1.นอกจากจะจำเมนู ต้อนรับลูกค้า ต้องไปนั่งคุกเข่า คุยกับลูกค้าเหมือน ขี้ข้า ทาส ปวดนิ้วเท้าก็ปวด นั่งคุกเข่าจนลูกค้าส่วนมากเกรงใจ บางคนจนลงมานั่งกับพื้นเพราะเกรงใจเรา
2.น้ำเวลคั่มดิ้ง เป็นน้ำอันชัญ ผ้าเย็นพับเป็นรูปทรงกุหลาบกลิ่นเปเปอร์มิ้น
ให้พนักงานต้อนรับเป็นคนเตรียม วันไหนลูกค้าเยอะ ของหมด เตรียมไม่ทันจริงๆ น้ำอัญชัญก็ต้องไปต้มให้ร้อน แล้วรอหายร้อน ถึงแช่ตู้เย็น รับลูกค้าอยู่ ลงข้อมูลอยู่ พอของหมด ก็มาว่าเรา ทำไม ไม่เตรียม
3.ต้มน้ำใบเตย และ คว้านผลไม้ เช่น แตงโม ต้องเอาเมล็ดออก ทำเป็นลูกทรงกลมแบบ สวย ใช่หน้าที่พนักงานต้อนรับเตรียมไหม เสริฟอ่ะ เข้าใจได้ แต่ตอนเตรียม ต้องทิ้งเคาเตอร์ไปเตรียม บางทีสายโทรศัพท์ดังก็ต้อง รีบวิ่งไปรับ เพราะทำของอยู่
4.ต้องเปลี่ยนรองเท้า ให้ลูกค้าด้วย
ชาวพันทิพคิดว่า เป็นไงบ้าง เวลาลูกค้าเยอะจริงๆ เราเตรีนมของไม่ทันจริงๆนะ รีเซฟชั่นก็มีแค่ 2 คน หัวหน้าก็รอแต่ว่าๆ ปากก็เหม็น แถมไม่มีการศึกษา
คิดว่ามันใช่หน้าที่ พนักงานต้อนรับต้องเตรียมของไหม ?
รับลูกค้าเสร็จ ต้องลงข้อมูลในโปรแกรมอีก 10 นาที ได้
ทำงานเป็น Reception ร้านสปา เนื้องานแบบนี้ สมควรไหม?
2.น้ำเวลคั่มดิ้ง เป็นน้ำอันชัญ ผ้าเย็นพับเป็นรูปทรงกุหลาบกลิ่นเปเปอร์มิ้น
ให้พนักงานต้อนรับเป็นคนเตรียม วันไหนลูกค้าเยอะ ของหมด เตรียมไม่ทันจริงๆ น้ำอัญชัญก็ต้องไปต้มให้ร้อน แล้วรอหายร้อน ถึงแช่ตู้เย็น รับลูกค้าอยู่ ลงข้อมูลอยู่ พอของหมด ก็มาว่าเรา ทำไม ไม่เตรียม
3.ต้มน้ำใบเตย และ คว้านผลไม้ เช่น แตงโม ต้องเอาเมล็ดออก ทำเป็นลูกทรงกลมแบบ สวย ใช่หน้าที่พนักงานต้อนรับเตรียมไหม เสริฟอ่ะ เข้าใจได้ แต่ตอนเตรียม ต้องทิ้งเคาเตอร์ไปเตรียม บางทีสายโทรศัพท์ดังก็ต้อง รีบวิ่งไปรับ เพราะทำของอยู่
4.ต้องเปลี่ยนรองเท้า ให้ลูกค้าด้วย
ชาวพันทิพคิดว่า เป็นไงบ้าง เวลาลูกค้าเยอะจริงๆ เราเตรีนมของไม่ทันจริงๆนะ รีเซฟชั่นก็มีแค่ 2 คน หัวหน้าก็รอแต่ว่าๆ ปากก็เหม็น แถมไม่มีการศึกษา
คิดว่ามันใช่หน้าที่ พนักงานต้อนรับต้องเตรียมของไหม ?
รับลูกค้าเสร็จ ต้องลงข้อมูลในโปรแกรมอีก 10 นาที ได้