ไม่เคยคิดว่าเรื่องราวแบบในละครจะเกิดกับชีวิตเราเลยคะ ขอเล่าให้ฟังหน่อยนะคะ เครียดมาก !!
เรื่องเป็นอย่างนี้คะ ครอบครัวเรามี 4 คน พ่อ แม่ พี่ชาย และตัวเราเอง
ครอบครัวเรามีธุรกิจ SME ที่ค่อนข้างมั่นคง มี 2 สาขาคนละจังหวัด โดยเราดูแลกับแม่ที่นึง พ่อกับพี่ชายดูแลอีกที่คะ
ด้วยพี่ชายเราเป็นคนไม่ค่อยดูแลกิจการที่บ้านเท่าไร ทางพ่อกับแม่ก็ไม่ค่อยพอใจมานาน แต่ก็ไม่อยากมีปัญหาเพราะพี่ชายเป็นคนอารมณ์ร้อนและชอบใช้ความรุนแรง พ่อก็บ่นว่าเหนื่อย อยากจะแบ่งมรดกให้เเล้วให้ออกจากกิจการที่บ้านไป (เราก็งงๆว่าจะเอาใครมาช่วยทำงานแทน)
หลังๆพ่อเริ่มเอาพนักงานใหม่ๆเข้ามา พอเราไปที่ออฟฟิตก็สังเกตุว่าพนักงานใหม่ชุดนี้ดูแปลกๆ เช่น ดูสนิท และเป็นงานเร็ว เหมือนกับจะเคยทำงานมาก่อน
คำพูดคำจาบางทีก็ดูไม่เหมือนเจ้านายกับลูกน้องที่เพิ่งมาทำงานเท่าไร จนเราผิดสังเกตุ
จนกระทั่งเดือนที่แล้วเราไปดูงานต่างประเทศกับพ่อ แล้วบังเอิญแอบได้ยินพ่อคุยโทรศัพท์สั่งงานกับพนักงานใหม่คนนึง โดยพ่อเราใช้คำพูดแทนตัวเองว่า ป๋า จึงฟังต่อไป คำพูดและน้ำเสียงแบบเดียวกับที่พูดกับเราเลย จึงตกใจและคิดว่าต้องมีอะไรแน่ๆ
พอกลับมาเราเลยแอบคัดสำเนาทะเบียนบ้าน ปรากฏว่าชื่อพ่อของพนักงานคนนั้นก็คือชื่อพ่อเราเอง !!!!
ตอนนี้เลยปรึกษา กับลูกพี่ลูกน้องที่สนิทว่าจะเอายังไง เพราะให้แม่กับพี่ชายรู้ไม่ได้คะ คงเกิดโศกนาฏกรรมแน่นอน
ทางข้อกฎหมาย คิดว่าพ่อเราต้องเซ็นรับรองบุตรแล้วแน่นอน ซึ่งเค้าคงสามารถเรียกร้องมรดกได้แน่ ธุรกิจของครอบครัวเราคงต้องกลายเป็นคนอื่นมารับไปแทน ทั้งๆที่บ้านเราเริ่มต้นมาจนแข็งแรง จึงอยากขอคำแนะนำคะ ว่าถ้าเราให้พ่อเราเขียนพินัยกรรมต่อหน้าทนายว่าจะยกมรดกทุกอย่างให้เราและพี่เราจะได้ไหมคะ (โดยเอาเรื่องที่จะไม่บอกแม่กับพี่ชายมาต่อรอง) แล้วถ้าพ่อยอมเซ็นให้เราจริง แต่ภายหลังไปแอบทำใหม่ให้ฝ่ายโน้นทีหลัง
ไอ้ที่เราทำไปจะมีความหมายไหมคะ จะโดนฝ่ายโน้นเอาไปอยู่ดีหรือเปล่า
*ส่วนนึงเราก็เข้าใจพ่อเราที่ไปเอาทางฝ่ายโน้นมา เพราะเค้าคงเบื่อกับพี่ชายเรามากๆ แต่ในเมื่อปกปิดมาเกือบ 30ปี จะมาเสียบในลักษณะนี้รับไม่ได้จริงๆคะ
รบกวนเพื่อนๆ ที่มีความรู้ทางกฎหมายช่วยแนะนำหน่อยคะ ว่าจะไปต่อยังไงดี T_T รู้สึกแย่จริงๆคะ โดนพ่อตัวเองหักหลัง แถมบอกแม่กับพี่ไม่ได้ด้วย
## ความแตกว่าพ่อเรามีอีกครอบครัว !!! ตามกฎหมายเราควรทำไงดีคะ ##
เรื่องเป็นอย่างนี้คะ ครอบครัวเรามี 4 คน พ่อ แม่ พี่ชาย และตัวเราเอง
ครอบครัวเรามีธุรกิจ SME ที่ค่อนข้างมั่นคง มี 2 สาขาคนละจังหวัด โดยเราดูแลกับแม่ที่นึง พ่อกับพี่ชายดูแลอีกที่คะ
ด้วยพี่ชายเราเป็นคนไม่ค่อยดูแลกิจการที่บ้านเท่าไร ทางพ่อกับแม่ก็ไม่ค่อยพอใจมานาน แต่ก็ไม่อยากมีปัญหาเพราะพี่ชายเป็นคนอารมณ์ร้อนและชอบใช้ความรุนแรง พ่อก็บ่นว่าเหนื่อย อยากจะแบ่งมรดกให้เเล้วให้ออกจากกิจการที่บ้านไป (เราก็งงๆว่าจะเอาใครมาช่วยทำงานแทน)
หลังๆพ่อเริ่มเอาพนักงานใหม่ๆเข้ามา พอเราไปที่ออฟฟิตก็สังเกตุว่าพนักงานใหม่ชุดนี้ดูแปลกๆ เช่น ดูสนิท และเป็นงานเร็ว เหมือนกับจะเคยทำงานมาก่อน
คำพูดคำจาบางทีก็ดูไม่เหมือนเจ้านายกับลูกน้องที่เพิ่งมาทำงานเท่าไร จนเราผิดสังเกตุ
จนกระทั่งเดือนที่แล้วเราไปดูงานต่างประเทศกับพ่อ แล้วบังเอิญแอบได้ยินพ่อคุยโทรศัพท์สั่งงานกับพนักงานใหม่คนนึง โดยพ่อเราใช้คำพูดแทนตัวเองว่า ป๋า จึงฟังต่อไป คำพูดและน้ำเสียงแบบเดียวกับที่พูดกับเราเลย จึงตกใจและคิดว่าต้องมีอะไรแน่ๆ
พอกลับมาเราเลยแอบคัดสำเนาทะเบียนบ้าน ปรากฏว่าชื่อพ่อของพนักงานคนนั้นก็คือชื่อพ่อเราเอง !!!!
ตอนนี้เลยปรึกษา กับลูกพี่ลูกน้องที่สนิทว่าจะเอายังไง เพราะให้แม่กับพี่ชายรู้ไม่ได้คะ คงเกิดโศกนาฏกรรมแน่นอน
ทางข้อกฎหมาย คิดว่าพ่อเราต้องเซ็นรับรองบุตรแล้วแน่นอน ซึ่งเค้าคงสามารถเรียกร้องมรดกได้แน่ ธุรกิจของครอบครัวเราคงต้องกลายเป็นคนอื่นมารับไปแทน ทั้งๆที่บ้านเราเริ่มต้นมาจนแข็งแรง จึงอยากขอคำแนะนำคะ ว่าถ้าเราให้พ่อเราเขียนพินัยกรรมต่อหน้าทนายว่าจะยกมรดกทุกอย่างให้เราและพี่เราจะได้ไหมคะ (โดยเอาเรื่องที่จะไม่บอกแม่กับพี่ชายมาต่อรอง) แล้วถ้าพ่อยอมเซ็นให้เราจริง แต่ภายหลังไปแอบทำใหม่ให้ฝ่ายโน้นทีหลัง
ไอ้ที่เราทำไปจะมีความหมายไหมคะ จะโดนฝ่ายโน้นเอาไปอยู่ดีหรือเปล่า
*ส่วนนึงเราก็เข้าใจพ่อเราที่ไปเอาทางฝ่ายโน้นมา เพราะเค้าคงเบื่อกับพี่ชายเรามากๆ แต่ในเมื่อปกปิดมาเกือบ 30ปี จะมาเสียบในลักษณะนี้รับไม่ได้จริงๆคะ
รบกวนเพื่อนๆ ที่มีความรู้ทางกฎหมายช่วยแนะนำหน่อยคะ ว่าจะไปต่อยังไงดี T_T รู้สึกแย่จริงๆคะ โดนพ่อตัวเองหักหลัง แถมบอกแม่กับพี่ไม่ได้ด้วย