คลื่นเปลี่ยนมือ ตลาดมือถือเปลี่ยนแปลง The Game Changer
ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2558
หลังการประมูลคลื่น 900 MHz ได้สิ้นสุดลงหลังจากใช้เวลามา 4 วัน 4 คืน แต่กลับเป็น “จุดเริ่ม” ฉากใหม่ของสงครามมือถือ
ก้าวแรกของ แจส โมบาย กับการเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ในโมบายอินเทอร์เน็ต เพื่อต่อยอดธุรกิจบรอดแบนด์ให้ครบวงจร
ทรู กับแผนพลิกเกมใหม่ในตลาดมือถือ การทุ่มลงทุนเป็นเจ้าของคลื่น 55 MHz และชิงคลื่น 900 MHz เพื่อใช้เป็นสปริงบอร์ดเพื่อก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1
การจับมือกับทีโอที เพื่อให้ได้คลื่น 2100 MHz หลังจากแพ้ประมูล จะทำให้เอไอเอสอยู่ในฐานะ “เหมือนจะแพ้แต่ชนะ” หรือไม่... มาดูคำตอบกัน
คลื่น 900 สปริงบอร์ดของทรู
ค่ายทรู ยอมทุ่มเงินทุนกว่าแสนล้านเพื่อให้ได้คลื่นความถี่มาสะสมไว้ในมือ รวมแล้ว 55 MHz เพราะประเมินแล้วว่า “นอกจากจะเป็นความเสี่ยง” ที่บริหารจัดการได้แล้ว ยังไม่มีโอกาสไหนจะเหมาะเท่ากับนี้อีกแล้ว จะสร้างอำนาจต่อรองให้ทรูก้าวจากเบอร์ 3 ขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจนี้ได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่ทรูคว้าใบอนุญาตคลื่น 900 MHz มาได้ ที่แม้จะต้องแลกมาด้วยราคาถึง 76,298 ล้านบาท แต่ ศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ยืนยันว่า คุ้มค่ากับการลงทุน เมื่อเทียบกับสิ่งที่ทรูจะได้กลับคืนมา
คลื่น 900 MHz เป็นคลื่นที่มีสัญญาณที่กว้างไกล จึงทำให้ประหยัดการลงทุนโครงข่าย 4G เพื่อให้ครอบคลุม 97% ของจำนวนประชากร ในช่วง 3-4 ปีข้างหน้าได้ถึง 45,000 ล้านบาท คุณภาพของสัญญาณทะลุทะลวงสูง ใช้ได้ดีทั้งในพื้นที่ห่างไกล ในอาคารสูง บ้านเรือนทั่วไป ถือเป็นคุณภาพแฝงที่มีมูลค่ามาก ที่จะทำให้เกิดประสบการณ์ที่ดีในการใช้ 4G
ทรู ยังถอดรหัสต่อไปว่า คลื่น 900 MHz (เดิมเป็นของ AIS หมดสัมปทานเดือนกันยายน 2558) ไม่ใช่คลื่นเปล่า แต่เป็นคลื่นที่มีผู้ใช้ในระบบ 2G ที่ยังไม่เปลี่ยนไปใช้ 3G หรือ 4G อยู่ไม่ต่ำกว่า 14-15 ล้านราย หรือเกือบครึ่งหนึ่งของตลาดมือถือในปัจจุบัน
นั่นคือโอกาสที่ทรูมองเห็นในการที่จะเข้าไปทำตลาดกับผู้ใช้ 14-15 ล้านรายดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้ในระบบเติมเงิน ที่ทรูมีส่วนแบ่งตลาดน้อยมาก
หากทรูสามารถเทิร์นให้ลูกค้าเหล่านี้เปลี่ยนใจมาใช้ 4G ได้ เพื่อฐานลูกค้าของทรูเพิ่มขึ้นทันที แถมการได้คลื่น 900 MHz ของทรูยังทำให้คู่แข่งมีคลื่นน้อยลง เรียกว่าเป็นการสกัดคู่แข่งที่เป็นเบอร์ 1 ไปในตัว
“ถ้าเราคิดว่า เราจะสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง เราก็ต้องมีการลงทุน และการลงทุนนั้นต้องมีความเสี่ยง เพราะต่อจากนี้จะเป็นแลนด์สเคปเชนจ์ เป็นยุคเปลี่ยนของโทรคมนาคมไทย เชื่อได้ว่าโอกาสแบบนี้ ในอีก 20 ปีข้างหน้าก็จะไม่มีอีกแล้ว” ศุภชัย ยืนยัน
ทรู มองว่า ปี 2559 จะเป็นปีที่ผันผวนที่สุดของตลาดโทรคมนาคม จากการที่ทรูได้ก้าวเข้าสู่ตลาดที่ใช้คลื่น 900 MHz ซึ่งจะเป็นสปริงบอร์ดที่ทำให้ทรูก้าวไปสู่อีกยุคหนึ่งของการแข่งขัน ที่ทรูจะมีเครือข่ายพอที่จะแข่งขันกับคู่แข่งเป็นเบอร์ 1 และเบอร์ 2 ในตลาด ที่ทรูเองไม่มีโอกาสทำได้มาก่อน
“การแข่งขันของธุรกิจด้านสื่อสารโทรคมนาคม จะต้องมีโครงข่ายที่ดีเป็นพื้นฐานของการมีสินค้าและบริการที่ดี ซึ่งการลงทุนคลื่นถือเป็นการลงทุนโครงข่ายที่ดีมีคุณภาพ เพราะต่อให้ใช้กลยุทธ์การตลาดล้ำลึกแค่ไหนก็ยังไม่มีความหมายเท่า
เพราะถ้าย้อนดูประวัติของทรู ในช่วง10 ปีแรกที่เข้าสู่ตลาดโทรศัพท์มือถือ ทรูมีคลื่นความถี่แค่ 12.5 MHz และเป็นสัมปทานที่มีอายุสั้นที่สุด ลงทุนเสาก็น้อยที่สุด ซึ่งต่อให้ทรูทำการตลาดมากแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่ได้มีความหมายเท่ากับการที่เรามีโครงข่ายที่ดี”
นอกจากทรูจะหมายมั่นปั้นมือว่าจะช่วงชิงลูกค้า และเพิ่มส่วนแบ่งมูลค่าตลาดมือถือ ในอีก 5 ปี เพิ่มเป็น 34% จากปัจจุบันที่มีอยู่ 20% ของมูลค่าตลาดรวมประมาณ 2.4 แสนล้านบาท
ขณะเดียวกัน ยังเป็นก้าวกระโดดของทรูในการขึ้นไปชิงการเป็นผู้นำในตลาด 4G ที่ถือเป็นแลนด์สเคปใหม่ของตลาดมือถือ ที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าการแข่งขันจากแบบเดิมๆ ไปสู่การแข่งขันภายใต้ “อีโคซิสเต็ม” แบบใหม่ เป็นเรื่องของการใช้ บิ๊กดาต้า แอปพลิเคชันต่างๆ ระบบคลาวคอมพิวติ้ง บริการด้านคอนเทนต์ พร้อมกับการบริโภคข้อมูล ที่จะเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดจากเฉลี่ย 2 กิ๊ก/คน/เดือน ไปเป็น 4 กิ๊ก/คน/เดือน
ทำให้ทรูเลือกเดินเกมการแข่งขันในแบบ “ตาต่อตาฟันต่อฟัน” ด้วยเติมคำว่า Advance ต่อท้ายคำว่า 4G ชนกับเบอร์ 1 อย่างเอไอเอส ที่เผยแพร่โลโก้ 4G Advance พร้อมกับบอกว่า ทรูเป็นรายแรกและรายเดียวที่มีความพร้อมสำหรับบริการ 4G Advance เพราะต้องมีคลื่นจำนวนมาก 40 MHz ขึ้นไปถึงจะให้บริการด้วยความเร็วในระดับที่ต้องการได้
และนี่คือ ความหมายของ แลนสเคปเชนจ์ ของทรู ที่จะเอาชนะในเกมการแข่งขันใหม่ จากการมีคลื่นในมือ จะเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ทรูพลิกจากเบอร์ 3 มาเป็นเบอร์ 1 ที่ทรูเชื่อว่ากำลังได้มาในอนาคตอีกไม่ไกล
***มีต่อ***
คลื่นเปลี่ยนมือ ตลาดมือถือเปลี่ยนแปลง The Game Changer
คลื่นเปลี่ยนมือ ตลาดมือถือเปลี่ยนแปลง The Game Changer
ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2558
หลังการประมูลคลื่น 900 MHz ได้สิ้นสุดลงหลังจากใช้เวลามา 4 วัน 4 คืน แต่กลับเป็น “จุดเริ่ม” ฉากใหม่ของสงครามมือถือ
ก้าวแรกของ แจส โมบาย กับการเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ในโมบายอินเทอร์เน็ต เพื่อต่อยอดธุรกิจบรอดแบนด์ให้ครบวงจร
ทรู กับแผนพลิกเกมใหม่ในตลาดมือถือ การทุ่มลงทุนเป็นเจ้าของคลื่น 55 MHz และชิงคลื่น 900 MHz เพื่อใช้เป็นสปริงบอร์ดเพื่อก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1
การจับมือกับทีโอที เพื่อให้ได้คลื่น 2100 MHz หลังจากแพ้ประมูล จะทำให้เอไอเอสอยู่ในฐานะ “เหมือนจะแพ้แต่ชนะ” หรือไม่... มาดูคำตอบกัน
คลื่น 900 สปริงบอร์ดของทรู
ค่ายทรู ยอมทุ่มเงินทุนกว่าแสนล้านเพื่อให้ได้คลื่นความถี่มาสะสมไว้ในมือ รวมแล้ว 55 MHz เพราะประเมินแล้วว่า “นอกจากจะเป็นความเสี่ยง” ที่บริหารจัดการได้แล้ว ยังไม่มีโอกาสไหนจะเหมาะเท่ากับนี้อีกแล้ว จะสร้างอำนาจต่อรองให้ทรูก้าวจากเบอร์ 3 ขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจนี้ได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่ทรูคว้าใบอนุญาตคลื่น 900 MHz มาได้ ที่แม้จะต้องแลกมาด้วยราคาถึง 76,298 ล้านบาท แต่ ศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ยืนยันว่า คุ้มค่ากับการลงทุน เมื่อเทียบกับสิ่งที่ทรูจะได้กลับคืนมา
คลื่น 900 MHz เป็นคลื่นที่มีสัญญาณที่กว้างไกล จึงทำให้ประหยัดการลงทุนโครงข่าย 4G เพื่อให้ครอบคลุม 97% ของจำนวนประชากร ในช่วง 3-4 ปีข้างหน้าได้ถึง 45,000 ล้านบาท คุณภาพของสัญญาณทะลุทะลวงสูง ใช้ได้ดีทั้งในพื้นที่ห่างไกล ในอาคารสูง บ้านเรือนทั่วไป ถือเป็นคุณภาพแฝงที่มีมูลค่ามาก ที่จะทำให้เกิดประสบการณ์ที่ดีในการใช้ 4G
ทรู ยังถอดรหัสต่อไปว่า คลื่น 900 MHz (เดิมเป็นของ AIS หมดสัมปทานเดือนกันยายน 2558) ไม่ใช่คลื่นเปล่า แต่เป็นคลื่นที่มีผู้ใช้ในระบบ 2G ที่ยังไม่เปลี่ยนไปใช้ 3G หรือ 4G อยู่ไม่ต่ำกว่า 14-15 ล้านราย หรือเกือบครึ่งหนึ่งของตลาดมือถือในปัจจุบัน
นั่นคือโอกาสที่ทรูมองเห็นในการที่จะเข้าไปทำตลาดกับผู้ใช้ 14-15 ล้านรายดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้ในระบบเติมเงิน ที่ทรูมีส่วนแบ่งตลาดน้อยมาก
หากทรูสามารถเทิร์นให้ลูกค้าเหล่านี้เปลี่ยนใจมาใช้ 4G ได้ เพื่อฐานลูกค้าของทรูเพิ่มขึ้นทันที แถมการได้คลื่น 900 MHz ของทรูยังทำให้คู่แข่งมีคลื่นน้อยลง เรียกว่าเป็นการสกัดคู่แข่งที่เป็นเบอร์ 1 ไปในตัว
“ถ้าเราคิดว่า เราจะสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง เราก็ต้องมีการลงทุน และการลงทุนนั้นต้องมีความเสี่ยง เพราะต่อจากนี้จะเป็นแลนด์สเคปเชนจ์ เป็นยุคเปลี่ยนของโทรคมนาคมไทย เชื่อได้ว่าโอกาสแบบนี้ ในอีก 20 ปีข้างหน้าก็จะไม่มีอีกแล้ว” ศุภชัย ยืนยัน
ทรู มองว่า ปี 2559 จะเป็นปีที่ผันผวนที่สุดของตลาดโทรคมนาคม จากการที่ทรูได้ก้าวเข้าสู่ตลาดที่ใช้คลื่น 900 MHz ซึ่งจะเป็นสปริงบอร์ดที่ทำให้ทรูก้าวไปสู่อีกยุคหนึ่งของการแข่งขัน ที่ทรูจะมีเครือข่ายพอที่จะแข่งขันกับคู่แข่งเป็นเบอร์ 1 และเบอร์ 2 ในตลาด ที่ทรูเองไม่มีโอกาสทำได้มาก่อน
“การแข่งขันของธุรกิจด้านสื่อสารโทรคมนาคม จะต้องมีโครงข่ายที่ดีเป็นพื้นฐานของการมีสินค้าและบริการที่ดี ซึ่งการลงทุนคลื่นถือเป็นการลงทุนโครงข่ายที่ดีมีคุณภาพ เพราะต่อให้ใช้กลยุทธ์การตลาดล้ำลึกแค่ไหนก็ยังไม่มีความหมายเท่า
เพราะถ้าย้อนดูประวัติของทรู ในช่วง10 ปีแรกที่เข้าสู่ตลาดโทรศัพท์มือถือ ทรูมีคลื่นความถี่แค่ 12.5 MHz และเป็นสัมปทานที่มีอายุสั้นที่สุด ลงทุนเสาก็น้อยที่สุด ซึ่งต่อให้ทรูทำการตลาดมากแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่ได้มีความหมายเท่ากับการที่เรามีโครงข่ายที่ดี”
นอกจากทรูจะหมายมั่นปั้นมือว่าจะช่วงชิงลูกค้า และเพิ่มส่วนแบ่งมูลค่าตลาดมือถือ ในอีก 5 ปี เพิ่มเป็น 34% จากปัจจุบันที่มีอยู่ 20% ของมูลค่าตลาดรวมประมาณ 2.4 แสนล้านบาท
ขณะเดียวกัน ยังเป็นก้าวกระโดดของทรูในการขึ้นไปชิงการเป็นผู้นำในตลาด 4G ที่ถือเป็นแลนด์สเคปใหม่ของตลาดมือถือ ที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าการแข่งขันจากแบบเดิมๆ ไปสู่การแข่งขันภายใต้ “อีโคซิสเต็ม” แบบใหม่ เป็นเรื่องของการใช้ บิ๊กดาต้า แอปพลิเคชันต่างๆ ระบบคลาวคอมพิวติ้ง บริการด้านคอนเทนต์ พร้อมกับการบริโภคข้อมูล ที่จะเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดจากเฉลี่ย 2 กิ๊ก/คน/เดือน ไปเป็น 4 กิ๊ก/คน/เดือน
ทำให้ทรูเลือกเดินเกมการแข่งขันในแบบ “ตาต่อตาฟันต่อฟัน” ด้วยเติมคำว่า Advance ต่อท้ายคำว่า 4G ชนกับเบอร์ 1 อย่างเอไอเอส ที่เผยแพร่โลโก้ 4G Advance พร้อมกับบอกว่า ทรูเป็นรายแรกและรายเดียวที่มีความพร้อมสำหรับบริการ 4G Advance เพราะต้องมีคลื่นจำนวนมาก 40 MHz ขึ้นไปถึงจะให้บริการด้วยความเร็วในระดับที่ต้องการได้
และนี่คือ ความหมายของ แลนสเคปเชนจ์ ของทรู ที่จะเอาชนะในเกมการแข่งขันใหม่ จากการมีคลื่นในมือ จะเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ทรูพลิกจากเบอร์ 3 มาเป็นเบอร์ 1 ที่ทรูเชื่อว่ากำลังได้มาในอนาคตอีกไม่ไกล
***มีต่อ***