*หากกระทู้มีถ้อยคำใดที่อาจไม่เหมาะเป็นพิษเป็นภัยแก่สังคมและเยาวชน จขกท. ขออภัยด้วยนะคะ ตัวหนังสือเยอะมากค่ะ เพราะจขกท.ค่อนข้างเวิ้นเว้อ*
สวัสดีชาวห้องบลูฯ ทุกท่านนี้เป็นกระทู้แรกกับห้องบลูฯของเรานะคะ ปกติสิงอยู่ในห้องเฉลิมไทย เฉลิมกรุง
แต่เมื่อวันที่ 4-6 ธันวาคม 2558 ที่ผ่านมาเราและเพื่อน ๆ พี่ ๆ ได้เดินทางไปเที่ยวที่ดอยหลวงเชียงดาวมาค่ะ เกิดความปริ่มสุดพลังยั้งไม่ไหวทำให้เกิดกระทู้นี้ขึ้นมา
เราวางแผนที่จะไปดอยหลวงตั้งแต่เดือนกันยายนค่ะ มีเรากับพี่สาวที่ทำงานอีกคนเป็นตัวตั้งตัวตี ด้วยความที่ชอบการไป trekking เหมือน ๆ กัน
ก็เลยตกลงใจกันว่าเราจะไป "เชียงดาว" กันดีกว่า เมื่อได้สถานที่เรียบร้อย เราก็กำหนดวันกัน มาลงตัวที่ช่วงวันหยุดวันพ่อเพราะเหตุผลที่ไม่อยากลาเลยเลือกเอาวันหยุดราชการดีกว่าค่ะ
เมื่อได้ที่เที่ยว กำหนดวัน สิ่งต่อไปคือเราก็หาข้อมูลเชียงดาวให้ได้มากที่สุด เห็นมีคนมารีวิวลงพันทิปก็มาก รูปถ่ายพระอาทิตย์ไข่แดงตอนเช้ากับทะเลหมอกเป็นตัวกระตุ้นวามอยากเรามากไปอีก 10 เท่า ต้องไปเห็นด้วยตาตัวเองให้ได้ เราก็หาข้อมูลจนรู้ว่าต้องโทรติดต่อให้ใคร เตรียมตัวอย่างไร
การจะขึ้นไปดอยเชียงดาวนั้นเราต้องขออนุญาตก่อนขึ้นดอยนะคะทุกท่าน .. ไม่ใช่เดินเฟี้ยวฟ้าวเข้าไปจ่ายเงินขึ้นได้เลย (เอ๊ะหรือมันทำได้? หมอก็ทำนี้หว่า .. ใช่ม่ะหมอ?!) เพราะทางเขตอนุรักษ์อนุญาตให้เข้าได้ไม่เกิน 150 วันวันต่อคน พอทราบแค่นั้นดิฉันจำเป็นต้องหยิบฉวยโทรศัพท์สำนักงานทันทีค่ะคุณขา (มือถือตัวเองมีก็ไม่ใช้) กลัวไม่ได้ไปจัด
ซึ่งขออนุญาตได้สองทีคือ
1. สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพรรณพืช เขตจตุจักร กรุงเทพฯ โทร. 02-5614836
2. สำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ โทร. 053 456 623
นั้นแหละคะมหกรรมโทรกระหน่ำก็เกิดขึ้น .. แต่คุณขามันไม่ง่ายเลยที่จะโทรติดได้ในคราวเดียว ครั้งแรกเราโทรไปที่ สนง.อนุรักษ์สัตว์ป่า กทม. โทรแล้วก็โอนสายไปมา ต่อเบอร์นั้นนี้อยู่หลายรอบเราก็ยังไม่ได้คุยกับผู้รับผิดชอบเขตอนุรักษ์เชียงดาวสักที เราเลยลองโทรไปที่ สนง.อนุรักษ์เชียงดาวเลยโทรก็ไม่ติดค่ะ .. ท้อค่ะ ต้องบอกว่าชะนีท้อ กลัวไม่ได้เที่ยวแรง เราเลยฮึดสู้โทรไป สนง.เขต กทม. อีกครั้งนึ่ง (กับการเรียนและทำงานทุ่มเทขนาดนี้มั้ยถามใจตัวเองดู) ฝ่าฟันจนในที่สุดเราก็ได้เบอร์โทรของหัวหน้าเจ้าหน้าที่เขตอนุรักษ์เชียงดาวมา ท่านสมศักดิ์ (ขออนุญาตเอยชื่อท่านมาเพื่อแสดงความขอบคุณ) เราก็โทรติดต่อท่านทันทีค่ะ ด้วยไฟแรง ปรากฎว่าทางเขตอนุรักษ์ฯ เปิดให้จองขึ้นดอยได้ตอนเดือนตุลาคม ! ดริ๊ฟหนักมาก ไฟแทบมอด น้ำตาเกือบเล็ดความพยายามทั้ง 2 วันของช้านนนนนนนนน เราก็ได้แต่ตอบรับด้วยเสียงอ่อย ๆ แต่ในใจมุ่งหมายว่า 1 ตุลาฯ 08.30 ปุ๊บอินี่โทรปั๊บ
ข้าต้องได้ขึ้นดอย!
เมื่อไป 2 มันดูเหงาหอย เอ๊ย ! เหงาหงอยเราก็จึงทำการชวนพี่ ๆ เพื่อน ๆ ในกลุ่มไลน์ตื่ง The Scipt ไปกันเพิ่มด้วย ปรากฎว่ามี โอ้วแม่สาวน้อยตกหลุมเราถึง 4 คน นั้นคือป้าก้อย น้องเต้ย น้องจูนและน้องนิวคนดี จากนั้น
ป้าก้อยก็แตกหนอออกไปโดยการชวนเพื่อนของนางไปเพิ่ม ซึ่งก็มีเพื่อนของนางตกหลุมทางเราอีก 2 คน คือพี่โจและพี่แบล็คเป็นว่าทริปเชียงดาวในเบื้องต้นมีกัน 9 คนโดยประมาณ
แต่ก่อนหน้าวันที่ 1 ตุลาฯ ไม่กี่วัน พี่สาวที่ทำงานเราและน้องสาวของแก ได้บอกว่าไม่สามารถไปเชียงดาวด้วยได้ น้องจูนก็ติดสอบ น้องเต้ยก็ยังอ่อนด๊อยขอแม่ไม่ได้ ทำให้ผู้ร่วมเดินทางของเราในครั้งนี้มีกัน 6 คน
และแล้ววันที่เรารอคอยก็มาถึง 1 ตุลาฯ เวลา 08.30 น. เวียนมาบรรจบ เราโทรหาท่านหัวหน้าสมศักดิ์ทันที หัวหน้าพูดคุยด้วยดีมากและท่านหัวหน้าก็ให้เบอร์โทรของผู้รับผิดชอบโดยตรงคือพี่นงเยาว์ (ขออนุญาตเอ่ยชื่อเพื่อแสดงความขอบคุณนะคะ) เราก็โทรไปหาพี่นงเยาว์ 2 รอบไม่รับสาย เราจึงให้ป้าก้อยช่วยโทอีกแรงหนึ่ง ในที่สุดพี่นงก็รับสายเรา เราก็สอบถามรายละเอียดทั้งเรื่องเตนท์ ถุงนอน ลูกหาบ ผู้นำทาง น้ำกินน้ำใช้ ในเบื้องต้นทางเราก็ได้บอกกับพี่นงไปว่า
เราจองเตนท์ 3 หลัง หลังละ 200 บาท/คืน
ถุงนอน 6 ถุง ถุงละ 150 บาท/คืน
ขึ้นดอยเช้าวันที่ 5 ธ.ค ลงดอยเช้าวันที่ 7 ธ.ค. จองไว้ในชื่อเราเรื่องลูกหาบและคนนำทางต้องขอประชุมกันกก่อนว่าราคาเท่าไร อย่างไร ให้โทรมาอีกทีหลังววันที่ 16 ต.ค ซึ่งปรากฎทางป้าก้อยก็โทติดเหมือนกันแต่จองคนละชื่อ เราเลยบอกว่าป้าก้อยยังไม่ต้องยกเลิกนะกันเหนียวเอาไว้เพื่อพี่นงลืมของเราก็ยังมีของป้าสำรอง (ทำแบบนี้ไม่ดีนะคะ อย่าทำตามแต่ตอนนั้นความอยากไปมันบังตามากกก)
เมื่อโทรจองที่เที่ยวเรียบร้อยสบายใจ ต่อไปคือเลือกการเดินทาง ด้วยความหลงไหลในชีวิตแบบ สไลว์ไลฟ์ เราจึงว้อนท์การ "นั่งรถไฟ" ทุกคนก็ดูตื่นเต้นเพราะหลายคนยังไม่เคยนั่งรถไฟกันมาก่อน (ไปอยู่ไหนกันมาฟร่ะ?!) แต่เมื่อศึกษาเส้นทาง ประกอบกับดูราคาแล้ว เราจึงได้ข้อสรุปว่า
"
ไปรถทัวร์ก็ไม่แย่นะเมิ๊งงงง" ฮ่า ๆๆๆๆๆ
เราเลยเลือกเดินทางด้วยรถทัวร์ของบริษัท บขส. ตอนเย็นวันที่ 4 ธ.ค รอบ 19.20 น. เส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่ แต่เราเลือกลงที่ตัวเชียงดาวเลยเพื่อความสะดวกในการที่รถจากอุทยานจะมารับ ราคาตั๋วจาก กทม.-เชียงดาว ราคา 851 บาท เมื่อได้ดังนั้นทางเราจึงรีบโทรติดต่อบริษัททันที โทรแล้วโทรอีก โทรแล้วโทรอีก โทรยังไงบริษัทก็ไม่รับสายเราสักที เราโมโหมากเหวี่ยงวีนโวยวายเล่นใหญ่รัชดาลัยใส่ป้าก้อย ป้าก้อยจึงบอกว่าโอเค เดี๋ยวป้าโทรเอง
ปรากฏว่า .. ป้าก้อยโทรติด !! (อิป้าเล่นของ!!) แต่บริษัทก็บอกเราว่าเส้นทางนี้ของวันที่ 4 ธ.ค. เปิดให้จองประมาณปลายเดื่อนตุลา นะคะ โอ้โห คือแบบบ !! รอแล้วก็รออีก อ่าาาาได้รอก็ได้ พอช่วงปลายเดือนป้าก้อยนางก็จัดการโทรแต่สงสัยของนางเสื่อมทำให้บริษัทไม่รับโทรศัพท์ ป้าจึงจองรถทัวร์ผ่านทาง TTM คณะเดินทางทั้ง 6 ก็มีรถเรียบร้อย อุ่นใจสบายใจได้ไปแล้ว แต่เหลือแค่รายละเอียดของลูกหาบ ผู้นำทางเท่านั้น
ทริปนี้เป็นทริปที่ตลกมาก เรา 6 ไปด้วยกันนะ แต่ขากลับใครใคร่จะบิน รถทัวร์ รถไฟ ติดรถเพื่อนกลับเอาเลยที่สบายใจ แล้วแต่คุณจะสะดวกกันเลย
กลายเป็นว่าทุกคนบินกันหมด เพราะทุกคนคิดว่าเราต้องอ่อนล้าจากการเดินขอบินกลับดีกว่า ป้าก้อยผู้แข็งแกร่งจึงทำการจองทันที ป้าม่วงแอร์ไลน์ เชียงใหม่-สุววรณภูมิในราคา 2900 บาท เพื่อนป้าก้อย คือพี่โจและพี่แบล็คก็บินกลับเช่นเดียวกันแต่พี่ 2 คนจะบินเช้าวันที่ 8 น้องนิวคนดีชีวิตดีมากมีตั๋วบินฟรีหางแดงแอร์ไลน์หมดปัญหาไป เหลือเรากับน้องวี 2 คน ด้วยความลังเลเราจึงยังไม่ยอมจอง สุดท้ายมอจองเอา 4 วันขึ้นดอยไปกับน้องนกแพงขี้พุ่ง 3300 บาท (อิป้ากำลังทำหน้าชนะอยู้รู้เลย) ฮ่า ๆๆๆๆๆ
ดึกแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้เรามาต่อนะคะ รับรอง ละเอียดสะใจแบบถึงพริกถึงขิงถึงข่าถึงตะไคร้แน่นอน
เอาไข่แดงตอนเช้ามาฝากก่อนไปนะคะ
[CR] ตีแผ่ "ดอยหลวงเชียงดาว" ในทุกแง่มุมที่คุณไม่เคยอ่านที่ไหนมาก่อน (ละเอียดมาก)
สวัสดีชาวห้องบลูฯ ทุกท่านนี้เป็นกระทู้แรกกับห้องบลูฯของเรานะคะ ปกติสิงอยู่ในห้องเฉลิมไทย เฉลิมกรุง
แต่เมื่อวันที่ 4-6 ธันวาคม 2558 ที่ผ่านมาเราและเพื่อน ๆ พี่ ๆ ได้เดินทางไปเที่ยวที่ดอยหลวงเชียงดาวมาค่ะ เกิดความปริ่มสุดพลังยั้งไม่ไหวทำให้เกิดกระทู้นี้ขึ้นมา
เราวางแผนที่จะไปดอยหลวงตั้งแต่เดือนกันยายนค่ะ มีเรากับพี่สาวที่ทำงานอีกคนเป็นตัวตั้งตัวตี ด้วยความที่ชอบการไป trekking เหมือน ๆ กัน
ก็เลยตกลงใจกันว่าเราจะไป "เชียงดาว" กันดีกว่า เมื่อได้สถานที่เรียบร้อย เราก็กำหนดวันกัน มาลงตัวที่ช่วงวันหยุดวันพ่อเพราะเหตุผลที่ไม่อยากลาเลยเลือกเอาวันหยุดราชการดีกว่าค่ะ
เมื่อได้ที่เที่ยว กำหนดวัน สิ่งต่อไปคือเราก็หาข้อมูลเชียงดาวให้ได้มากที่สุด เห็นมีคนมารีวิวลงพันทิปก็มาก รูปถ่ายพระอาทิตย์ไข่แดงตอนเช้ากับทะเลหมอกเป็นตัวกระตุ้นวามอยากเรามากไปอีก 10 เท่า ต้องไปเห็นด้วยตาตัวเองให้ได้ เราก็หาข้อมูลจนรู้ว่าต้องโทรติดต่อให้ใคร เตรียมตัวอย่างไร
การจะขึ้นไปดอยเชียงดาวนั้นเราต้องขออนุญาตก่อนขึ้นดอยนะคะทุกท่าน .. ไม่ใช่เดินเฟี้ยวฟ้าวเข้าไปจ่ายเงินขึ้นได้เลย (เอ๊ะหรือมันทำได้? หมอก็ทำนี้หว่า .. ใช่ม่ะหมอ?!) เพราะทางเขตอนุรักษ์อนุญาตให้เข้าได้ไม่เกิน 150 วันวันต่อคน พอทราบแค่นั้นดิฉันจำเป็นต้องหยิบฉวยโทรศัพท์สำนักงานทันทีค่ะคุณขา (มือถือตัวเองมีก็ไม่ใช้) กลัวไม่ได้ไปจัด
ซึ่งขออนุญาตได้สองทีคือ
1. สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพรรณพืช เขตจตุจักร กรุงเทพฯ โทร. 02-5614836
2. สำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ โทร. 053 456 623
นั้นแหละคะมหกรรมโทรกระหน่ำก็เกิดขึ้น .. แต่คุณขามันไม่ง่ายเลยที่จะโทรติดได้ในคราวเดียว ครั้งแรกเราโทรไปที่ สนง.อนุรักษ์สัตว์ป่า กทม. โทรแล้วก็โอนสายไปมา ต่อเบอร์นั้นนี้อยู่หลายรอบเราก็ยังไม่ได้คุยกับผู้รับผิดชอบเขตอนุรักษ์เชียงดาวสักที เราเลยลองโทรไปที่ สนง.อนุรักษ์เชียงดาวเลยโทรก็ไม่ติดค่ะ .. ท้อค่ะ ต้องบอกว่าชะนีท้อ กลัวไม่ได้เที่ยวแรง เราเลยฮึดสู้โทรไป สนง.เขต กทม. อีกครั้งนึ่ง (กับการเรียนและทำงานทุ่มเทขนาดนี้มั้ยถามใจตัวเองดู) ฝ่าฟันจนในที่สุดเราก็ได้เบอร์โทรของหัวหน้าเจ้าหน้าที่เขตอนุรักษ์เชียงดาวมา ท่านสมศักดิ์ (ขออนุญาตเอยชื่อท่านมาเพื่อแสดงความขอบคุณ) เราก็โทรติดต่อท่านทันทีค่ะ ด้วยไฟแรง ปรากฎว่าทางเขตอนุรักษ์ฯ เปิดให้จองขึ้นดอยได้ตอนเดือนตุลาคม ! ดริ๊ฟหนักมาก ไฟแทบมอด น้ำตาเกือบเล็ดความพยายามทั้ง 2 วันของช้านนนนนนนนน เราก็ได้แต่ตอบรับด้วยเสียงอ่อย ๆ แต่ในใจมุ่งหมายว่า 1 ตุลาฯ 08.30 ปุ๊บอินี่โทรปั๊บ ข้าต้องได้ขึ้นดอย!
เมื่อไป 2 มันดูเหงาหอย เอ๊ย ! เหงาหงอยเราก็จึงทำการชวนพี่ ๆ เพื่อน ๆ ในกลุ่มไลน์ตื่ง The Scipt ไปกันเพิ่มด้วย ปรากฎว่ามี โอ้วแม่สาวน้อยตกหลุมเราถึง 4 คน นั้นคือป้าก้อย น้องเต้ย น้องจูนและน้องนิวคนดี จากนั้นป้าก้อยก็แตกหนอออกไปโดยการชวนเพื่อนของนางไปเพิ่ม ซึ่งก็มีเพื่อนของนางตกหลุมทางเราอีก 2 คน คือพี่โจและพี่แบล็คเป็นว่าทริปเชียงดาวในเบื้องต้นมีกัน 9 คนโดยประมาณ
แต่ก่อนหน้าวันที่ 1 ตุลาฯ ไม่กี่วัน พี่สาวที่ทำงานเราและน้องสาวของแก ได้บอกว่าไม่สามารถไปเชียงดาวด้วยได้ น้องจูนก็ติดสอบ น้องเต้ยก็ยังอ่อนด๊อยขอแม่ไม่ได้ ทำให้ผู้ร่วมเดินทางของเราในครั้งนี้มีกัน 6 คน
และแล้ววันที่เรารอคอยก็มาถึง 1 ตุลาฯ เวลา 08.30 น. เวียนมาบรรจบ เราโทรหาท่านหัวหน้าสมศักดิ์ทันที หัวหน้าพูดคุยด้วยดีมากและท่านหัวหน้าก็ให้เบอร์โทรของผู้รับผิดชอบโดยตรงคือพี่นงเยาว์ (ขออนุญาตเอ่ยชื่อเพื่อแสดงความขอบคุณนะคะ) เราก็โทรไปหาพี่นงเยาว์ 2 รอบไม่รับสาย เราจึงให้ป้าก้อยช่วยโทอีกแรงหนึ่ง ในที่สุดพี่นงก็รับสายเรา เราก็สอบถามรายละเอียดทั้งเรื่องเตนท์ ถุงนอน ลูกหาบ ผู้นำทาง น้ำกินน้ำใช้ ในเบื้องต้นทางเราก็ได้บอกกับพี่นงไปว่า
เราจองเตนท์ 3 หลัง หลังละ 200 บาท/คืน
ถุงนอน 6 ถุง ถุงละ 150 บาท/คืน
ขึ้นดอยเช้าวันที่ 5 ธ.ค ลงดอยเช้าวันที่ 7 ธ.ค. จองไว้ในชื่อเราเรื่องลูกหาบและคนนำทางต้องขอประชุมกันกก่อนว่าราคาเท่าไร อย่างไร ให้โทรมาอีกทีหลังววันที่ 16 ต.ค ซึ่งปรากฎทางป้าก้อยก็โทติดเหมือนกันแต่จองคนละชื่อ เราเลยบอกว่าป้าก้อยยังไม่ต้องยกเลิกนะกันเหนียวเอาไว้เพื่อพี่นงลืมของเราก็ยังมีของป้าสำรอง (ทำแบบนี้ไม่ดีนะคะ อย่าทำตามแต่ตอนนั้นความอยากไปมันบังตามากกก)
เมื่อโทรจองที่เที่ยวเรียบร้อยสบายใจ ต่อไปคือเลือกการเดินทาง ด้วยความหลงไหลในชีวิตแบบ สไลว์ไลฟ์ เราจึงว้อนท์การ "นั่งรถไฟ" ทุกคนก็ดูตื่นเต้นเพราะหลายคนยังไม่เคยนั่งรถไฟกันมาก่อน (ไปอยู่ไหนกันมาฟร่ะ?!) แต่เมื่อศึกษาเส้นทาง ประกอบกับดูราคาแล้ว เราจึงได้ข้อสรุปว่า
"ไปรถทัวร์ก็ไม่แย่นะเมิ๊งงงง" ฮ่า ๆๆๆๆๆ
เราเลยเลือกเดินทางด้วยรถทัวร์ของบริษัท บขส. ตอนเย็นวันที่ 4 ธ.ค รอบ 19.20 น. เส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่ แต่เราเลือกลงที่ตัวเชียงดาวเลยเพื่อความสะดวกในการที่รถจากอุทยานจะมารับ ราคาตั๋วจาก กทม.-เชียงดาว ราคา 851 บาท เมื่อได้ดังนั้นทางเราจึงรีบโทรติดต่อบริษัททันที โทรแล้วโทรอีก โทรแล้วโทรอีก โทรยังไงบริษัทก็ไม่รับสายเราสักที เราโมโหมากเหวี่ยงวีนโวยวายเล่นใหญ่รัชดาลัยใส่ป้าก้อย ป้าก้อยจึงบอกว่าโอเค เดี๋ยวป้าโทรเอง
ปรากฏว่า .. ป้าก้อยโทรติด !! (อิป้าเล่นของ!!) แต่บริษัทก็บอกเราว่าเส้นทางนี้ของวันที่ 4 ธ.ค. เปิดให้จองประมาณปลายเดื่อนตุลา นะคะ โอ้โห คือแบบบ !! รอแล้วก็รออีก อ่าาาาได้รอก็ได้ พอช่วงปลายเดือนป้าก้อยนางก็จัดการโทรแต่สงสัยของนางเสื่อมทำให้บริษัทไม่รับโทรศัพท์ ป้าจึงจองรถทัวร์ผ่านทาง TTM คณะเดินทางทั้ง 6 ก็มีรถเรียบร้อย อุ่นใจสบายใจได้ไปแล้ว แต่เหลือแค่รายละเอียดของลูกหาบ ผู้นำทางเท่านั้น
ทริปนี้เป็นทริปที่ตลกมาก เรา 6 ไปด้วยกันนะ แต่ขากลับใครใคร่จะบิน รถทัวร์ รถไฟ ติดรถเพื่อนกลับเอาเลยที่สบายใจ แล้วแต่คุณจะสะดวกกันเลย
กลายเป็นว่าทุกคนบินกันหมด เพราะทุกคนคิดว่าเราต้องอ่อนล้าจากการเดินขอบินกลับดีกว่า ป้าก้อยผู้แข็งแกร่งจึงทำการจองทันที ป้าม่วงแอร์ไลน์ เชียงใหม่-สุววรณภูมิในราคา 2900 บาท เพื่อนป้าก้อย คือพี่โจและพี่แบล็คก็บินกลับเช่นเดียวกันแต่พี่ 2 คนจะบินเช้าวันที่ 8 น้องนิวคนดีชีวิตดีมากมีตั๋วบินฟรีหางแดงแอร์ไลน์หมดปัญหาไป เหลือเรากับน้องวี 2 คน ด้วยความลังเลเราจึงยังไม่ยอมจอง สุดท้ายมอจองเอา 4 วันขึ้นดอยไปกับน้องนกแพงขี้พุ่ง 3300 บาท (อิป้ากำลังทำหน้าชนะอยู้รู้เลย) ฮ่า ๆๆๆๆๆ
ดึกแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้เรามาต่อนะคะ รับรอง ละเอียดสะใจแบบถึงพริกถึงขิงถึงข่าถึงตะไคร้แน่นอน
เอาไข่แดงตอนเช้ามาฝากก่อนไปนะคะ