นิยามคำว่าเพื่อนของใครหลายๆคนก็มักจะ "คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล" หรือว่า "เพื่อนดีจะอยู่ในช่วงเวลาที่เลวเพื่อนเลวจะอยู่ในช่วงเวลาที่ดี" ฉันเองก็มีนิยามแบบนั้นนะ แต่มาตอนนี้ ฉันเริ่มไม่มั่นใจกับความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนของเราในกลุ่ม
เรามีกลุ่มอยู่ 4 คน มีฉันและอีกสามคนขอเรียกว่า เตย ต้า ตาล (นามสมมติ) เราเพิ่งมาสนิทกันจริงๆตอน ม.6 นี้แหละคะ เอาจริงๆฉันมีเพื่อนที่สนิทตั้งแต่ ม.ต้น อยู่ในกลุ่มด้วยคือเตย ส่วนต้ากับตาลเพิ่งมาสนิทกันก็ตอน ม.6 มันเหมือนเป็นช่วงที่ ทั้งต้าและตาลมีปัญหากับคนในกลุ่ม ซึ่งเป็นปัญหาที่มันแย่ที่สุด ฉันเองแหละที่เป็นคนช่วยสองคนนี้มา ช่วยเครียล์ ช่วยแก้ปัญหาจนตัวเองเกือบโดนไปด้วย และสุดท้ายก็มาเป็นเราสี่คน เราสี่คน เหมือนเดินจับมือกันมาตลอด ผ่านปัญหาที่เรียกได้ว่าโลกแตกได้เลย คือเพื่อนในห้องเรียนเกลียดกลุ่มเราทุกคนเลย ทั้งผู้ชายก็เกลียดพวกเรา เป็นเพราะทุกคนเข้าใจผิด เรื่องพวกนั้นก็จบไปเพราะเครียล์กันเรียบร้อยแล้ว เราสี่คนคิดว่ากลุ่มเรานี้ละรักกันมาก เพราะผ่านเรื่องโลกแตกมาด้วยกันได้ แต่มาวันนี้ ฉันเริ่มมีความรู้สึกว่า มันเริ่มไม่ใช่ ฉันเริ่มคิดว่า ฉันมีเพื่อนแท้อย่างที่เคยคิดรึเปล่า
ฉันเริ่มไม่มั่นใจมันมาเรื่อยๆ พวกเราชอบทะเลาะกันหนักมาก แบบไม่คุยกันและด่าแขวะใส่กัน คือเป็นเพื่อนกันนะ แต่ทะเลาะกันเมื่อไร คือแขวะกันแรง ด่ากันแรงเรียกว่าไม่มีคำว่าเพื่อนเลยก็ได้ แต่ทะเลาะกันทุกครั้งเราก็ดีกันตลอด และเราทะเลาะกันบ่อยมาก และคืนดีกันตลอด
มีครั้งหนึ่งเราเถียงกันเรื่องขวดน้ำ ที่ต้องเอาไปทิ้ง (คือเถียงกันไร้สาระมาก) ซึ่งพวกเราก็ไม่รู้ว่าเป็นขวดน้ำของใครแต่แน่ใจเลยว่าเป็นขวดน้ำของคนในกลุ่ม เพื่อนในกลุ่มเราเถียงกันว่านี้เป็นขวดน้ำใคร เถียงกันไปเถียงกันมา เรา

โคตรรู้สึกแย่อะ เราคิดว่า "แค่เรื่องทิ้งขวดน้ำ นี้ไม่มีใครเสียสละเลยเหรอ" ฉันเลยเดินไปหยิบขวดน้ำนั้นและพูดว่า "ไม่เป็นไรเดียวกูทิ้งเอง" และฉันก็เดินไปทิ้งขวดน้ำนั้น
เรื่องต่อมาเป็นเรื่องงานกลุ่ม ปกติงานกลุ่มก็จะมีเราสี่คนนี้แหละ อยู่ด้วยกัน ก็จะมี ต้ากับตาล ที่ไม่ค่อยช่วยทำงานกลุ่ม ต้าให้ทำอะไร ทำนะ แต่ทำช้าเพราะชอบนั่งเล่นโทรศัพท์กว่างานจะเสร็จมันช้า และไม่ค่อยสนใจงาน ชอบเห็นแก่ตัว เอาที่ตัวเองสบาย อ้างว่าทำไม่ได้ทำไม่เป็น ฉันเองก็เบื่อ เวลานัดมาทำงานก็ชอบกลับก่อนเพราะนัดเที่ยวกับแฟนบ้าง คือเป็นคนที่ไม่ค่อยเอางานเลย เห็นแก่ตัว เอาที่สบาย ส่วนตาล ช่วยงานแต่ช้าเหมือนกัน ดีแต่พูดแต่ก็ไม่ทำ บางครั้งก็เอาแต่สบายเหมือนกับต้า สั่งให้ทำงานอะไรทำนัดไปทำงานก็ทำจนเสร็จเสมอนี้ถือว่าเป็นข้อดีแหละ แต่บางทีไม่สนใจงานบ้าง ไม่ค่อยฟังความเห็นเพื่อนเท่าไร ส่วนเตยจะช่วยฉันทำงานกลุ่มเสมอ ทุกอย่างช่วยหมดปกติเวลามีงานกลุ่มเราก็จะคุยกับเตยมากกว่าเพราะเตยตั้งใจทำงานดี
และบางครั้งเวลาฉันจะพูดอะไร ก็มักจะแทรกกันตลอด คือมันจะทำให้ฉันรู้สึกรำคาญมาก หงุดหงิด เลยไม่อยากพูดไรด้วย พอไม่พูดก็จะมาหาว่าฉันไม่อยากคุยด้วย หาว่าฉันโกรธนู่นนี้นั้นและบอกว่าฉันไร้สาระ บางทีฉันก็โมโหเลยพุดแรงๆใส่ไปบ้าง แต่สุดท้ายคนขอโทษก็ฉันอีกแหละ บางทีเตยโมโหพูดแรงใส่คนในกลุ่มบ้าง ฉันเองก็ไม่ชอบเลยพูดแรงใส่เตยไป แต่พอฉันมานั่งคิดอีกทีที่เตยโมโหก็ไม่แปลกหรอกเพราะวันนั้นไม่มีใครช่วยงานกลุ่มมันเลยฉันเองก็ยอมรับผิดฉันเลยไปขอโทษเตย แต่ต้ากับตาลกลับไม่ ต้ากับตาลบอกว่าไม่ชอบที่เตยพูดแรงแบบนั้น และบอกว่าเตยผิดที่พูดแรงไป ฉันฟังก็รู้สึกไม่ชอบเหมือนกัน ฉันเลยไม่คุยกับต้ากับตาลไปพักหนึ่ง และสุดท้ายเราก็คืนดีกันอีก เพราะฉันกับเตยเข้าไปคุย และเตยก็ต้องเป็นคนขอโทษต้ากับตาลที่พูดแรง สุดท้ายก็คืนดีกันเหมือนเดิม
ฉันเริ่มไม่ชอบใจต้ากับตาลมาเรื่อยๆ สองคนนี้มักจะอยู่กับฉันในเวลาที่ฉันมีความสุข ตอนฉันมีความทุกข์สองคนนี้มักจะหาย และตอนนี้ฉันเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าฉันมีเพื่อนแท้รึเปล่า
ทุกคนคิดว่าไงก็คอมเม้นกันหน่อยนะอ่านยาวหน่อย อยากให้ช่วยคิดจริงๆ
เพื่อนแท้หรือเพื่อนเทียม
เรามีกลุ่มอยู่ 4 คน มีฉันและอีกสามคนขอเรียกว่า เตย ต้า ตาล (นามสมมติ) เราเพิ่งมาสนิทกันจริงๆตอน ม.6 นี้แหละคะ เอาจริงๆฉันมีเพื่อนที่สนิทตั้งแต่ ม.ต้น อยู่ในกลุ่มด้วยคือเตย ส่วนต้ากับตาลเพิ่งมาสนิทกันก็ตอน ม.6 มันเหมือนเป็นช่วงที่ ทั้งต้าและตาลมีปัญหากับคนในกลุ่ม ซึ่งเป็นปัญหาที่มันแย่ที่สุด ฉันเองแหละที่เป็นคนช่วยสองคนนี้มา ช่วยเครียล์ ช่วยแก้ปัญหาจนตัวเองเกือบโดนไปด้วย และสุดท้ายก็มาเป็นเราสี่คน เราสี่คน เหมือนเดินจับมือกันมาตลอด ผ่านปัญหาที่เรียกได้ว่าโลกแตกได้เลย คือเพื่อนในห้องเรียนเกลียดกลุ่มเราทุกคนเลย ทั้งผู้ชายก็เกลียดพวกเรา เป็นเพราะทุกคนเข้าใจผิด เรื่องพวกนั้นก็จบไปเพราะเครียล์กันเรียบร้อยแล้ว เราสี่คนคิดว่ากลุ่มเรานี้ละรักกันมาก เพราะผ่านเรื่องโลกแตกมาด้วยกันได้ แต่มาวันนี้ ฉันเริ่มมีความรู้สึกว่า มันเริ่มไม่ใช่ ฉันเริ่มคิดว่า ฉันมีเพื่อนแท้อย่างที่เคยคิดรึเปล่า
ฉันเริ่มไม่มั่นใจมันมาเรื่อยๆ พวกเราชอบทะเลาะกันหนักมาก แบบไม่คุยกันและด่าแขวะใส่กัน คือเป็นเพื่อนกันนะ แต่ทะเลาะกันเมื่อไร คือแขวะกันแรง ด่ากันแรงเรียกว่าไม่มีคำว่าเพื่อนเลยก็ได้ แต่ทะเลาะกันทุกครั้งเราก็ดีกันตลอด และเราทะเลาะกันบ่อยมาก และคืนดีกันตลอด
มีครั้งหนึ่งเราเถียงกันเรื่องขวดน้ำ ที่ต้องเอาไปทิ้ง (คือเถียงกันไร้สาระมาก) ซึ่งพวกเราก็ไม่รู้ว่าเป็นขวดน้ำของใครแต่แน่ใจเลยว่าเป็นขวดน้ำของคนในกลุ่ม เพื่อนในกลุ่มเราเถียงกันว่านี้เป็นขวดน้ำใคร เถียงกันไปเถียงกันมา เรา
เรื่องต่อมาเป็นเรื่องงานกลุ่ม ปกติงานกลุ่มก็จะมีเราสี่คนนี้แหละ อยู่ด้วยกัน ก็จะมี ต้ากับตาล ที่ไม่ค่อยช่วยทำงานกลุ่ม ต้าให้ทำอะไร ทำนะ แต่ทำช้าเพราะชอบนั่งเล่นโทรศัพท์กว่างานจะเสร็จมันช้า และไม่ค่อยสนใจงาน ชอบเห็นแก่ตัว เอาที่ตัวเองสบาย อ้างว่าทำไม่ได้ทำไม่เป็น ฉันเองก็เบื่อ เวลานัดมาทำงานก็ชอบกลับก่อนเพราะนัดเที่ยวกับแฟนบ้าง คือเป็นคนที่ไม่ค่อยเอางานเลย เห็นแก่ตัว เอาที่สบาย ส่วนตาล ช่วยงานแต่ช้าเหมือนกัน ดีแต่พูดแต่ก็ไม่ทำ บางครั้งก็เอาแต่สบายเหมือนกับต้า สั่งให้ทำงานอะไรทำนัดไปทำงานก็ทำจนเสร็จเสมอนี้ถือว่าเป็นข้อดีแหละ แต่บางทีไม่สนใจงานบ้าง ไม่ค่อยฟังความเห็นเพื่อนเท่าไร ส่วนเตยจะช่วยฉันทำงานกลุ่มเสมอ ทุกอย่างช่วยหมดปกติเวลามีงานกลุ่มเราก็จะคุยกับเตยมากกว่าเพราะเตยตั้งใจทำงานดี
และบางครั้งเวลาฉันจะพูดอะไร ก็มักจะแทรกกันตลอด คือมันจะทำให้ฉันรู้สึกรำคาญมาก หงุดหงิด เลยไม่อยากพูดไรด้วย พอไม่พูดก็จะมาหาว่าฉันไม่อยากคุยด้วย หาว่าฉันโกรธนู่นนี้นั้นและบอกว่าฉันไร้สาระ บางทีฉันก็โมโหเลยพุดแรงๆใส่ไปบ้าง แต่สุดท้ายคนขอโทษก็ฉันอีกแหละ บางทีเตยโมโหพูดแรงใส่คนในกลุ่มบ้าง ฉันเองก็ไม่ชอบเลยพูดแรงใส่เตยไป แต่พอฉันมานั่งคิดอีกทีที่เตยโมโหก็ไม่แปลกหรอกเพราะวันนั้นไม่มีใครช่วยงานกลุ่มมันเลยฉันเองก็ยอมรับผิดฉันเลยไปขอโทษเตย แต่ต้ากับตาลกลับไม่ ต้ากับตาลบอกว่าไม่ชอบที่เตยพูดแรงแบบนั้น และบอกว่าเตยผิดที่พูดแรงไป ฉันฟังก็รู้สึกไม่ชอบเหมือนกัน ฉันเลยไม่คุยกับต้ากับตาลไปพักหนึ่ง และสุดท้ายเราก็คืนดีกันอีก เพราะฉันกับเตยเข้าไปคุย และเตยก็ต้องเป็นคนขอโทษต้ากับตาลที่พูดแรง สุดท้ายก็คืนดีกันเหมือนเดิม
ฉันเริ่มไม่ชอบใจต้ากับตาลมาเรื่อยๆ สองคนนี้มักจะอยู่กับฉันในเวลาที่ฉันมีความสุข ตอนฉันมีความทุกข์สองคนนี้มักจะหาย และตอนนี้ฉันเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าฉันมีเพื่อนแท้รึเปล่า
ทุกคนคิดว่าไงก็คอมเม้นกันหน่อยนะอ่านยาวหน่อย อยากให้ช่วยคิดจริงๆ