แก้นิสัยขี้หลงขี้ลืมกับ 10 เคล็ดลับขจัดขี้หลงขี้ลืม

แก้นิสัยขี้หลงขี้ลืมกับ 10 เคล็ดลับขจัดขี้หลงขี้ลืม


อาการขี้หลงขี้ลืมมีกันได้ทุกคนไม่ว่าจะอายุน้อยหรืออายุมาก บางครั้งถึงต้องการจดบันทึกหรือสัญลักษณ์คอยกำกับเอาไว้ คราวนี้เรามีวิธีขจัดอาการนี่ได้ และต้องกินอาหารที่ช่วยพัฒนาทางด้านสมอง และเรื่องความจำให้ดีอีกด้วย ถ้าเกิดเรามีการดูแลสุขภาพที่ดีแล้ว แน่นอนเรื่องอาการนี่จะหายไปแน่นอน ถ้าเป็นเรื่องสอบแล้ว สบายหายห่วง เรามาดูกันดีกว่าเกี่ยวกับ 10 เคล็ดลับที่จะช่วยเปลี่ยนนิสัยขี้หลงขี้ลืม กันเถอะ



1. การจดบันทึกในการช่วยจำ

การจัดบันทึงในการช่วยจำนั้นเป็นสิ่งที่เตือนให้คุณสามารถ จดจำในเรื่องบ้างอย่างได้ดี ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวัน แต่ละอาทิตย์ หรือที่ต้องทำในเดือนถัดไป จดเบอร์โทรศัพท์, ที่อยู่เพื่อนฝูง, วันเกิด, ข้อมูลเกี่ยวกับโรคที่คุณเป็นและ การรักษา รวมไปถึงความรู้สึกนึกคิดของคุณในแต่ละวัน การจดบันทึกเป็นสิ่งที่ช่วยย้ำให้สมองของเรานั้นจดจำในเรื่องเราเหล่านั้นได้ดีอีกด้วย หรือทางที่ดีหากเป็นคนขี้หลงขี้ลืม ก็พกหนังสือเล็กติดตัวไว้ เพื่อช่วยเตือนในภารกิจที่ทำในแต่ละวัน

2.การพูดในใจกับตัวเอง

การพูดในใจกับตัวเองนั้น ก็คล้ายๆกับการจดบันทึก เพราะอะไรหรอ ? เมื่อหากเราพูดในใจกับตัวเองบ่อยๆในเรื่องนั้น สมองก็จะจดจำในเรื่องนั้นที่เราพูดบ่อยๆ และอีกวิธีอัดเทปบันทึกเสียงไว้ เพื่อช่วยในการจดจำจะเป็นอะไรที่ดีมากๆ

3. การติดกระดาษโน็ต

กระดาษโน็ตสมัยนี้มีเยอะแยะ ที่สามารถติดแปะไว้ได้ การที่เขียนเรื่องราวและติดโน็ตเอาไว้มันจะเป็นจุดสังเกศให้สายตาเราหันหอกเป็นเรื่องธรรมชาติ ยิ่งถ้าเป็นสีที่แสบตาแล้วละก็ ยิ่งเป็นสิ่งที่เตะตามากที่สุด

4. การเก็บของให้มีระเบียบ

การเก็บของให้เข้าที่มีระเบียบเป็นที่ เป็นทาง จะเป็นการที่ทำให้เราหาอะไรเจอได้ดี หากเก็บของแล้วแบ่งเป็นหมวดๆ ว่าสิ่งของนี้เป็นประเภทไหนก็สามารถแยกแยะได้แน่นอน แล้วที่สำคัญหาของเจอได้อย่างรวดเร็วแน่นอน

5. อย่าทำอะไรหลายๆอย่างพร้อมกัน

อย่าทำอะไรหลายๆอย่างพร้อมกันในเวลาเดียวกัน เช่นดูทีวี ในขณะที่หูก็ฟังเสียงเพื่อนในโทรศัพท์ ทำให้ไม่มีสมาธิในการจำ ควรจะเลือกทำเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง



6. การทำให้เป็นเรื่องกิจวัตร

การทำในสิ่งนั้นซ้ำไปซ้ำมา เช่นการฝึกเขียน ฝึกซ้อม ฝึกอ่าน ฯลฯ ฝึกปฏิบัติในสิ่งนั้นซ้ำๆจะเป็นการซึมซั้บในสิ่งนั้น หากวางจากการทำภารกิจอื่นแล้วหากว่าง เห็บหนังสือสอบขั้นมาอ่าน หรือเรื่องอื่นๆ แน่นอนทำได้แน่นอนไม่ต้องกลัวลืม

7. การใช้ตัวย่อ

การใช้ตัวย่อ ยกตัวอย่าง อ-ว-อ (อ่านวิชาภาษาอังกฤษ) หรือ C-I-S (Computer Information System) หากสามารถทำเรื่องเรานั้นให้เป็นตัวย่อ อาจจะช่วยให้เรื่องนั้นจำได้ง่ายขึ้น

8. ทำเรื่องยากให้ช้าๆ

ทำอะไรให้ช้าลงหน่อย เพราะสมองเราจะจำอะไรได้ช้าลงเมื่ออายุมากขึ้น การพูดเร็ว ทำเร็ว จนเกินไปก็มีส่วนทำให้สมองเก็บเรื่องราวเหล่านั้นไว้ไม่ทัน

9.ทำให้ร่างกายแข็งแรง

จริงหรือ ? ทำให้ร่างกายแข็งแรง และความจำจะแข็งแรง การดูแลตัวเองดีๆ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะเมื่อร่างกายแข็งแรง ความจำก็จะดีไปด้วย

10. บริหารสมอง

เมื่อเรียนมากไปสมองก็ล้า ควรให้สมองได้พักบ้าง เช่น เล่นเกมส์ (ไม่ได้เล่นทั้งวัน) ฟังเพลง ดูหนัง ออกไปข้างนอก ฯลฯ กิจกรรมเหล่านี้ช่วยให้สมองได้ออกกำลัง ก็เหมือนกับร่างกาย เมื่อได้ออกกำลังก็จะแอคทีฟขึ้น คิดอะไรได้ฉับไว และที่แน่ๆช่วยให้ความจำดี



ของแถมในเมื่อเราฟังเพลงได้แล้วร้องเพลงได้ ทำไมเราไม่ลองจำเนื้อเรื่องเราเหมือนกับเพลงที่เราฟังละ ถ้าเอาเนื้อหามาเป็นเนื้อเพลงได้รับลอง จำตัวหนังสือได้แน่นอน

ที่มา : http://www.rsubba.com/
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่