สวัสดีครับ
ผมคงเหมือนหลายๆคนในนี้เนอะ ที่เข้ามาหาข้อมูลในนี้อยู่ประจำ แต่ไม่เคยตั้งกระทู้ของตัวเองมาก่อน
มีแต่เพื่อนให้สมัครไอดีเพื่อที่จะไปตั้งกระทู้ ฮ่าๆๆๆ ตอนนี้มีไอดีของตัวเองแล้วเลยอยากที่จะแชร์ประสบการณ์กับทุกคนบ้าง
ทริปนี้ก็ตามชื่อกระทู้เลยครับ 1 ทริปนี้ พวกเราไปเที่ยว 2 ดอยก็คือ ดอยหลวงเชียงดาว และ ดอยอ่างขาง ซึ่งพวกเราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่มัธยมตอนนี้ก็จบมาทำงานในสาขาอาชีพของตัวเอง มีคุณหมอฟัน 2 คน บัญชี 1 คน และผมจบวิศวะครับ รวมทริปนี้เราไปกัน 4 คน พวกเราใช้เวลาเดินทางทริปนี้ประมาณ 5 วัน 5 คืนครับ ตั้งแต่วันที่ 9 ตอนเย็น – วันที่ 14 ธันวาคม 2558
ตามจริงผมไปเที่ยวมาหลายดอยแล้วครับ แต่ไม่เคยทำรีวิว ฮ่าๆๆ ที่ๆไปมาแล้วคร่าวๆก็ ภูกระดึง ภูสอยดาว เขาช้างเผือก ดังนั้นตอนแรกจุดมุ่งหมายของเราทริปนี้คือ เราจะไป “พิชิตยอด ดอยหลวงเชียงดาว” ยอดที่สูงอันดับสามของประเทศไทยครับ อิอิ ซึ่งเราใช้เวลาบนนั้น 3 วัน 2 คือครับ แต่เนื่องจากเพื่อนๆวันลาเหลือครับ ไหนๆเราก็ไปเที่ยวเส้นนั้นแล้ว เราเลยวางแผนไปเที่ยวดอยอ่างขางต่ออีกคืนเลยหลังจากลงดอยหลวงเชียงดาว ฮ่าๆๆๆ สตรองมาก !!!
การเดินทางของพวกเรา เนื่องจากเราไม่ได้นัดกันซื้อตั๋วเครื่องบินทีเดียว ดังนั้นราคาตั๋วกับเที่ยวบินของพวกเราสี่คนจึงไม่เท่ากัน คนละสายการบินและคนละเวลาครับ ฮ่าๆๆ = =” และเพราะเหตุนี้เราจึงเช่ารถ 5 วันไปเลยครับเพื่อความสะดวกในการเดินทางและจัดการเวลา ก็คือเหมือนเสียเงินค่าเช่ารถประมาณ 2 วันเอาไปจอดอยู่ตีนดอยเฉยๆ เหอะๆ แต่ไม่เป็นไรทำงานหาเงินมาเพื่อเที่ยว แค่นี้ไม่มีปัญหา!! (หรอออ?? ฮ่าๆๆ)
เนื่องจากผมเห็นกระทู้รีวิว ดอยหลวงเชียงดาว มีหลายกระทู้แล้ว กระทู้ที่เนื้อหาดีๆอัดแน่นมีอยู่หลายอันเลย ดังนั้นกระทู้ของผมก็จะเป็นแนวแชร์ประสบการณ์แล้วก็เน้นรูปภาพแล้วกันนะครับ ฮ่าๆๆ
ผมใช้กล้อง Nikon D750 พร้อมเลนส์ 24-120 F/4 N ตลอดทริปครับ เลนส์เดียวเที่ยวทั่วไทย ความจริงคือไม่มีเงินซื้อเลนส์เพิ่มแล้วครับ ฮ่าๆ
พร้อมจะไปกับเรา รึยังครับ ?? Let’s Go!!!
ตามที่บอกไปตอนแรก เราเดินทางไม่พร้อมกันครับ ผมเลือกไฟต์เช้าวันที่ 9 ธันวาคม 2558 เลยเนื่องจากมันถูกดีครับ ฮ่าๆๆ ผมไปกับสายการบิน Thai Lion Air วางแผนที่นั่งอย่างดีครับ หลังสุดติดหน้าต่างหันไปทางทิศตะวันออก แหะๆ กล้องพร้อม !!!
เป็นวันที่ข้างบนนั้นฟ้าสวยมากครับ ยังไม่ถึงเชียงใหม่ ผมกดชัตเตอร์ไปครึ่งร้อยแล้ว ก็ดูสิฟ้าสิครับ ไม่ถ่ายได้ไง
เรานัดเวลารับรถตอน 16.30 ครับ ผมและเพื่อนบางคนเลยต้องไปเที่ยวเดินเล่นหาของกินแถวนิมมานรอ มีเพื่อนแนะนำมาว่า ต้องร้านนี้เลย คั่วไก่นิมมาน
กินของคาวก็ต้องต่อด้วยของหวานถูกมั้ย?? ฮ่าๆๆ เราเดินไปกินร้าน De May นิมมานซอย 15
ฮ่าๆๆ ถึงจุดนี้มีแต่ของกิน กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ขึ้นเขาต้องใช้พลังงานไขมันเยอะ อิอิ
เมื่อถึงเวลา 16.30 พวกเรามันกันครบจึงโทรเรียกรับรถที่สนามบินเชียงใหม่ครับ
เราใช้บริการรถเช่าของร้าน Bank Car Rental Chiang Mai เบอร์ติดต่อ 0894791239 เป็นรถ Vios ค่าเช่าวันละ 1100 บาท มัดจำ 5000 บาทครับ ราคาถึงว่าโอเคครับ เพราะตอนแรกเราหาเช่าเกือบไม่ได้เพราะเราขอเช่าตั้ง 5 วัน แต่มีแค่ร้านนี้ที่โทรกลับมาว่ามีรถให้เช่า ซึ่งบริการดีมากครับ อัธยศัยดี รถอยู่ในสภาพดีเยี่ยมเลยครับ และเราก็ออกเดินทางไป อำเภอเชียงดาวทันทีเลยครับเพราะกลัวมืดก่อน
คืนแรกเราไปพักที่ ค่ายเยาวชนเชียงดาวก่อนครับ เพราะพรุ่งนี้เราต้องไปขึ้นดอยหลวงเชียงดาวแต่เช้าจึงหาที่พักอยู่ตีนดอย ระหว่างทางเราแวะกินก๋วยเตี๋ยวตรงจุดแวะง่ายๆมาก่อนครับเพราะเราไปถึงก็มืดแล้วในตัวอำเภอร้านปิดหมดเหลือแค่เซเว่นและโลตัส ที่ค่ายเยาวชนมีทั้งบ้านพักและที่กางเต็นท์นะครับ วิวเห็นดอยหลวงเชียงดาวตรงหน้าเลยครับ ดาวนับไม่ไหวจริงๆ ฟินมาก

เช้าวันที่ 10 ธันวาคม 2558 ผมตื่นมาตี 4 ครับ ไม่ได้ตั้งใจนะครับ แต่รู้สึกนอนอิ่มมาก เลยลุกออกไปถ่ายดาว เพราะตอนกลางคืนไฟมันเยอะไปหน่อย
กดรัวๆครับ เลยได้เก็บภาพดาวหมุนมาให้ชม เป็นครั้งแรกเลยที่ถ่ายดาวหมุน แต่เหมือนดาวมันจะเยอะเกินไป แน่นเกินไม่สวยเท่าไรเลย ครั้งหน้าเอาใหม่ ฮ่าๆๆ
หลังจากที่เราเตรียมพร้อมเรียบร้อยเราออกจากที่พัก 6 โมงเช้าเพื่อไปหาข้าวเช้าและซื้อเสบียงสำหรับข้าวเที่ยงระหว่างที่ขึ้นดอยครับ เราไปกินข้าวขาหมูเสวยที่ร้านพรเพ็ญครับ เห็นว่ามีชื่อเสียง พอทานแล้วก็อร่อยจริงๆ ครับ

ซื้อข้าวเที่ยงใส่ถุงง่ายๆและซื้อเสบียงสำหรับบนนั้น เรียบร้อยก็ ทำบุญตักบาตรเป็นศิริมงคลสักหน่อย อิอิ

เมื่อพร้อมแล้ว เราก็ออกเดินทางไป สำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวครับ
จะขึ้นดอยหลวงเชียงดาวต้องโทรจองก่อนนะครับ ไม่ใช่อยากขึ้นแล้วมาที่นี่เลยเขาจะให้ขึ้น ฮ่าๆๆๆ เราจองลูกหาบไว้สองคน ซึ่งลูกหาบคนหนึ่งแบกของได้ไม่เกิน 20 กิโลกรัมครับ พวกเราเลยให้ลูกหาบหาบแค่เต็นท์ ถุงนอน น้ำและอาหาร ที่เหลือก็แบกเองสิครับ 15 กิโล ผมนี่มันลูกหาบน้อยชัดๆ ตายๆๆๆ

เราพร้อมจะลุยกันแล้ววววววววววว !!
ทางขึ้นดอยหลวงเชียวดาวขึ้นได้สองทางคือ เด่นหญ้าขัด กับ ปางวัว คนส่วนใหญ่ขึ้นทางเด่นหญ้าขัดแล้วลงทางปางวัวเนื่องจากทางปางวัวชันกว่าแต่เดินสั้นกว่า แต่ใครขึ้นทางปางวัวนี่เจ๋งครับบอกเลย เหมือนฆ่าตัวตายชัดๆ!!! ฮ่าๆๆ ภูกระดึงภูสอยดาวเขาช้างเผือกเจอทางปางวัวเข้าไปนี่เด็กน้อยเลยครับ ทั้งลื่นทั้งชัน!!! แค่เดินลงยังเหนื่อย เดินขึ้นนี่ตายๆๆ !!!
ทั้งสองทางต้องนั่งรถโฟร์วิวเข้าไปแต่ทางเด่นหญ้าขัดต้องเข้าไปลึกกว่าเสียตังแพงกว่า(ขึ้นเด่นหญ้าขัดเสียเงิน 1800 บาท ถ้าขึ้นปางวัวเสียเงิน 1200 บาท)และถนนแย่มาก แต่เราก็ยังแนะนำในขึ้นทางเด่นหญ้าขัดครับ เพราะเดินสบายกว่าเดินได้เรื่อยๆ เราต้องเสียเงินค่าเข้าไป 550 บาท และเป็นเงินค่ามัดจำขยะ 300 บาทครับ
วันนี้ฟ้ามีเมฆบ้างแต่ถือว่าฟ้าเปิดสวยเลยครับ อิอิ

นั่งรถไปประมาณชั่วโมงกว่าได้ครับ เนื่องจากทางไม่ค่อยดีและไกล
แล้วเราก็มาถึงจุดเริ่มต้นเดินทาง จากฝั่งเด่นหญ้าขัดครับ ที่นี่มีต้นนางพญาเสือโคร่งด้วยนะครับ ถ้ามาช่วงมกราคมคงได้เห็นมันบานสวยเลย
รอช้าทำไม ออกเดินเลยยย


เราเริ่มเดินประมาณ 10.15 ครับ
ยอดแหลมๆที่เห็นไกลๆตอนแรกคิดว่าเป็นยอดดอยหลวงเชียงดาว แต่ไม่ใช่นะครับ นั้นยอดปีระมิด เราต้องเดินเลยยอดนั้นไปอีก ฮ่าๆๆๆ ไกลมากกกกกกก !!
แล้วเราก็มาถึงสามแยกที่ทางปางวัวและเด่นหญ้าขัดจะมาเจอกัน เราแวะทานข้าวเที่ยงกันที่นี่ ถึงตอนนี้ ถึงของจะหนักแต่ก็รู้สึกยังเดินได้เรื่อยๆ อากาศมีให้หายใจสบายๆครับ อิอิ
กินอิ่ม เราก็เดินทางต่อเพื่อไปที่ อ่างสลุง จุดที่เราจะกางเต็นท์นอนคืนนี้ครับ ผมว่าระหว่างทางของดอยหลวงเชียงดาวนี่สวยมากเลยนะครับ สวยตลอดทางเลย ผมนี่หยุดถ่ายภาพรัวๆ เป็นการพักไปในตัว อิอิ
แล้วผมก็ถึงอ่างสลุงประมาณ 14.30 ครับ ผมถึงคนสุดท้าย ฮ่าๆๆๆ ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง 15 นาที ถือว่าเร็วเลยถ้าคิดจากน้ำหนักที่แบกขึ้นมา คนปกติเขาเดินใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง ถึงปุ๊บนี่นอนพักก่อนเลยปวดไหล่มากๆ

อ่างสลุงไม่ใช่พื้นที่ราบๆเหมือนหลายๆที่ ที่ผมเคยไป แต่ผมว่ามันเหมือนตำแหน่งที่เป็นหลุมระหว่างยอดสูงสุดกับยอดกิ่วลม ดังนั้นจากอ่างสลุงมีทางให้เดินต่ออีก 2 ทางคือ ไปยอดสูงสุดดอยหลวงเชียงดาว ไว้ดูพระอาทติย์ตก แต่พระอาทิตย์ขึ้นก็เห็นนะครับ แต่คนนิยมไปดูพระอาทิตย์ตก เดินไป 200 เมตรแม้วขึ้นรัวๆชันมากๆครับหินมหาศาล ไม่น่าจะเรียกว่าเดินเรียกว่าปีนน่าจะเหมือนกว่าครับ ฮ่าๆๆ ใช้เวลาเดินประมาณครึ่งชั่วโมงได้ อีกทางคือไปยอดดอยกิ่วลม ไว้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าและทะเลหมอก ใช้เวลาเดินประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ ดังนั้นถ้าจะออกไปดูพระอาทิตย์ขึ้นต้องออกเดินไม่เกิน ตี 5 ครับ
หลังจากที่ผมนอนพักหายเหนื่อยแล้ว พอ ประมาณ บ่าย 3 ครึ่ง ผมก็เริ่มปีนขึ้นยอดสูงสุดของดอยหลวงเชียงดาวเลย
เย้!!!!!! ในที่สุดเราก็ถึงยอดสูงสุดของดอยหลวงเชียงดาว ที่ความสูง 2,225 เมตรจากระดับน้ำทะเล
แต่ผมเลือกที่จะเดินไปต่อจนสุดผาเลย เพราะคิดว่าจะเป็นมุมที่พระอาทตย์จะตกที่ยอดของดอยสามพี่น้องพอดี
ตรงนั้นเห็น กวางผา!! ด้วยยยยย แต่ด้วยความสามารถของเลนส์ผมไปถึงได้แค่นั้น

แล้วก็ถึงช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังจะลาวันนี้ไป

พอเริ่มมืดผมเลยเดินกลับไปถ่ายแสงเย็นใกล้ๆป้ายเพราะอยู่สุดผามืดแล้วมันน่ากลัวจริงๆนะครับ ฮ่าๆๆๆ
[CR] 1 ทริป 2 ดอย 3 อาชีพ 4 คน 5 วัน !!! (ดอยหลวงเชียงดาว – ดอยอ่างขาง)
ผมคงเหมือนหลายๆคนในนี้เนอะ ที่เข้ามาหาข้อมูลในนี้อยู่ประจำ แต่ไม่เคยตั้งกระทู้ของตัวเองมาก่อน
มีแต่เพื่อนให้สมัครไอดีเพื่อที่จะไปตั้งกระทู้ ฮ่าๆๆๆ ตอนนี้มีไอดีของตัวเองแล้วเลยอยากที่จะแชร์ประสบการณ์กับทุกคนบ้าง
ทริปนี้ก็ตามชื่อกระทู้เลยครับ 1 ทริปนี้ พวกเราไปเที่ยว 2 ดอยก็คือ ดอยหลวงเชียงดาว และ ดอยอ่างขาง ซึ่งพวกเราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่มัธยมตอนนี้ก็จบมาทำงานในสาขาอาชีพของตัวเอง มีคุณหมอฟัน 2 คน บัญชี 1 คน และผมจบวิศวะครับ รวมทริปนี้เราไปกัน 4 คน พวกเราใช้เวลาเดินทางทริปนี้ประมาณ 5 วัน 5 คืนครับ ตั้งแต่วันที่ 9 ตอนเย็น – วันที่ 14 ธันวาคม 2558
ตามจริงผมไปเที่ยวมาหลายดอยแล้วครับ แต่ไม่เคยทำรีวิว ฮ่าๆๆ ที่ๆไปมาแล้วคร่าวๆก็ ภูกระดึง ภูสอยดาว เขาช้างเผือก ดังนั้นตอนแรกจุดมุ่งหมายของเราทริปนี้คือ เราจะไป “พิชิตยอด ดอยหลวงเชียงดาว” ยอดที่สูงอันดับสามของประเทศไทยครับ อิอิ ซึ่งเราใช้เวลาบนนั้น 3 วัน 2 คือครับ แต่เนื่องจากเพื่อนๆวันลาเหลือครับ ไหนๆเราก็ไปเที่ยวเส้นนั้นแล้ว เราเลยวางแผนไปเที่ยวดอยอ่างขางต่ออีกคืนเลยหลังจากลงดอยหลวงเชียงดาว ฮ่าๆๆๆ สตรองมาก !!!
การเดินทางของพวกเรา เนื่องจากเราไม่ได้นัดกันซื้อตั๋วเครื่องบินทีเดียว ดังนั้นราคาตั๋วกับเที่ยวบินของพวกเราสี่คนจึงไม่เท่ากัน คนละสายการบินและคนละเวลาครับ ฮ่าๆๆ = =” และเพราะเหตุนี้เราจึงเช่ารถ 5 วันไปเลยครับเพื่อความสะดวกในการเดินทางและจัดการเวลา ก็คือเหมือนเสียเงินค่าเช่ารถประมาณ 2 วันเอาไปจอดอยู่ตีนดอยเฉยๆ เหอะๆ แต่ไม่เป็นไรทำงานหาเงินมาเพื่อเที่ยว แค่นี้ไม่มีปัญหา!! (หรอออ?? ฮ่าๆๆ)
เนื่องจากผมเห็นกระทู้รีวิว ดอยหลวงเชียงดาว มีหลายกระทู้แล้ว กระทู้ที่เนื้อหาดีๆอัดแน่นมีอยู่หลายอันเลย ดังนั้นกระทู้ของผมก็จะเป็นแนวแชร์ประสบการณ์แล้วก็เน้นรูปภาพแล้วกันนะครับ ฮ่าๆๆ
ผมใช้กล้อง Nikon D750 พร้อมเลนส์ 24-120 F/4 N ตลอดทริปครับ เลนส์เดียวเที่ยวทั่วไทย ความจริงคือไม่มีเงินซื้อเลนส์เพิ่มแล้วครับ ฮ่าๆ
ตามที่บอกไปตอนแรก เราเดินทางไม่พร้อมกันครับ ผมเลือกไฟต์เช้าวันที่ 9 ธันวาคม 2558 เลยเนื่องจากมันถูกดีครับ ฮ่าๆๆ ผมไปกับสายการบิน Thai Lion Air วางแผนที่นั่งอย่างดีครับ หลังสุดติดหน้าต่างหันไปทางทิศตะวันออก แหะๆ กล้องพร้อม !!!
เป็นวันที่ข้างบนนั้นฟ้าสวยมากครับ ยังไม่ถึงเชียงใหม่ ผมกดชัตเตอร์ไปครึ่งร้อยแล้ว ก็ดูสิฟ้าสิครับ ไม่ถ่ายได้ไง
เรานัดเวลารับรถตอน 16.30 ครับ ผมและเพื่อนบางคนเลยต้องไปเที่ยวเดินเล่นหาของกินแถวนิมมานรอ มีเพื่อนแนะนำมาว่า ต้องร้านนี้เลย คั่วไก่นิมมาน
กินของคาวก็ต้องต่อด้วยของหวานถูกมั้ย?? ฮ่าๆๆ เราเดินไปกินร้าน De May นิมมานซอย 15
ฮ่าๆๆ ถึงจุดนี้มีแต่ของกิน กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ขึ้นเขาต้องใช้พลังงานไขมันเยอะ อิอิ
เมื่อถึงเวลา 16.30 พวกเรามันกันครบจึงโทรเรียกรับรถที่สนามบินเชียงใหม่ครับ
เราใช้บริการรถเช่าของร้าน Bank Car Rental Chiang Mai เบอร์ติดต่อ 0894791239 เป็นรถ Vios ค่าเช่าวันละ 1100 บาท มัดจำ 5000 บาทครับ ราคาถึงว่าโอเคครับ เพราะตอนแรกเราหาเช่าเกือบไม่ได้เพราะเราขอเช่าตั้ง 5 วัน แต่มีแค่ร้านนี้ที่โทรกลับมาว่ามีรถให้เช่า ซึ่งบริการดีมากครับ อัธยศัยดี รถอยู่ในสภาพดีเยี่ยมเลยครับ และเราก็ออกเดินทางไป อำเภอเชียงดาวทันทีเลยครับเพราะกลัวมืดก่อน
คืนแรกเราไปพักที่ ค่ายเยาวชนเชียงดาวก่อนครับ เพราะพรุ่งนี้เราต้องไปขึ้นดอยหลวงเชียงดาวแต่เช้าจึงหาที่พักอยู่ตีนดอย ระหว่างทางเราแวะกินก๋วยเตี๋ยวตรงจุดแวะง่ายๆมาก่อนครับเพราะเราไปถึงก็มืดแล้วในตัวอำเภอร้านปิดหมดเหลือแค่เซเว่นและโลตัส ที่ค่ายเยาวชนมีทั้งบ้านพักและที่กางเต็นท์นะครับ วิวเห็นดอยหลวงเชียงดาวตรงหน้าเลยครับ ดาวนับไม่ไหวจริงๆ ฟินมาก
เช้าวันที่ 10 ธันวาคม 2558 ผมตื่นมาตี 4 ครับ ไม่ได้ตั้งใจนะครับ แต่รู้สึกนอนอิ่มมาก เลยลุกออกไปถ่ายดาว เพราะตอนกลางคืนไฟมันเยอะไปหน่อย
กดรัวๆครับ เลยได้เก็บภาพดาวหมุนมาให้ชม เป็นครั้งแรกเลยที่ถ่ายดาวหมุน แต่เหมือนดาวมันจะเยอะเกินไป แน่นเกินไม่สวยเท่าไรเลย ครั้งหน้าเอาใหม่ ฮ่าๆๆ
หลังจากที่เราเตรียมพร้อมเรียบร้อยเราออกจากที่พัก 6 โมงเช้าเพื่อไปหาข้าวเช้าและซื้อเสบียงสำหรับข้าวเที่ยงระหว่างที่ขึ้นดอยครับ เราไปกินข้าวขาหมูเสวยที่ร้านพรเพ็ญครับ เห็นว่ามีชื่อเสียง พอทานแล้วก็อร่อยจริงๆ ครับ
ซื้อข้าวเที่ยงใส่ถุงง่ายๆและซื้อเสบียงสำหรับบนนั้น เรียบร้อยก็ ทำบุญตักบาตรเป็นศิริมงคลสักหน่อย อิอิ
เมื่อพร้อมแล้ว เราก็ออกเดินทางไป สำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวครับ
จะขึ้นดอยหลวงเชียงดาวต้องโทรจองก่อนนะครับ ไม่ใช่อยากขึ้นแล้วมาที่นี่เลยเขาจะให้ขึ้น ฮ่าๆๆๆ เราจองลูกหาบไว้สองคน ซึ่งลูกหาบคนหนึ่งแบกของได้ไม่เกิน 20 กิโลกรัมครับ พวกเราเลยให้ลูกหาบหาบแค่เต็นท์ ถุงนอน น้ำและอาหาร ที่เหลือก็แบกเองสิครับ 15 กิโล ผมนี่มันลูกหาบน้อยชัดๆ ตายๆๆๆ
เราพร้อมจะลุยกันแล้ววววววววววว !!
ทางขึ้นดอยหลวงเชียวดาวขึ้นได้สองทางคือ เด่นหญ้าขัด กับ ปางวัว คนส่วนใหญ่ขึ้นทางเด่นหญ้าขัดแล้วลงทางปางวัวเนื่องจากทางปางวัวชันกว่าแต่เดินสั้นกว่า แต่ใครขึ้นทางปางวัวนี่เจ๋งครับบอกเลย เหมือนฆ่าตัวตายชัดๆ!!! ฮ่าๆๆ ภูกระดึงภูสอยดาวเขาช้างเผือกเจอทางปางวัวเข้าไปนี่เด็กน้อยเลยครับ ทั้งลื่นทั้งชัน!!! แค่เดินลงยังเหนื่อย เดินขึ้นนี่ตายๆๆ !!!
ทั้งสองทางต้องนั่งรถโฟร์วิวเข้าไปแต่ทางเด่นหญ้าขัดต้องเข้าไปลึกกว่าเสียตังแพงกว่า(ขึ้นเด่นหญ้าขัดเสียเงิน 1800 บาท ถ้าขึ้นปางวัวเสียเงิน 1200 บาท)และถนนแย่มาก แต่เราก็ยังแนะนำในขึ้นทางเด่นหญ้าขัดครับ เพราะเดินสบายกว่าเดินได้เรื่อยๆ เราต้องเสียเงินค่าเข้าไป 550 บาท และเป็นเงินค่ามัดจำขยะ 300 บาทครับ
วันนี้ฟ้ามีเมฆบ้างแต่ถือว่าฟ้าเปิดสวยเลยครับ อิอิ
นั่งรถไปประมาณชั่วโมงกว่าได้ครับ เนื่องจากทางไม่ค่อยดีและไกล
แล้วเราก็มาถึงจุดเริ่มต้นเดินทาง จากฝั่งเด่นหญ้าขัดครับ ที่นี่มีต้นนางพญาเสือโคร่งด้วยนะครับ ถ้ามาช่วงมกราคมคงได้เห็นมันบานสวยเลย
รอช้าทำไม ออกเดินเลยยย
ยอดแหลมๆที่เห็นไกลๆตอนแรกคิดว่าเป็นยอดดอยหลวงเชียงดาว แต่ไม่ใช่นะครับ นั้นยอดปีระมิด เราต้องเดินเลยยอดนั้นไปอีก ฮ่าๆๆๆ ไกลมากกกกกกก !!
แล้วเราก็มาถึงสามแยกที่ทางปางวัวและเด่นหญ้าขัดจะมาเจอกัน เราแวะทานข้าวเที่ยงกันที่นี่ ถึงตอนนี้ ถึงของจะหนักแต่ก็รู้สึกยังเดินได้เรื่อยๆ อากาศมีให้หายใจสบายๆครับ อิอิ
กินอิ่ม เราก็เดินทางต่อเพื่อไปที่ อ่างสลุง จุดที่เราจะกางเต็นท์นอนคืนนี้ครับ ผมว่าระหว่างทางของดอยหลวงเชียงดาวนี่สวยมากเลยนะครับ สวยตลอดทางเลย ผมนี่หยุดถ่ายภาพรัวๆ เป็นการพักไปในตัว อิอิ
แล้วผมก็ถึงอ่างสลุงประมาณ 14.30 ครับ ผมถึงคนสุดท้าย ฮ่าๆๆๆ ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง 15 นาที ถือว่าเร็วเลยถ้าคิดจากน้ำหนักที่แบกขึ้นมา คนปกติเขาเดินใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง ถึงปุ๊บนี่นอนพักก่อนเลยปวดไหล่มากๆ
อ่างสลุงไม่ใช่พื้นที่ราบๆเหมือนหลายๆที่ ที่ผมเคยไป แต่ผมว่ามันเหมือนตำแหน่งที่เป็นหลุมระหว่างยอดสูงสุดกับยอดกิ่วลม ดังนั้นจากอ่างสลุงมีทางให้เดินต่ออีก 2 ทางคือ ไปยอดสูงสุดดอยหลวงเชียงดาว ไว้ดูพระอาทติย์ตก แต่พระอาทิตย์ขึ้นก็เห็นนะครับ แต่คนนิยมไปดูพระอาทิตย์ตก เดินไป 200 เมตรแม้วขึ้นรัวๆชันมากๆครับหินมหาศาล ไม่น่าจะเรียกว่าเดินเรียกว่าปีนน่าจะเหมือนกว่าครับ ฮ่าๆๆ ใช้เวลาเดินประมาณครึ่งชั่วโมงได้ อีกทางคือไปยอดดอยกิ่วลม ไว้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าและทะเลหมอก ใช้เวลาเดินประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ ดังนั้นถ้าจะออกไปดูพระอาทิตย์ขึ้นต้องออกเดินไม่เกิน ตี 5 ครับ
หลังจากที่ผมนอนพักหายเหนื่อยแล้ว พอ ประมาณ บ่าย 3 ครึ่ง ผมก็เริ่มปีนขึ้นยอดสูงสุดของดอยหลวงเชียงดาวเลย
เย้!!!!!! ในที่สุดเราก็ถึงยอดสูงสุดของดอยหลวงเชียงดาว ที่ความสูง 2,225 เมตรจากระดับน้ำทะเล
แต่ผมเลือกที่จะเดินไปต่อจนสุดผาเลย เพราะคิดว่าจะเป็นมุมที่พระอาทตย์จะตกที่ยอดของดอยสามพี่น้องพอดี
ตรงนั้นเห็น กวางผา!! ด้วยยยยย แต่ด้วยความสามารถของเลนส์ผมไปถึงได้แค่นั้น
แล้วก็ถึงช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังจะลาวันนี้ไป
พอเริ่มมืดผมเลยเดินกลับไปถ่ายแสงเย็นใกล้ๆป้ายเพราะอยู่สุดผามืดแล้วมันน่ากลัวจริงๆนะครับ ฮ่าๆๆๆ