เปลี่ยนงานอย่างไร ให้ "สตรองงง" (ไม่ใช่ทีมลูกเกดนะครั่ฟ)

รุ่นพี่ที่ผมเคารพเขียนบทความนี้ไว้ในเพจของเขา น่าจะโดนใจใครหลายคน (รวมทั้งตัวผมด้วย) เลยอยากแชร์ครับ
----

ใกล้ปีใหม่แล้ว  หลายคนอาจกำลังจะเริ่มงานใหม่ หรือคิดมองหาโอกาส ส่วนตัวเราเอง 2ปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นช่วงเขย่าขวัญของชีวิตทีเดียว ได้มีโอกาสเปลี่ยนแปลง ได้ลองผิดลองถูก จนเจอจุดbalance ของตัวเอง จึงอยากแชร์ประสบการณ์และบทเรียน ออกมาเป็นหลัก 5ข้อนี้ ที่จะช่วยคุณให้ผ่านช่วงนี้ไปได้อย่าง "สตรอง" (ขออินเทรนด์) ที่สำคัญ.. ต้องอย่าลืม สติ และ สมอง พกมันไว้ทั้งคู่นะ

1.
"คิดบวกเข้าไว้" (positive thinking)
การคิดบวกจะช่วยให้คุณมั่นใจ คนไทยส่วนใหญ่มักถูกสอนมาให้นอบน้อมถ่อมตน จนบางทีมากไปจนขาดความมั่นใจ แทนที่จะสร้าง คุณค่า ให้ตนเอง แต่กลับ 'devalue' ตนเอง เพราะในหัวมีแต่ความคิดว่า ตนไม่เก่งไม่ดีพอที่จะให้ใครรับฟัง เลยต้องดำเนินชีวิตเป็น ผู้ตาม โดยปริยาย และอาศัยอยู่ใน 'comfort zone' โดยเรียกสิ่งนั้นว่า ความมั่นคง.. ครั้นพอถึงจุดที่ชีวิตต้องเปลี่ยนผัน เพราะอะไรก็ตามแต่ จึงทำให้เกิดความกลัว ดังนั้น สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ รับรู้ว่าความกลัว คือกิเลสอย่างหนึ่ง เสมือนความโลภโกรธหลง ซึ่งไม่ก่อให้เกิดสติ หรือ ปัญญา ดังนั้นคุณต้องสำนึกในความกลัวที่เริ่มก่อตัว และกำจัดมันก่อนที่จะประมวลเข้าสู่สมอง เหมือนการกรองตะกอนออกไปก่อน และนำแต่เพียงพลังงานบริสุทธิ์เข้าสู่สมอง ให้ตกผลึกแต่ความคิดเชิงบวก จากนั้น ความมั่นใจจะถูกสร้างขึ้นมาเอง พร้อมกับแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น ความสำเร็จก็จะตามมาเอง (คนไร้ความมั่นใจไม่มีทางประสบความสำเร็จ ดังนั้น การกำจัดความคิดเชิงลบจึงสำคัญมาก ต่อการดำเนินชีวิต)

2.
"อย่าเปรียบเทียบ" (no comparison)
ทุกองค์กรต่างกัน แม้จะมีขนาดพอๆกัน หรือสภาพแวดล้อมใกล้กัน แต่ไม่มีที่ไหนหรอกที่เหมือนกันทุกรายละเอียด ตัวอย่างเช่น บางที่มีน้ำอัดลมให้ดื่มฟรีไม่อั้น ในขณะที่บางที่ไม่มีแม้แต่ตู้เย็น แต่กลับมีรถบริษัท หรือสวัสดิการครอบครัวให้ จนไปถึงเรื่องใหญ่กว่านั้น เช่น บางที่คุณต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เช่นถ่ายเอกสาร นัดลูกค้า ต่างจากที่ก่อนที่คุณอาจมีเลขาหรือผู้ช่วย ที่เก่าคุณอาจได้ห้องทำงานใหญ่ ทีมใหญ่ แต่ไม่มีอิสระ ในขณะที่ที่ใหม่กลับต้องนั่งรวม แต่ได้อิสระทางความคิด.. ดังนั้น จงทำสมองของคุณให้ว่าง นำเอาแต่ประสบการณ์ในอดีตที่เกี่ยวข้องกับเนื้องานโดยตรง เพื่อการนำมาใช้พัฒนาตนเอง ส่วนรายละเอียดอย่างอื่นจงทิ้งไว้ที่เดิม ไม่ต้องเอามาด้วย อย่าเปรียบเทียบความสะดวกสบาย เพราะนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการคาดหวังที่ไม่เป็นประโยชน์ เป็นบ่อเกิดแห่งความคิดเชิงลบ ซึ่งเราต้องกำจัดมันออกไป

3.
"อย่านินทาว่าร้าย" (no bad mouth)
กรณีที่คุณออกจากงานเพราะความขัดแย้งกับที่ทำงานเก่า ขอให้ทิ้งอคติในใจ และจบมันอย่างสวยงาม ตรงนี้อาจทำใจยาก แต่ถ้าคุณไม่จบ มันจะส่งผลต่อความคิดในเชิงลบและการแสดงออกของคุณ วันหนึ่งคุณอาจลืมตัวเผลอพูดออกมากับคนรอบข้างในสิ่งที่ไม่ควรพูด ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องจริง แต่เชื่อเถอะว่าการกระทำแบบนั้นมันไม่ได้ทำให้คุณดูดีขึ้นมาเลย และแม้ว่าที่ใหม่จะดีกว่าเดิมทุกอย่าง ก็ไม่ต้องไปบัพที่เก่า หรือพนักงานของเขา จากกันแล้วก็จากกันด้วยดี แม้บางกรณี อาจต้องจากกันโดยมีคดีความหรือความขัดแย้ง ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องงานที่ต้องเคลียร์ต้องทำให้มันจบ อย่าทิ้งอารมณ์หรือความรู้สึกส่วนตัวไว้ตรงนั้น ให้มองไปข้างหน้า และบอกลาอดีต โดยไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องเก่าๆ ทิ้งทุกสิ่งที่ไม่มีผลดี ทิ้งทุกอย่างที่ขัดขวางความมั่นใจ และคิดบวกเสมอว่ามันจะต้องดีกว่าเดิม

4.
"รักษาความลับ" (keep confidentiality)
อย่านำความลับของที่ทำงานเก่ามาเปิดเผย ต่อให้คุณจะไปจอยกับบริษัทคู่แข่ง คุณยิ่งต้องระวังในการสื่อสารของคุณ เอกสารเกี่ยวกับงานของที่ทำงานเก่าไม่ควรเซฟออกมา แต่กรณีนี้ยอมรับว่าห้ามยาก เพราะสำหรับคนส่วนใหญ่ งานไหนที่ลงแรงทำ ก็อยากเก็บมันไว้ (ต่อให้มันคือสมบัติของบริษัทเก่าก็เหอะ) สิ่งที่แนะนำได้คือ ต้องรู้จักขอบเขต และใช้งานเหล่านั้นเพียงเพื่อเป็นguideline ในการผลิตงานใหม่ แต่ไม่ควรก๊อปออกมาใช้ต่อ ไม่เผยแพร่ ไม่ส่งต่อ และไม่ก๊อปลงคอมของที่ทำงานใหม่ แต่ให้เก็บใน storage ส่วนตัว ที่มั่นใจว่าไม่มีใครเข้าถึง ส่วนเอกสารที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้องาน เช่น ไฟล์รูปภาพ, templateของบริษัท, เอกสาร HR, สัญญาลูกค้า, และเอกสารที่เป็นของบริษัทโดยตรง ไม่ควรก๊อปออกมาเลย ถ้าเผลอติดมาด้วยให้รีบลบซะ เพราะเราคงไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นขโมย ใช่ไหม?

5.
"สื่อสารให้ดูดี" (smart communication)
บางคนไม่อยากเปลี่ยนงาน แต่เพราะสถานการณ์บังคับ หรือบางคนอาจได้โอกาสที่ดีกว่าจริงๆ จะอย่างไรก็ตาม ควรต้องระมัดระวังในการสื่อสาร โดยเฉพาะในแวดวงคนทำงานที่เราเกี่ยวข้องด้วย พอออกมาแล้ว อย่าทำลับๆล่อๆ ขอให้บอกในเครือข่ายของตนว่า ตอนนี้เราได้รับโอกาสอันน่าท้าทายในการร่วมงานกับ___ ขอบคุณที่นี่ที่ให้โอกาสเรา และหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทุกคนเหมือนในงานก่อน บลาบลาบลา
พยายามระวังในการพาดพิงถึงที่เก่า และบอกในมุมที่ positive เพื่อตัดประเด็นสงสัยต่างๆออกไป โดยไปโฟกัสเรื่องโอกาสการเติบโตและความท้าทายของงานใหม่แทน

"new beginning is a blessing from the sky"

มีเพียงไม่กี่บนโลกนี้ ที่จะได้รับโอกาสในการพิสูจน์ตนเอง ด้วยการเริ่มต้นใหม่ ครั้งแล้วครั้งเล่า ฟ้าเลือกสิ่งนี้ให้คุณ เพราะ 'คุณทำได้'

---
เครดิตจากเพจ AEC Geek
https://facebook.com/AECGeek/posts/717643225037551:0
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่