พอถึงสนามบินอินชอน ก็เดินไปขึ้น Subway (AREX) และนี่เป็นรูปแรก ที่เข้าสู่เกาหลีใต้ ว้าวๆ อันยองอาเซโย
หลังจากกินอิ่มกันแล้ว เราก็นั่งใต้ดินมาลงที่สถานี Gwanghwamun ตั้งใจว่าน่าจะมีแสงสีที่ Cheonggye Plaza แต่ปรากฎว่าไม่มีอะไรเลย น่าจะเป็นผลมาจากเรื่องภายในประเทศอันนี้เราขอข้ามเรื่องนี้ไปดีกว่า งั้นเดินต่อไปที่คลองชองเกชอนกัน
คลองชองเกชอน (Cheonggyecheon Stream) คิดว่าคอซีรีย์ หลายๆคนคงรู้
เลยเอาแต่รูปเจ้าของกระทู้มาฝากแทนละกัน อิอิ
หนาวจัด จนต้องร้องขอชาเขียวร้อนกันเลยทีเดียว

เนื่องจากเราไม่อยากพลาดรถไฟใต้ดินขบวนสุดท้าย เราเลยกลับมาที่ Dongdaemun History & Culture Park ซึ่งเราสามารถเดินข้ามถนนกลับที่พักได้เลย แถมยังมีที่สวยๆให้ถ่ายรูปด้วย


ไหนๆ ตาอยู่ไหน หาไม่เจอ -.-
ทิ้งท้ายสำหรับคืนแรกไปด้วยภาพนี้นะครับ
아녕히 주무세요. ( อัน-นยอง-ฮี-จู-มู-เซ-โย ) แปลว่า ราตรีสวัสดิ์ นะครับ
안녕하세요(สวัสดีครับ / ค่ะ) ( อัน-นยอง-ฮา-เซ-โย๊ )
สวัสดีวันที่2 ที่โซลในเกาหลีใต้นะครับ ตอนเช้าหิมะตกครับ ดีใจสุดๆ (แต่ถ่ายด้วยกล้องมือถือแทบไม่เห็นเลย T .T
เค้าว่ากันว่าบันไดดอกไม้สวยและอากาศดี อ่ะจัดไป เดินขึ้นเขาไปหนาวมากๆเมื่อยขาด้วย แต่มาทั้งทีต่อให้กลับไปป่วยก็ยอมนะ
ยังนะ ยังไม่หมด มีอีกเรื่อยๆ
อยู่ที่มหาวิทยาลัย ทำไมไม่มีเด็กมหาวิทยาลัยเลยนะ หายไปไหนหมด
หลังจากนั้นก็เดินตามคนพื้นที่เค้าไปขึ้นรถเมล์เพื่อนไปที่มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา (Ewha Womans University) มันมีอะไรดีกันนะคนถึงชอบไปกัน (เราเดินลงมาจาก ihwa mural village แล้วนั่งรถเมล์สาย 601 ที่กำลังจอดเข้าป้าย วิ่งสิครับงานนี้)
อ่อๆมันเป็นแบบนี้ นี่เอง สวยๆ
โย่ว สวัสดี อีฮวา วูแมน ยูนิเวอซิตี้
จะจับสายกระเป๋าทำไม ทั้ง2รูปเลยเนี่ย
แพลนต่อไปของเราคือ โซลทาวเวอร์ (Seoul Tower) เรานั่งรถบัสสาย 5 จากตลาดเมียงดง ( Myeongdong Market ) ครับ ซึ่งโซลทาวเวอร์ คือป้ายสุดท้ายเลยสะดวกมากๆ
โกโก้ร้อน1แก้ว ลิ้นพองกันเลยทีเดียว
นั่งรถบัสสาย 5 จากโซลทาวเวอร์กลับมาตลาดเมียงดงอีกครั้งเพื่อไปหาซื้อของตามใบสั่งที่รับมา พูดเลยตื่นตาตื่นใจ และยอมรับว่าบ้านนอกมาก...... เห็นไก่ทอด อุ๊ย..น่ากิน เห็นหอยเชลล์ อุ้ยน่ากิน... สรุปได้มา 2 อย่าง สตรอเบอรี่ฟองดูกับ ไอศกรีมชาเขียว
นึกไม่ออกซื้ออะไรดีมีแต่เครื่องสำอางค์ พอจะซื้ออะไรหน่อยคิดเงินไทยก็ บ๊ายยย....
สุดท้ายได้ดินสอเขียนคิ้วกับบีบีครีมมาฝากแม่ อัลมอนด์เคลือบน้ำผึ้งฝากพ่อ น้องสาวได้ดินสอกดกับกระเป๋าเครื่องเขียน ส่วนพี่สาวซื้อไดอารี่และTintทาปากให้พี่สาว
ซื้อของเสร็จก็เดินแบกร่างอันบอบช้ำกลับห้องพัก แต่คืนนี้มันยังไม่จบแค่นั้น วันนี้ยังไม่มีอะไรแซ่บๆนัวร์ๆกินเลยนี่
คุณแฟนเลยจัดการหาพิกัดของกินย่านที่พัก...ได้มาดังรูปครับ คือมันเป็นอาหารปิ้งย่างนะนึกภาพตามนะครับ มันจะมีควันเหม็นติดเสื้อ เก้าอี้ที่ป่านนั่งเป็นเก้าอี้ทรงกลมเล็กๆ มองไปโต๊ะข้างๆทำไมไม่เห็นมีใครมีปัญหาเรื่องที่วางเสื้อแบบป่านเลย เสื้อหล่นตลอด กลิ่นติดเสื้อด้วยแต่ไม่ได้สนใจแล้ว ตั้งใจกินอย่างเดียว พอกินเสร็จ จ่ายเงินเรียบร้อย กำลังจะเดินออก อ้อ!!! เก้าอี้สามารถยกเบาะขึ้นได้ เอาเสื้อกันหนาวของเราใส่ลงไปในนั้นได้ ไม่เหม็น ไม่หล่น งานนี้ไม่มีวัวผสมเลยครับ (ด้วยความหิวและมัวถ่ายรูปเลยไม่ได้สังเกตุโต๊ะอื่นเลยว่าเค้าเก็บเสื้อกันยังไง)
อ้อ เช็ทนี้ราคา 30,000 วอนนะครับ
พอเราทานกันเสร็จ ก็กลับห้องเพื่อเก็บของและเตรียมตัวสำหรับวันรุ่งขึ้นกัน
(ถึงกับต้องนับตังค์ซื้อไก่กิน ไก่ทอดอร่อยมาก....)
ขอจบการรีวิวเท่านี้ละกันครับ เพราะกินไก่เสร็จป่านก็ขึ้นเครื่องแล้ว
ทริปนี้มีความสุขมากๆครับ ได้ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ดีใจ
ขอบคุณครับที่พาไป
*** กระทู้นี้ไม่ใช่ที่มีสาระนะครับ แค่เอารูปมาแบ่งกันดูเฉยๆถ้าผิดพลาดหรือหาสาระต้องขออภัย กระทู้นี้ไม่มีให้ครับ ***
[CR] ครั้งแรกของฉันที่เกาหลีใต้ : First time in South Korea
**** ในกระทู้นี้มีแต่รูปเจ้าของกระทู้นะครับ รูปที่เที่ยวมีน้อยครับ เข้าใจตรงกันนะครับ ****
รู้สึกโชคดี๊....โชคดี ตอนแรกอยู่ๆคุณแฟนก็บอกว่าไปเที่ยวสิงคโปร์กัน ห้ะ!! สิงคโปร์ ถ้าตอนเด็กเรียนมาและจำไม่ผิดสิงคโปร์อยู่ต่างประเทศนะ อะไรนะได้ไปต่างประเทศหรอ ชีวิตนี้นั่งแต่รถไฟและรถทัวร์ ดอนเมืองคือใกล้ๆกับเจ๊เล้งรู้แค่นี้ไม่เคยเข้าไป ไปไกลสุดหัวหินแล้วก็ยิ้มแก้มบานมีความสุข โกอินเตอร์ไปต่างประเทศ
หลังจากนั้น 2-3 วันคุณแฟนมาบอกว่าไปเกาหลีดีกว่าได้ตั๋วถูกมีรุ่นน้องไปด้วย ไอ้เราไปไหนก็ได้ไม่ซีเรียส ได้ขึ้นเครื่องบินก็ดีใจละ นับวันรอสิครับ! เมื่อไหร่จะหยุดเมื่อไหร่จะถึง วาร์ปไปเลยได้ไหม ซื้อเสื้อผ้าซื้อแว่นซื้อรองเท้าใหม่รอเลย 5555 คิดละขำตัวเองว่าแล้วก็เริ่มกันเลยดีกว่า
เราเดินทางกันวันที่ 27/11/2015 ครับ ด้วยสายการบิน Thai AirAsia X วันนั้น ไปขึ้นเครื่องที่ดอนเมือง คนเยอะมาก ต้องไปตรงไหนก่อนเริ่มตรงไหน และทำอะไรบ้าง ไม่เคยรู้เลย ดันไปเจอทัวร์จีนอีก พูดเลยว่าหงุดหงิดมาก (เพราะเรามาโหลดกระเป๋าผิดช่อง แฮ่ โชคดีพนักงาน AX มาประกาศว่าใครบิน XJ ให้ไปอีกฝั่งนึง) พยายามนึกถึง สตรอเบอรี่เกาหลี ผู้ชายเกาหลี โอเค! หายหงุดหงิดละ
พอขึ้นเครื่อง นี่เป็นการนั่งเครื่องครั้งแรก ถามว่าตื่นเต้นไหม ก็นิดนึงนะใจเต้นตุ๊บๆ แต่คุณแฟนบอกว่าเก่งเนอะดูชิวๆ ป่าวเลย!! “เค้าเก็บอาการเก่งเฉยๆอ่าตัวเอง”
เวลาผ่านไป 6 ชั่วโมง ..........
พอถึงสถานี Dongdaemun History & Culture Park ก็เดินหาที่พักกันนานมาก เห้ย!อยู่ไหนเนี่ยยย หนาวนะ
ที่ไหนได้ ออกจากทางออกมาเลี้ยวเลย ย้ำ!! เลี้ยวเลยนะ เจอเลย
พอเข้าที่พักก็จัดการเก็บกระเป๋า ล้างหน้าล้างตา ออกตะลอนกัน ดูซิว่าคืนนี้ จะไปได้ซักกี่ที แวะต่อหลายสถานีมาก
เป้าหมายแรกคือ ฮงแด (เราลงสถานีSinchonแล้วเดินรับลมหนาวมาที่ฮงแด) มาเกาหลีก็ต้องกินหมูย่างเกาหลีสิ เลทสะโก......
เลยเอาแต่รูปเจ้าของกระทู้มาฝากแทนละกัน อิอิ
เนื่องจากเราไม่อยากพลาดรถไฟใต้ดินขบวนสุดท้าย เราเลยกลับมาที่ Dongdaemun History & Culture Park ซึ่งเราสามารถเดินข้ามถนนกลับที่พักได้เลย แถมยังมีที่สวยๆให้ถ่ายรูปด้วย
ไหนๆ ตาอยู่ไหน หาไม่เจอ -.-
ทิ้งท้ายสำหรับคืนแรกไปด้วยภาพนี้นะครับ
เค้าว่ากันว่าบันไดดอกไม้สวยและอากาศดี อ่ะจัดไป เดินขึ้นเขาไปหนาวมากๆเมื่อยขาด้วย แต่มาทั้งทีต่อให้กลับไปป่วยก็ยอมนะ
อยู่ที่มหาวิทยาลัย ทำไมไม่มีเด็กมหาวิทยาลัยเลยนะ หายไปไหนหมด
หลังจากนั้นก็เดินตามคนพื้นที่เค้าไปขึ้นรถเมล์เพื่อนไปที่มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา (Ewha Womans University) มันมีอะไรดีกันนะคนถึงชอบไปกัน (เราเดินลงมาจาก ihwa mural village แล้วนั่งรถเมล์สาย 601 ที่กำลังจอดเข้าป้าย วิ่งสิครับงานนี้)
อ่อๆมันเป็นแบบนี้ นี่เอง สวยๆ
โย่ว สวัสดี อีฮวา วูแมน ยูนิเวอซิตี้
จะจับสายกระเป๋าทำไม ทั้ง2รูปเลยเนี่ย
พี่บอกแล้ว พี่ไม่ได้มาเล่นๆ พี่นั่งรถบัสมาโซลทาวเวอร์เพื่อคล้องกุญแจนะจ๊ะ
โกโก้ร้อน1แก้ว ลิ้นพองกันเลยทีเดียว
นั่งรถบัสสาย 5 จากโซลทาวเวอร์กลับมาตลาดเมียงดงอีกครั้งเพื่อไปหาซื้อของตามใบสั่งที่รับมา พูดเลยตื่นตาตื่นใจ และยอมรับว่าบ้านนอกมาก...... เห็นไก่ทอด อุ๊ย..น่ากิน เห็นหอยเชลล์ อุ้ยน่ากิน... สรุปได้มา 2 อย่าง สตรอเบอรี่ฟองดูกับ ไอศกรีมชาเขียว
นึกไม่ออกซื้ออะไรดีมีแต่เครื่องสำอางค์ พอจะซื้ออะไรหน่อยคิดเงินไทยก็ บ๊ายยย....
สุดท้ายได้ดินสอเขียนคิ้วกับบีบีครีมมาฝากแม่ อัลมอนด์เคลือบน้ำผึ้งฝากพ่อ น้องสาวได้ดินสอกดกับกระเป๋าเครื่องเขียน ส่วนพี่สาวซื้อไดอารี่และTintทาปากให้พี่สาว
ซื้อของเสร็จก็เดินแบกร่างอันบอบช้ำกลับห้องพัก แต่คืนนี้มันยังไม่จบแค่นั้น วันนี้ยังไม่มีอะไรแซ่บๆนัวร์ๆกินเลยนี่
คุณแฟนเลยจัดการหาพิกัดของกินย่านที่พัก...ได้มาดังรูปครับ คือมันเป็นอาหารปิ้งย่างนะนึกภาพตามนะครับ มันจะมีควันเหม็นติดเสื้อ เก้าอี้ที่ป่านนั่งเป็นเก้าอี้ทรงกลมเล็กๆ มองไปโต๊ะข้างๆทำไมไม่เห็นมีใครมีปัญหาเรื่องที่วางเสื้อแบบป่านเลย เสื้อหล่นตลอด กลิ่นติดเสื้อด้วยแต่ไม่ได้สนใจแล้ว ตั้งใจกินอย่างเดียว พอกินเสร็จ จ่ายเงินเรียบร้อย กำลังจะเดินออก อ้อ!!! เก้าอี้สามารถยกเบาะขึ้นได้ เอาเสื้อกันหนาวของเราใส่ลงไปในนั้นได้ ไม่เหม็น ไม่หล่น งานนี้ไม่มีวัวผสมเลยครับ (ด้วยความหิวและมัวถ่ายรูปเลยไม่ได้สังเกตุโต๊ะอื่นเลยว่าเค้าเก็บเสื้อกันยังไง)
อ้อ เช็ทนี้ราคา 30,000 วอนนะครับ
พอเราทานกันเสร็จ ก็กลับห้องเพื่อเก็บของและเตรียมตัวสำหรับวันรุ่งขึ้นกัน
วันสุดท้ายนี่ถ่ายรูป แบบรัวๆ
ทริปนี้มีความสุขมากๆครับ ได้ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ดีใจ
ขอบคุณครับที่พาไป
*** กระทู้นี้ไม่ใช่ที่มีสาระนะครับ แค่เอารูปมาแบ่งกันดูเฉยๆถ้าผิดพลาดหรือหาสาระต้องขออภัย กระทู้นี้ไม่มีให้ครับ ***