สวัสดีครับ ผมทำงานที่นี้ ฟิลิปปินส์ มาได้ 10 ปีแล้วครับ วันนี้ขอเล่าประสบการณ์การใช้ชีวิตที่นี้ และตอบคำถามที่มักจะมีคนถามคนที่กำลังอยู่ที่นี้ เคยอยู่ และกำลังสนใจเข้ามาทำงานที่นี้นะครับ (เอาเรื่องจริง ๆ มาเล่าให้ฟัง คนฟิลิปปินส์ที่อ่านไทยได้ คงไม่ว่านะครับ)
ก่อนอื่น ทำไมต้องมาทำงานที่นี้ ตอบเลยครับ ตัวเลือกคนเรามีไม่เยอะ สำหรับคนบ้านนอก การศึกษาน้อยอยากผมที่มีภาระ และหน้าที่มากมายสำหรับครอบครัว เพื่อนผมแนะนำให้มา ตำแหน่งงานโอเค รายได้ก็ดีพอใช้ ผมทำงานในตำแหน่งที่ไม่ต้องใช้ภาษาอังกฤษมาก ส่วนใหญ่ใช้ภาษาไทยติดต่อลูกค้าคนไทย เลยไม่มีปัญหาในส่วนการทำงานมากเท่าไร
ทำไมถึงไม่คิดกลับไทย ไปทำงานที่ไทย ในเมื่อว่าที่นี้ไม่ดีเท่าที่ไทย ก็อย่างคำตอบแรกครับ ทนเพราะเงิน ที่ไทย อย่างไงชีวิตความเป็นอยู่ก็ดีกว่า แต่ก็นะ ผมการศึกษาน้อย ถ้ากลับไทย แล้วครอบครัวผมละ (อันนี้มักจะมีคนถามผมนะครับ "ทำไมอกตัญญู ไม่สำนึกบุญคุณบ้างเลยหรอ มาอยู่ที่นี้ก็ควรทำสิ่งดี ๆ ให้ที่นี้บ้าง" ผมก็จะตอบกลับไปว่า "แล้วที่นี้มีอะไรที่เป็นบุญคุณกันหรอ ผมทำงานเสียภาษี ค่าอาหารที่อยู่ และค่าใช้จ่าย ก็ใช้ที่นี้ ผมควรคิดว่า ผมมีบุญคุณกับที่นี้มากกว่า")
คนที่นี้เป็นอย่างไร (ผมขอเอาจากประสบการณ์ของตัวเองมาตอบนะครับ) 1) ในส่วนของงาน ผมว่าคนที่นี้ทำงานช้ามาก โดยเฉพาะงานบริการ แคชเชียร์ ช้ามากถึงมากที่สุด 2) แถ แถเก่งมาก ไม่รู้จะหาข้ออ้างนู่นี้นั้นมากจากไหน อาจจะเป็นเพราะคนที่นี้รู้ภาษาอังกฤษมากกว่าเรา เวลาคุยกัน เลยพูดไม่ทัน 3) ชอบขอ ขอตลอด ไม่ว่าอะไรก็จะขอ เหมือนฝึกหัดมาตั้งแต่เด็ก ๆ จนเป็นนิสัยเลย ผมมักเจอประโยคนี้บ่อยมาก Can you give me? หรือไม่ก็ Can you treat me? โดยเฉพาะเรื่องเงิน ขอยืมเก่งมาก รู้จักกันวันหนึ่ง อ้าปากข้อยืมเงินเป็นพันๆ หมื่น ๆ แบบเราสนิทกันมา และชอบทำมึน ไม่คืนเลยก็มี 4) ชอบคิดว่าตัวเองเก่ง (ในเรื่องของภาษาอังกฤษ) แต่ก็ต้องยอมรับเรื่องนี้จริงๆ เพราะคุณ "รู้" มากกว่าเรา จะให้เปรียบ ก็เหมือนกับ คนเรียนแต่วิชาภาษาอังกฤษ แต่ไม่เคยเรียนภาษาไทย ก็ยอมต้อง รู้ ภาษาอังกฤษมากกว่าอยู่แล้ว 5) ใครเล่าเรื่องจริงของประเทศไม่ได้ แต่ก็ไม่อยากอยู่ประเทศนี้ มีครั้งหนึ่ง ผมเคยถามคนฟิลิปปินส์ในแผนกผม เคยฝันอะไรบ้าง คำตอบมีแค่ว่า ฝันว่าจะไปอยู่ USA, ลอนดอน, ออสเตเรีย ไม่อยากอยู่ที่นี้ ไม่อยากทำงานที่นี้ ก็แปลกดี ขณะผมบอกตลอดว่า ผมอยากกลับไทย 6) ร้องเพลงเก่งมาก ร้านคาราโอเกะ เยอะมาก แถบทุกบ้านจะต้องมีแผ่นซีดีคาราโอเกะ ร้องเพลงกันสนุกสนาน
สภาพแวดล้อม ความเป็นอยู่เป็นอย่างไร อย่างแรก สภาพแวดล้อมโดยรวม ๆ ก็เหมือนไทย แต่จะไม่มีหนาว (มีเฉพาะตอนบนของประเทศเท่านั้นที่มี 3 ฤดูจริง ๆ) ส่วนความเป็นอยู่ อันนี้ต้องขอยอมรับ และมอบฉายาให้กับที่นี้เลย "เมืองแห่งสลัม" ต้องขอยกให้เค้าติดท๊อป 10 ของโลกเลย โดยส่วนมากจะเป็นคนจากชนบทเข้ามาหางานทำ คนเร่รอน และเด็ก โดยเด็กๆ ที่นี้เยอะมาก เพื่อนผมมีลูก 5 คนแล้ว ที่นี้ไม่มีนโยบายคุมกำเนิดนะครับ เพราะขัดต่อหลักศาสนา อาหารการกินที่นี้ แพงกว่าที่ไทยครับ ถ้าคนติดรสจัดจ้าน บอกเลยให้เตรียมมาทำกินเองจะดีกว่า รายได้ขั้นต่ำที่นี้ก็พอ ๆ กับไทย (ผมอยู่ที่นี้ก็ถือว่าเป็นคนต่างชาติ รายได้เลยได้เยอะกว่าคนที่นี้ประมาณ 3-4 เท่าครับ) ตามชนบท ผมชอบครับ คือ ดูแบบธรรมชาติ ๆ ดีครับ ไม่ค่อยมีไรมาก แต่ถ้าพูดถึงความสะดวกสบาย ก็ยังสู้ไทยไม่ได้ ส่วนระบบขนส่ง ก็ต้องยอมรับว่าที่ไทยทันสมัยกว่า แต่ ผมไม่ได้บอกว่าดีกว่านะครับ ที่นี้มีรถขวัญใจคนจน ระดับกลาง นั้นก็คือ รถจิ๊บนี้ (สองแถวบ้านเรา) มีทุกที่ แถมราคาถูกมาก ถ้าเทียบไทย เวลาเราเดินทาง ที่นี้ค่าใช้จ่ายจะถูกกว่าประมาณ 3-4 เท่าตัว ส่วนตามชนบทไม่ต้องห่วง จิ๊บนี่ เท่านั้น และบอกเลยว่า เยอะมากจริง ๆ
คิดเห็นอย่างไงกับที่นี้ / คนที่นี้ สำหรับสถานที่ หรือพื้นที่ประเทศ ผมถือว่าอยู่ได้ ไม่มีปัญหามาก อาจจะเป็นเพราะผมเลือกที่อยู่ ตอนเข้ามาทำงานใหม่ ๆ ไม่พอใจในสถานที่ที่อยู่มากครับ ต่อมาก็ปรับตัวได้ เลือก เปลี่ยนห้องมาบ่อยมาก 10 ปีมานี้ ผมเปลี่ยนที่อยู่เกือบจะทุกปีครับ จนว่าที่ที่อยู่ปัจจุบัน ผมพอใจมากสุด ค่าห้องพัก / คอนโดที่นี้แพงครับ แต่ถ้าถามว่าดีไหม ก็คงไม่ดีเท่าไร เพื่อนผมที่ทำงานด้วยกันบ่นเสมอครับว่า ถ้าเสียเงินขนาดนี้ที่ไทยนะ คงไปอยู่คอนโดดี ๆ ใจกลางเมืองกทมแล้ว (ผมไม่รู้หรอกว่าดีไม่ดี เด็กบ้านนอกที่ไหนก็นอนได้) มาประเด็นตัวบุคคล ในความคิดผม คนรู้จัก เพื่อนกิน ได้แต่ไม่ใช่เพื่อนสนิท และผมบอกอย่างนะ ผมมีเพื่อนสนิทที่นี้ 1 คน เป็นคนที่นี้เลย นิสัยดีอยู่ แต่สุดท้ายก็แยกกันไปด้วยเหตุผลที่คนที่นี้มักจะรู้ ๆ กันอยู่
แล้วเพื่อน ๆ คนไทยที่นี้ละครับ เป็นอย่างไรบ้าง คิดต่างจากผมบ้างไหม ถ้ามีมาแชร์ประสบการณ์กันหน่อยนะครับ ส่วนคนที่สนใจมาทำงานที่นี้ ไม่ต้องกังวลไปนะครับ ที่นี้ยังมีสิ่งดีๆ ให้น่าค้นหาอยู่
ประสบการณ์ชีวิต 10 ปี ประเทศนางงามแห่งเอเซีย
ก่อนอื่น ทำไมต้องมาทำงานที่นี้ ตอบเลยครับ ตัวเลือกคนเรามีไม่เยอะ สำหรับคนบ้านนอก การศึกษาน้อยอยากผมที่มีภาระ และหน้าที่มากมายสำหรับครอบครัว เพื่อนผมแนะนำให้มา ตำแหน่งงานโอเค รายได้ก็ดีพอใช้ ผมทำงานในตำแหน่งที่ไม่ต้องใช้ภาษาอังกฤษมาก ส่วนใหญ่ใช้ภาษาไทยติดต่อลูกค้าคนไทย เลยไม่มีปัญหาในส่วนการทำงานมากเท่าไร
ทำไมถึงไม่คิดกลับไทย ไปทำงานที่ไทย ในเมื่อว่าที่นี้ไม่ดีเท่าที่ไทย ก็อย่างคำตอบแรกครับ ทนเพราะเงิน ที่ไทย อย่างไงชีวิตความเป็นอยู่ก็ดีกว่า แต่ก็นะ ผมการศึกษาน้อย ถ้ากลับไทย แล้วครอบครัวผมละ (อันนี้มักจะมีคนถามผมนะครับ "ทำไมอกตัญญู ไม่สำนึกบุญคุณบ้างเลยหรอ มาอยู่ที่นี้ก็ควรทำสิ่งดี ๆ ให้ที่นี้บ้าง" ผมก็จะตอบกลับไปว่า "แล้วที่นี้มีอะไรที่เป็นบุญคุณกันหรอ ผมทำงานเสียภาษี ค่าอาหารที่อยู่ และค่าใช้จ่าย ก็ใช้ที่นี้ ผมควรคิดว่า ผมมีบุญคุณกับที่นี้มากกว่า")
คนที่นี้เป็นอย่างไร (ผมขอเอาจากประสบการณ์ของตัวเองมาตอบนะครับ) 1) ในส่วนของงาน ผมว่าคนที่นี้ทำงานช้ามาก โดยเฉพาะงานบริการ แคชเชียร์ ช้ามากถึงมากที่สุด 2) แถ แถเก่งมาก ไม่รู้จะหาข้ออ้างนู่นี้นั้นมากจากไหน อาจจะเป็นเพราะคนที่นี้รู้ภาษาอังกฤษมากกว่าเรา เวลาคุยกัน เลยพูดไม่ทัน 3) ชอบขอ ขอตลอด ไม่ว่าอะไรก็จะขอ เหมือนฝึกหัดมาตั้งแต่เด็ก ๆ จนเป็นนิสัยเลย ผมมักเจอประโยคนี้บ่อยมาก Can you give me? หรือไม่ก็ Can you treat me? โดยเฉพาะเรื่องเงิน ขอยืมเก่งมาก รู้จักกันวันหนึ่ง อ้าปากข้อยืมเงินเป็นพันๆ หมื่น ๆ แบบเราสนิทกันมา และชอบทำมึน ไม่คืนเลยก็มี 4) ชอบคิดว่าตัวเองเก่ง (ในเรื่องของภาษาอังกฤษ) แต่ก็ต้องยอมรับเรื่องนี้จริงๆ เพราะคุณ "รู้" มากกว่าเรา จะให้เปรียบ ก็เหมือนกับ คนเรียนแต่วิชาภาษาอังกฤษ แต่ไม่เคยเรียนภาษาไทย ก็ยอมต้อง รู้ ภาษาอังกฤษมากกว่าอยู่แล้ว 5) ใครเล่าเรื่องจริงของประเทศไม่ได้ แต่ก็ไม่อยากอยู่ประเทศนี้ มีครั้งหนึ่ง ผมเคยถามคนฟิลิปปินส์ในแผนกผม เคยฝันอะไรบ้าง คำตอบมีแค่ว่า ฝันว่าจะไปอยู่ USA, ลอนดอน, ออสเตเรีย ไม่อยากอยู่ที่นี้ ไม่อยากทำงานที่นี้ ก็แปลกดี ขณะผมบอกตลอดว่า ผมอยากกลับไทย 6) ร้องเพลงเก่งมาก ร้านคาราโอเกะ เยอะมาก แถบทุกบ้านจะต้องมีแผ่นซีดีคาราโอเกะ ร้องเพลงกันสนุกสนาน
สภาพแวดล้อม ความเป็นอยู่เป็นอย่างไร อย่างแรก สภาพแวดล้อมโดยรวม ๆ ก็เหมือนไทย แต่จะไม่มีหนาว (มีเฉพาะตอนบนของประเทศเท่านั้นที่มี 3 ฤดูจริง ๆ) ส่วนความเป็นอยู่ อันนี้ต้องขอยอมรับ และมอบฉายาให้กับที่นี้เลย "เมืองแห่งสลัม" ต้องขอยกให้เค้าติดท๊อป 10 ของโลกเลย โดยส่วนมากจะเป็นคนจากชนบทเข้ามาหางานทำ คนเร่รอน และเด็ก โดยเด็กๆ ที่นี้เยอะมาก เพื่อนผมมีลูก 5 คนแล้ว ที่นี้ไม่มีนโยบายคุมกำเนิดนะครับ เพราะขัดต่อหลักศาสนา อาหารการกินที่นี้ แพงกว่าที่ไทยครับ ถ้าคนติดรสจัดจ้าน บอกเลยให้เตรียมมาทำกินเองจะดีกว่า รายได้ขั้นต่ำที่นี้ก็พอ ๆ กับไทย (ผมอยู่ที่นี้ก็ถือว่าเป็นคนต่างชาติ รายได้เลยได้เยอะกว่าคนที่นี้ประมาณ 3-4 เท่าครับ) ตามชนบท ผมชอบครับ คือ ดูแบบธรรมชาติ ๆ ดีครับ ไม่ค่อยมีไรมาก แต่ถ้าพูดถึงความสะดวกสบาย ก็ยังสู้ไทยไม่ได้ ส่วนระบบขนส่ง ก็ต้องยอมรับว่าที่ไทยทันสมัยกว่า แต่ ผมไม่ได้บอกว่าดีกว่านะครับ ที่นี้มีรถขวัญใจคนจน ระดับกลาง นั้นก็คือ รถจิ๊บนี้ (สองแถวบ้านเรา) มีทุกที่ แถมราคาถูกมาก ถ้าเทียบไทย เวลาเราเดินทาง ที่นี้ค่าใช้จ่ายจะถูกกว่าประมาณ 3-4 เท่าตัว ส่วนตามชนบทไม่ต้องห่วง จิ๊บนี่ เท่านั้น และบอกเลยว่า เยอะมากจริง ๆ
คิดเห็นอย่างไงกับที่นี้ / คนที่นี้ สำหรับสถานที่ หรือพื้นที่ประเทศ ผมถือว่าอยู่ได้ ไม่มีปัญหามาก อาจจะเป็นเพราะผมเลือกที่อยู่ ตอนเข้ามาทำงานใหม่ ๆ ไม่พอใจในสถานที่ที่อยู่มากครับ ต่อมาก็ปรับตัวได้ เลือก เปลี่ยนห้องมาบ่อยมาก 10 ปีมานี้ ผมเปลี่ยนที่อยู่เกือบจะทุกปีครับ จนว่าที่ที่อยู่ปัจจุบัน ผมพอใจมากสุด ค่าห้องพัก / คอนโดที่นี้แพงครับ แต่ถ้าถามว่าดีไหม ก็คงไม่ดีเท่าไร เพื่อนผมที่ทำงานด้วยกันบ่นเสมอครับว่า ถ้าเสียเงินขนาดนี้ที่ไทยนะ คงไปอยู่คอนโดดี ๆ ใจกลางเมืองกทมแล้ว (ผมไม่รู้หรอกว่าดีไม่ดี เด็กบ้านนอกที่ไหนก็นอนได้) มาประเด็นตัวบุคคล ในความคิดผม คนรู้จัก เพื่อนกิน ได้แต่ไม่ใช่เพื่อนสนิท และผมบอกอย่างนะ ผมมีเพื่อนสนิทที่นี้ 1 คน เป็นคนที่นี้เลย นิสัยดีอยู่ แต่สุดท้ายก็แยกกันไปด้วยเหตุผลที่คนที่นี้มักจะรู้ ๆ กันอยู่
แล้วเพื่อน ๆ คนไทยที่นี้ละครับ เป็นอย่างไรบ้าง คิดต่างจากผมบ้างไหม ถ้ามีมาแชร์ประสบการณ์กันหน่อยนะครับ ส่วนคนที่สนใจมาทำงานที่นี้ ไม่ต้องกังวลไปนะครับ ที่นี้ยังมีสิ่งดีๆ ให้น่าค้นหาอยู่