เคยมีความสุขกับการให้อาหารหมาจรสุด ๆ จนเหมือนโรคจิต ... แล้วถึงจุดที่ไม่มีจะให้แล้วร้องไห้มั้ยค่ะ ? (งดดราม่านะคะ)

ต้องกล่าวสวัสดีชาวพันทิปทุก ๆ ท่านนะคะ (^/\^) หลังจากห่างหายจากห้องก้นครัวไปนานมาก หลังจากประสบความสำเร็จกับการทำไก่ kfตุ๊ด และ แจกสูตรกาแฟโบราณ ตอนนี้เริ่มมาเดินไปทั่วทุกห้อง 55555.
     คือวันนี้มีเรื่องจะเล่าให้ฟังค่ะ เพราะก็ไม่รู้จะคุยกับใคร จะพุดกับใคร หัวข้ออาจจะดูบ้า ๆ บอ ๆ ทั้งคำว่าโรคจิต และ ร้องไห้ แต่สำหรับตัวป๊อป ป๊อปคิดว่าคำนี้เหมาะกับป๊อปกับสภาพตอนนี้มาก ๆ ค่ะ ... มาเริ่มกันเลยนะ อาจจะเรียบเรียงเรื่องราว งง บ้างก็ไม่ต้องมีดราม่านะคะ ตามประสาตุ๊ดที่เทคยาเยอะจนเบลอ ๆ

เริ่ม ...
ตอนนี้ป๊อปอายุ 32 นะคะ เกิดที่ กทม ใช้ชีวิตแบบคน กทม ทั่วไป จนเมื่อประมาณ 3-4 ปีที่แล้วเห็นจะได้ ป๊อปได้ย้ายตามพ่อกับแม่มาอยู่ สิงห์บุรี (พ่อเกษียณจากทหารค่ะ เลยย้ายจาก กทม มาที่นี่ 10 กว่าปีแล้วค่ะ) ป๊อปก็มาเปิดร้านกาแฟเล็ก ๆ ใน จ. นี้ ก็ทำมาได้ประมาณ 3 ปีได้ ก็ปิดตัวเองลง จนมาจับกระเป๋าแบรน์เนมมือ 1 และ มือ 2 คือช่วงนั้นที่ร้านแบบถึงจุดที่ว่าเงียบสงัดสุด ๆ วันนึงขายได้ตกไม่ถึง 1-2 ร้อยได้โดยที่ยังไม่ได้หักทุนนะคะ ป๊อปเริ่มทำธุรกิจนี้มาตั้งแต่ต้นปีค่ะ ก็ทำมาเรื่อย ๆ ต้องขอย้อนแล้วบอกไว้ก่อนนะคะ ป๊อปอาจจะเหมือนคนโลกส่วนตัวสูง แต่ ณ.มุมหนึ่งกลางคืนก็สังคมจัดสมัยอยู่ กทม เช้าเรียน กลางคืนเที่ยว เช้าทำงาน กลางคืนเที่ยว จนหยุดเที่ยวตอนอายุ 18 เห็นจะได้ เที่ยวตั้งแต่เด็กเลยค่ะ บางคนอาจจะคิดเข้าได้ไงอายุไม่ถึง ปกติสมัยก่อนตามที่เที่ยวเค้าจะให้ทหารเป็นคนตรวจบัตรค่ะ ด้วยที่ว่าพ่อเคยอยู่กรมทหาร คนก็จะรู้จักไปทั่วตั้งแต่ อีba rca รุ่นแรก จนมาฮอลิวูท ย้ายมาสุทธิสาร 2000 fifa y2k เอเวอร์รูชั่น แล้วก็ย้ายกลับไป rce รุ่นเบบี้บริ๊ง มอแกน รูท ปกติเงินไปเที่ยวจะหารกันนะคะ จากเงินที่ได้ไปโรงเรียนบ้าง หรือเงินทำงาน ก็เลยจะไม่ได้ขอเงินที่บ้านซะส่วนใหญ่ คือไม่ได้คนดีนะคะ แต่ไม่มีก็ไม่ใช้ แล้วป๊อปไม่ใช่คนช๊อปปิ้งมากมาย เลยตัดปัญหาเรื่องจุดนี้ไป จะเสียเงินค่าเหล้ากับค่าเที่ยวซะมากกว่า ก็ทำงานหาเงินใช้มาตลอดค่ะช่วงอยู่ กทม ช่วงนั้นก็อยู่ห้องพัก เพราะพ่อกับแม่ก็ย้ายมานี่กันหมดแล้ว จนป๊อปย้ายมาที่นี่ ก็ขายกาแฟหาเงินใช้ไปวัน ๆ ปกติที่บ้านจะไม่ยุ่งเรื่องเงินนะคะ ทำนองว่าของใครก็ของมัน จนป๊อปมาจับกระเป๋า ทำมาได้สักพักก็รู้สึกว่ารายได้ ok อยู่ ด้วยที่ว่า ปกติร้านกาแฟ ป๊อปจะได้กำไรประมาณ หมื่นต้น ๆ เท่านั้น แล้วเงินมันไม่ได้ว่าได้ตอนสิ้นเดือน มันเป็นเงินที่เห็นจากยอดบัญชีว่าตัวเลขเท่านี้นะ แต่เงินก็ใช้ไปในชีวิตประจำวันจนหมด พอตัวเองรู้สึกว่ารายได้ ok มั้ง 5555 เพราะเวลาขายได้มันรับเงินมาเป็นหมื่น มันเลยรู้สึกว่ามันเยอะ ถึงแม้ใบนั้นจะกำไร 500 ก็ตาม พอตัวเองเริ่มหาเงินได้แล้วค่อนข้าง ok ก็เริ่มกลับมาดูที่บ้าน ปกติที่บ้านไม่ได้ลำบาคนะคะ แต่ก็อยากจะช่วยเบาภาระพ่อกับแม่บ้าง ทั้งเรื่องค่าอาหารหมาในบ้าน และวันหยุดเวลารวมญาติ ปกติที่บ้านวันหยุดยาว ๆ จะรวมญาติค่ะ พี่ชาย พี่สะใภ้ หลาน 3 คน สามีหลานสาว 2 คน ลูกหลานสาว 2 คน พี่เขย พี่สาว หลานอีก 1 คน (รวมราว ๆ 15 คน อย่าตกใจนะคะ ว่าป๊อปอายุ 32 แล้วทำไมลูกพี่ชายถึงมีลูกแล้วทั้ง 2 คน ป๊อปเป็นลูกหลงค่ะ พี่ชายเกิดปี 12 พี่สาว 14 ป๊อป 26 เท่ากับว่า หลานสาวคนโตป๊อปห่างกับป๊อปน่าจะสัก 6-7 มั้งค่ะ) ก็จะเป็นช่วงใช้เงินเยอะ ป๊อปก็พยายามออกทั้งหมด คือกินกันทั้งวันอะคะ ปกติป๊อปเป็นคนเยอะค่ะ กินไม่เยอะ แต่กับข้าวต้องเยอะ เหมือนชอบกินหลายอย่าง ก็พยายามแบ่งเบาที่บ้าน ช่วงนั้นหมาที่บ้านเป็นโรคไตแล้วก็ตายไป ปกติที่บ้านสมัยก่อนนู้นนะคะ ที่มีหมา 10-15 ตัว ก็จะกินข้าวกับข้าวของคนผสมอาหารเม็ดนิดหน่อย ทุกตัวก็ตายจนเหลือ 3 ตัว นั้นคือหมูหวานหมาที่มาอยู่บ้านตั้งแต่พ่อย้ายมาแรก ๆ เลย ป๊อกกี้ของพี่สาว และหวานหวาน ของป๊อปหอบมาจากกทม ด้วย พอหมูหวานตายไป ป๊อปก็เลยบอกแม่ไม่ได้อาหารแบบนี้แล้วนะ มันเค็ม แล้วช่วงนั้นป๊อปต้องให้น้ำเกลือทุกวัน กลางคืนก็ไม่ได้นอน เค้าร้องและเดินไปทั่ว ตกร่องน้ำบ้าง ก็ต้องคอยจับมานอนหน้าพัดลม พอหมูหวานตายไป ที่บ้านก็เปลี่ยนมาเป็นอาหารเม็ดยี่ห้อหนึ่ง จนกินมาได้สักพักใหญ่ ๆ ป๊อปก็รู้สึกว่า เคยได้ยินว่าไม่ค่อย ok ก็เลยบอกว่าเดี๋ยวต่อไปนี้ป๊อปจะดูแลเรื่องอาหารหมาเอง ก็เลยเริ่มสั่งจากน้องที่เคยซื้อที่ กทม ให้มาส่งที่บ้าน เริ่มจากหวานหวาน ก็กลับไปกินยี่ห้อสมัยกินที่ กทม ส่วนป๊อกกี้ เป็นหมาใหญ่ ก็พยายามเลือกเกรดให้เค้าดีขึ้นมาหน่อย แต่ไม่ต้องแพงมากเพราะนางตัวใหญ่ นางจะกินเยอะ
นี่อาหารหวานหวาน กับป๊อกกี้ที่ป๊อปสั่งมาแทนยี่ห้อเก่าที่ ที่บ้านเคยให้ค่ะ.

ก็ ok ไม่เท่าไหร่ยังไหว ช่วงนั้นกระเป๋าออกแทบทุกวันค่ะ วันนึง 1-3 ใบ บางวัน 5 ใบก็มี ก็ต้องออกไปส่งของที่ ปณ. อยู่ไม่ไกลบ้านมากค่ะ น่าจะ ประมาณ 5 กิโลได้ ก็ได้ไปเจอหมาตัวนึงนอนอยู่ตรงซอยข้างวัน ปกติป๊อปจะไม่ขี่ซอยนี้นะคะ เพราะปกติแถวนี้ก็ไม่ค่อยมีรถอยู่แล้ว แล้วเส้นนี้ถึงมันจะสั้น ๆ แต่ก็ค่อยมีคนผ่าน พอเจอนาง ตั้งชื่อว่านางน้ำตาลนะคะ นางผอมมาก พอส่งของที่ ปณ. เสร็จ ก็แวะที่บิ๊กซีมินิ จะมีอาหารหมาขายอยู่ ก็เลือกแบบที่เราสามารถจะช่วยได้ ก็เลยซื้อกลับมาให้นาง เริ่มจากนางตัวนี้ค่ะ.


แต่ปกติจะมีนางตัวเดียวนะคะ หลัง ๆ เริ่มมีพวก ... ปกติป๊อปรักหมามากค่ะ เคยเลี้ยงไว้ 1 ตัวที่ร้านกาแฟ พอดีป๊อปลงไป กทม คนที่เทศบาลโทรมาบอกนางโดนรถเฉี่ยวคงช๊อกเพราะสภาพนางเหมือนหมานอนหลับ ตอนนั้นต้องตีรถกลับมาเลยค่ะ วินบอกว่าเค้าข้ามไปรอป๊อปตรงที่ป๊อปขึ้นรถตู้ทุกวันเลย ร้านป๊อปจะไม่ห่างจากสายเอเชียมากค่ะ ปกติเวลาไป กทม ก็จะให้พ่อมาส่งตรงนี้แล้วจะ บอกนางให้คอยเดี๋ยวกลับมา นางก็จะอยู่ที่ร้านปกตินะ เพราะช่วงป๊อปลงมา กทม แม่ก็จะมาเปิดร้านแทนหลังจากนางตาย ป๊อปก็ไม่คิดจะเลี้ยงหมาแบบไม่มีรั้วรอบแบบนี้อีก เพราะถ้าติดแล้วมันก็จะตาม.
ทีนี้ ชีวิตป๊อปก็จะขี่มอไซร์ออกมาส่งของที่ ปณ. ทุกวัน จ-ส ขาไปก็จะแวะให้อาหารหมาตรงเส้นข้างวัดทุกวันปกติ ถ้าวันอาทิตย์ ก็จะขี่ออกมาให้แล้วเลยไปซื้อกาแฟ เป็นคนติดกาแฟค่ะต้องกินทุกวัน.
เป็นไงค่ะ สภาพนางน้ำตาล จากรูปด้านบน นางก็เริ่มดูสวยขึ้นมาทันใด



ให้มาได้สักระยะใหญ่ ๆ กับกิจการที่คงที่และปกติ จนมีวันนึงนางน้ำตาลหายไป ไม่รู้ไปไหน ปกตินางจะต้องมานอนรอประจำค่ะตรงจุดนี้
นางหายไป 3 วัน เรียกหาก็ไม่เจอ แต่ป๊อปก็ยังให้อาหารหมาปกติทุก ๆ วัน จนวันที่ 4 ช่วงเช้า ป๊อปจดรถตรงทางลงโรงเรียนร้าง เกือบทางโค้งค่ะ ก็ยืนคุยกับหมา ๆ ที่เหลือปกติ สายตาก็ไปเจอนางน้ำตาลนอนอยู่ตรงป่าข้าง ๆ

ป๊อปก็เรียกนาง แล้วเดินไปดูใกล้ ๆ กลัวก็กลัวค่ะบอกตรง สักพักนางก็ร้อง ป๊อปก็ตกใจ เห้ย เป็นไรอะ ก็พยายามเดินเข้าไปหานาง นางก็เดินแบบไม่มีแรงแล้วล้มลงไปนอน ป๊อปเลยรีบไปส่งของ ช่วงแวะซื้อกาแฟ ป๊อปจะนั่งทำบัญชี แต่วันนั้นก็โทรหาหมอเลย เล่าอาหารให้ฟัง แต่วันนั้นร้านหมอปิดนะคะ ก็ไปค้นเจอในเน็ตว่าน่าจะเป็นไข้หัด ก็หาวิธีที่จะรักษานางเบื้องต้น ก็เคยแวะร้านขายของชำแล้วแวะซื้อยาเขียว ลุงคนขายแกถาม ก็เล่าให้แกฟัง แกก็ให้หลอดฉีดยามา 1 หลอด เพราะต้องกลับไปป้อนนาง แต่ป๊อปกลับมานางก็หายไปแล้วค่ะ (อืมลืมบอก ช่วงเวลาให้ข้าวจะประมาณ 8:30-9:00 ค่ะ แล้วป๊อปจะไป ปณ. แวะซื้อกาแฟ แล้วนั่งทำบัญชี ช่วงนี้ถ้าไม่มีไรก็จะนั่งไปถึง 11 โมงได้ แต่วันนั้นไม่ถึง 10 โมงก็เข้าค่ะ)
ป๊อปก็เดินตามหานางในป่าข้างวัด รร ร้าง ก็ไม่เจอ เลยเข้าบ้านเพราะไม่รู้จะหาที่ไหน ช่วงนั้นก็มีแม่ค้ากระเป๋าจะช่วยโอนเงินมาค่ารักษาค่ะ แต่ตอนนั้นไม่ได้รับ เพราะก็บอกไปว่า ป๊อปก็ไม่กล้าอุ้มไปหาหมอ ป๊อปกลัวมันกัด และร้านหมอก็ปิด ทำได้เท่าที่ช่วยได้ค่ะ แม่ค้าเค้าก็ยืนยันจะให้ ป๊อปก็เลยรับมา บอกเอาไว้ซื้ออาหารหมาแล้วกันนะ สรุปวันถัดไปก็หานางน้ำตาลไม่เจออีกเลยค่ะ ป๊อปก็ยังคงให้อาหารหมาปกติ แต่เงินที่มีคนสมทบมายังไม่ได้ใช้นะคะ อาหารเก่ายังมีอยู่ซื้อไว้หลายกระสอบอยู่ ช่วงนี้แหละค่ะ ก็โทรหาพี่สาว แล้วเล่าเรื่องเงิน 500 ที่เค้าโอนมาช่วยให้ฟัง คือรู้สึกไม่ค่อยดีค่ะ ย้อนอีกนิดนะคะ ป๊อปขายเป๋าใน fb line ig พูดง่าย ๆ ขายในเน็ตแหละคะ ก็จะมีโพสใน fb ทุกอย่างทุกเรื่องราวผสมกันไปหมด มันก็มาถึงจุดที่ตัวเองคิดมากว่าการที่ไปโพสว่าเจอนางน้ำตาล เหมือนเราไปขอเงินเค้าหรือป่าว เป็นคนคิดมากค่ะ คิดเยอะ คิดเล็กคิดน้อย รู้สึกไม่ดี แต่พี่สาวก็บอกเค้าให้ด้วยใจ เค้าอยากทำบุญทำทาน หล่อนไปขัดเค้าได้ไง ก็ ok ค่ะ ผ่านช่วงนั้นมา ก็นำเงินไปซื้ออาหารกระสอบใหม่ ก็เลยเริ่มไล่เด็ก ๆ ให้ไปรวมกันอยู่ตรงบริเวณโรงเรียนร้าง อย่างน้อยก็ไม่ต้องมาคอยหลบรถ ก็ให้มาเรื่อย ๆ ปกติ จาก 5 เหลือ 4 เหลือ 3 ล่าสุด และระหว่างที่แวะซื้อกาแฟที่ปั้ม ก็ไปเจอหมาขาเจ็บ ก็เข้าไปซื้ออาหารเปียกให้นางวันนั้น เข้าไปถามพนักงานร้านกาแฟ นางก็ว่าเพิ่งเคยเห็น ปั้มนี้เปิดเมื่อช่วงเมษาค่ะ หลังจากนั้นก็เจอนางอยู่แถวนั้นตลอด ด้วยที่ว่ารู้จักกับเจ้าของปั้ม และร้านกาแฟ เลยขอเอาข้าวไปให้นางข้างหลังร้านกาแฟแทน เพราะกลัวคนที่แวะมาเข้าห้องน้ำหรือซื้อกาแฟ จะกลัว ก็ได้สมาชิกใหม่เพิ่มมาอีก 1.
ตัวนี้คือนางขาเจ็บค่ะ.

ส่วนกลุ่มนี้คือ 3 ตัวที่เหลือ และให้รวมตัวกันแถว รร.ร้าง ตัวนี้นางนมน้ำตาลค่อนข้างจะรักนางเพราะนางจะสตอเบา ๆ เวลาที่ได้เจอกัน และอีก 2 ตัวคืนนางขาวนางดำ (หมาตัวผู้ป๊อปก็เรียกนางนะ).
ส่งยิ้มหวานเบา ๆ





ป๊อปยังคงดำรงชีวิตปกติแบบนี้ทุก ๆ วัน จนวันนึงป๊อปต้องแวะไปเอาของที่ร้านกาแฟ ที่ปิดไปแล้ว ก็ไปเจอเศษตังค์ที่เอาไว้ทอน ก็เลยว่าจะแวะเอาไปถวายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าสงฆ์ที่วัด ระหว่างกำลังเดินกลับ ก็มีหมาสีดำมากระโดดเกาะ แบบตกใจมากอะ ปกติวัดนี้พระก็ถึงน้อยมาก น่าจะไม่กี่รูปเองค่ะ และวัดก็เงียบ ตรงที่ป๊อปเอาเงินไปใส่ก็แถวโบสถ์ซึ่งก็ไม่ได้ไกลจากเมรุมาก คือปกติก็ไม่ค่อยได้เข้าวัดอยู่แล้วค่ะ แล้วเงียบ ๆ แบบนี้ก็ยิ่งกลัว พอนางมากระโดดเกาะ ป๊อปก็คุยกับนาง ก็เลยให้อาหารนางไป วัดกับ รร.ร้างอยู่ในพื้นที่เดียวกันนะคะ แต่เข้าคนละทาง ให้เสร็จป๊อปขี่ออกมาเพื่อจะเลี้ยวเข้าซอยข้างวัด ก็เจอหมาสีดำ (นางนี่แหละคือจุดพีคสุดของกระทู้ที่มาตั้งวันนี้) นางอยู่ข้างถนนค่ะ ข้างหลังวัด นางยืนอยู่ ป๊อปก็เลยจอดให้ข้าวนางไป พอเช้าวันถัดมา ป๊อปก็ออกไปส่งของ แวะให้อาหารหมาที่ รร.ร้าง 3 ตัวปกติ แล้วขี่ออกมาข้างซอยเพื่อจะเข้าไปหลังวัดไปให้นางดำที่เจอกันเมื่อวานในวัด พอเข้าไปแล้วเรียกเท่านั้นแหละ ทีนี้มากันเพียบเลยค่ะ ประมาณ 5 ตัวได้ ก็ไหน ๆ มาแล้ว แล้วก็พกอาหารเพื่อค่อนข้างเยอะอยู่แล้วก็จัดแจงให้ตามเดิม.
นี่นางดำข้างหลังวัดค่ะ แล้วก็หมาวัด และหมาที่ รร.ร้าง ค่ะ.



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่