เคาะข้ามคืน4จีพุ่ง5หมื่นล้านผู้ประมูลร้องอยากซดหูฉลาม
มติชน (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558
4 บิ๊กโทรคมฯชิงดำ 4จี คลื่น 900
เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้จัดประมูล 4จี บนคลื่นความ ถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 2 ใบอนุญาต ขนาดใบอนุญาตละ 10 เมกะเฮิรตซ์ ผู้เข้าประมูลที่เดินทางมาเข้าประมูลเป็นรายแรกในเวลา 07.13 น. คือ บริษัท แจส โมบาย บรอดแบรนด์ จำกัด ในเครือบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) มีคณะเข้าร่วมประมูลเพียง 3 คน จากที่ กสทช.กำหนดไว้สูงสุดไม่เกิน 10 คน และเป็นที่น่าสังเกตว่า 1 ใน 3 ตัวแทนแจสฯไม่มีนายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าที่บริหารจัสมินเข้าร่วมประมูลเหมือนเมื่อครั้งการประมูล 4จีคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ ต่อมาเวลา 07.15 น. บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด ในเครือบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เดินทางมาเป็นบริษัทที่ 2 นำทีมโดยนายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารดีแทค มีพนักงานบริษัทร่วมมาด้วยราว 25-30 คน ส่งเสียงเชียร์และติดสติ๊กเกอร์รูปหัวใจที่เสื้อผู้บริหาร เพื่อให้กำลังใจผู้บริหารทันทีที่ลงจากรถตลอดจนเดินเข้าอาคารอำนวยการ กสทช.ซึ่งเป็นสถานที่ประมูล
เอไอเอสถือฤกษ์ใส่ชมพู-ฟ้า
เวลา 07.42 น. บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ในเครือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส เดินทางมาถึงเป็นรายที่ 3 โดยมีนายวิทิต ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการเอไอเอสเป็นผู้นำทีมในชุดเสื้อสีชมพูและฟ้าเหมือนกันทุกคนเพื่อใช้เป็นสีฤกษ์มงคล และรายสุดท้าย บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ในเครือบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มาถึงเมื่อเวลา 07.53 น. ก่อนเวลาที่ กสทช.กำหนดเวลาสิ้นสุดการลงทะเบียนผู้เข้าประมูลในเวลา 07.55 น. โดยครั้งนี้ไม่ปรากฏนายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหารบริษัททรูคอร์ปอเรชั่นเดินทางมา กระทั่งเวลา 08.25 น. เวลาสิ้นสุดพิธีเปิดอย่างเป็นทางการและส่งผู้เข้าประมูลเข้าห้องประมูล จึงเห็นนายศุภชัยปรากฏตัวเข้าร่วมประมูลครั้งนี้ด้วย
นายนฤพนธ์ รัตนสมาหาร ผู้อำนวยการอาวุโส สายรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวก่อนเข้าประมูลว่า ดีแทคมีความมั่นใจเต็ม 100% ในการประมูลครั้งนี้ อีกทั้งได้เตรียมพร้อมนำเสื้อผ้ามาเปลี่ยนในระหว่างการประมูลถึง 10 ชุด ส่วนการที่มีพนักงานมาติดสติ๊กเกอร์รูปหัวใจที่เสื้อของผู้บริหารนั้น สื่อถึงหัวใจของพนักงานดีแทคทุกคน
นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการเข้าประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ การเข้าประมูลทางผู้บริหารขอมาในรูปแบบชุดชมพูและฟ้า ส่วนรายละเอียดที่เกี่ยวกับการประมูลขอยังไม่เปิดเผยแต่อย่างใด
กสทช. ชี้ผู้ชนะได้คลื่นชุดเดียว
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กสทช. และประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) กล่าวว่า บรรยากาศการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์เป็นไปด้วยความคึกคัก ผู้ประกอบการทั้ง 4 รายได้แก่ แจส โมบาย, ดีแทค ไตรเน็ต, แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค และทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น ได้เดินทางมาตั้งแต่ช่วงเช้าเพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมพิธีเปิดการประมูลและจับสลากเลือกห้องประมูล การประมูลรอบแรกได้เริ่มขึ้นในเวลา 09.00 น. ส่วนขั้นตอนการประมูลในวันนี้ กทค.กำหนดให้ใช้วิธีการประมูลในรูปแบบของการเปิดประมูลชุดคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ พร้อมกันทั้ง 2 ชุดคลื่นความถี่ และดำเนินการประมูลหลายรอบ ราคาประมูลในแต่ละรอบจะเพิ่มขึ้นตามลำดับ ผู้เข้าร่วมการประมูลจะเสนอราคาสำหรับชุดคลื่นความถี่ที่ต้องการจะประมูล ผู้เข้าร่วมประมูลมีสิทธิจะเสนอราคาชุดคลื่นความถี่ชุดใดชุดหนึ่งก็ได้ แต่มีโอกาสเป็นผู้ชนะการประมูลคลื่นความถี่ได้เพียงชุดเดียว การประมูลแต่ละรอบผู้เข้าร่วมการประมูลจะมีเวลา 15 นาที ในการเสนอราคา
ให้เคาะเพิ่มทีละ 644 ล้าน
พ.อ.เศรษฐพงค์กล่าวว่า สำหรับการประมูลรอบแรกผู้เข้าร่วมการประมูลทุกรายจะต้องเสนอราคาในชุดคลื่นความถี่ชุดใดชุดหนึ่งที่ราคา 13,508 ล้านบาท จากนั้นหากเสนอราคาจะต้องเสนอราคาครั้งละ 5% ของราคาขั้นต่ำ 12,864 ล้านบาท คิดเป็นเงินเพิ่มขึ้นครั้งละ 644 ล้านบาท แต่เมื่อราคาถึง 16,080 ล้านบาท การเสนอราคาจะปรับเป็นเสนอราคาครั้งละ 2.5% ของราคาขั้นต่ำ 12,864 ล้านบาท คิดเป็นเงินเพิ่มขึ้นครั้งละ 322 ล้านบาท จากนั้นโปรแกรมในการประมูลจะประมวลผล และจะประกาศผลการประมูลของรอบนั้นๆ ภายในเวลา 5 นาทีก่อนการประมูลรอบต่อไปจะเริ่มขึ้น รวมแล้วจะใช้เวลาแต่ละรอบประมาณ 20 นาที การประมูลจะเริ่มตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น. ของวันที่ 15 ธันวาคม 2558 จากนั้นจะพักการประมูลตั้งแต่ 21.00-24.00 น. และจะประมูลต่อตั้งแต่เวลา 24.00-06.00 น. จากนั้นจะพักการประมูลตั้งแต่เวลา 06.00-09.00 น. รอบการประมูลจะวนเช่นนี้จนกว่าการประมูลจะสิ้นสุดลง การประมูลผู้เข้าร่วมประมูลมีสิทธิไม่เสนอราคา (Waiver) ได้ 3 ครั้งตลอดระยะเวลาการประมูล โดยสามารถใช้สิทธิได้ 2 วิธี คือ 1.แจ้งใช้สิทธิ และ 2.ไม่เสนอราคาตามระยะเวลาที่กำหนด
เปิดให้สู้ 2 คืนหรืออาจมีต่อ
พ.อ.เศรษฐพงค์กล่าวว่า การประมูลแต่ละล็อตหรือแต่ละชุดคลื่นความถี่ จะสิ้นสุดลงในรอบการประมูลช่วงสุดท้าย เมื่อไม่มีผู้เข้าร่วมการประมูลรายใดเสนอราคาอีก และเมื่อการประมูลทุกล็อตสิ้นสุดลง จะถือว่าสิ้นสุดขั้นตอนการประมูลชุดคลื่นความถี่ โดยภายหลังการประมูลเสร็จสิ้นจะมีการประกาศผลการประมูลภายใน 7 วัน โดย กสทช.จะออกใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ และใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สามให้แก่ผู้เข้าร่วมการประมูล ภายหลังจากผู้เข้าร่วมการประมูลได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการดำเนินการก่อนรับใบอนุญาตอย่างครบถ้วน ถูกต้องภายใน 90 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้งผลการประมูล
พ.อ.เศรษฐพงค์กล่าวว่า กรณีมีคนถามมากว่าจะแข่งขันกันรุนแรงหรือไม่ ส่วนตัวไม่สามารถตอบได้ แต่คลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ กับ 900 เมกะเฮิรตซ์ มีคุณสมบัติต่างกันมาก จึงไม่ใช่สินค้าตัวเดียวกัน คลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ เป็นคลื่นความถี่ที่มีความนิยมสูงสุดสำหรับ 4จี ในทั่วโลก ส่วนคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ นิยมนำมาใช้งานสำหรับ 3จี และกำลังเปลี่ยนผ่าน 4จี ทีละน้อย ตามหลักผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ควรมีทั้ง 2 คลื่น เพราะความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ จะใช้บริการเสียง (วอยซ์) ไม่เต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากวอยซ์เมื่อใช้งานจะโอนไปยัง 3จี อีกทั้งคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ ยังเป็นคลื่นที่สามารถขยายโครงข่ายได้ มีความครอบคลุมมากกว่าคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ กสทช.เตรียมการประมูลไว้ทั้งสิ้น 2 คืน แต่หากการประมูลยืดเยื้อ ทาง กสทช.จะพิจารณาอีกครั้ง แต่จะไม่เคลื่อนย้ายผู้เข้าประมูลออกนอกสถานที่แน่นอน
ยันค่าบริการไม่สูงแน่นอน
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า หลังเสร็จสิ้นการประมูล ทาง กสทช.จะรับรองผลการประมูลทันทีใน 1 สัปดาห์ ส่วน หากการประมูลมีราคาสูง ขอให้มั่นใจได้ว่าราคาค่าใช้บริการจะไม่สูงตามไปด้วย เพราะได้กำกับเพดานราคาค่าใช้บริการไว้แล้วว่าราคาบริการเสียงต้องไม่เกิน 72 สตางค์ต่อนาที และค่าบริการข้อมูล (ดาต้า) ต้องไม่เกิน 26 สตางค์ต่อเมกะเฮิรตซ์ ส่วนการประมูลครั้งนี้ขอฟันธงว่าจะมีการแข่งขันด้านราคากันอย่างดุเดือดแน่นอน
ต่อมาเวลา 15.00 น. นายฐากรกล่าวว่า ขณะนี้การเคาะราคาประมูลผ่านไปแล้วเป็นรอบที่ 18 มียอดวงเงินรวม 40,540 ล้านบาท ผู้เข้าประมูลยังอยู่ครบ 4 ราย จากผลที่ออกมาส่งผลให้ กสทช.ประเมินสถานการณ์ไม่ถูกว่าการประมูลจะยาวนานเพียงใด เพราะยังเคาะราคากันต่อเนื่อง ต่างจากการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ เมื่อผ่านการเสนอราคาในรอบที่ 7 มีผู้เข้าประมูลถอนตัวไม่สู้ราคาแล้ว 1 ราย เบื้องต้น กสทช.ประเมินว่าช่วงแรกผู้เข้าประมูลทุกรายน่าจะรีบเคาะราคาให้ไปเท่าต้นทุนมูลค่าคลื่นความถี่จากการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 2,692 ล้านบาทต่อ 1 เมกะเฮิรตซ์ หรือหากนำมาเทียบกับใบอนุญาตคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ มีปริมาณใบอนุญาตละ 10 เมกะเฮิรตซ์ จะอยู่ที่ราวใบอนุญาตละ 27,000 ล้านบาท หากเลยมูลค่าดังกล่าวต้องมาดูอีกครั้งว่าจะมีความเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป
จบรอบ 36 ราคาเกินครึ่งแสนล.
ต่อมาเมื่อเวลา 20.00 น. รอบที่ 33 ใบอนุญาตที่ 1 ราคาอยู่ที่ 25,100 ล้านบาท และใบอนุญาตที่ 2 ราคาอยู่ที่ 25,100 ล้านบาท รวมราคาทั้ง 2 ใบอนุญาต อยู่ที่ 50,200 ล้านบาท กระทั่งเวลา 21.00 น. หรือครบระยะเวลา 12 ชั่วโมงของการประมูล ถือเป็นการสิ้นสุดการประมูลในรอบที่ 36 ใบอนุญาตที่ 1 ราคาอยู่ที่ 26,066 ล้านบาท และใบอนุญาตที่ 2 ราคาอยู่ที่ 26,066 ล้านบาท รวมราคาทั้ง 2 ใบอนุญาตอยู่ที่ 52,132 ล้านบาท โดยราคาต่อใบอนุญาตมีมูลค่าเพิ่มขึ้นประมาณ 162% จากราคาตั้งต้นที่ 12,864 บาทต่อใบอนุญาต หลังจากนี้จะพักการประมูล 3 ชั่วโมง เพื่อให้ผู้เข้าร่วมการประมูลพักผ่อน จนถึงเวลา 24.00 น. จึงจะเริ่มประมูลต่อในรอบที่ 37
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า การประมูลจบรอบที่ 36 ราคาอยู่ที่ 52,132 ล้านบาท ถือเป็นการแข่งขันที่สูงมากและคาดว่าน่าจะสูงกว่าการประมูลคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ คงคาดเดายากว่าจะจบลงเมื่อไร แต่คาดว่าหากอนุญาตขึ้นสูงถึงใบละ 28,000-30,000 ล้านบาท จะเริ่มมีการชะลอการเคาะ และผู้ประกอบการเริ่มใช้เวลาในการตัดสินมากขึ้น เนื่องจากเริ่มถึงจุดคุ้มทุนของธุรกิจ
ส่วนผู้ร่วมประมูลมีการร้องขอเมนูหูฉลามจากร้านอาหารจีน "เชฟเมน" ซึ่งทาง กสทช.ไม่สามารถจัดให้ได้เพราะราคาสูงเกินไป ประมาณโต๊ะละ 60,000 บาท แต่หากผู้ประมูลยินดีที่จะจ่ายเองทาง กสทช.ก็ยินดีที่จะจัดให้ ขณะนี้ผู้ประมูลทั้ง 4 ราย ยังอยู่ในการประมูล ไม่มีใครออกจากการประมูล
ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์มติชน (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558 (หน้า 1, 11)
เคาะข้ามคืน 4จี พุ่ง 5 หมื่นล้าน ผู้ประมูลร้องอยากซดหูฉลาม
เคาะข้ามคืน4จีพุ่ง5หมื่นล้านผู้ประมูลร้องอยากซดหูฉลาม
มติชน (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558
4 บิ๊กโทรคมฯชิงดำ 4จี คลื่น 900
เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้จัดประมูล 4จี บนคลื่นความ ถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 2 ใบอนุญาต ขนาดใบอนุญาตละ 10 เมกะเฮิรตซ์ ผู้เข้าประมูลที่เดินทางมาเข้าประมูลเป็นรายแรกในเวลา 07.13 น. คือ บริษัท แจส โมบาย บรอดแบรนด์ จำกัด ในเครือบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) มีคณะเข้าร่วมประมูลเพียง 3 คน จากที่ กสทช.กำหนดไว้สูงสุดไม่เกิน 10 คน และเป็นที่น่าสังเกตว่า 1 ใน 3 ตัวแทนแจสฯไม่มีนายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าที่บริหารจัสมินเข้าร่วมประมูลเหมือนเมื่อครั้งการประมูล 4จีคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ ต่อมาเวลา 07.15 น. บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด ในเครือบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เดินทางมาเป็นบริษัทที่ 2 นำทีมโดยนายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารดีแทค มีพนักงานบริษัทร่วมมาด้วยราว 25-30 คน ส่งเสียงเชียร์และติดสติ๊กเกอร์รูปหัวใจที่เสื้อผู้บริหาร เพื่อให้กำลังใจผู้บริหารทันทีที่ลงจากรถตลอดจนเดินเข้าอาคารอำนวยการ กสทช.ซึ่งเป็นสถานที่ประมูล
เอไอเอสถือฤกษ์ใส่ชมพู-ฟ้า
เวลา 07.42 น. บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ในเครือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส เดินทางมาถึงเป็นรายที่ 3 โดยมีนายวิทิต ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการเอไอเอสเป็นผู้นำทีมในชุดเสื้อสีชมพูและฟ้าเหมือนกันทุกคนเพื่อใช้เป็นสีฤกษ์มงคล และรายสุดท้าย บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ในเครือบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มาถึงเมื่อเวลา 07.53 น. ก่อนเวลาที่ กสทช.กำหนดเวลาสิ้นสุดการลงทะเบียนผู้เข้าประมูลในเวลา 07.55 น. โดยครั้งนี้ไม่ปรากฏนายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหารบริษัททรูคอร์ปอเรชั่นเดินทางมา กระทั่งเวลา 08.25 น. เวลาสิ้นสุดพิธีเปิดอย่างเป็นทางการและส่งผู้เข้าประมูลเข้าห้องประมูล จึงเห็นนายศุภชัยปรากฏตัวเข้าร่วมประมูลครั้งนี้ด้วย
นายนฤพนธ์ รัตนสมาหาร ผู้อำนวยการอาวุโส สายรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวก่อนเข้าประมูลว่า ดีแทคมีความมั่นใจเต็ม 100% ในการประมูลครั้งนี้ อีกทั้งได้เตรียมพร้อมนำเสื้อผ้ามาเปลี่ยนในระหว่างการประมูลถึง 10 ชุด ส่วนการที่มีพนักงานมาติดสติ๊กเกอร์รูปหัวใจที่เสื้อของผู้บริหารนั้น สื่อถึงหัวใจของพนักงานดีแทคทุกคน
นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการเข้าประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ การเข้าประมูลทางผู้บริหารขอมาในรูปแบบชุดชมพูและฟ้า ส่วนรายละเอียดที่เกี่ยวกับการประมูลขอยังไม่เปิดเผยแต่อย่างใด
กสทช. ชี้ผู้ชนะได้คลื่นชุดเดียว
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กสทช. และประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) กล่าวว่า บรรยากาศการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์เป็นไปด้วยความคึกคัก ผู้ประกอบการทั้ง 4 รายได้แก่ แจส โมบาย, ดีแทค ไตรเน็ต, แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค และทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น ได้เดินทางมาตั้งแต่ช่วงเช้าเพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมพิธีเปิดการประมูลและจับสลากเลือกห้องประมูล การประมูลรอบแรกได้เริ่มขึ้นในเวลา 09.00 น. ส่วนขั้นตอนการประมูลในวันนี้ กทค.กำหนดให้ใช้วิธีการประมูลในรูปแบบของการเปิดประมูลชุดคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ พร้อมกันทั้ง 2 ชุดคลื่นความถี่ และดำเนินการประมูลหลายรอบ ราคาประมูลในแต่ละรอบจะเพิ่มขึ้นตามลำดับ ผู้เข้าร่วมการประมูลจะเสนอราคาสำหรับชุดคลื่นความถี่ที่ต้องการจะประมูล ผู้เข้าร่วมประมูลมีสิทธิจะเสนอราคาชุดคลื่นความถี่ชุดใดชุดหนึ่งก็ได้ แต่มีโอกาสเป็นผู้ชนะการประมูลคลื่นความถี่ได้เพียงชุดเดียว การประมูลแต่ละรอบผู้เข้าร่วมการประมูลจะมีเวลา 15 นาที ในการเสนอราคา
ให้เคาะเพิ่มทีละ 644 ล้าน
พ.อ.เศรษฐพงค์กล่าวว่า สำหรับการประมูลรอบแรกผู้เข้าร่วมการประมูลทุกรายจะต้องเสนอราคาในชุดคลื่นความถี่ชุดใดชุดหนึ่งที่ราคา 13,508 ล้านบาท จากนั้นหากเสนอราคาจะต้องเสนอราคาครั้งละ 5% ของราคาขั้นต่ำ 12,864 ล้านบาท คิดเป็นเงินเพิ่มขึ้นครั้งละ 644 ล้านบาท แต่เมื่อราคาถึง 16,080 ล้านบาท การเสนอราคาจะปรับเป็นเสนอราคาครั้งละ 2.5% ของราคาขั้นต่ำ 12,864 ล้านบาท คิดเป็นเงินเพิ่มขึ้นครั้งละ 322 ล้านบาท จากนั้นโปรแกรมในการประมูลจะประมวลผล และจะประกาศผลการประมูลของรอบนั้นๆ ภายในเวลา 5 นาทีก่อนการประมูลรอบต่อไปจะเริ่มขึ้น รวมแล้วจะใช้เวลาแต่ละรอบประมาณ 20 นาที การประมูลจะเริ่มตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น. ของวันที่ 15 ธันวาคม 2558 จากนั้นจะพักการประมูลตั้งแต่ 21.00-24.00 น. และจะประมูลต่อตั้งแต่เวลา 24.00-06.00 น. จากนั้นจะพักการประมูลตั้งแต่เวลา 06.00-09.00 น. รอบการประมูลจะวนเช่นนี้จนกว่าการประมูลจะสิ้นสุดลง การประมูลผู้เข้าร่วมประมูลมีสิทธิไม่เสนอราคา (Waiver) ได้ 3 ครั้งตลอดระยะเวลาการประมูล โดยสามารถใช้สิทธิได้ 2 วิธี คือ 1.แจ้งใช้สิทธิ และ 2.ไม่เสนอราคาตามระยะเวลาที่กำหนด
เปิดให้สู้ 2 คืนหรืออาจมีต่อ
พ.อ.เศรษฐพงค์กล่าวว่า การประมูลแต่ละล็อตหรือแต่ละชุดคลื่นความถี่ จะสิ้นสุดลงในรอบการประมูลช่วงสุดท้าย เมื่อไม่มีผู้เข้าร่วมการประมูลรายใดเสนอราคาอีก และเมื่อการประมูลทุกล็อตสิ้นสุดลง จะถือว่าสิ้นสุดขั้นตอนการประมูลชุดคลื่นความถี่ โดยภายหลังการประมูลเสร็จสิ้นจะมีการประกาศผลการประมูลภายใน 7 วัน โดย กสทช.จะออกใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ และใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สามให้แก่ผู้เข้าร่วมการประมูล ภายหลังจากผู้เข้าร่วมการประมูลได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการดำเนินการก่อนรับใบอนุญาตอย่างครบถ้วน ถูกต้องภายใน 90 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้งผลการประมูล
พ.อ.เศรษฐพงค์กล่าวว่า กรณีมีคนถามมากว่าจะแข่งขันกันรุนแรงหรือไม่ ส่วนตัวไม่สามารถตอบได้ แต่คลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ กับ 900 เมกะเฮิรตซ์ มีคุณสมบัติต่างกันมาก จึงไม่ใช่สินค้าตัวเดียวกัน คลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ เป็นคลื่นความถี่ที่มีความนิยมสูงสุดสำหรับ 4จี ในทั่วโลก ส่วนคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ นิยมนำมาใช้งานสำหรับ 3จี และกำลังเปลี่ยนผ่าน 4จี ทีละน้อย ตามหลักผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ควรมีทั้ง 2 คลื่น เพราะความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ จะใช้บริการเสียง (วอยซ์) ไม่เต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากวอยซ์เมื่อใช้งานจะโอนไปยัง 3จี อีกทั้งคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ ยังเป็นคลื่นที่สามารถขยายโครงข่ายได้ มีความครอบคลุมมากกว่าคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ กสทช.เตรียมการประมูลไว้ทั้งสิ้น 2 คืน แต่หากการประมูลยืดเยื้อ ทาง กสทช.จะพิจารณาอีกครั้ง แต่จะไม่เคลื่อนย้ายผู้เข้าประมูลออกนอกสถานที่แน่นอน
ยันค่าบริการไม่สูงแน่นอน
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า หลังเสร็จสิ้นการประมูล ทาง กสทช.จะรับรองผลการประมูลทันทีใน 1 สัปดาห์ ส่วน หากการประมูลมีราคาสูง ขอให้มั่นใจได้ว่าราคาค่าใช้บริการจะไม่สูงตามไปด้วย เพราะได้กำกับเพดานราคาค่าใช้บริการไว้แล้วว่าราคาบริการเสียงต้องไม่เกิน 72 สตางค์ต่อนาที และค่าบริการข้อมูล (ดาต้า) ต้องไม่เกิน 26 สตางค์ต่อเมกะเฮิรตซ์ ส่วนการประมูลครั้งนี้ขอฟันธงว่าจะมีการแข่งขันด้านราคากันอย่างดุเดือดแน่นอน
ต่อมาเวลา 15.00 น. นายฐากรกล่าวว่า ขณะนี้การเคาะราคาประมูลผ่านไปแล้วเป็นรอบที่ 18 มียอดวงเงินรวม 40,540 ล้านบาท ผู้เข้าประมูลยังอยู่ครบ 4 ราย จากผลที่ออกมาส่งผลให้ กสทช.ประเมินสถานการณ์ไม่ถูกว่าการประมูลจะยาวนานเพียงใด เพราะยังเคาะราคากันต่อเนื่อง ต่างจากการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ เมื่อผ่านการเสนอราคาในรอบที่ 7 มีผู้เข้าประมูลถอนตัวไม่สู้ราคาแล้ว 1 ราย เบื้องต้น กสทช.ประเมินว่าช่วงแรกผู้เข้าประมูลทุกรายน่าจะรีบเคาะราคาให้ไปเท่าต้นทุนมูลค่าคลื่นความถี่จากการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 2,692 ล้านบาทต่อ 1 เมกะเฮิรตซ์ หรือหากนำมาเทียบกับใบอนุญาตคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ มีปริมาณใบอนุญาตละ 10 เมกะเฮิรตซ์ จะอยู่ที่ราวใบอนุญาตละ 27,000 ล้านบาท หากเลยมูลค่าดังกล่าวต้องมาดูอีกครั้งว่าจะมีความเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป
จบรอบ 36 ราคาเกินครึ่งแสนล.
ต่อมาเมื่อเวลา 20.00 น. รอบที่ 33 ใบอนุญาตที่ 1 ราคาอยู่ที่ 25,100 ล้านบาท และใบอนุญาตที่ 2 ราคาอยู่ที่ 25,100 ล้านบาท รวมราคาทั้ง 2 ใบอนุญาต อยู่ที่ 50,200 ล้านบาท กระทั่งเวลา 21.00 น. หรือครบระยะเวลา 12 ชั่วโมงของการประมูล ถือเป็นการสิ้นสุดการประมูลในรอบที่ 36 ใบอนุญาตที่ 1 ราคาอยู่ที่ 26,066 ล้านบาท และใบอนุญาตที่ 2 ราคาอยู่ที่ 26,066 ล้านบาท รวมราคาทั้ง 2 ใบอนุญาตอยู่ที่ 52,132 ล้านบาท โดยราคาต่อใบอนุญาตมีมูลค่าเพิ่มขึ้นประมาณ 162% จากราคาตั้งต้นที่ 12,864 บาทต่อใบอนุญาต หลังจากนี้จะพักการประมูล 3 ชั่วโมง เพื่อให้ผู้เข้าร่วมการประมูลพักผ่อน จนถึงเวลา 24.00 น. จึงจะเริ่มประมูลต่อในรอบที่ 37
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า การประมูลจบรอบที่ 36 ราคาอยู่ที่ 52,132 ล้านบาท ถือเป็นการแข่งขันที่สูงมากและคาดว่าน่าจะสูงกว่าการประมูลคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ คงคาดเดายากว่าจะจบลงเมื่อไร แต่คาดว่าหากอนุญาตขึ้นสูงถึงใบละ 28,000-30,000 ล้านบาท จะเริ่มมีการชะลอการเคาะ และผู้ประกอบการเริ่มใช้เวลาในการตัดสินมากขึ้น เนื่องจากเริ่มถึงจุดคุ้มทุนของธุรกิจ ส่วนผู้ร่วมประมูลมีการร้องขอเมนูหูฉลามจากร้านอาหารจีน "เชฟเมน" ซึ่งทาง กสทช.ไม่สามารถจัดให้ได้เพราะราคาสูงเกินไป ประมาณโต๊ะละ 60,000 บาท แต่หากผู้ประมูลยินดีที่จะจ่ายเองทาง กสทช.ก็ยินดีที่จะจัดให้ ขณะนี้ผู้ประมูลทั้ง 4 ราย ยังอยู่ในการประมูล ไม่มีใครออกจากการประมูล
ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์มติชน (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558 (หน้า 1, 11)