ข่าวล่าสุด ไทย–สหรัฐ จับมือลงนามข้อตกลงการค้ารอบใหญ่: ไทยยกเลิกภาษี 99% สินค้าสหรัฐฯ สหรัฐฯ ยังคงอัตราภาษี 19%

ข่าวร้อนแรงของวงการการค้า… เมื่อไทยและสหรัฐอเมริกาเดินหน้าเจรจา “กรอบข้อตกลงการค้าระหว่างสองประเทศ” ที่มีผลถึงขีดจำกัดของการลด / ยกเลิกรายการภาษีศุลกากร (Tariff) ซึ่งจะมีผลภายในสิ้นปี 2568

จุดเด่นของข้อตกลง
  + ไทยจะ ยกเลิกภาษีศุลกากรกับสินค้าจากสหรัฐฯ กว่า 99% ครอบคลุมสินค้าจากอุตสาหกรรม อาหาร และเกษตรกรรม
  + สหรัฐฯ ยังคงอัตราภาษีศุลกากร 19% ต่อไทย แต่จะพิจารณายกเว้นภาษีให้กับสินค้าบางรายการของไทยที่อยู่ใน “ภาคผนวก III” (Annex III) ตามคำสั่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ 14346 (5 ก.ย. 2025)
  + รายการสินค้าที่อยู่ใน Annex III มีทั้ง:
         - สินค้าเกษตร 14 หมวดหมู่ (สัตว์มีชีวิต, ปลา/สัตว์น้ำ, ผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ, ผักผลไม้, ไม้ดอก, กาแฟ/ชา/เครื่องเทศ, ธัญพืช ฯลฯ)
         - สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร 7 หมวด (ไขมัน/น้ำมัน, ของปรุงแต่งจากเนื้อสัตว์/ธัญพืช/ผักผลไม้, อาหารสัตว์ ฯลฯ)
         - สินค้าอุตสาหกรรม ได้แก่ เคมีภัณฑ์, พลาสติก, เหล็ก/เหล็กกล้า, อะลูมิเนียม, เครื่องจักรกล/ไฟฟ้า/ส่วนประกอบ, ยานพาหนะ/ส่วนประกอบ,     เฟอร์นิเจอร์, อัญมณี/เครื่องประดับ, ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้/ไม้ก๊อก ฯลฯ

เงื่อนไขเพิ่มเติมที่ไทยยอมรับ:
  1. ไทยจะยอมรับรถยนต์ของสหรัฐฯ ที่ผลิตตามมาตรฐานสหรัฐฯ, ยอมรับใบรับรอง FDA สำหรับยา/เครื่องมือแพทย์ อนุญาตนำเข้าเอทานอล, แก้กฎหมาย    
  2. ศุลกากร, ปรับใช้แนวปฏิบัติที่ดีด้านกฎระเบียบสากล
  3. ไทยจะยกเลิกข้อจำกัดด้านสินค้าอาหาร/เกษตรของสหรัฐฯ เช่น ยอมรับเนื้อผ่านการตรวจสอบสหรัฐฯ
  4. ไทยจะยกเลิกข้อจำกัดด้านบริการดิจิทัล, การส่งข้อมูล, โควต้านำเข้า, การลงทุนสหรัฐฯ ในโทรคมนาคม
  5. ไทยและสหรัฐฯจะร่วมมือเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา, สิทธิแรงงาน, สิ่งแวดล้อม, ห่วงโซ่อุปทาน ฯลฯ
ข้อตกลงนี้มุ่งหวังให้เกิดการลงนามข้อตกลงเต็มรูปแบบ “ภายในสิ้นปีนี้”

ทำไมข่าวนี้น่าสำคัญ?
  - สำหรับประเทศไทย: ถือเป็นสัญญาณเปิด “ตลาดใหญ่” ให้กับสินค้าสหรัฐฯ ผ่านการที่ไทยลดภาษีศุลกากรอย่างมหาศาล
  - สำหรับภาคส่งออกไทย: แม้ไทยจะได้สิทธิยกเว้นภาษีจากสหรัฐฯ บ้างจาก Annex III แต่ไทยยังต้องเผชิญกับภาษี 19% จากสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลต่อการแข่งขัน
  - ด้านแรงงาน/สิ่งแวดล้อม/ทรัพย์สินทางปัญญา: ไทยต้องปรับตัวทั้งในกฎหมายและระบบการค้า เพื่อให้เข้ากับมาตรฐานสากล และอาจมีแรงกดดันทางสังคมเพิ่มขึ้น
  - สำหรับผู้บริโภคไทย: สินค้านำเข้า/สินค้าส่งออกอาจมีความเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจส่งผลต่อราคา คุณภาพ และโอกาสของผลิตภัณฑ์ไทย

ที่มา thaiarmedforce

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่