สื่อตั้งคำถามสมควรประหาร 5 ตัวการ“ทักษิณ-จตุพร-ณัฐวุฒิ-อริสมันต์และวีระกานต์”สั่งคนเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมืองหรือไม่

กระทู้คำถาม

.
.
สื่อเสนอให้รื้อฟื้นคดีเผาบ้านเผาเมืองสมควรนำ “ทักษิณ-จตุพร-ณัฐวุฒิ-อริสมันต์และวีระกานต์” 5 ตัวการสั่งเผาบ้านเผาเมืองมาดำเนินคดีเพื่อให้ถูกประหารตามคนเสื้อแดงที่เผาศาลากลาง 4 จังหวัดหรือไม่ ตู่ จตุพรนำทีมเยี่ยมแดงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 เตือนอย่าชุมนุมเกิน 5 คน

ทีมข่าวการเมือง นสพ.แนวหน้าฉบับวันที่ 16 ธันวาคม 2558 เสนอว่า “นช.แม้ว-ตู่-เต้น-กี้ร์-วีระ 5 ตัวการที่ควรถูกประหารหรือไม่?” โดยระบุว่าในเหตุการณ์ก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเมื่อปี 2553 โดยขบวนการแดงเพื่อแม้วซึ่งนอกจากมีการก่อการร้ายทั่วกทม.แล้ว ยังก่อจลาจลในหลายจังหวัดทั่วประเทศโดยเฉพาะการเผาศาลากลางจังหวัด 4 แห่ง คือขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานีและมุกดาหาร ซึ่งล้วนเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินและของประชาชนทั้งประเทศจนกลายเป็นเถ้าถ่าน

โดยคดีก่อการร้ายเผาศาลากลางจังหวัดทั้ง 4 แห่งก่อนหน้านี้ศาลได้ตัดสินลงโทษแก๊งเสื้อแดงไปแล้ว 3 คดี คือที่อุดรธานี ขอนแก่น และมุกดาหาร และล่าสุดศาลฎีกาได้พิพากษาคดีเผาศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีโดยลงโทษจำเลยหลายคนซึ่งที่สำคัญคือให้ประหารนายพิเชษฐ์ ทาบุดดา หรือ “ดีเจต้อย”แกนนำเสื้อแดงอุบลราชธานีฐานเป็นผู้บงการสั่งเผาศาลากลางจังหวัด แต่ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต

รายงานดังกล่าวระบุว่า “จุดจบของบรรดากลุ่มก่อการร้ายเผาศาลากลางจังหวัดทั้ง 4 แห่งดูจะไม่เป็นธรรมกับชาติบ้านเมืองตราบใดที่ตัวจอมบงการใหญ่ตัวจริงซึ่งวางแผนสั่งการให้เผาศาลากลางจังหวัดทั้ง 4 แห่งและเผาอีกหลายแห่งทั่วกรุงยังไม่ถูกลงโทษ โดยบรรดาแกนนำเสื้อแดงที่เป็นมือเผาศาลากลางจังหวัดทั้ง 4 แห่งที่พบจุดจบในคุกไปแล้วนั้นเป็นเพียงระดับลิ่วล้อที่รับคำสั่งจากตัวจอมบงการใหญ่ทั้งหลายซึ่งปรากฏหลักฐานคำบงการและปลุกระดมอย่างชัดเจนอย่างน้อย 5 คนประกอบด้วย

นักโทษหนีคุกทักษิณ ชินวัตร ที่ส่งสัญญาณบงการปลุกระดมจากนอกประเทศให้กลุ่มเสื้อแดงใช้ความรุนแรงโดยกล่าวว่า “ถ้ามีอะไรรุนแรงกับพี่น้องคนเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ พี่น้องเสื้อแดงต่างจังหวัดไปที่ศาลากลางจังหวัดกันให้เต็มที่”

คนต่อมา นายจตุพร พรหมพันธุ์(ตู่) ประธานคนเสื้อแดง ที่เคยประกาศปลุกระดมบนเวทีเสื้อแดงเมื่อปี 2553 ว่า“คนเสื้อแดงต่างจังหวัดไปรวมตัวที่ศาลากลางจังหวัดตัดสินใจได้ทันที”

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ (เต้น) เลขาธิการคนเสื้อแดง ที่เคยประกาศบนเวทีเสื้อแดงชัดถ้อยชัดคำว่า “ถ้าพวกคุณยึดอำนาจ พวกผมเผาทั่วประเทศ เผาไปเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง แล้วใครจะจับ ใครจะอะไรมาเอากับผมนี่”

ขณะที่ นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง(กี้ร์) เคยปราศรัยปลุกระดมให้คนเสื้อแดงเตรียมขวด เตรียมน้ำมันเพื่อให้กรุงเทพฯเป็นทะเลเพลิง

ส่วน นายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตประธานคนเสื้อแดง เคยประกาศบนเวทีเสื้อแดงว่า ไฟจะลุกท่วมทุกตารางนิ้วของประเทศไทย

“คำพูดปลุกระดมสั่งการของบรรดาตัวการใหญ่ทั้ง 5 ส่อเจตนาก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองโดยวางแผนเตรียมการอย่างสอดคล้องกันมาเป็นอย่างดี”รายงานระบุ

ทั้งนี้ในยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ชินวัตร ถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีการบิดเบือนคดีก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเมื่อปี 2553 จากดำเป็นขาวจากขาวเป็นดำโดยพยายามบิดเบือนสำนวนการสอบสวนว่าไม่มีกองกำลังก่อการร้ายโดยเฉพาะกลุ่มคนชุดดำพร้อมอาวุธร้ายแรงนานาชนิด

ที่จุดชนวนสร้างสถานการณ์นองเลือดด้วยการระดมยิงและระเบิดที่สี่แยกคอกวัว เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 จนทำให้ พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม และทหารอีก 5 นายเสียชีวิตทันที ขณะที่ประชาชนเสียชีวิตอีกกว่า 20 ราย

เพราะฉะนั้นควรรื้อสำนวนการสอบสวนและเร่งเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทำความจริงให้ปรากฏโดยเร็วเพื่อลงโทษบรรดาตัวการใหญ่ซึ่งเป็นต้นเหตุของการก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองโดยสมควรรับโทษที่หนักยิ่งกว่า “ดีเจต้อย”

ที่มาของข่าว http://www.naewna.com/creative/193392

ตู่นำทีมคนเสื้อแดงไปเยี่ยมถึงคุกอุบลฯ

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวในรายการ “มองไกล”ถึงกรณีศาลฎีกาพิพากษาประหารชีวิตแกนนำ นปช.อุบลราชธานี แต่ลดโทษจำคุกตลอดชีวิต ในคดีเผาศาลากลาง จ.อุบลราชธานี เมื่อปี2553 ว่า ชะตากรรมที่เกิดขึ้นกับพี่น้อง จ.อุบลราชธานี ก็เช่นเดียวกันกับพี่น้องในจังหวัดอื่นๆ กรณีพี่น้องอุบลราชธานีหลายคน อาจจะแสดงความสะใจ จะเป็นความสะใจของใครก็ตาม ร้อยเท้าพันเท้าก็เชิญกระทืบกันเต็มที่ แต่ในความเป็นมนุษย์พวกเราเปลี่ยนแปลงไม่ได้คือความรู้สึก

ดังนั้นพวกตนตัดสินใจว่า จะไปเยี่ยมพี่น้องเหล่านี้ที่เรือนจำ จ.อุบลราชธานี ในวันที่ 18 ธันวาคมนี้ เพื่อเป็นการไปให้กำลังใจกัน

“ใครจะประณามหยามเหยียดอย่างไร ขอให้พี่น้องอดทน เราไม่ต้องฟูมฟาย จงเก็บความรู้สึก เช็ดเลือดที่มุมปากแล้วกลืนกลับไปเสีย น้ำตาไหลออกสักพักหนึ่ง หลังจากนั้นให้ไหลกลับเข้าข้างใน วันที่ 18ธันวาคมนี้ พวกผมจะไป จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่ต้องกังวล พวกผมไปเช้าเที่ยงก็กลับ ไม่เป็นภาระในพื้นที่และพวกผมมีเกียรติพอ” นายจตุพร กล่าว

เตรียมขอพระราชทานอภัยโทษ

นายวัฒนา จันทศิลป์ ทนายความคนเสื้อแดงในคดีเผาศาลากลาง จ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า จากคำพิพากษาศาลฎีกาได้ตัดสินให้ นายพิเชษฐ์ ทาบุดดา หรือดีเจต้อย แกนนำกลุ่มชักธงรบ ประหารชีวิตก่อนที่จะได้รับการลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ส่วนคนอื่นๆถูกจำคุกหลายสิบปี กระบวนการทางกฎหมายถือว่าสิ้นสุดแล้วซึ่งเหลือแต่ในทางปฏิบัติก็คือ การขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะราย

ส่วนจะได้รับพระราชทานอภัยโทษหรือไม่เพียงใดขึ้นอยู่กับพระบรมราชวินิจฉัยขององค์พระมหากษัตริย์ ผู้ที่มีสิทธิยื่นเรื่องทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะราย ได้แก่ ผู้ต้องโทษที่คดีถึงที่สุด ผู้ที่มีประโยชน์เกี่ยวข้อง อาทิ บิดามารดา บุตร คู่สมรส แต่ทนายความไม่ถือเป็นผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้อง

แม่ทัพภาค 2 เตือนอย่าปลุกแดงบุกคุก

ด้าน พล.ท.ธวัช สุกปลั่ง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่ นายจตุพรจะไปเยี่ยมให้กำลังใจแกนนำ นปช.ที่เรือนจำ จ.อุบลราชธานี ว่า กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ของกองทัพภาคที่ 2 จะดูแลสถานการณ์ในพื้นที่ให้เกิดความสงบเรียบร้อยและเจ้าหน้าที่จะดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมาย

ดังนั้นขอร้องผู้ที่จะเดินทางมา อย่าทำเกินขอบเขตกฎหมายกำหนด โดยเฉพาะการห้ามรวมตัวกันเกิน 5คนขึ้นไป เจ้าหน้าที่จะพิจารณาดูวัตถุประสงค์ว่า มาเพื่ออะไร แต่จะรวมตัวกันเพื่อประท้วงนั้นไม่ได้ อีกทั้งเชื่อว่าทุกคนมีวุฒิภาวะ เมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษาออกมาแล้วถือว่าเป็นที่สุด ดังนั้นถามว่า การมาให้กำลังใจดังกล่าวนั้นเหมาะสมหรือไม่ เพราะแกนนำจะปลุกระดมไม่ได้

อย่างไรก็ตามตนจะสั่งการให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ดูความเหมาะสม เจตนาและการกระทำ รวมถึงป้องกันการปะทะกับประชาชนที่ไม่เห็นด้วย

ศาลแจงลงโทษจำคุกตลอดชีวิต

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม แถลงผ่านเอกสารข่าวสำนักงานศาลยุติธรรมว่า กรณีมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับคำพิพากษาศาลฎีกา ตามที่ปรากฎเป็นข่าวในสื่อมวลชนกรณีศาลจังหวัดอุบลราชธานี ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ในคดีที่อัยการยื่นฟ้อง นายพิเชษฐ์ ทาบุตดา กับพวกรวม 20 คน ซึ่งเป็นกลุ่มแนวร่วมป นปช.อุบลราชธานี ที่ก่อเหตุวางเพลิงศาลากลางอุบลราชธานีเมื่อวันที่19 พฤษภาคม 2553 ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่อาจเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับคำพิพากษาดังกล่าวว่า ศาลฎีกาพิพากษาให้ประหารชีวิต ตนขอชี้แจงเพื่อความถูกต้องว่า

ศาลฎีกามีคำพิพากษาแก้ให้ นายพิเชษฐ์ จำเลยที่ 1 และนายชัชวาล ศรีจันดา จำเลยที่ 11 จำคุกตลอดชีวิต พิพากษาให้ นางอรอนงค์ บรรพชาติ จำเลยที่ 2 น.ส.ปัทมา มูลมิล จำเลยที่ 5 นายลิขิต สุทธิพันธ์ จำเลยที่ 7 นายธีรวัฒน์ สัจสุวรรณ จำเลยที่ 9 นายสนอง เกตุสุวรรณ จำเลยที่ 12 และนายสมศักดิ์ ประสานทรัพย์ จำเลยที่ 17 จำคุกคนละ 33 ปี 4 เดือน และพิพากษาให้ จสอ.สมจิตร สุทธิพันธ์ จำเลยที่ 16 จำคุก 1 ปี ไม่ปรากฏโทษประหารตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

นปช.เสื้อแดง 13 รายถูกจำคุก 2 ปีถึงตลอดชีวิตคดีเผาศาลากลางจังหวัดอุบลฯปี 2553

http://www.thaitribune.org/contents/detail/329?content_id=16489&rand=1450399614
.
.
ที่มา http://www.thaitribune.org/contents/detail/329?content_id=16539&rand=1450404819
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ทักสินและแกนนำแดงยุเผาประเทศ
ความคิดเห็นที่ 1
ผมเจ็ดเสมียน เห็นว่า "สมควรประหารครับ"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่