เรื่องมีอยู่ว่า..มีการซื้อและขายบ้านที่ จ.พระนครศรีอยุธยาเกิดขึ้น
ผู้ซื้อ..เป็นข้าราชการอาวุโส ยังรับราชการอยู่ และไม่ได้อยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาด้วย
ผู้ขาย..เป็นพนักงานบริษัทฯ
ผู้ซื้อทำเรื่องขอกู้เงินจำนวนหนึ่ง.. โดยต้องการอัตราดอกเบี้ยพิเศษที่ทางรัฐบาลจัดให้
นัดโอนวันที่ 30 พ.ย. 58 (ครั้งที่ 1)
พอถึงวันที่ 30 พ.ย. ผู้ซื้อต้องไปเซ็นต์ทำนิติกรรมที่ธอส. ผลปรากฏว่า
มีการตรวจเช็คว่าชื่อนี้เป็นบุคคลล้มละลายอยู่ที่จังหวัดหนึ่ง..
เพราะว่าในฐานข้อมูลไม่ได้มีหมายเลขบัตรประชาชน
ธอส. ขอเลื่อนนัดกับผู้ขายและธนาคารของผู้ขายในเช้าวันที่ 30 พ.ย. 58 นั่นเอง ประมาณเวลา 9.00 น.
แต่ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่จากธนาคารของผู้ขายได้ถึงสำนักงานที่ดินเขตวังน้อยเรียบร้อยแล้ว
การนัดโอนครั้งที่ 1 .. สรุปมีปัญหาต้องขอเลื่อน จนกว่า ผู้ซื้อจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง
ทำให้ผู้ซื้อต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ว่าไม่ใช่ตนเอง..จากศาลของจังหวัดดังกล่าวว่า
ผู้ซื้อ..นำหลักฐานความบริสุทธิ์ขอตัวเองส่งให้ธนาคารในวันที่ 4 ธ.ค.58
ทำการนัดโอนใหม่ ครั้งที่ 2 ในวันที่ 16 ธ.ค.58
เมื่อวาน วันที่ 15 ธ.ค. 58 เวลาประมาณ 17.50 น. ทางธอส. ได้โทรมาแจ้งขอเลื่อนการโอนอีกครั้ง
โดยให้เหตุผลว่า ..อัตราดอกเบี้ยพิเศษได้หมดวงเงินไปแล้ว...!!!
สรุปว่า..ธอส. สาขาพระนครศรีอยุธยา พวกคุณทำงานภาษาอะไร ใช้สมองคิดในการทำงานบ้างหรือเปล่า
ถึงได้ทำงานได้หยาบและชุ่ยมากขนาดนี้
ขอถามว่า..
1. วันที่ผู้ขอกู้ตกลงทำนิติกรรมกันธอส. ไม่มีการตรวจเช็คข้อมูลก่อนล่วงหน้าเลยเหรอ
2. หลังจากวันที่ 4 ธ.ค. เป็นต้นมาถึง 15 ธ.ค. ทาง ธอส คุณทำอะไรอยู่ พวกคุณทำงานไม่เป็นมืออาชีพเอาเลย
3. นี่ขนาดผู้ขอกู้เป็นข้าราชการนะ พวกคุณยังทำงานได้หยาบขนาดนี้
แล้วถ้าเป็นตาสีตาสา ที่จะต้องเดินเข้ามาไหว้พวกคุณเหมือนตัวอะไรซักอย่าง พวกคุณคงไม่หยาบยิ่งกว่านี้เลยเหรอ
4. ไม่ว่าจะเป็นผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย หรือ ลูกค้ารายอื่น ๆ พวกเค้าก็มีภาระและหน้าที่ที่จะต้องทำในชีวิตประจำวัน
ไม่ใช่รอให้พวกคุณมาเลื่อนนัด เพราะว่าต้องทำงาน ต้องลางาน ต้องมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
กรุณาให้หัวสมองทำงานบ้าง และ กรุณาทำงานให้ละเอียดกว่านี้ด้วย
กรุณาไปดูธนาคารเอกชนอื่นๆ ที่พวกเค้าทำงานแบบมืออาชีพบ้าง การขอกู้เงินใช้เวลา ประมาณ 3-5 วัน ก็รู้ผลแล้ว
ขออวยให้กับ..ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาพระนครศรีอยุธยา กับการทำงานที่หยาบและชุ่ยมาก!!
ผู้ซื้อ..เป็นข้าราชการอาวุโส ยังรับราชการอยู่ และไม่ได้อยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาด้วย
ผู้ขาย..เป็นพนักงานบริษัทฯ
ผู้ซื้อทำเรื่องขอกู้เงินจำนวนหนึ่ง.. โดยต้องการอัตราดอกเบี้ยพิเศษที่ทางรัฐบาลจัดให้
นัดโอนวันที่ 30 พ.ย. 58 (ครั้งที่ 1)
พอถึงวันที่ 30 พ.ย. ผู้ซื้อต้องไปเซ็นต์ทำนิติกรรมที่ธอส. ผลปรากฏว่า
มีการตรวจเช็คว่าชื่อนี้เป็นบุคคลล้มละลายอยู่ที่จังหวัดหนึ่ง..
เพราะว่าในฐานข้อมูลไม่ได้มีหมายเลขบัตรประชาชน
ธอส. ขอเลื่อนนัดกับผู้ขายและธนาคารของผู้ขายในเช้าวันที่ 30 พ.ย. 58 นั่นเอง ประมาณเวลา 9.00 น.
แต่ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่จากธนาคารของผู้ขายได้ถึงสำนักงานที่ดินเขตวังน้อยเรียบร้อยแล้ว
การนัดโอนครั้งที่ 1 .. สรุปมีปัญหาต้องขอเลื่อน จนกว่า ผู้ซื้อจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง
ทำให้ผู้ซื้อต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ว่าไม่ใช่ตนเอง..จากศาลของจังหวัดดังกล่าวว่า
ผู้ซื้อ..นำหลักฐานความบริสุทธิ์ขอตัวเองส่งให้ธนาคารในวันที่ 4 ธ.ค.58
ทำการนัดโอนใหม่ ครั้งที่ 2 ในวันที่ 16 ธ.ค.58
เมื่อวาน วันที่ 15 ธ.ค. 58 เวลาประมาณ 17.50 น. ทางธอส. ได้โทรมาแจ้งขอเลื่อนการโอนอีกครั้ง
โดยให้เหตุผลว่า ..อัตราดอกเบี้ยพิเศษได้หมดวงเงินไปแล้ว...!!!
สรุปว่า..ธอส. สาขาพระนครศรีอยุธยา พวกคุณทำงานภาษาอะไร ใช้สมองคิดในการทำงานบ้างหรือเปล่า
ถึงได้ทำงานได้หยาบและชุ่ยมากขนาดนี้
ขอถามว่า..
1. วันที่ผู้ขอกู้ตกลงทำนิติกรรมกันธอส. ไม่มีการตรวจเช็คข้อมูลก่อนล่วงหน้าเลยเหรอ
2. หลังจากวันที่ 4 ธ.ค. เป็นต้นมาถึง 15 ธ.ค. ทาง ธอส คุณทำอะไรอยู่ พวกคุณทำงานไม่เป็นมืออาชีพเอาเลย
3. นี่ขนาดผู้ขอกู้เป็นข้าราชการนะ พวกคุณยังทำงานได้หยาบขนาดนี้
แล้วถ้าเป็นตาสีตาสา ที่จะต้องเดินเข้ามาไหว้พวกคุณเหมือนตัวอะไรซักอย่าง พวกคุณคงไม่หยาบยิ่งกว่านี้เลยเหรอ
4. ไม่ว่าจะเป็นผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย หรือ ลูกค้ารายอื่น ๆ พวกเค้าก็มีภาระและหน้าที่ที่จะต้องทำในชีวิตประจำวัน
ไม่ใช่รอให้พวกคุณมาเลื่อนนัด เพราะว่าต้องทำงาน ต้องลางาน ต้องมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
กรุณาให้หัวสมองทำงานบ้าง และ กรุณาทำงานให้ละเอียดกว่านี้ด้วย
กรุณาไปดูธนาคารเอกชนอื่นๆ ที่พวกเค้าทำงานแบบมืออาชีพบ้าง การขอกู้เงินใช้เวลา ประมาณ 3-5 วัน ก็รู้ผลแล้ว