•Sangkhlaburi• ฮิปโปออกตะลุยโลกกว้าง สู่ความอ้างว้าง ณ สังขละบุรี


สวัสดีค่าาาา~ เพื่อนๆพี่ๆทุกท่าน ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าการออกไปเที่ยวคนเดียวครั้งนี้มันมีที่มานะ เริ่มจาก...อกหัก ใช่แล้วเราอกหักมาประมาณ3เดือนล่ะแถมยังตกงานอีกต่างหาก  เลยคิดว่าอยากจะหนีไปให้ไกลๆสักหน่อย เหมาะเจาะกับช่วงวันพ่อซึ่งหยุดยาว 3 วันพอดี ก็ไม่รู้นะว่าทำไมถึงเลือกมาที่สังขละบุรี ทั้งๆที่มันไกลมาก
มีคนบอกเราว่าน่ากลัวด้วย คิดยังไงไปคนเดียว กล้ามากเลยนะ เราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเราถึงมาที่นี่ มาหาคำตอบไปพร้อมกับเรานะ 🙂
DAY1

การผจญภัยเริ่มแล้ว!!! เรานั่งแท็กซี่ไปลงอนุสาวรีย์ ไปด้วยความไม่รู้อะไรสักอย่าง บอกพี่แท็กว่า "ไปวินรถตู้คะพี่" พี่แท็กก็มาส่งถึงที่ ซื้อตั๋วเรียบร้อยได้รอบ6.30 นั่งรอกันไป

พอ6.15 เราก็เดินไปเข้าห้องน้ำ ออกมารถไปแล้ว ห๊ะ!!รถไปแล้ว ไปติดต่อหน้าเคาเตอร์เราก็โดนบ่นอีก ต้องนั่งรอคันต่อไป ร้องไห้แปป😂 และแล้วรถตู้ก็มาคะ ออกจากอนุสาวรีย์ตอน6.45น. เย้!!!ได้ไปแล้ว
8โมงครึ่ง ภาพตัดมาที่บขส.กาญ เพราะอะไรอะนะ ก็เราหลับตลอดทางไง5555 อดดูวิวสองข้างทางเลย จากนั้นเราก็มองหารถไปสังขละบุรี หันไปเจอรถสีแดงประจำทาง เราก็ขึ้นไปจองที่แล้วลงมาหาของกิน
นั้นคือข้าวมื้อแรกของเราและภาพสุดท้ายของการอยู่บนรถ ขอข้ามไปตอนถึงสังขละบุรีเลยนะ เพราะเรานั่งรถนานมากกกก ถ้าเล่าตอนนั่งรถก็ไม่สนุกอะดิ ต้องให้เพื่อนๆไปลองเอง อย่าลืมนะ!ไปอำเภอนี้ต้องพกบัตรประชาชนไปด้วย
ถึงแล้วสังขละบุรี ถึงจะเมื่อยมากแต่เราเชื่อว่ามันคุ้ม เราลงจากบัสเดินตรงไปที่วินมอไซค์ "พี่ๆ ไปต้องตะวันรีสอร์ท" พอถึงรีสอร์ทก็เช็คอินเรียบร้อยเดินเข้าที่พัก สิ่งแรกที่เห็นหลังจากเช็คอินคือห้องพักสวยมาก เราไม่ได้สืบมาก่อนว่าเป็นไง โทรสุ่มแล้วห้องว่างเราก็จองเลย กะว่าห้องเป็นไงไปตายเอาดาบหน้า แต่ผิดคาดเลย เราชอบมาก สังเกตุป่ะว่าที่พักมีบันไดให้ขึ้นไปบนบ้านด้วย คือดี

หลังจากเดินสำรวจที่พักแล้วเหลือบดูนาฬิกา โอ้วววนี่บ่ายสามโมงแล้ว เอาไงดี ไปด่านเจดีย์ก่อนแล้วกันวันนี้ จากนั้นเราก็เตรียมของแล้งพุ่งออกจากห้องไปเช่ามอไซค์รีสอร์ท ขับไปด่านเจดีย์สามองค์แบบStrong~ เวลาที่เรามองวิวข้างทางเราว่ามันก็เฉยๆนะ รกด้วย แต่น่าแปลกที่วันนี้วิวข้างทางมันสวย อาจเป็นเพราะเรามาคนเดียวหรือเปล่า เลยทำให้เราเห็นสิ่งที่เราไม่เคยเห็นเวลามากับเพื่อน
และแล้วเราก็มาถึงด่านเจดีย์สามองค์ จัดการเรื่องบัตรผ่านแดนเรียบร้อยก็ข้ามไปพม่า เราเดินมากำลังจะถึงวินมอไซค์ ผู้ชายประมาณ5คนเดินเข้ามาหาเราพร้อมกัน พูดอยู่คำเดียวว่า "ไหว้พระไหมครับ พาเที่ยวได้นะครับ" (สำเนียงพม่า) ด้วยความตกใจ เราตอบเสียงแข็ง "ไม่คะ!!!" แล้วก็รีบเดินเร็ว ซอยเท้าถี่ๆเลยเรากลัว555 ความจริงก็ไม่มีอะไรแต่เราไปคนเดียวอ่ะ เราเลยแอบกลัว เดินมาสักพักเราถึงเรียกพี่วินไปส่งที่ตลาด
ขอเก็บบรรยากาศบ้านเขามาให้ชมนะ




เราเดินแค่ตลาดอย่างเดียวเพราะเราไม่กล้าไปที่อื่น เลยคิดว่ากลับดีกว่า ครึ้ม~ ห้ะๆเสียงไร อ๋อฝนมา ม่ายยยย!!!ฝนมา เรารีบบิดออกจากด่านอย่างไวที่สุด แต่ไม่ทันคะ มาได้ครึ่งทางเราทั้งเจ็บทั้งหนาว ฝนที่นี่เม็ดใหญ่เกิ้นนน หน้าเราจะแหกหมดแล้ว เลยต้องแวะไปขอหลบฝนที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งทำเป็นปั๊มน้ำมันด้วย
"ขอโทษนะคะ ขอหลบฝนหน่อยนะคะ"
"???"
"ขอหลบฝนหน่อยนะคะ"
"ร้องไห้เอิ่มมมนังอ้วนนี่พูดไร)"
จนกระทั่งพี่ผู้ชายซึ่งพูดไทยได้นิดหน่อยเดินออกมาจากบ้าน พร้อมถือเก้าอี้ออกมาให้เรานั่ง
"หลบอยู่นี้แหละ ฝนตกงี้ไปไม่ได้หรอก อ่ะนั่งก่อน"
ระหว่างรอฝนหยุดก็ถ่ายรูปเล่นกับเด็กๆ ในใจคิดว่านี่วันแรกในการเที่ยวคนเดียวของชั้นทำไมมันอุปสรรคเยอะจัง
ฝนเริ่มปอยๆแล้ว เราเลยขอบคุณพี่เจ้าของบ้านแล้วร่ำลาเด็กๆ ฝ่าฝนออกมาอีกครั้ง เอาวะเราต้องอดทน มองไปข้างหน้าฟ้าสว่างอยู่ไม่ไกล เหมาะที่จะเล่นMVเพลงมาก
เรารอดล้ะ ฝนหยุดแล้ว ด้วยความที่สายตาสั้นมองเห็นป้ายสะพานมอญไกลๆ เรามั่นใจมากเลี้ยวเข้าไปเลยคร่าาาา ขับมาเรื่อยๆคิดในใจทำไมทางมันมืดจัง ไม่มีแสงไฟเลย เอ่ะเดี๋ยว!!แกรรรเราเลี้ยวผิดซอย โอ้ยยอะไรเนี่ยย คราวนี้ออกมาถูกซอยแล้ว กลับถึงที่พัก เจอเจ้าของรีสอร์ท
"อ้าว เปียกหมดเลย"
"อาหารเช้า 7.30-10.00 นะคะ"
"ขอบคุณคะ"
เข้าห้องแล้วเราก็รีบอาบน้ำแต่งตัว เสร็จแล้วคว้ากุญแจจะออกจากห้อง พรึ่บ! ไฟดับ โอ้วตะเถร เราหิวข้าวมาก กินข้าวครั้งสุดท้ายตอนอยู่บนรถ เราต้องนอนกลิ้งๆรอไฟมา  
ปิ๊ง! ไฟมาแล้วเย้ เรารีบคว้ากุญแจออกจากบ้านพัก แว้นไปตลาดอย่างรวดเร็ว จอดรถแล้วตรงเข้าไปที่หมูจุ่ม กินได้สักสิบไม้ พี่สองคนที่นั่งตรงข้ามก็ทักเรา เราคิดว่าเขาน่าจะเป็นแฟนกัน

"น้องเป็นคนที่นี่หรอ"
"ป่าวคะ หนูมาเที่ยว" "หนูเหมือนคนที่นี่หรอพี่?"
"อ้าวหรอ พี่เห็นแต่งตัว เห็นถือกุญแกรถนึกว่าคนที่นี่" แล้วพี่เขาก็ชวนเราคุยเรื่อยๆ บอกว่าเก่งเนอะมาคนเดียวได้
" แล้วทำไมมาที่นี่อ่ะ?"
"มันไกลดีมั้งพี่"
"เพราะอะไรถึงมาอะ? อกหักชัวร์" คำถามสุดพีคคค
"ชัวร์เลยพี่ พี่รู้ได้ไง555" แล้วพี่เขาก็แนะนำร้านอาหารที่อร่อยสุดในอำเภอพร้อมกับบอกท่ารถตู้ตอนขากลับให้เรา อยากจะบอกว่าขอบคุณพวกพี่มาก ถ้าพี่จำหนูได้นะ
นี่แหละมิตรภาพแรกของเราที่สังขละบุรี
DAY2


เช้าวันที่ 6 ธ.ค. เราตื่นตั้งแต่ตี3ครึ่ง เนื่องจากเมื่อคืนเรานอน3ทุ่มครึ่ง นอนกลิ้งไปกลิ้งมาสักตอนตี4เราก็ลุกอาบน้ำแต่งตัว วางแพลนไว้ว่าวันนี้จะไม่ไปใส่บาตรเพราะคิดว่าคนคงเยอะแน่นอน เลยตัดสินใจใส่วันพรุ่งนี้ วันนี้ก็จะขับรถเที่ยวไปก่อน เรียกว่าไปแบบไม่รู้ทิศทางอ่านป้ายข้างทางอย่างเดียว เริ่มจากไปสะพานซองกาเลียก่อน

ถ่ายรูปจนพอใจ เราก็ขับรถเข้าไปหาจุดชมวิวสะพานมอญ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ร้างมาก ประกอบกับไม่มีคน

แต่ไม่เป็นไร เพื่อภาพสวยเราต้องStrong! ถ่ายๆอยู่ก็กลัวลื่นเหมือนกัน เพราะเมื่อคืนฝนตก ไม่อยากจะคิดภาพตอนตกลงไปเลย 😂


วิวก็สวยสมกับเป็นจุดชมวิว


แล้วเราขับรถออกมาแวะนั่งที่ kaf kafe' สั่งชามะนาวกินเพิ่มแรงหน่อย แดดร้อนเกินไปนะ นั่งพักให้หายเหนื่อยก่อนล้ะกัน

จากน้ันเราก็เอารถไปเติมน้ำมัน เลยถือโอกาสถามพี่เขาว่าขับรถไปเที่ยวไหนดี เพราะเราไปด่านมาแล้ว พี่เขาเลยแนะนำให้เราไปไหว้พระที่เจดีย์พุทธคยา เราก็ไปตามที่พี่เขาบอก ขับแบบหลงๆ แวะไปจุดชมวิวก่อน ถือว่าเป็นทางผ่าน เลยขอถ่ายรูปกับมัคคุเทศน์น้อยด้วย

แล้วก็มาถึงพุทธคยา วันนั้นเราใส่กางเกงขาสั้นเลยไปเช่าผ้าถุงมาใส่ 10 บาท แล้วก็เข้าไปไหว้พระ ตอนนี้เจดีย์กำลังบูรณะเราเลยไม่ค่อยได้ภาพสวย


ไหว้พระขอพรเสร็จ มองนาฬิกาก็เที่ยงแล้ว เราเลยกลับไปหาข้าวกินแล้วเข้าที่พัก แพลนไว้ว่าจะออกไปจ้างเรือพาไปวัดตอนบ่ายสามครึ่ง กะเวลาให้ได้แสงแดดตอนเย็น เพราะอยากได้ภาพสวย รู้สึกจะอยากได้แต่ภาพสวย เอาหล่ะถึงเวลาล้ะ อาบน้ำแต่งตัว ออกจากที่พักตอนบ่ายสาม ก็ตรงไปที่จุดรับจ้างพาเที่ยว ติดต่อราคาเรียบร้อยบอกเขาว่าไปคนเดียว ลดได้มั้ยคะ ไปแค่2วัดพอ ได้ราคามา 400 บาท ก็แพงอยู่นะ แต่เอาเหอะ นี่ไม่ใช่ทริปประหยัด มันคือทริปปลดปล่อย
พอเสร็จเราก็เดินไปขึ้นเรือพร้อมมัคคุเทศน์น้อย "เห้ยทำไมเอ็งหน้าคุ้นๆวะ" "ที่พี่เจอผมที่จุดชมวิวไง" อ่ะให้เวลาเลื่อนขึ้นไปดู เราลืมถามชื่อน้องมา ขอตั้งให้ว่าไข่ย้อยล้ะกัน ดูจากท่านั่ง

เราไปวัดแรกคือวัดใต้น้ำ ภาพแรกคือหอระฆังเก่า

ส่วนเราก็ทดลองเป็นฮิปสเตอร์หน่อย ถ้าตกน้ำก็อาจจะเป็นฮิปโปได้นะ

เสร็จแล้วออกเดินเรือไปวัดที่2กัน ถ้าเราจำไม่ผิด ที่นี่น่าจะเรียกวัดโพธิ์ คือเราไปด้วยความไม่รู้แต่จะไปอย่างเดียว เนื่องจากที่นี่มีภูมิเขตคล้ายๆเกาะ มาเริ่มจากการลงเรือเลย


แล้วก็แสร้งว่าเราอยู่สวิสเซอร์แลนด์ ความจริงคือฝั่งมอญนี่ล่ะคะ

ได้เวลาขึ้นเรือกลับฝั่งแล้ว ระหว่างทางน้องเขาก็แนะนำ "พี่ครับๆ นี่คือหมู่บ้านใต้น้ำครับ ช่วงเดือนเมษาจะลงไปเดินได้ครับ"

ระหว่างทางเรือแล่นผ่านเจดีย์พุทธคยา แต่ด้วยความที่เรือขับแรงจนน้ำกระเด็น เลยทำให้ภาพเหมือนแต่งโบเก้แต่เสี่ยงกล้องเปียกมากนะ

เรือมาจอดส่งเราตรงแพข้างล่างติดกับสะพานโดดน้ำของเด็กๆในชุมชน ที่นี่แหละเราได้เจอกับคนคนหนึ่ง เขาเข้ามาสร้างมิตรภาพกับเรา
เราก็เข้าไปยืนถ่ายรูปเด็กๆโดดน้ำตามสไตส์เรา คือเจออะไรก็ถ่าย ส่วนพี่เขาอ่ะนะ มาโดดน้ำเล่นกับเด็กๆ ลุคเขาเป็นผู้ชายรักเด็กมากเลยแก กรี๊ดแปปปปป
ขณะที่เรายืนถ่ายรูปอยู่ พี่เขาก็ทักเราว่า

"ชอบเที่ยวหรอครับ"
"ใช่คะ ชอบเที่ยว แต่ไม่ค่อยมีเวลา"
"อ๋อ ชอบเที่ยวคนเดียวหรอครับ"
"ป่าวคะ นี่เป็นทริปแรกที่มาคนเดียว"
"แล้วชื่อไรครับ"
จากนั้นเราก็ทำความรู้จักกันไป สืบมาว่าพี่เขาขับมอไซค์มาเที่ยว มอไซค์รุ่นCBR และมาคนเดียวเหมือนเรา เป็นรุ่นพี่เรา2ปี เพิ่งเรียนจบและทำงานได้ไม่นาน คุยไปคุยมาเขาก็ขอเฟสบุ้คเรา หึ!เราก็ให้สิจะรออะไร
ดูกระเหี้ยนกระหือรือนะ พอก่อน หลังจากรู้จักกันแล้วก็ชวนกันไปกินข้าว กินหมูจุ่ม เดินเที่ยวตลาด กินไอติมหลอด เดินเม้าท์แม่ค้า ดูการแสดง ซื้อโปสการ์ดด้วยกัน ไปจบที่การนอนดูดาวที่สะพานมอญ มันเป็นโมเม้นที่ดีมากนะ เราก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงทักเรา แต่อยากขอบคุณที่พี่เข้ามาทำความรู้จักนะ พี่เขาบอกว่ากล้องที่ดีที่สุดในโลกคือดวงตาของตัวเอง
คืนนี้ดาวสวยเนอะ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่