหนาจริงๆ (แต่รอบแรกเค้าจะขีดแก้ และกำกับสิ่งที่ถูกมาให้แล้วนะคะ แก้ตามนั้นเลย เห็นมั้ย ชั้นต้องการแค่คอมกะที่ปริ้นท์แค่นั้นเอ๊งง)
*เกร็ดเล็กน้อย*
บังเอิญได้ยืนอยู่กลางวงที่มีคนเอาเกียรติบัตรมาแปล ทางกงสุลประทับตราที่ตัวสำเนาให้ แต่เจ้าของเอกสารบอกว่า ต้องการให้ประทับที่ตัวจริง (เอกสารเป็นภาษาอังกฤษอยู่แล้วนะคะ ไม่เกี่ยวกับการแปล) เค้าก็ยืนเถียงๆกันซักพัก เราจะสรุปให้เลยว่า
1. ถ้าคุณต้องการประตราตัวจริง *ไม่ต้องส่งสำเนาเอกสารมานะคะ*
2. ถ้าคุณต้องการให้รับรองสำเนาฉบับเดียว ก็ส่งสำเนามาด้วย
3. เอกสารบางอย่าง ต้องประทับตราที่ตัวจริงเท่านั้น > อันนี้เราฟังเจ้าหน้าที่พูดนะคะ คือหมายถึงว่า ถ้าคุณแนบสำเนามาด้วย เค้าก็ประทับตราที่ตัวจริงอยู่ดี
เพราะฉะนั้น เพื่อไม่ให้เสียเวลา โทร.สอบถามนะคะ โทรไปที่เบอร์โทรที่ขึ้นต้นด้วย 02 นะคะ มันจะมีเบอร์ที่เหมือนเป็นสายด่วน คอลเซ็นเตอร์ นั่นน่ะ เค้าเปิดหน้าเว็บ แล้วอ่านให้เราฟังค่ะ เปลืองตังมากมาย
อ้อ ลืมเลย ใครที่ต้องการรับรองทางไปรษณีย์นะคะ ให้ส่งธนาณัติ ค่าแปล + ค่า EMS นะคะ อย่างของเราแปล 1 ชุด ก็ 400 + 60 = ซื้อธนาณัติ 460 บาท สามารถแนบไปกับเอกสารที่ต้องการรับรองได้เลย อย่างเราเนี่ย ไม่เคยซื้อธนาณัติ เลยงงมากๆ ว่ามันมีกระบวนการยังไง ก็ถามทางไปรษณีย์อีกทางนะคะ
ยังค่ะ ยังไม่จบ ค่าเอกสาร * ที่มีการแปล นับเป็นชุดน้า อย่างแปลทะเบียนบ้าน แปลหลายหน้าก็นับ 1 ชุด (สำเนาเวอร์ชั่นไทย + สำเนาเวอร์ชั่นที่แปล จะกี่หน้าก็ช่าง) 1 ชุด = 400
ส่วนค่าเอกสารที่ไม่ได้มีการแปล น่าจะนับเป็นแผ่นๆค่ะ แผ่นละ 200
โถ นี่แค่ทะเบียนบ้านฉบับเดียว T_T
ยังไงก็แล้วแต่ ที่ดีที่สุด โทรถามให้ชัดเจนนะคะ มีคำถาม ถามเราได้ค่ะ หรือใครอยากจะร่วมแบ่งปันข้อมูล จัดมาเลยค่ะ (เราไม่รับแปลน้า)