เวลาผมไปเดินดูของ ซึ่งหลายๆครั้งที่กะว่าจะแค่เดินดูเฉยๆ แต่ด้วยการบริการอย่างดีจากพนักงาน ทั้งรอยยิ้ม สายตา และคำพูด ทำให้ผมจ่ายเงินซื้อของออกมาแบบงงๆ ยกตัวอย่างเช่น
ผมได้มีโอกาสไปเรียนที่ญี่ปุ่น วันหยุดก็จะชอปออกไปวินโดว์ชอปปิ้งตามย่านดังต่างๆในโตเกียว ซึ่งทุกๆร้านมักให้การต้อนรับในระดับดีเลิศ แม้จะแต่งตัวโทรมๆเข้าไป คือด้วยความที่ผมเป็นนักเรียน ไม่ได้มีราศรีของคนมีกะตังค์แบบนักท่องเที่ยวทั่วไป ก็ไม่ได้หวังแต่แรกแล้วว่าเค้าจะให้การบริการเราดีนัก (เอาบรรทัดฐานจากชอปในไทย) วันนั้นเป็นวันหยุดอีกวันที่ผมมาเดินเล่นที่ชินจุกุ แล้วเดินผ่านหน้าร้านกระเป๋าแบรนด์ดังร้านนึง เห็นดิสเพลย์กระเป๋าหน้าร้านสวยดีเลยกะเดินเข้าไปดูเล่นๆ ไม่มีพนักงานเดินมาต้อนรับยิ่งดี (วันนั้นแต่งตัวธรรมดามากๆ) เพราะไม่ได้คิดจะซื้ออยู่แล้ว ด้อมๆมองๆอยู่หน้าร้าน พี่พนักงานสาวหน้าตาหน้ารักก็มาเชิญให้เข้ามาลองชม พร้อมรับร่มจากมือของผมไปเก็บในตู้ให้อย่างเรียบร้อย แล้วพาผมขึ้นไปชั้น 2 ซึ่งเป็นกระเป๋าผู้ชาย ระหว่างทางก็ถามผมว่าสนใจรุ่นไหนเป็นพิเศษไหม แล้วก็พาผมไปนั่งบนโซฟา เสริฟน้ำ ก่อนที่พี่พนักงานคนนั้น จะนั่งคุกเข่าลงข้างๆตัว พร้อมผายมือไปยังกระเป๋าบนชั้นวางแล้วบอก ว่าอยากดูใบไหน ชี้ได้เลยนะคะ
ผมก็เลือกมาดูอยู่สองใบจริงๆอยากดูมากกว่านี้แต่รู้สึกเกรงใจเค้า แล้วเหมือนเค้าเห็นว่าผมมองใบอื่นอยู่ด้วย เค้าก็เดินไปหยิบลงมาตั้งให้ดูใกล้ๆพร้อมบอกว่า " ใช้เวลาเลือกดูให้เต็มที่ได้เลยนะคะ ถ้าต้องการดูใบไหนเพิ่ม หรืออยากสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม เรียกดิฉันได้เลยนะคะ" และแน่นอน ระหว่างการสนทนา พี่พนักงานจะนั่งกุมมืออย่างเรียบร้อยในท่าคุกเข่าอยู่ตลอด ผมก็เลือกดูไปเรื่อยๆ พี่เค้าก็พาไปลองที่กระจกพร้อมช่วยเลือกว่าใบไหนเข้ากับลุคและการใช้งานของผมมากกว่า สุดท้ายแล้วผมก็เดินออกจากชอปอย่างงงๆ พร้อมถุงใบใหญ่ หมดไปเกือบแสน 555
เดินล่องลอยมาถึงรถไฟเพิ่งจะมีสติขึ้นมาว่าซื้อของแพงขนาดนี้มาได้ไงเนี่ย55 แพ้ทางคนบริการดีๆทุกครั้ง แต่ในทางกลับกัน หากอยากได้ของอย่างนึงมากๆ แต่พอไปที่ร้านแล้วเค้าบริการไม่ดี ก็ตัดใจไม่ซื้อทันที แม้จะอยากได้มากก็ตาม
มีใครแพ้ทางให้กับพนักงานขาย ที่บริการดีๆไหมครับ
ผมได้มีโอกาสไปเรียนที่ญี่ปุ่น วันหยุดก็จะชอปออกไปวินโดว์ชอปปิ้งตามย่านดังต่างๆในโตเกียว ซึ่งทุกๆร้านมักให้การต้อนรับในระดับดีเลิศ แม้จะแต่งตัวโทรมๆเข้าไป คือด้วยความที่ผมเป็นนักเรียน ไม่ได้มีราศรีของคนมีกะตังค์แบบนักท่องเที่ยวทั่วไป ก็ไม่ได้หวังแต่แรกแล้วว่าเค้าจะให้การบริการเราดีนัก (เอาบรรทัดฐานจากชอปในไทย) วันนั้นเป็นวันหยุดอีกวันที่ผมมาเดินเล่นที่ชินจุกุ แล้วเดินผ่านหน้าร้านกระเป๋าแบรนด์ดังร้านนึง เห็นดิสเพลย์กระเป๋าหน้าร้านสวยดีเลยกะเดินเข้าไปดูเล่นๆ ไม่มีพนักงานเดินมาต้อนรับยิ่งดี (วันนั้นแต่งตัวธรรมดามากๆ) เพราะไม่ได้คิดจะซื้ออยู่แล้ว ด้อมๆมองๆอยู่หน้าร้าน พี่พนักงานสาวหน้าตาหน้ารักก็มาเชิญให้เข้ามาลองชม พร้อมรับร่มจากมือของผมไปเก็บในตู้ให้อย่างเรียบร้อย แล้วพาผมขึ้นไปชั้น 2 ซึ่งเป็นกระเป๋าผู้ชาย ระหว่างทางก็ถามผมว่าสนใจรุ่นไหนเป็นพิเศษไหม แล้วก็พาผมไปนั่งบนโซฟา เสริฟน้ำ ก่อนที่พี่พนักงานคนนั้น จะนั่งคุกเข่าลงข้างๆตัว พร้อมผายมือไปยังกระเป๋าบนชั้นวางแล้วบอก ว่าอยากดูใบไหน ชี้ได้เลยนะคะ
ผมก็เลือกมาดูอยู่สองใบจริงๆอยากดูมากกว่านี้แต่รู้สึกเกรงใจเค้า แล้วเหมือนเค้าเห็นว่าผมมองใบอื่นอยู่ด้วย เค้าก็เดินไปหยิบลงมาตั้งให้ดูใกล้ๆพร้อมบอกว่า " ใช้เวลาเลือกดูให้เต็มที่ได้เลยนะคะ ถ้าต้องการดูใบไหนเพิ่ม หรืออยากสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม เรียกดิฉันได้เลยนะคะ" และแน่นอน ระหว่างการสนทนา พี่พนักงานจะนั่งกุมมืออย่างเรียบร้อยในท่าคุกเข่าอยู่ตลอด ผมก็เลือกดูไปเรื่อยๆ พี่เค้าก็พาไปลองที่กระจกพร้อมช่วยเลือกว่าใบไหนเข้ากับลุคและการใช้งานของผมมากกว่า สุดท้ายแล้วผมก็เดินออกจากชอปอย่างงงๆ พร้อมถุงใบใหญ่ หมดไปเกือบแสน 555
เดินล่องลอยมาถึงรถไฟเพิ่งจะมีสติขึ้นมาว่าซื้อของแพงขนาดนี้มาได้ไงเนี่ย55 แพ้ทางคนบริการดีๆทุกครั้ง แต่ในทางกลับกัน หากอยากได้ของอย่างนึงมากๆ แต่พอไปที่ร้านแล้วเค้าบริการไม่ดี ก็ตัดใจไม่ซื้อทันที แม้จะอยากได้มากก็ตาม