สวัสดีคะเราเป็นนศ. ปี 1 มหาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง
เราคบกับแฟนมาได้ 2 ปีกว่าแล้วค่ะ
เราของแบ่ง 3 part เพื่อความเข้าใจนะคะ
วันนึงที่เราจะเข้าวงการสีเทา มันเป็นช่วงที่ที่บ้านเราปัญหาหนักมาก ตอนนั้นเราอยู่ม.6 ค่ะ ถึงขั้นที่ว่าจะส่งเราเรียนต่อไม่ได้ บ้านจะโดนไล่ จะไม่มีกินแล้วในวันนั้น คืนก่อนหน้าที่เราจะตัดสินใจ เราเข้ากูเกิ้ล แล้วหาคำว่า "งานพริตตี้" ต้องบอกก่อนเรารูปร่างหน้าตาดีในระดับหนึ่ง ไม่ขี้เหร่แต่ก็ไม่ได้สวยราวกับนางฟ้า เราจึงเลือกหางานพริตตี้ อาจจะเป็นพวกเขียร์ขาย หรือแจกใบปลิวตามห้าง พอเราเข้ามาดูหน้าเว็บเลื่อนไปเรื่อยๆ ก็เจอกับคำว่า "พริตตี้สปา" เราอ่านเงื่อนไข อ่านรายได้ แล้วเราสนใจ ก็ทำการสมัครผ่านทางไลน์ โดยการพูดคุยและส่งรูปให้ดู พี่ที่ร้านเขาก็นัดไปดูตัววันถัดไป
เราก็ยอมเสี่ยงคะ ด้วยเงิน 100 บาทที่เรามีตอนนั้น เราไปร้านย่านลาดพร้าว ด้วยความที่เสี่ยงมากแต่เราก็ยอมเสี่ยง เขาทำการดูหุ่น ดูหน้าตา เราก็ผ่านคะ เขาบอกเรทเรามา วันนั้นจากที่เรามีเงินมาแค่ 100 บาท แต่เราได้กลับไป 10,000 บาทคะ เราดีใจมากไม่เคยได้เยอะขนาดนี้ เราก็แบ่งเบินส่วนนึงไปให้ที่บ้านเราใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงหนี้ที่ครบกำหนดชำระอื่นๆ ด้วย โดยที่เราบอกเขาว่าเรายืมคนอื่นมาคะ หลังจากนั้นเราก็ไปทำงานที่ร้านมาโดยตลอด เข้าเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์คะ เราก็ทำมาเรื่อยๆ เราก็เจอผู้ใหญ่ใจดีอยากจะเลี้ยงดูเราคะ เราก็โอเคกับเขา ผ่านมาได้สักพักเจอช่วงสอบหนัก เราเลิกไปที่ร้านถาวรคะ แต่เรามีคนที่ดูแลเราอยู่ เขาก็คอยช่วยเหลือเรา เราทำมาเรื่อยๆ คะ จนเราได้ไปอยู่ในกลุ่มไลน์ ตามที่เคยมีกระทู้แฉวงในนะคะ เราก็จะไม่พูดถึงกลุ่มไลน์นี้มาก โมก็จะโพสงาน ถ้าตรงสเปคเราก็ส่งไปคะ แต่ด้วยความที่เราเริ่มอ้วนและถ่ายรูปไม่ขึ้น งานก็เข้ามาไม่เยอะคะ เคยรับงานจากการส่งไปรวมแล้วประมาณ 3-4 ครั้งคะ แล้วก็มาถึงปัจจุบันนี้
สรุปนะคะ
- ปัจจุบันเรายังทำงานนี้อยู่คะ แต่ไม่ใช่ลูกค้าใหม่ๆ เป็นลูกค้าเดิมที่เจอกันแล้วเขาชอบ เขาตัดสินใจที่จะดูแล
- หลายคนอาจคิดว่า ทำไมต้องทำในเมื่อวันนั้นเราได้ให้เงินที่บ้านแล้ว ที่เรายังทำต่อมาเรื่อยๆ เพราะปัญหาที่บ้านไม่ได้จบแค่นั้นคะ เราจะขอเล่าใน part ต่อไปค่ะ
- มีเงินต่อเดือนเยอะขนาดนี้ ใช้ฟุ่มเฟือยละสิ ขอตอบว่าเราไม่ได้ฟุ่มเฟือยคะ เราก็ยังใช้ชีวิตปกติไม่ได้ต้องของแบรนด์ ไม่ได้ต้องกินหรู ก็มีบ้างที่เราจะเข้าร้านดีๆ แต่ก็ต่อเมื่อมีโอกาสพิเศษคะ เช่นวันเกิด วันครบรอบ
จบ part 1 คะ หากมีข้อสงสัยเรายินดีตอบทุกคนนะคะ
เราพิมในโน๊ตนะคะ กำลังพิมเรื่อยๆ อาจจะช้านิดยังไงจะรีบมาต่อคะ
ทำยังไงดีเมื่อแฟนรู้ว่าขายตัว
เราคบกับแฟนมาได้ 2 ปีกว่าแล้วค่ะ
เราของแบ่ง 3 part เพื่อความเข้าใจนะคะ
วันนึงที่เราจะเข้าวงการสีเทา มันเป็นช่วงที่ที่บ้านเราปัญหาหนักมาก ตอนนั้นเราอยู่ม.6 ค่ะ ถึงขั้นที่ว่าจะส่งเราเรียนต่อไม่ได้ บ้านจะโดนไล่ จะไม่มีกินแล้วในวันนั้น คืนก่อนหน้าที่เราจะตัดสินใจ เราเข้ากูเกิ้ล แล้วหาคำว่า "งานพริตตี้" ต้องบอกก่อนเรารูปร่างหน้าตาดีในระดับหนึ่ง ไม่ขี้เหร่แต่ก็ไม่ได้สวยราวกับนางฟ้า เราจึงเลือกหางานพริตตี้ อาจจะเป็นพวกเขียร์ขาย หรือแจกใบปลิวตามห้าง พอเราเข้ามาดูหน้าเว็บเลื่อนไปเรื่อยๆ ก็เจอกับคำว่า "พริตตี้สปา" เราอ่านเงื่อนไข อ่านรายได้ แล้วเราสนใจ ก็ทำการสมัครผ่านทางไลน์ โดยการพูดคุยและส่งรูปให้ดู พี่ที่ร้านเขาก็นัดไปดูตัววันถัดไป
เราก็ยอมเสี่ยงคะ ด้วยเงิน 100 บาทที่เรามีตอนนั้น เราไปร้านย่านลาดพร้าว ด้วยความที่เสี่ยงมากแต่เราก็ยอมเสี่ยง เขาทำการดูหุ่น ดูหน้าตา เราก็ผ่านคะ เขาบอกเรทเรามา วันนั้นจากที่เรามีเงินมาแค่ 100 บาท แต่เราได้กลับไป 10,000 บาทคะ เราดีใจมากไม่เคยได้เยอะขนาดนี้ เราก็แบ่งเบินส่วนนึงไปให้ที่บ้านเราใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงหนี้ที่ครบกำหนดชำระอื่นๆ ด้วย โดยที่เราบอกเขาว่าเรายืมคนอื่นมาคะ หลังจากนั้นเราก็ไปทำงานที่ร้านมาโดยตลอด เข้าเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์คะ เราก็ทำมาเรื่อยๆ เราก็เจอผู้ใหญ่ใจดีอยากจะเลี้ยงดูเราคะ เราก็โอเคกับเขา ผ่านมาได้สักพักเจอช่วงสอบหนัก เราเลิกไปที่ร้านถาวรคะ แต่เรามีคนที่ดูแลเราอยู่ เขาก็คอยช่วยเหลือเรา เราทำมาเรื่อยๆ คะ จนเราได้ไปอยู่ในกลุ่มไลน์ ตามที่เคยมีกระทู้แฉวงในนะคะ เราก็จะไม่พูดถึงกลุ่มไลน์นี้มาก โมก็จะโพสงาน ถ้าตรงสเปคเราก็ส่งไปคะ แต่ด้วยความที่เราเริ่มอ้วนและถ่ายรูปไม่ขึ้น งานก็เข้ามาไม่เยอะคะ เคยรับงานจากการส่งไปรวมแล้วประมาณ 3-4 ครั้งคะ แล้วก็มาถึงปัจจุบันนี้
สรุปนะคะ
- ปัจจุบันเรายังทำงานนี้อยู่คะ แต่ไม่ใช่ลูกค้าใหม่ๆ เป็นลูกค้าเดิมที่เจอกันแล้วเขาชอบ เขาตัดสินใจที่จะดูแล
- หลายคนอาจคิดว่า ทำไมต้องทำในเมื่อวันนั้นเราได้ให้เงินที่บ้านแล้ว ที่เรายังทำต่อมาเรื่อยๆ เพราะปัญหาที่บ้านไม่ได้จบแค่นั้นคะ เราจะขอเล่าใน part ต่อไปค่ะ
- มีเงินต่อเดือนเยอะขนาดนี้ ใช้ฟุ่มเฟือยละสิ ขอตอบว่าเราไม่ได้ฟุ่มเฟือยคะ เราก็ยังใช้ชีวิตปกติไม่ได้ต้องของแบรนด์ ไม่ได้ต้องกินหรู ก็มีบ้างที่เราจะเข้าร้านดีๆ แต่ก็ต่อเมื่อมีโอกาสพิเศษคะ เช่นวันเกิด วันครบรอบ
จบ part 1 คะ หากมีข้อสงสัยเรายินดีตอบทุกคนนะคะ
เราพิมในโน๊ตนะคะ กำลังพิมเรื่อยๆ อาจจะช้านิดยังไงจะรีบมาต่อคะ