เคยเห็นผีจริงๆ กันบ้างไหม ?
- - - ขอฟังเรื่องเล่าจากคนที่ - - -
เห็นและพบเจอจริงๆ เห็นกันชัดๆ แม้เขาจะมาเบลอๆ แต่ก็เห็นชัดว่าใช่, ได้ยินเสียงจากสิ่งลี้ลับ
โดนสัมผัสจากความว่างเปล่า, สิ่งของรอบข้างเปลี่ยนที่ ทั้งๆที่ไม่มีใครไปจัด สิ่งมีชีวิต ลมฟ้า อากาศ ไม่ได้กระทำ
- - - ไม่ขอฟังเรื่องเล่าจากคนที่ - - -
เป็นนักแต่งเรื่อง, นักกวีแต่งนิยาย, แค่รู้สึกคิดไปเองว่าเจอ, แค่รู้สึกว่าขนลุก(คุณอาจจะแค่ ปวดขี้ ก็เป็นได้)
คุณอาจจะโกหกคนอื่นได้ แต่คุณจะโกหกตัวเองไม่ได้ เพราะความจริงคุณรู้อยู่แก่ใจ
ฉะนั้น ผมไม่อยากให้คุณโกหกตัวเอง และผมก็ไม่อยากฟังเรื่องโกหกของคุณด้วย
เพราะเรื่องที่ผมจะเล่าคือเรื่องจริง 100% และมันไม่ได้น่ากลัวอะไร
อ่อผมมีข้อสงสัยนิดนึงขอถามก่อน ท่านจะตอบหรือไม่ตอบก็ได้
สิ่งที่สงสัย คือ "คนไม่มีซิกเซ้นส์ สามารถเห็นผีได้ไหม ?"
จะว่าผมไม่มีเซ้นส์เรื่องนี้ ก็ไม่เชิง ทำไมตอนเด็กถึงเห็นหล่ะ
จะว่าผมมีเซ้นส์เรื่องนี้ ก็ไม่ใช่ เพราะอยู่วัดชนบท วัดบ้านๆอะนะ
มีงานศพมากมาย ศพแล้วศพเล่า นั่งสมาธิที่เมรุ หรือจะวิ่งเล่นตามลานวัดยามค่ำคืนมืดๆ
นอนในโบส์ ที่มีอัตถิสถูป ผู้ล่วงลับวางอยู่มากมาย
ทั้งกลางวันและกลางคืน วัดคือบ้านผมเลย ตลอดระยะเวลา 15 ปี แต่ไม่เคยเห็น หรือพบเจอเลยสักครั้ง
มีแค่อารมณ์หลอนๆ คิดไปเอง หางตา หางจมูก ขนแขนขนคอลุก ขนตูดสะบัด จำพวกนี้ไม่นับ
ขอจบความสงสัยไว้แค่นี้หล่ะ









ก่อนจะเล่า: ต้องกล่าวถึงสถานที่ที่พบเห็นก่อน อยู่ในจังหวัดสตูล
จุดที่พบเห็นตามลิงค์ในแผนที่เลยครับ
https://goo.gl/maps/bipdxTdjWm42
เป็นลำคลองเล็กๆ ไม่ใช่ธารน้ำสายหลัก
พบเจอในช่วงยุคประมาณ พศ.2536-2537 โดยประมาณ
แถวบ้านผม เรียกได้เลยว่ากันดารมาก มีพร้อมทุกอย่าง ยกเว้นความเจริญ
เสาไฟฟ้า และสะพานข้ามคลองยังเป็นไม้ท่อน ไม้ซุงผ่าซีกอยู่เลย
เป็นหมู่บ้านที่พึ่งบุกเบิกด้วยพ่อเฒ่า พ่อแก่ ของผมเอง บุกเบิกก่อนผมเกิดไม่น่าจะเกิน 20 ปี
บรรยากาศยังคงเป็นธรรมชาติ ป่าเขา ลำเนาไพร บ้านเรือนก็ห่างๆกัน หมู่บ้านจะเข้าลึกไปกลางหุบเขา
พี่สาวผมเคยเห็นหมีคนด้วย คนในระแวกนั้นก็เคยเห็นเสือสมิงด้วย
ซึ่งผมไม่เคยเห็น ผมไม่เชื่อ เลยไม่ขอเอามาเล่า โอเคร จบนะ จบนะ จบ
เริ่มเล่า: ตอนนั้นผมยังเด็กมาก อายุประมาณ 4-5 ขวบ
คืนหนึ่ง ในคืนเดือนหงาย ท้องฟ้าเปิด หลังจากฝนหยุดตกไปสักพักใหญ่ๆ
ลมหนาวเย็น เย็นยะเยือก กระเสือ.กสัน
เย็นฉับพลัน หวั่นวิตก น่าใจหาย
หวั่นความรัก จะพังยับ และกลับกลาย
หวั่นเธอปัน ใจกาย ให้เขาครอง
อ่าวโทษๆ..... เข้าเรื่องต่อ
บรรยากาศในตอนนั้น ช่างหนาวเหน็บ ลมเย็นยะเยือก บนบ้านไม้ยกพื้นสูง
ตอนนั้นประมาณ 5 ทุ่ม ผมหลับแล้ว พี่สาวทั้งสองคน ก็หลับแล้ว จบ..............
อ่อโทษๆ
แม่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ผู้เป็นมารดา https://www.facebook.com/Paphitchaya.SE.Satun ยังไม่เข้านอน
เพราะแกต้องเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือในการทำขนมจะไปขายตอนเช้าตรู่
จำไม่ได้ว่าแม่ไปทำอะไรที่คลองตรงสะพานไม้ผุๆนั่น
ผมยังหลับอยู่นะ หลับไปเรื่อยๆ หลับไปยาวๆ หลับไปลึกๆ ดันตกใจสะดุ้งตื่น!!!
เพราะได้ยินเสียงบันไดลั่นเอี๊ยด แอด เอี๊ยดแอดๆ ทันใดนั้น!!!
ก็ได้ยินเสียงเปิดประตูดังปั้ง!!! ประตูนั้นเป็นประตูไม้แข็งและหนา เป็นประตู แบบ 2 บาน
ผมสดุ้งและสั่นกลัว เพราะเห็นเงาบางอย่าง กำลังเดินขึ้นบ้านมา ทันใดนั้นเอง!!!!
อ่อๆ โทษๆ แม่ผมเองหล่ะ
แม่เดินขึ้นบ้านมาพร้อมกับพี่สาว ไอ่กระผมก็งัวเงียไง เพราะยังเด็กน้อยอยู่อะนะ แม่เดินเข้ามาหาผม และบอกให้เงียบๆ
คือไม่ต้องส่องกระจกเลย แต่จำสีหน้าตัวเองได้เลย จำได้ว่ามึนมาก ทั้งมึน ทั้งงง ทั้งง่วง
เดินลงจากบ้านไม่ใส่รองเท้า ไปอย่างเงียบๆ มีเสียงนกกาเหว่า เสียงร้องดังก้องมาจนส้นต.รีนเขาที่ไหนสักที่
แม่พูดเบาๆว่า ห้ามถาม ห้ามพูดอะไรเด็ดขาด ไอ่กระผมก็งัวเงียมาก ไม่เข้าใจทำไมแม่ถึงจูงมือพาเดินไปที่สะพานดึกๆ
แล้วก็พูดย้ำๆซ้ำๆ ว่าให้เงียบๆอยู๋นั่นหล่ะ ทีกบ ทีเขียด ทีจิ้งหรีด เรไร ทำไมแม่ไม่ไปขู่มันอ่ะ มาขู่ผมให้เงียบทำไม
คุณเอ้ยแค่บรรยากาศยามค่ำคืนกลางหุบเขาอันอ้างว้างก็เงียบพออยู่แล้ว
เดี่ยวๆๆๆๆ หยุดเรื่องแปปนึงคือสงสัยว่า ทำไมบรรยากาศรอบตัวเราตอนนั้นมันเงียบกริบ
แต่ทำไมตามสันเขามีเสียงลิง เสียงนกร้องกันให้ระงม หรือว่าแม่เราจะไปขู่เขียด กบ แถวนั้นให้เงียบไว้ก่อนแล้วจริงๆ
พอไปถึงสะพานไม้ข้ามคลอง แม่หยุดเดิน และทำปากจู๋ แล้วชี้ปากไป
ให้มองบางอย่างไปที่ลำคลอง ผมนี่อึ้งเลย สิ่งที่เห็นก็คือ!!!
ความมืด ที่มีอะไรบางอย่างขาวๆสลัวๆ น่าจะเป็นผู้หญิงตัวสีขาวๆ ผมยาวลงไปในน้ำ
ลำตัวเลือนราง แต่พอจะดูออกว่า รูปแบบของรูปร่างเป็นเหมือนคน
หัวทื่อๆ รูปทรงคล้ายๆสามเหลี่ยมด้านทื่อ มีก้างปลาอยู่ในมือ
เขากำลังหวีผมอยู่ ด้วยก้างปลา มองไปสักพักใหญ่ๆ เขาเริ่มหันมาช้าๆ ในตาแดงโบ่ เขาเริ่มหันมาเรื่อยๆ
อารมณ์ของแม่ตอนนั้น น่าจะรู้ว่า ชักจะไม่ดีละ แม่ก็รีบพาผมก้มหัวลงต่ำ และเดินเร็วๆ อย่างเงียบๆ กลับขึ้นบ้าน
คำตอบแรกของผมมาละ ว่าพี่สาวไปไหนกับแม่ ในตอนดึกๆดื่นๆ
ด้วยความกลัว ใจตอนนั้นหวิวๆมาก บทสนทนา จึงเกิดขึ้น
ผม: คืออะไรอะแม่
แม่: ผีพรายไง(พรายน้ำ)
ผม: เขาจะขึ้นมาหลอกเราได้ป่าว
แม่: ไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้ใส่ร้องเท้า เท้าเขานิ่มมาก ก้าวย่างบนหินกรวดไม่ได้ เขาจะเจ็บ
ผม: ตรงโขดหินนั่นลูกไปเล่นน้ำกับเพื่อนๆ ประจำ ทำไมเขามาอยู่ตรงนั้นได้
แม่: น้ำลำธารเราเป็นน้ำที่ไหลมาจากตีนเขา ไม่ได้ผ่านบ้านเรือนใครเลย เป็นน้ำที่สะอาด เขาเลยอยู่ได้
ผม: แล้วทำไมแม่ต้องชี้กับปาก
แม่: ของแบบนี้ห้ามชี้ด้วยนิ้ว ไม่งั้นนิ้วจะงอ เหมือนที่เขาห้ามชี้รุ้งเจ็ดสี มณีเจ็ดแสงด้วยนิ้วไง
คือจังหวะนั้นนะ แม่พูดอะไรกุเชื่อหมดอ่ะ เชื่อมาจนวันนี้ด้วย
===============================================
หลังเหตุการณ์นั้น จนถึงปัจจุบัน ผมก็ไม่เคยพบเคยเห็นอีกเลย
ในส่วนที่แค่รู้สึก ที่มีเป็นร้อยเป็นพัน เหตุการณ์ ที่สัมผัสด้วยจิต ด้วยบรรยากาศ
ผมจะไม่เอามานับรวม เพราะผมคิดว่า นั่นคือความกลัว และความหวาดระแวง
ที่เราคิด รู้สึก และสร้างมันขึ้นมาเพื่อหลอกตัวเอง แบบไม่รู้ตัว
หลังจากนั้นเป็นต้นมา คำว่าสิ่งลี้ลับ ผมเชื่อว่ามีอยู่จริง
จะขี้ จะฉี่ จะเยี่ยว ข้างทาง ข้างต้นไม้ จะก้าวย่าง ไปตรงไหน จะทำอะไรดี หรือ ไม่ดี
อย่างแรกที่ผมทำก่อนเลย คือ ขอขมา ขออภัย หรือ กล่าวขอโทษ
===============================================
เพื่อนๆหล่ะครับ
ประสบการณ์ครั้งแรกของการเห็นผี วิญญาณ ฯลฯ เป็นแบบไหน ยังไงกันบ้างครับ
มาเล่าประสบการณ์เห็นผีจริงๆ ครั้งแรกกันหน่อย
เห็นและพบเจอจริงๆ เห็นกันชัดๆ แม้เขาจะมาเบลอๆ แต่ก็เห็นชัดว่าใช่, ได้ยินเสียงจากสิ่งลี้ลับ
โดนสัมผัสจากความว่างเปล่า, สิ่งของรอบข้างเปลี่ยนที่ ทั้งๆที่ไม่มีใครไปจัด สิ่งมีชีวิต ลมฟ้า อากาศ ไม่ได้กระทำ
- - - ไม่ขอฟังเรื่องเล่าจากคนที่ - - -
เป็นนักแต่งเรื่อง, นักกวีแต่งนิยาย, แค่รู้สึกคิดไปเองว่าเจอ, แค่รู้สึกว่าขนลุก(คุณอาจจะแค่ ปวดขี้ ก็เป็นได้)
คุณอาจจะโกหกคนอื่นได้ แต่คุณจะโกหกตัวเองไม่ได้ เพราะความจริงคุณรู้อยู่แก่ใจ
ฉะนั้น ผมไม่อยากให้คุณโกหกตัวเอง และผมก็ไม่อยากฟังเรื่องโกหกของคุณด้วย
เพราะเรื่องที่ผมจะเล่าคือเรื่องจริง 100% และมันไม่ได้น่ากลัวอะไร
อ่อผมมีข้อสงสัยนิดนึงขอถามก่อน ท่านจะตอบหรือไม่ตอบก็ได้
สิ่งที่สงสัย คือ "คนไม่มีซิกเซ้นส์ สามารถเห็นผีได้ไหม ?"
จะว่าผมไม่มีเซ้นส์เรื่องนี้ ก็ไม่เชิง ทำไมตอนเด็กถึงเห็นหล่ะ
จะว่าผมมีเซ้นส์เรื่องนี้ ก็ไม่ใช่ เพราะอยู่วัดชนบท วัดบ้านๆอะนะ
มีงานศพมากมาย ศพแล้วศพเล่า นั่งสมาธิที่เมรุ หรือจะวิ่งเล่นตามลานวัดยามค่ำคืนมืดๆ
นอนในโบส์ ที่มีอัตถิสถูป ผู้ล่วงลับวางอยู่มากมาย
ทั้งกลางวันและกลางคืน วัดคือบ้านผมเลย ตลอดระยะเวลา 15 ปี แต่ไม่เคยเห็น หรือพบเจอเลยสักครั้ง
มีแค่อารมณ์หลอนๆ คิดไปเอง หางตา หางจมูก ขนแขนขนคอลุก ขนตูดสะบัด จำพวกนี้ไม่นับ
ขอจบความสงสัยไว้แค่นี้หล่ะ
ก่อนจะเล่า: ต้องกล่าวถึงสถานที่ที่พบเห็นก่อน อยู่ในจังหวัดสตูล
จุดที่พบเห็นตามลิงค์ในแผนที่เลยครับ https://goo.gl/maps/bipdxTdjWm42
เป็นลำคลองเล็กๆ ไม่ใช่ธารน้ำสายหลัก
พบเจอในช่วงยุคประมาณ พศ.2536-2537 โดยประมาณ
แถวบ้านผม เรียกได้เลยว่ากันดารมาก มีพร้อมทุกอย่าง ยกเว้นความเจริญ
เสาไฟฟ้า และสะพานข้ามคลองยังเป็นไม้ท่อน ไม้ซุงผ่าซีกอยู่เลย
เป็นหมู่บ้านที่พึ่งบุกเบิกด้วยพ่อเฒ่า พ่อแก่ ของผมเอง บุกเบิกก่อนผมเกิดไม่น่าจะเกิน 20 ปี
บรรยากาศยังคงเป็นธรรมชาติ ป่าเขา ลำเนาไพร บ้านเรือนก็ห่างๆกัน หมู่บ้านจะเข้าลึกไปกลางหุบเขา
พี่สาวผมเคยเห็นหมีคนด้วย คนในระแวกนั้นก็เคยเห็นเสือสมิงด้วย
ซึ่งผมไม่เคยเห็น ผมไม่เชื่อ เลยไม่ขอเอามาเล่า โอเคร จบนะ จบนะ จบ
เริ่มเล่า: ตอนนั้นผมยังเด็กมาก อายุประมาณ 4-5 ขวบ
คืนหนึ่ง ในคืนเดือนหงาย ท้องฟ้าเปิด หลังจากฝนหยุดตกไปสักพักใหญ่ๆ
ลมหนาวเย็น เย็นยะเยือก กระเสือ.กสัน
เย็นฉับพลัน หวั่นวิตก น่าใจหาย
หวั่นความรัก จะพังยับ และกลับกลาย
หวั่นเธอปัน ใจกาย ให้เขาครอง
อ่าวโทษๆ..... เข้าเรื่องต่อ
บรรยากาศในตอนนั้น ช่างหนาวเหน็บ ลมเย็นยะเยือก บนบ้านไม้ยกพื้นสูง
ตอนนั้นประมาณ 5 ทุ่ม ผมหลับแล้ว พี่สาวทั้งสองคน ก็หลับแล้ว จบ..............
อ่อโทษๆ
แม่[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ยังไม่เข้านอน
เพราะแกต้องเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือในการทำขนมจะไปขายตอนเช้าตรู่
จำไม่ได้ว่าแม่ไปทำอะไรที่คลองตรงสะพานไม้ผุๆนั่น
ผมยังหลับอยู่นะ หลับไปเรื่อยๆ หลับไปยาวๆ หลับไปลึกๆ ดันตกใจสะดุ้งตื่น!!!
เพราะได้ยินเสียงบันไดลั่นเอี๊ยด แอด เอี๊ยดแอดๆ ทันใดนั้น!!!
ก็ได้ยินเสียงเปิดประตูดังปั้ง!!! ประตูนั้นเป็นประตูไม้แข็งและหนา เป็นประตู แบบ 2 บาน
ผมสดุ้งและสั่นกลัว เพราะเห็นเงาบางอย่าง กำลังเดินขึ้นบ้านมา ทันใดนั้นเอง!!!!
อ่อๆ โทษๆ แม่ผมเองหล่ะ
แม่เดินขึ้นบ้านมาพร้อมกับพี่สาว ไอ่กระผมก็งัวเงียไง เพราะยังเด็กน้อยอยู่อะนะ แม่เดินเข้ามาหาผม และบอกให้เงียบๆ
คือไม่ต้องส่องกระจกเลย แต่จำสีหน้าตัวเองได้เลย จำได้ว่ามึนมาก ทั้งมึน ทั้งงง ทั้งง่วง
เดินลงจากบ้านไม่ใส่รองเท้า ไปอย่างเงียบๆ มีเสียงนกกาเหว่า เสียงร้องดังก้องมาจนส้นต.รีนเขาที่ไหนสักที่
แม่พูดเบาๆว่า ห้ามถาม ห้ามพูดอะไรเด็ดขาด ไอ่กระผมก็งัวเงียมาก ไม่เข้าใจทำไมแม่ถึงจูงมือพาเดินไปที่สะพานดึกๆ
แล้วก็พูดย้ำๆซ้ำๆ ว่าให้เงียบๆอยู๋นั่นหล่ะ ทีกบ ทีเขียด ทีจิ้งหรีด เรไร ทำไมแม่ไม่ไปขู่มันอ่ะ มาขู่ผมให้เงียบทำไม
คุณเอ้ยแค่บรรยากาศยามค่ำคืนกลางหุบเขาอันอ้างว้างก็เงียบพออยู่แล้ว
เดี่ยวๆๆๆๆ หยุดเรื่องแปปนึงคือสงสัยว่า ทำไมบรรยากาศรอบตัวเราตอนนั้นมันเงียบกริบ
แต่ทำไมตามสันเขามีเสียงลิง เสียงนกร้องกันให้ระงม หรือว่าแม่เราจะไปขู่เขียด กบ แถวนั้นให้เงียบไว้ก่อนแล้วจริงๆ
พอไปถึงสะพานไม้ข้ามคลอง แม่หยุดเดิน และทำปากจู๋ แล้วชี้ปากไป
ให้มองบางอย่างไปที่ลำคลอง ผมนี่อึ้งเลย สิ่งที่เห็นก็คือ!!!
ความมืด ที่มีอะไรบางอย่างขาวๆสลัวๆ น่าจะเป็นผู้หญิงตัวสีขาวๆ ผมยาวลงไปในน้ำ
ลำตัวเลือนราง แต่พอจะดูออกว่า รูปแบบของรูปร่างเป็นเหมือนคน
หัวทื่อๆ รูปทรงคล้ายๆสามเหลี่ยมด้านทื่อ มีก้างปลาอยู่ในมือ
เขากำลังหวีผมอยู่ ด้วยก้างปลา มองไปสักพักใหญ่ๆ เขาเริ่มหันมาช้าๆ ในตาแดงโบ่ เขาเริ่มหันมาเรื่อยๆ
อารมณ์ของแม่ตอนนั้น น่าจะรู้ว่า ชักจะไม่ดีละ แม่ก็รีบพาผมก้มหัวลงต่ำ และเดินเร็วๆ อย่างเงียบๆ กลับขึ้นบ้าน
คำตอบแรกของผมมาละ ว่าพี่สาวไปไหนกับแม่ ในตอนดึกๆดื่นๆ
ด้วยความกลัว ใจตอนนั้นหวิวๆมาก บทสนทนา จึงเกิดขึ้น
ผม: คืออะไรอะแม่
แม่: ผีพรายไง(พรายน้ำ)
ผม: เขาจะขึ้นมาหลอกเราได้ป่าว
แม่: ไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้ใส่ร้องเท้า เท้าเขานิ่มมาก ก้าวย่างบนหินกรวดไม่ได้ เขาจะเจ็บ
ผม: ตรงโขดหินนั่นลูกไปเล่นน้ำกับเพื่อนๆ ประจำ ทำไมเขามาอยู่ตรงนั้นได้
แม่: น้ำลำธารเราเป็นน้ำที่ไหลมาจากตีนเขา ไม่ได้ผ่านบ้านเรือนใครเลย เป็นน้ำที่สะอาด เขาเลยอยู่ได้
ผม: แล้วทำไมแม่ต้องชี้กับปาก
แม่: ของแบบนี้ห้ามชี้ด้วยนิ้ว ไม่งั้นนิ้วจะงอ เหมือนที่เขาห้ามชี้รุ้งเจ็ดสี มณีเจ็ดแสงด้วยนิ้วไง
คือจังหวะนั้นนะ แม่พูดอะไรกุเชื่อหมดอ่ะ เชื่อมาจนวันนี้ด้วย
ในส่วนที่แค่รู้สึก ที่มีเป็นร้อยเป็นพัน เหตุการณ์ ที่สัมผัสด้วยจิต ด้วยบรรยากาศ
ผมจะไม่เอามานับรวม เพราะผมคิดว่า นั่นคือความกลัว และความหวาดระแวง
ที่เราคิด รู้สึก และสร้างมันขึ้นมาเพื่อหลอกตัวเอง แบบไม่รู้ตัว
หลังจากนั้นเป็นต้นมา คำว่าสิ่งลี้ลับ ผมเชื่อว่ามีอยู่จริง
จะขี้ จะฉี่ จะเยี่ยว ข้างทาง ข้างต้นไม้ จะก้าวย่าง ไปตรงไหน จะทำอะไรดี หรือ ไม่ดี
อย่างแรกที่ผมทำก่อนเลย คือ ขอขมา ขออภัย หรือ กล่าวขอโทษ
เพื่อนๆหล่ะครับ
ประสบการณ์ครั้งแรกของการเห็นผี วิญญาณ ฯลฯ เป็นแบบไหน ยังไงกันบ้างครับ