ตลาดช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา SET ปรับลดลงมาจนน่าตกใจ จนเราเริ่มกลัวว่านี่มันวิกฤติแล้วหรือเนี่ยะ ทำไมหุ้นลงแรงจัง ตั้งแต่ต้นปีถึงวันนี้ SET index ปรับลงมา 20% กว่าแล้ว อย่างไรก็ตามหากมองย้อนกลับไปในอดีตตอนที่ SET index ขึ้นมาจาก 380 จุด ถึง 1650 จุด หรือขึ้นมา 334% นั้น เราพบว่ามี 2 ครั้งที่ SET index ลงถึง 27% แล้วก็ปรับขึ้นมาใหม่ โดยในปีค.ศ. 2011 SET index ลงเพราะวิกฤติยุโรป
ตอนนั้นผมจำได้เลยว่านักวิเคราะห์หลายค่าย พากันออกมาบอกว่า SET index จะลงอีก ให้รีบขาย สุดท้ายตลาดหุ้นก็กลับมาได้ อีกครั้งหนึ่งก็ตอนปีค.ศ. 2013 ลงเพราะกลัวเศรษฐกิจจีน ประกอบกับการเมืองไทยกำลังเข้าสู่ช่วงร้อนแรง และก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ตลาดหุ้นก็กลับมาได้อีก แล้วครั้งนี้ละจะกลับมาได้หรือไม่ ก็ต้องตอบก่อนว่าที่ทั้ง 2 ครั้งก่อนหน้านี้ ตลาดหุ้นกลับมาได้เพราะอะไร ซึ่งสาเหตุหลักๆ คือเศรษฐกิจโลกไม่ได้ทรุดตัวลงถึงขึ้นเข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะที่สภาพคล่องในตลาดโลกยังสูง ดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่เงินเฟ้อไม่ได้เพิ่มขึ้น ซึ่งเงื่อนไขเหล่านี้ผมว่ายังอยู่ในปัจจุบัน IMF หรือธนาคารโลกยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกยังคงเติบโตแม้ว่าจะโตได้ไม่มากก็ตาม และแม้กระทั่งตอนนี้ที่ตลาดหุ้นทั่วโลกลงมา แต่ตัวเลขเศรษฐกิจโลกส่วนใหญ่ออกมาดีนะครับ ขณะที่ราคาน้ำมันลงมาขนาดนี้เงินเฟ้อคงไม่ขึ้น และอันที่จริงการที่ราคาน้ำมันโลกลง จะส่งผลดีต่อภาคการบริโภคของแต่ละประเทศในโลก (ยกเว้นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันเท่านั้น) ขณะที่สภาพคล่องในตลาดโลกก็ยังสูง แม้ว่าสหรัฐฯ จะเริ่มนโยบายการเงินตึงตัวมากขึ้น แต่ยูโรโซน ญี่ปุ่น จีน ก็ยังคงอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบ
หันมามองประเทศไทย เศรษฐกิจปีหน้าถูกมองว่าดีกว่าปีนี้ แม้ว่าจะไม่ได้ดีมาก อาจมีความเสี่ยงเรื่องภัยแล้ง แต่รัฐบาลก็พร้อมอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบกับมีโครงการใหญ่ๆ ที่เริ่มก่อสร้างรองรับ อีกทั้งฐานะทางการเงินของทั้งภาครัฐและภาคเอกชนก็อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง ดังนั้นผมมองว่า SET index ที่ลงรอบนี้น่าจะเกิดจากกระแสเงินโลกที่ไม่นิ่ง เพือรอ FED ขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี ที่ดอกเบี้ยไม่ได้ขึ้นเลย นักลงทุนจึงระมัดระวังพอควรในการลงทุน ผมจึงเชื่อว่าหุ้นลงรอบนี้น่าจะกลับมาได้ โดยผมมองกรอบของ SET index ปีหน้าอยู่ที่ 1250-1550 จุด ดังนั้นการเห็น SET ต่ำกว่า 1300 จุด ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในการสะสมหุ้นพื้นฐานดีเข้าพอร์ต แต่แน่นอนการคาดการณ์ของผมมีโอกาสที่ผิดแต่การเห็นราคาหุ้นพื้นฐานบางบริษัทลงมาแรงมาก การซื้อที่ราคานี้ในฐานะ VI ก็พอยอมรับได้ ว่าในระยะยาว เราน่าจะได้กำไรจากการลงทุนพอควรครับ
เป็นกำลังใจให้ KFC ทุกท่านครับ
กวี ชูกิจเกษม
https://www.facebook.com/Kavee.Chukitkasem/?fref=nf
SET index ลงขนาดนี้ ทำอย่างไรดี - KFC
ตอนนั้นผมจำได้เลยว่านักวิเคราะห์หลายค่าย พากันออกมาบอกว่า SET index จะลงอีก ให้รีบขาย สุดท้ายตลาดหุ้นก็กลับมาได้ อีกครั้งหนึ่งก็ตอนปีค.ศ. 2013 ลงเพราะกลัวเศรษฐกิจจีน ประกอบกับการเมืองไทยกำลังเข้าสู่ช่วงร้อนแรง และก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ตลาดหุ้นก็กลับมาได้อีก แล้วครั้งนี้ละจะกลับมาได้หรือไม่ ก็ต้องตอบก่อนว่าที่ทั้ง 2 ครั้งก่อนหน้านี้ ตลาดหุ้นกลับมาได้เพราะอะไร ซึ่งสาเหตุหลักๆ คือเศรษฐกิจโลกไม่ได้ทรุดตัวลงถึงขึ้นเข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะที่สภาพคล่องในตลาดโลกยังสูง ดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่เงินเฟ้อไม่ได้เพิ่มขึ้น ซึ่งเงื่อนไขเหล่านี้ผมว่ายังอยู่ในปัจจุบัน IMF หรือธนาคารโลกยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกยังคงเติบโตแม้ว่าจะโตได้ไม่มากก็ตาม และแม้กระทั่งตอนนี้ที่ตลาดหุ้นทั่วโลกลงมา แต่ตัวเลขเศรษฐกิจโลกส่วนใหญ่ออกมาดีนะครับ ขณะที่ราคาน้ำมันลงมาขนาดนี้เงินเฟ้อคงไม่ขึ้น และอันที่จริงการที่ราคาน้ำมันโลกลง จะส่งผลดีต่อภาคการบริโภคของแต่ละประเทศในโลก (ยกเว้นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันเท่านั้น) ขณะที่สภาพคล่องในตลาดโลกก็ยังสูง แม้ว่าสหรัฐฯ จะเริ่มนโยบายการเงินตึงตัวมากขึ้น แต่ยูโรโซน ญี่ปุ่น จีน ก็ยังคงอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบ
หันมามองประเทศไทย เศรษฐกิจปีหน้าถูกมองว่าดีกว่าปีนี้ แม้ว่าจะไม่ได้ดีมาก อาจมีความเสี่ยงเรื่องภัยแล้ง แต่รัฐบาลก็พร้อมอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบกับมีโครงการใหญ่ๆ ที่เริ่มก่อสร้างรองรับ อีกทั้งฐานะทางการเงินของทั้งภาครัฐและภาคเอกชนก็อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง ดังนั้นผมมองว่า SET index ที่ลงรอบนี้น่าจะเกิดจากกระแสเงินโลกที่ไม่นิ่ง เพือรอ FED ขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี ที่ดอกเบี้ยไม่ได้ขึ้นเลย นักลงทุนจึงระมัดระวังพอควรในการลงทุน ผมจึงเชื่อว่าหุ้นลงรอบนี้น่าจะกลับมาได้ โดยผมมองกรอบของ SET index ปีหน้าอยู่ที่ 1250-1550 จุด ดังนั้นการเห็น SET ต่ำกว่า 1300 จุด ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในการสะสมหุ้นพื้นฐานดีเข้าพอร์ต แต่แน่นอนการคาดการณ์ของผมมีโอกาสที่ผิดแต่การเห็นราคาหุ้นพื้นฐานบางบริษัทลงมาแรงมาก การซื้อที่ราคานี้ในฐานะ VI ก็พอยอมรับได้ ว่าในระยะยาว เราน่าจะได้กำไรจากการลงทุนพอควรครับ
เป็นกำลังใจให้ KFC ทุกท่านครับ
กวี ชูกิจเกษม
https://www.facebook.com/Kavee.Chukitkasem/?fref=nf