ผมว่าเป็นอะไรที่ตลกดีครับ เป็นหนึ่งในสีสันของการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมของต่างประเทศที่มีมนุษย์จากหลากหลายเชื้อสายและเผ่าพันธุ์ ล่าสุดที่ผมเจอ เป็น ณ ขณะหนึ่ง ตอนที่ผมกำลังปั่นจักรยานอยู่ในสวนสาธารณะ แล้วขณะที่ผมกำลังปั่นผ่านกลุ่มนิสิตกลุ่มหนึ่งอยู่ ซึ่งผมคาดว่าคงเป็นชาวต่างชาติเหมือนกัน เพราะได้ยินภาษาที่พวกเขากำลังเดินคุยกันอยู่ ทันใดนั้นก็ได้มีเสียงทักทายดังขึ้นมาจากทางด้านข้างของผมว่า ' นิเฮา '
ผมไม่ได้ประหลาดใจอะไรหรอก เพราะเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้บ่อย เพียงแต่อยากเห็นหน้าคนที่ทักทายมาก็เท่านั้น ก็เลยหยุดรถจักรยานที่ตอนนั้นปั่นเลยหน้ากลุ่มนิสิตกลุ่มนั้นไปได้หน่อยหนึ่ง เพื่อที่จะหันกลับไปมองว่าใครทักทายมา พอหันกลับไปมอง ก็เห็นหนุ่มหน้าใสคนหนึ่งที่กำลังฉีกยิ้มหวานมาให้อย่างจริงใจ ทำให้รู้ในทันใด ว่าใครในกลุ่มนั้นที่เป็นคนที่ทักทายเรามา ซึ่งพอเห็นแล้ว ผมก็รู้สึกว่าแบบ เอ่อ ดูจากลักษณะแล้วไม่น่าจะเป็นคนที่กวนเท้าอะ ตลกดี ซึ่งผมเองก็เคยเห็นเขามาก่อนหน้านี้ 2-3 ครั้งในเขตของมหาวิทยาลัยแต่พวกเราไม่ได้รู้จักกัน
หลังจากนั้น ผมก็เลยตอบไปเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า ' เราไม่ใช่ชาวจีน ' ซึ่งก็ทำให้พวกเขายิ้มหัวเราะฮากันระลอกหนึ่ง แล้วผมก็หันหลังกลับไปเพื่อที่จะปั่นจักรยานต่อ ผมก็หันหลังกลับไปได้ไม่ถึง 30 วินาทีหรอก ก็มีเสียงตามหลังดังขึ้นมาอีกว่า ' อาริกาโตะ ' ตอนนั้นผมรู้สึกแบบ เฮ้ย! ไอ้นี่กวนตรีนมาก ผมก็เลยหยุดรถจักรยาน แต่คราวนี้ไม่ได้หันหลังกลับไป แล้วก็พูดขึ้นมาเป็นภาษาฝรั่งเศสอีกครั้งว่า ' แล้วก็ไม่ใช่ชาวญี่ปุ่นด้วย ' ก่อนที่จะปั่นจักรยานออกไป แล้วก็มีเสียงหัวเราะฮาตามหลังของผมมาอีกหนึ่งระรอก
ผมปั่นจักรยานไปได้ไม่นานเท่าไรก็หยุดรถจักรยานเพื่อที่จะชื่นชมกับบรรยากาศ ก็ประจวบกับที่กลุ่มนั้นเดินมาใกล้พอดี ผมก็เลยทักทายไป แล้วก็ถามพวกเขาเป็นภาษาฝรั่งเศส ว่าพวกเขามาจากที่ไหน ใช่สเปนหรือเปล่า เพราะผมได้ยินจากภาษาที่พวกเขาคุยกัน พวกเขาก็เลยตอบมาเป็นภาษาฝรั่งเศสว่าใช่ แล้วพวกเขาก็ถามกลับมาที่ผมเป็นภาษาฝรั่งเศสบ้าง ว่าแล้วผมมาจากที่ไหน
หลังจากนั้นพวกเราก็ออกจากสวนสาธารณะแห่งนั้นไปแบบไล่เลี่ยกัน ซึ่งถึงแม้พวกเราจะไม่ได้คุยอะไรกันมากมายแต่พวกเราก็รู้สึกได้ถึงมิตรภาพผ่านทางสีหน้า, รอยยิ้ม, แววตา, และการกระทำครับ
สำหรับผม ก็เป็นหนึ่งในหลายหลายเหตุการณ์ที่ทำให้ผมยิ้มได้ล่ะนะ
ชอบหรือไม่ชอบเวลาโดนทักทายว่า ' นิเฮา ' จากชาวต่างชาติ
ผมไม่ได้ประหลาดใจอะไรหรอก เพราะเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้บ่อย เพียงแต่อยากเห็นหน้าคนที่ทักทายมาก็เท่านั้น ก็เลยหยุดรถจักรยานที่ตอนนั้นปั่นเลยหน้ากลุ่มนิสิตกลุ่มนั้นไปได้หน่อยหนึ่ง เพื่อที่จะหันกลับไปมองว่าใครทักทายมา พอหันกลับไปมอง ก็เห็นหนุ่มหน้าใสคนหนึ่งที่กำลังฉีกยิ้มหวานมาให้อย่างจริงใจ ทำให้รู้ในทันใด ว่าใครในกลุ่มนั้นที่เป็นคนที่ทักทายเรามา ซึ่งพอเห็นแล้ว ผมก็รู้สึกว่าแบบ เอ่อ ดูจากลักษณะแล้วไม่น่าจะเป็นคนที่กวนเท้าอะ ตลกดี ซึ่งผมเองก็เคยเห็นเขามาก่อนหน้านี้ 2-3 ครั้งในเขตของมหาวิทยาลัยแต่พวกเราไม่ได้รู้จักกัน
หลังจากนั้น ผมก็เลยตอบไปเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า ' เราไม่ใช่ชาวจีน ' ซึ่งก็ทำให้พวกเขายิ้มหัวเราะฮากันระลอกหนึ่ง แล้วผมก็หันหลังกลับไปเพื่อที่จะปั่นจักรยานต่อ ผมก็หันหลังกลับไปได้ไม่ถึง 30 วินาทีหรอก ก็มีเสียงตามหลังดังขึ้นมาอีกว่า ' อาริกาโตะ ' ตอนนั้นผมรู้สึกแบบ เฮ้ย! ไอ้นี่กวนตรีนมาก ผมก็เลยหยุดรถจักรยาน แต่คราวนี้ไม่ได้หันหลังกลับไป แล้วก็พูดขึ้นมาเป็นภาษาฝรั่งเศสอีกครั้งว่า ' แล้วก็ไม่ใช่ชาวญี่ปุ่นด้วย ' ก่อนที่จะปั่นจักรยานออกไป แล้วก็มีเสียงหัวเราะฮาตามหลังของผมมาอีกหนึ่งระรอก
ผมปั่นจักรยานไปได้ไม่นานเท่าไรก็หยุดรถจักรยานเพื่อที่จะชื่นชมกับบรรยากาศ ก็ประจวบกับที่กลุ่มนั้นเดินมาใกล้พอดี ผมก็เลยทักทายไป แล้วก็ถามพวกเขาเป็นภาษาฝรั่งเศส ว่าพวกเขามาจากที่ไหน ใช่สเปนหรือเปล่า เพราะผมได้ยินจากภาษาที่พวกเขาคุยกัน พวกเขาก็เลยตอบมาเป็นภาษาฝรั่งเศสว่าใช่ แล้วพวกเขาก็ถามกลับมาที่ผมเป็นภาษาฝรั่งเศสบ้าง ว่าแล้วผมมาจากที่ไหน
หลังจากนั้นพวกเราก็ออกจากสวนสาธารณะแห่งนั้นไปแบบไล่เลี่ยกัน ซึ่งถึงแม้พวกเราจะไม่ได้คุยอะไรกันมากมายแต่พวกเราก็รู้สึกได้ถึงมิตรภาพผ่านทางสีหน้า, รอยยิ้ม, แววตา, และการกระทำครับ
สำหรับผม ก็เป็นหนึ่งในหลายหลายเหตุการณ์ที่ทำให้ผมยิ้มได้ล่ะนะ