ภรรยาเพิ่งคลอดได้สองเดือน
และได้ลาออกจากงานเพื่อเลี้ยงลูกเอง
ตั้งใจให้ไปอยู่ที่บ้านผมที่นครปฐม(ภรรยาเป็นคนปทุมธานี)
ก็ลงทุนติดแอร์และซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ กะว่าจะอยู่ยาว(บ้านผมหลังค่อนข้างใหญ่ มีห้องของแต่ละคนชัดเจน ก่อนหน้านี้ไม่ได้ติดแอร์เพราะเดือนนึงผมจะกลับบ้านครั้งนึง เพราะต้องมาทำงานอยู่สมุทรปราการ)
ก่อนภรรยาและลูกจะไปอยู่ก็มีแม่ผม น้องสาวและน้องเขยกับลูกของเค้าอยู่กันสี่คน
ส่วนผมก็ทำงานอยู่สมุทรปราการ วันหยุดถึงจะกลับไปบ้านทีนึง ก็อาทิตย์ละครั้งครับ
ภรรยามาอยู่ได้อาทิตย์เดียวก็เริ่มอึดอัด เพราะแม่ผมอยากให้ทำอะไรๆด้วยตัวเอง เช่นซักผ้าก็บอกให้ซักมือเอา(ทั้งที่เครื่องซักผ้าก็มี) หรือว่าเวลากินข้าวก็ให้อุ้มลูกด้วยและกินไปด้วย
แม่แกว่าทำเองร่างกายจะได้แข็งแรงไวๆ
แต่ปัญหาคือภรรยาผมเค้ามีอาการครรภ์เป็นพิษตอนใกล้คลอด ต้องผ่าคลอดก่อนกำหนด
พอคลอดมาก็มีอาการแขนขาข้างนึงไม่ค่อยมีแรง ดังนั้นก็ลำบากถ้าจะต้องซักผ้าหรือทำอะไรด้วยตัวเอง
พอถึงวันหยุดผมก็จะช่วยเรื่องซักผ้าให้เค้า
แต่แม่ผมเห็นยังงั้นก็ไม่พอใจ แต่ไม่ได้บอกผมนะ แกไปบอกภรรยาผมตอนที่ผมมาทำงานว่าให้สามีมาทำอะไรแบบนี้ไม่ได้ มันน่าเกลียด คนสมัยก่อนเขายังทำกันได้เลย
แล้วแม่ผมก็ยังไปพูดให้คนแถวบ้านฟังอีกหลายคน อารมณ์เหมือนว่าภรรยาผมสำออย
คนที่รู้เรื่องก็พยายามมาพูดให้ผมกับภรรยาฟังว่าอย่าไปใส่ใจแม่แกเลย แกไม่รู้หรอกว่าอาการที่ภรรยาผมเป็นมันเป็นยังไง แกไม่เคยเป็นด้วยแหละก็เลยไม่เข้าใจ ก็ให้ค่อยๆทำไป อย่าหักโหม
ใจจริงก็อยากจะบอกแม่ว่าภรรยาผมป่วยจริงๆ แต่เดี๋ยวแกจะหาว่าเข้าข้างเมียอีก ก็เลยไม่ได้พูดอะไร
หลังจากนั้นภรรยาผมก็ฝืนทำอะไรเองอยู่ได้ประมาณ 1 อาทิตย์ก็เริ่มไม่ไหว เค้าเลยขอให้ผมพากลับมาอยู่บ้านตัวเองที่ปทุมก่อนสักพัก กะว่าถ้าแข็งแรงดีแล้วค่อยกลับไป
ตอนจะกลับมาแม่ก็ถามผมว่าจะกลับทำไม ก็เลยต้องอ้างว่าภรรยาผมคิดถึงบ้าน
นี่ก็กลับมาได้ครึ่งเดือนแล้ว ยังไม่รู้ว่าจะได้กลับไปอยู่บ้านผมอีกทีเมื่อไร เพราะอาการของภรรยาก็ยังไม่ดีขึ้นเลย
แต่เดี๋ยวช่วงปีใหม่ผมได้หยุดยาว ผมคงกลับไปนอนบ้านสัก 3-4 วัน
ช่วยผมคิดหน่อยว่าจะพูดกับแม่ยังไงให้แกเข้าใจผมดี ข้างนึงก็แม่ ข้างนึงก็เมีย ไม่อยากให้อยู่กันแบบอึดอัดใจในอนาคตน่ะครับ
ปัญหาแม่สามี-ลูกสะใภ้ ช่วยผมคิดวิธีแก้หน่อยครับ
และได้ลาออกจากงานเพื่อเลี้ยงลูกเอง
ตั้งใจให้ไปอยู่ที่บ้านผมที่นครปฐม(ภรรยาเป็นคนปทุมธานี)
ก็ลงทุนติดแอร์และซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ กะว่าจะอยู่ยาว(บ้านผมหลังค่อนข้างใหญ่ มีห้องของแต่ละคนชัดเจน ก่อนหน้านี้ไม่ได้ติดแอร์เพราะเดือนนึงผมจะกลับบ้านครั้งนึง เพราะต้องมาทำงานอยู่สมุทรปราการ)
ก่อนภรรยาและลูกจะไปอยู่ก็มีแม่ผม น้องสาวและน้องเขยกับลูกของเค้าอยู่กันสี่คน
ส่วนผมก็ทำงานอยู่สมุทรปราการ วันหยุดถึงจะกลับไปบ้านทีนึง ก็อาทิตย์ละครั้งครับ
ภรรยามาอยู่ได้อาทิตย์เดียวก็เริ่มอึดอัด เพราะแม่ผมอยากให้ทำอะไรๆด้วยตัวเอง เช่นซักผ้าก็บอกให้ซักมือเอา(ทั้งที่เครื่องซักผ้าก็มี) หรือว่าเวลากินข้าวก็ให้อุ้มลูกด้วยและกินไปด้วย
แม่แกว่าทำเองร่างกายจะได้แข็งแรงไวๆ
แต่ปัญหาคือภรรยาผมเค้ามีอาการครรภ์เป็นพิษตอนใกล้คลอด ต้องผ่าคลอดก่อนกำหนด
พอคลอดมาก็มีอาการแขนขาข้างนึงไม่ค่อยมีแรง ดังนั้นก็ลำบากถ้าจะต้องซักผ้าหรือทำอะไรด้วยตัวเอง
พอถึงวันหยุดผมก็จะช่วยเรื่องซักผ้าให้เค้า
แต่แม่ผมเห็นยังงั้นก็ไม่พอใจ แต่ไม่ได้บอกผมนะ แกไปบอกภรรยาผมตอนที่ผมมาทำงานว่าให้สามีมาทำอะไรแบบนี้ไม่ได้ มันน่าเกลียด คนสมัยก่อนเขายังทำกันได้เลย
แล้วแม่ผมก็ยังไปพูดให้คนแถวบ้านฟังอีกหลายคน อารมณ์เหมือนว่าภรรยาผมสำออย
คนที่รู้เรื่องก็พยายามมาพูดให้ผมกับภรรยาฟังว่าอย่าไปใส่ใจแม่แกเลย แกไม่รู้หรอกว่าอาการที่ภรรยาผมเป็นมันเป็นยังไง แกไม่เคยเป็นด้วยแหละก็เลยไม่เข้าใจ ก็ให้ค่อยๆทำไป อย่าหักโหม
ใจจริงก็อยากจะบอกแม่ว่าภรรยาผมป่วยจริงๆ แต่เดี๋ยวแกจะหาว่าเข้าข้างเมียอีก ก็เลยไม่ได้พูดอะไร
หลังจากนั้นภรรยาผมก็ฝืนทำอะไรเองอยู่ได้ประมาณ 1 อาทิตย์ก็เริ่มไม่ไหว เค้าเลยขอให้ผมพากลับมาอยู่บ้านตัวเองที่ปทุมก่อนสักพัก กะว่าถ้าแข็งแรงดีแล้วค่อยกลับไป
ตอนจะกลับมาแม่ก็ถามผมว่าจะกลับทำไม ก็เลยต้องอ้างว่าภรรยาผมคิดถึงบ้าน
นี่ก็กลับมาได้ครึ่งเดือนแล้ว ยังไม่รู้ว่าจะได้กลับไปอยู่บ้านผมอีกทีเมื่อไร เพราะอาการของภรรยาก็ยังไม่ดีขึ้นเลย
แต่เดี๋ยวช่วงปีใหม่ผมได้หยุดยาว ผมคงกลับไปนอนบ้านสัก 3-4 วัน
ช่วยผมคิดหน่อยว่าจะพูดกับแม่ยังไงให้แกเข้าใจผมดี ข้างนึงก็แม่ ข้างนึงก็เมีย ไม่อยากให้อยู่กันแบบอึดอัดใจในอนาคตน่ะครับ