
หลังจากกระทู้ตอนที่ 1 : Trekking mode ผ่านไป
http://pantip.com/topic/34548763 ตอนนี้ก็ได้เวลาของตอนที่ 2 ซึ่งเกี่ยวกับอาหารกันแล้วค่ะ 😆 บอกตามตรงรู้สึกเหมือนทริปแต่ละวันนี่แบ่งกิจกรรมกันชัดเจนมาก 5555 หลังจากที่เมื่อคืนนอนที่เฮือนแรมแจ่มเมือง อ.แม่แจ่ม กันไปแล้ว วันนี้เราจะพาทุกท่านเข้ามาสู่ในตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่กันค่ะ โดยร้านที่เราจะพามาชมคือ
1.ข้าวเม่า-ข้าวฟ่าง
2.โอ้กะจู๋
3. กูโรตีและชาชัก ก่อนจะปิดท้ายด้วย
4. ก๋วยจั๊บน้ำข้น อนุสาวรีย์สามกษัตริย์
เริ่มแรกด้วยมื้อกลางวันที่ "ร้านข้าวเม่า-ข้าวฟ่าง" ซึ่งอยู่ใกล้กับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี หลังจากที่เราเที่ยวออบหลวงกันมาเลยดีกว่าค่ะ โดยเห็นว่าร้านจะเปิดให้บริการทุกวันเวลา 11.00 -22.00 น. แต่จะปิดพักตอนช่วง 15.00-17.00 น. นะคะ
นี่แค่ทางเข้า บอกเลยพี่ไม่ได้มาเล่นๆ อิอิ

บรรยากาศภายในร้านค่ะ



ตกแต่งสวยแบบธรรมชาติมากๆ ชอบค่ะ



กำลังเอร็ดอร่อยกันเลยทีเดียวค่ะ 5555
มาดูที่อาหารกันมั่งดีกว่า เริ่มด้วยจานแรกที่เมี่ยงไก่กรอบซึ่งถือว่าเป็นเมนู signature ของร้าน เครื่องที่คลุกมาให้โดยส่วนตัวคิดว่าหวานเล็กน้อยแต่พอกินกับใบเมี่ยงแล้วหอมอร่อยมากๆ เลยค่ะ

จานต่อไปคือออเดิร์ฟพื้นเมือง มีให้ทั้งน้ำพริกอ่องแล้วก็น้ำพริกหนุ่มเลยค่ะ น้ำพริกหนุ่มที่นี่จะออกเผ็ดนิดนึงนะคะ

ส่วนเห็ดหอมซีอิ๊วจานนี้จขกท.ขอแนะนำเลยค่ะ ไม่แห้งจนเกินไป แถมยังมีรสชาติดีมากๆ อีกด้วย 😋 เรียกได้ว่าเคลิ้มเลยทีเดียว น้ำจิ้มที่ให้มาก็จะออกเปรี้ยวนิดๆ นะคะ ทานคู่กันก็อร่อยไปอีกแบบ แกงฮังเลก็เข้มข้นได้ใจมาก ปาดกันจดหยดสุดท้าย 😂

จานต่อไปนี่ก็เด็ดค่ะ เรียกว่าปลาเขื่อนอะไรสักอย่างซึ่งจริงๆแล้วมันก็คือปลาคังนั่นเอง

ตามด้วยหมูข้าวเม่า

แล้วก็ปิดท้ายด้วยของหวาน (!?) อย่างกล้วยหอมทอดชุบงาค่ะ หอมกลิ่นงามากๆ เลย

ภาพอาหารโดยรวมค่ะ

โดยสรุปแล้วชอบร้านนี้มากๆ อร่อยทุกอย่างเลยค่ะ บรรยากาศก็ดี มีน้ำตกภายในร้านด้วย ส่วนราคากินกัน 7 คน ตกแค่ประมาณคนละเกือบสองร้อยบาท ซึ่งโดยส่วนตัวคิดว่าถูกมากๆ กับคุณภาพและปริมาณ ใครมาเชียงใหม่แวะมาลองทานกันได้เลยค่ะ 👍🏼 ปล.ร้านนี้เขามีสาขาแรกอยู่ที่แม่สอด จ.ตากนะคะ ความสวยนี่ไม่แพ้กันเลยทีเดียว
หลังจากทานมื้อกลางวันเสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็เช็คอินเข้าที่พักกัน โดยคืนนี้เราพักกันที่โรงแรมกรีนพาเลซ ย่านนิมมานกันค่ะ ในราคาเพียง 480บาท/คืน/2คน เท่านั้น ถือว่าค่อนข้างถูกเลยทีเดียว ดีค่ะๆ ได้ชดเชยค่าที่พักเมื่อคืนที่หมดกันไป คนละ 600 บาท 55555 บรรยากาศภายในห้องพัก ถือว่าโอเคเลยค่ะ

เช็คอินเรียบร้อยเราก็ออกไปเดินงาน N.A.P. กัน ซึ่งเป็นงานอารมณ์อาร์ตๆ ที่จัดตรงนิมมานซอย 1 พอดี โชคดีมากๆ เลยค่ะ
งานฝีมือสวยๆงามๆ ในงาน


เดินงานเสร็จก็ได้เวลามื้อเย็นพอดี เราก็ขอพาทุกท่านมาพบกับร้านดังอีกร้านนึงซึ่งก็คือร้าน "โอ้กะจู๋" โดยสาขานี้เป็นสาขาที่เปิดใหม่ในเมืองค่ะ ร้านจะเปิดให้บริการทุกวันเวลา 9.00-21.00 น.

อาหารที่นี่ทุกท่านอาจจะพอได้ยินมาบ้างในชื่อเสียงด้านของปริมาณและรสชาติที่แสนคุ้ม กับคอนเซปร้านที่ชื่อว่า "ปลูกผักเพราะรักแม่" โดยผักที่นี่จะเป็นผักออแกนิคที่สดและอร่อยมากๆ ตอนแรกก็มีเพื่อนในทริปบางคนที่ยังลังเลว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อดีมั๊ย ไปกัน 7 คนเลยลองสั่ง สเต็กมาแค่ 3 จาน สลัดผลไม้ 1 แล้วก็ชีสทอดอีก 2 ผลออกมาคือเต็มท้องเลยค่ะ 😂 เปิดด้วยสเต็กซี่โครงหมูสะพานโค้งจานเด็ดของที่นี่



ตามด้วยสลัดผลไม้และชีสทอด ที่สั่งมาสองไม่ใช่อะไร เนื่องจากตอนแรกได้ยินว่ามันมีแค่ 5 ลูก แล้วแบบเห้ย เดี๋ยวกินไม่ครบคนเลยทำการสั่งเบิ้ลด้วยความหิวไปเรียบร้อย พอมาละหึหึ ใหญ่มากคร่าาาา ตัวใครตัวมันละทีนี้ -..-


เรียกได้ว่าอิ่มกันมากๆ เลยทีเดียว ทั้งหมดนี้หมดไปคนละประมาณ 240 บาทคุ้มมากๆ ดีที่ไม่สั่งสลัดมาเพิ่มเพราะแค่กินผักตามจานสเต็กนี้กันก็ยังไม่หมดแล้ว 😳 5555
เอาล่ะ กินอิ่มก็ต้องเดินย่อยเป็นธรรมดา และเนื่องด้วยวันนี้เป็นวันอาทิตย์พวกเราเลยไปเดินถนนคนเดินตรงท่าแพเล่นกันซะเลยค่ะ หลังจากจับจ่ายใช้สอยซื้อของฝากกันไปเรียบร้อยจนเวลาล่วงเลยมาใกล้เที่ยงคืน จึงได้ฤกษ์ออกเดินทางไปหาของกินอีกครั้ง (อย่าพึ่งงงนะคะว่าจะกินอะไรเยอะแยะ มาทั้งทีต้องเอาให้คุ้มค่ะ 555) ว่าแล้วเราก็รีบขึ้นรถแดงคนละ 30บาท มายังนิมมานอีกครั้งที่ซึ่งมีร้านเป้าหมายของพวกเราอยู่ เวลานี้จะเป็นอะไรได้ ร้าน "กู โรตีและชาชัก"เลยค่ะ จัดไป 😋 ร้านเปิดให้บริการเวลา 09.30-01.30 น. ค่ะ
โอยยยย โรตีทิชชูวิปครีมสตรอเบอร์รี่ราดด้วยซอสชอกโกแลต ฟินมากๆๆ กินคู่กับชาชัก signature ร้านนี่ยิ่งฟินเลยค่ะ


อีกเมนูนึง

จริงๆ มีอีกแต่มัวแต่กินเลยลืมถ่าย yy แต่ละอันนี่อร่อยมากๆ แนะนำค่ะ 😁😁 หลังจากที่ได้คุยกับพี่เจ้าของร้านไปก็เพิ่งทราบเหมือนกันค่ะว่าเป็นคนละเจ้าของกันกับสาขาที่หาดใหญ่และสะพานควาย ยังว่าเมนูกับรสชาติทำไมไม่เหมือนกัน โดยส่วนตัวชอบที่นี่มากกว่าเพราะมีเมนูที่แปลกใหม่และหลากหลายแถมพนักงานยังดูเป็นกันเองด้วยค่ะ สำหรับคืนนี้คงต้องพอของกินไว้ก่อน ไม่งั้นอาจได้กลิ้งกันกลับโรงแรม 555🙊
Day 3 : วันสุดท้าย
ในที่สุดวันสุดท้ายก็มาถึง รู้สึกเพิ่งจะได้เที่ยวแค่แปปเดียวเอง 😢 ก่อนที่รถทัวร์จะออกตอน 10 โมงเช้า พวกเราก็เลยแวะไปชิมก๋วยจั๊บน้ำข้นร้านอร่อยแถวอนุสาวรีย์กัน ร้านหาไม่ยาก โดยถ้าหันหน้าเข้าอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ร้านจะอยู่ซอยด้านขวามือ ตรงข้ามประตูทางเข้าหอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ บรรยากาศในร้านจะเป็นโต๊ะแนวลึกเข้าไป เมนูของที่นี่จะมีอยู่แค่ไม่กี่อย่างคือ ก๋วยจั๊บ เกาเหลา และข้าวหมูกรอบ แต่ที่ชอบสุดก็ก๋วยจั๊บนี่แหละค่ะ เพราะเขาจะใส่หนังหมูกรอบมาให้ด้วย หูยยยแค่เห็นก็น้ำลายจะไหลแล้ว 5555 โดยร้านจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 8.00-16.00 น. แต่เห็นว่าบางวันประมาณ 14.00 น. ก็เริ่มหมดแล้วค่ะ

นอกจากนี้ถ้าเป็นซอยทางด้านซ้ายของอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ยังมีร้านข้าวมันไก่ ข้าวหน้าเป็ด รวมไปถึงร้านขายขนมไทยอย่างร้านหวานละมุนให้ได้ลิ้มลองกันด้วยนะคะ เมนูถั่วแปปที่นี่อร่อยมากเลยค่ะ ☺️
[CR] ช้อป ชิม ลุย สไตล์สโลวไลฟ์ที่เชียงใหม่กับ 3 วัน 2 คืน ตอนที่ 2
1.ข้าวเม่า-ข้าวฟ่าง
2.โอ้กะจู๋
3. กูโรตีและชาชัก ก่อนจะปิดท้ายด้วย
4. ก๋วยจั๊บน้ำข้น อนุสาวรีย์สามกษัตริย์
เริ่มแรกด้วยมื้อกลางวันที่ "ร้านข้าวเม่า-ข้าวฟ่าง" ซึ่งอยู่ใกล้กับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี หลังจากที่เราเที่ยวออบหลวงกันมาเลยดีกว่าค่ะ โดยเห็นว่าร้านจะเปิดให้บริการทุกวันเวลา 11.00 -22.00 น. แต่จะปิดพักตอนช่วง 15.00-17.00 น. นะคะ
นี่แค่ทางเข้า บอกเลยพี่ไม่ได้มาเล่นๆ อิอิ
ตกแต่งสวยแบบธรรมชาติมากๆ ชอบค่ะ
มาดูที่อาหารกันมั่งดีกว่า เริ่มด้วยจานแรกที่เมี่ยงไก่กรอบซึ่งถือว่าเป็นเมนู signature ของร้าน เครื่องที่คลุกมาให้โดยส่วนตัวคิดว่าหวานเล็กน้อยแต่พอกินกับใบเมี่ยงแล้วหอมอร่อยมากๆ เลยค่ะ
โดยสรุปแล้วชอบร้านนี้มากๆ อร่อยทุกอย่างเลยค่ะ บรรยากาศก็ดี มีน้ำตกภายในร้านด้วย ส่วนราคากินกัน 7 คน ตกแค่ประมาณคนละเกือบสองร้อยบาท ซึ่งโดยส่วนตัวคิดว่าถูกมากๆ กับคุณภาพและปริมาณ ใครมาเชียงใหม่แวะมาลองทานกันได้เลยค่ะ 👍🏼 ปล.ร้านนี้เขามีสาขาแรกอยู่ที่แม่สอด จ.ตากนะคะ ความสวยนี่ไม่แพ้กันเลยทีเดียว
หลังจากทานมื้อกลางวันเสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็เช็คอินเข้าที่พักกัน โดยคืนนี้เราพักกันที่โรงแรมกรีนพาเลซ ย่านนิมมานกันค่ะ ในราคาเพียง 480บาท/คืน/2คน เท่านั้น ถือว่าค่อนข้างถูกเลยทีเดียว ดีค่ะๆ ได้ชดเชยค่าที่พักเมื่อคืนที่หมดกันไป คนละ 600 บาท 55555 บรรยากาศภายในห้องพัก ถือว่าโอเคเลยค่ะ
งานฝีมือสวยๆงามๆ ในงาน
เอาล่ะ กินอิ่มก็ต้องเดินย่อยเป็นธรรมดา และเนื่องด้วยวันนี้เป็นวันอาทิตย์พวกเราเลยไปเดินถนนคนเดินตรงท่าแพเล่นกันซะเลยค่ะ หลังจากจับจ่ายใช้สอยซื้อของฝากกันไปเรียบร้อยจนเวลาล่วงเลยมาใกล้เที่ยงคืน จึงได้ฤกษ์ออกเดินทางไปหาของกินอีกครั้ง (อย่าพึ่งงงนะคะว่าจะกินอะไรเยอะแยะ มาทั้งทีต้องเอาให้คุ้มค่ะ 555) ว่าแล้วเราก็รีบขึ้นรถแดงคนละ 30บาท มายังนิมมานอีกครั้งที่ซึ่งมีร้านเป้าหมายของพวกเราอยู่ เวลานี้จะเป็นอะไรได้ ร้าน "กู โรตีและชาชัก"เลยค่ะ จัดไป 😋 ร้านเปิดให้บริการเวลา 09.30-01.30 น. ค่ะ
โอยยยย โรตีทิชชูวิปครีมสตรอเบอร์รี่ราดด้วยซอสชอกโกแลต ฟินมากๆๆ กินคู่กับชาชัก signature ร้านนี่ยิ่งฟินเลยค่ะ
จริงๆ มีอีกแต่มัวแต่กินเลยลืมถ่าย yy แต่ละอันนี่อร่อยมากๆ แนะนำค่ะ 😁😁 หลังจากที่ได้คุยกับพี่เจ้าของร้านไปก็เพิ่งทราบเหมือนกันค่ะว่าเป็นคนละเจ้าของกันกับสาขาที่หาดใหญ่และสะพานควาย ยังว่าเมนูกับรสชาติทำไมไม่เหมือนกัน โดยส่วนตัวชอบที่นี่มากกว่าเพราะมีเมนูที่แปลกใหม่และหลากหลายแถมพนักงานยังดูเป็นกันเองด้วยค่ะ สำหรับคืนนี้คงต้องพอของกินไว้ก่อน ไม่งั้นอาจได้กลิ้งกันกลับโรงแรม 555🙊
Day 3 : วันสุดท้าย
ในที่สุดวันสุดท้ายก็มาถึง รู้สึกเพิ่งจะได้เที่ยวแค่แปปเดียวเอง 😢 ก่อนที่รถทัวร์จะออกตอน 10 โมงเช้า พวกเราก็เลยแวะไปชิมก๋วยจั๊บน้ำข้นร้านอร่อยแถวอนุสาวรีย์กัน ร้านหาไม่ยาก โดยถ้าหันหน้าเข้าอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ร้านจะอยู่ซอยด้านขวามือ ตรงข้ามประตูทางเข้าหอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ บรรยากาศในร้านจะเป็นโต๊ะแนวลึกเข้าไป เมนูของที่นี่จะมีอยู่แค่ไม่กี่อย่างคือ ก๋วยจั๊บ เกาเหลา และข้าวหมูกรอบ แต่ที่ชอบสุดก็ก๋วยจั๊บนี่แหละค่ะ เพราะเขาจะใส่หนังหมูกรอบมาให้ด้วย หูยยยแค่เห็นก็น้ำลายจะไหลแล้ว 5555 โดยร้านจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 8.00-16.00 น. แต่เห็นว่าบางวันประมาณ 14.00 น. ก็เริ่มหมดแล้วค่ะ
นอกจากนี้ถ้าเป็นซอยทางด้านซ้ายของอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ยังมีร้านข้าวมันไก่ ข้าวหน้าเป็ด รวมไปถึงร้านขายขนมไทยอย่างร้านหวานละมุนให้ได้ลิ้มลองกันด้วยนะคะ เมนูถั่วแปปที่นี่อร่อยมากเลยค่ะ ☺️
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น