ขออนุญาตตั้งกระทู้เตือนภัยเพื่อนๆนะครับ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าผมขอยืมล็อกอินเพื่อนมาใช้ ซึ่งจริงๆหลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นแล้วผมก็อยากให้เรื่องมันจบๆไป ไม่อยากต่อความ แต่ล่าสุดได้ทราบมาว่ายังคงมีคนโดนการกระทำแบบผมต่อเนื่องอยู่ จึงต้องขอออกมาเตือนภัยกันหน่อยดีกว่า...
เรื่องเกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 9 ต.ค.58 ที่ผ่านมา...
เพื่อนผมคนนึงชื่อนาย ก.(นามสมมติ) ส่งไลน์มาบอกข่าวว่ามีเพื่อนของ ก. ชื่อนาย จ.(นามสมมติ) ซึ่งทำงานในหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการยึดของหนีภาษีจากสนามบิน กำลังเคลียร์จะตัดสต็อค iphone6s เครื่องหิ้วที่ทำการยึดมาได้ เลยจะเอามาปล่อยกลุ่มเพื่อนในราคาถูก โดย ก.เป็นแค่คนนำข่าวมากระจายบอกต่อ ใครสนใจก็ให้ไปติดต่อกับทาง จ.เองโดยตรง ซึ่งกลุ่มเพื่อนผมก็มีหลายคนที่สนใจและติดต่อสั่งไอโฟนไป โดยหลังจากยืนยันการสั่งเครื่องไปแล้ว ก็มีการโอนเงินและนัดรับของกันตามปกติ ซึ่งทาง จ.ได้นัดรับเครื่อง ที่หน้าผับชื่อดังแถวเอกมัย ในวันเสาร์ที่ 10 ต.ค.58 เวลา 12.30น.
เช้ามืดวันเสาร์ที่ 10 ต.ค.58
จ.ไลน์หาเพื่อนผมทุกคนที่สั่งของไว้ โดยไลน์มาแจ้งเบอร์โทรของพี่ชาย จ.ไว้อีกเบอร์ เผื่อไว้กรณีที่ติดต่อ จ.ไม่ได้
เมื่อถึงเวลานัด ผมและเพื่อนๆก็ไปรอที่จุดนัด และได้พบกับน้องคนอื่นๆอีก 3-4 คนที่มารอรับเครื่องเช่นกัน หลังจากรอเวลาผ่านไปเรื่อยๆก็ไม่มีวี่แววการมาส่งของ ทุกคนเริ่มร้อนรนพยายามติดต่อทั้ง จ.และพี่ชายทุกช่องทาง แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้เลย จนกระทั่งเวลาประมาณ 15.00น. พวกผมลงความเห็นกันว่า ไม่น่าจะมาแล้วแน่นอน รอไปก็ไม่มีประโยชน์ จึงมีการแลกไลน์เพื่อไว้อัพเดทข่าวกัน เผื่อจะมีใครได้รับการติดต่อกลับมาบ้าง ซึ่งหลังจากนั้นทุกคนก็ยังคงพยายามติดต่อ จ.อยู่แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้จนค่ำ จึงตัดสินใจว่าจะรวบรวมหลักฐานทุกอย่างเพื่อเตรียมตัวไปแจ้งความในวันรุ่งขึ้น
เช้าวันอาทิตย์ที่ 11 ต.ค.58
เพื่อนคนนึงส่งข่าวมาว่าได้รับการติดต่อกลับจาก “แม่ จ.” ซึ่งได้มีการโทรคุยกะแม่ จ.เบื้องต้น
โดยข้อความที่แม่ จ.เน้นย้ำมากเป็นพิเศษคือ
“ถ้ามีการไปแจ้งความ แล้ว จ.ถูกออกจากงานหรือฆ่าตัวตาย ทุกคนจะไม่ได้อะไรเลย” (ออกแนวข่มขู่นิดๆ)
พวกผมจึงติดต่อกลับไปหาแม่ จ.อีกครั้งเพื่อนัดเจรจา ซึ่งทางแม่ จ.นัดให้เข้าไปคุยที่บ้านแถวรามคำแหงเวลา 14.00น
เวลา 14.00น. พวกผมเข้าไปเจรจากับแม่ จ.ที่บ้านตามนัด ส่วนหนึ่งของบทสนทนาคร่าวๆคือ
ตอนนี้แม่ยังติดต่อ จ.ไม่ได้ ก่อนหน้านี้ จ.ได้สร้างหนี้ไว้มากมายมหาศาล ซึ่งแม่ต้องมาตามกู้เงินญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงเพื่อมาใช้หนี้ให้ และรอบนี้ก็จะพยายามตามตัว จ.กลับมาเพื่อทำงานผ่อนใช้หนี้ให้หมด โดยจะสามารถ
เริ่มผ่อนใช้คืนเงินกลุ่มพวกผมได้ประมาณปลายปี 59 เนื่องจากยังต้องผ่อนหนี้ก้อนเก่ากับทางอื่นอยู่ และจะผ่อนคืนพวกผมทุกเดือนเป็นเวลา 15-18 เดือน!!! (ลืมบอกว่า ยอดกลุ่มผมและเพื่อนๆรวมกะพวกน้องที่เจอวันนัดรับของด้วยทั้งหมดประมาณ 30 เครื่อง ยอดรวมมากกว่า 5 แสนบาท!!!) ทางผมเมื่อได้ฟังเงื่อนไขก็คัดค้านและยืนยันที่จะไม่รอ ต้องการได้เงินคืนทั้งหมดให้เร็วที่สุด กลับโดนคำท้าทายสวนกลับมาว่า
“งั้นแม่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ แม่ก็จะปล่อยแล้ว ก็เชิญพวกคุณไปแจ้งความหรือทำอะไรก็ได้เลย ส่วน จ.จะเป็นยังไงแม่ก็ไม่สนแล้ว และถ้า จ.โดนจับหรือติดคุกหรือโดนให้ออกจากงาน พวกคุณก็จะไม่ได้อะไรเลย”
บทสรุปของวันนั้น กลายเป็นว่าพวกผมต้องจำใจยอมรับสภาพเข้าสู่สภาวะการเป็น เจ้าหนี้-ลูกหนี้ (ด้วยเงินที่เป็นของพวกผมเอง)ไปโดยปริยาย ซึ่งได้มีการนัดทำสัญญาเงินกู้เพื่อชำระหนี้เป็นลายลักษณ์อักษรกันอีกครั้งในวันอาทิตย์ที่ 18 ต.ค.58 .....
เตือนภัย!!! ซื้อ iphone6s(ของยึดเครื่องหิ้ว) จากคนในกรมฯ
เรื่องเกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 9 ต.ค.58 ที่ผ่านมา...
เพื่อนผมคนนึงชื่อนาย ก.(นามสมมติ) ส่งไลน์มาบอกข่าวว่ามีเพื่อนของ ก. ชื่อนาย จ.(นามสมมติ) ซึ่งทำงานในหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการยึดของหนีภาษีจากสนามบิน กำลังเคลียร์จะตัดสต็อค iphone6s เครื่องหิ้วที่ทำการยึดมาได้ เลยจะเอามาปล่อยกลุ่มเพื่อนในราคาถูก โดย ก.เป็นแค่คนนำข่าวมากระจายบอกต่อ ใครสนใจก็ให้ไปติดต่อกับทาง จ.เองโดยตรง ซึ่งกลุ่มเพื่อนผมก็มีหลายคนที่สนใจและติดต่อสั่งไอโฟนไป โดยหลังจากยืนยันการสั่งเครื่องไปแล้ว ก็มีการโอนเงินและนัดรับของกันตามปกติ ซึ่งทาง จ.ได้นัดรับเครื่อง ที่หน้าผับชื่อดังแถวเอกมัย ในวันเสาร์ที่ 10 ต.ค.58 เวลา 12.30น.
เช้ามืดวันเสาร์ที่ 10 ต.ค.58
จ.ไลน์หาเพื่อนผมทุกคนที่สั่งของไว้ โดยไลน์มาแจ้งเบอร์โทรของพี่ชาย จ.ไว้อีกเบอร์ เผื่อไว้กรณีที่ติดต่อ จ.ไม่ได้
เมื่อถึงเวลานัด ผมและเพื่อนๆก็ไปรอที่จุดนัด และได้พบกับน้องคนอื่นๆอีก 3-4 คนที่มารอรับเครื่องเช่นกัน หลังจากรอเวลาผ่านไปเรื่อยๆก็ไม่มีวี่แววการมาส่งของ ทุกคนเริ่มร้อนรนพยายามติดต่อทั้ง จ.และพี่ชายทุกช่องทาง แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้เลย จนกระทั่งเวลาประมาณ 15.00น. พวกผมลงความเห็นกันว่า ไม่น่าจะมาแล้วแน่นอน รอไปก็ไม่มีประโยชน์ จึงมีการแลกไลน์เพื่อไว้อัพเดทข่าวกัน เผื่อจะมีใครได้รับการติดต่อกลับมาบ้าง ซึ่งหลังจากนั้นทุกคนก็ยังคงพยายามติดต่อ จ.อยู่แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้จนค่ำ จึงตัดสินใจว่าจะรวบรวมหลักฐานทุกอย่างเพื่อเตรียมตัวไปแจ้งความในวันรุ่งขึ้น
เช้าวันอาทิตย์ที่ 11 ต.ค.58
เพื่อนคนนึงส่งข่าวมาว่าได้รับการติดต่อกลับจาก “แม่ จ.” ซึ่งได้มีการโทรคุยกะแม่ จ.เบื้องต้น
โดยข้อความที่แม่ จ.เน้นย้ำมากเป็นพิเศษคือ “ถ้ามีการไปแจ้งความ แล้ว จ.ถูกออกจากงานหรือฆ่าตัวตาย ทุกคนจะไม่ได้อะไรเลย” (ออกแนวข่มขู่นิดๆ)
พวกผมจึงติดต่อกลับไปหาแม่ จ.อีกครั้งเพื่อนัดเจรจา ซึ่งทางแม่ จ.นัดให้เข้าไปคุยที่บ้านแถวรามคำแหงเวลา 14.00น
เวลา 14.00น. พวกผมเข้าไปเจรจากับแม่ จ.ที่บ้านตามนัด ส่วนหนึ่งของบทสนทนาคร่าวๆคือ
ตอนนี้แม่ยังติดต่อ จ.ไม่ได้ ก่อนหน้านี้ จ.ได้สร้างหนี้ไว้มากมายมหาศาล ซึ่งแม่ต้องมาตามกู้เงินญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงเพื่อมาใช้หนี้ให้ และรอบนี้ก็จะพยายามตามตัว จ.กลับมาเพื่อทำงานผ่อนใช้หนี้ให้หมด โดยจะสามารถเริ่มผ่อนใช้คืนเงินกลุ่มพวกผมได้ประมาณปลายปี 59 เนื่องจากยังต้องผ่อนหนี้ก้อนเก่ากับทางอื่นอยู่ และจะผ่อนคืนพวกผมทุกเดือนเป็นเวลา 15-18 เดือน!!! (ลืมบอกว่า ยอดกลุ่มผมและเพื่อนๆรวมกะพวกน้องที่เจอวันนัดรับของด้วยทั้งหมดประมาณ 30 เครื่อง ยอดรวมมากกว่า 5 แสนบาท!!!) ทางผมเมื่อได้ฟังเงื่อนไขก็คัดค้านและยืนยันที่จะไม่รอ ต้องการได้เงินคืนทั้งหมดให้เร็วที่สุด กลับโดนคำท้าทายสวนกลับมาว่า
“งั้นแม่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ แม่ก็จะปล่อยแล้ว ก็เชิญพวกคุณไปแจ้งความหรือทำอะไรก็ได้เลย ส่วน จ.จะเป็นยังไงแม่ก็ไม่สนแล้ว และถ้า จ.โดนจับหรือติดคุกหรือโดนให้ออกจากงาน พวกคุณก็จะไม่ได้อะไรเลย”
บทสรุปของวันนั้น กลายเป็นว่าพวกผมต้องจำใจยอมรับสภาพเข้าสู่สภาวะการเป็น เจ้าหนี้-ลูกหนี้ (ด้วยเงินที่เป็นของพวกผมเอง)ไปโดยปริยาย ซึ่งได้มีการนัดทำสัญญาเงินกู้เพื่อชำระหนี้เป็นลายลักษณ์อักษรกันอีกครั้งในวันอาทิตย์ที่ 18 ต.ค.58 .....