สวัสดีครับ.........ผมโอนะครับ
ตามหัวเรื่องเลยนะ
คือผมมีเรื่องความรักฟรุ้งฟริ้งกรุ๊งกริ้งกระดิ่งแมวจะมาเล่าให้พวกคุณได้ฟังนะเอ่อออออออ
นี่คือการหัดเขียนพันทิปครั้งแรกและคงเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตเลยย ล้ะ อายที่จะเล่า คุณๆที่มาอ่าน
เอาเป็นว่า โอเล่า เลยแล้วกันนะ ของเล่ายาวหน่อยนะ ด้ะแบ่งเป็นตอนๆให้

วันที่เจอ
คือตอนนั้นเราอยู่ ม.ปลาย ม.5กำลังเข้าม.6 เราเป็นคนที่ชอบดื่มกาแฟ พอสมควรครับแต่ว่าไม่ได้ชอบรสเข้มๆนะ
ชอบ แค่กลิ่นมันเฉย โดยปกติ พอตกเย็นปุ๊บหลังเรียนเสร็จ เราก็ชวนเพื่อนไปบ่อยๆ (ถ้าไม่มีคนไป เราไปคนเดียวก็ได้หว้าาาา)
.... แล้วเราไปเรื่อยๆ แถบทุกวันเลยครับ ไม่ว่าจะหลังเรียนเสร็จหรือ ตอนที่มีเรื่องแล้วโดดไป เพราะเป็นร้านที่บรรยากาศดีมากๆเลย
ปกติผมก็เป็นคนชอบ คนน้อยๆอยู่แล้วนะ เพราะมันไม่วุ่นวายดี
โอ้ววบร๊ะแล้ววว ๆ วันนั้นก็มาถึงครับ เราได้เจอ ผู้หญิงคนนี้ครับท่าน เธอมาที่ร้านกาแฟร้านที่ผมชอบไปมากๆเลย
เขาชื่อ R แล้วกันเนอะง่ายดี คุณ R นี่ก็แบบ อายุเท่ากันเลยเขาอยู่ ม.6 จะเข้ามหาลัยแล้วด้วยเขาและอยู่โรงเรียนหญิงล้วน(ถึงจะมีผู่ชายอยู่ในนั้น แค่ระดับ ม.ปลายก็เถอะ) พอเรานี่เห็นหน้าเขานะ โหยยยย คุณผิวเขาแลดูมีออร่าเลยล้ะ คือ แบบๆ ภาพเบลอโฟกัสเขาคนเดียว
คือๆ เหมือนถ่ายรูปแล้วโฟกัสจุดเดียว แล้วขอบดำๆในจอภาพเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หน้าชัดหลับเบลออ่ะน้ะ คนถ่ายรูปคงเข้าใจ
ปกติเป็นคนเฟรนลี่อยู่แล้ว เราไม่รีรอ เลยครับ คิดวิธีจีบเลย ทั้งหากลอนใน โทรศัพท์ ยูทูป บลาๆ เยอะแยะ ด้วยความเขิลๆอายๆ
เรา ไปหาใน กูเกิ้ล จีบหญิงร้านกาแฟ ไรเงี้ยเลยล้ะ
สุดจะจนปัญญา เลยเอาวิธีนี้เลย ซื้อขนมเลี้ยงเขา (จริงๆยังไม่รู้จักกันหรอก) ได้แต่คิดว่า เขาอาจสนใจเรา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ทำเหมือนหล่อเนอะ 


เรา ใช้ความสนิทสนมกับทางร้านเลยไม่อายเท่าไหร่ จึงไปรบกวนให้พี่ๆพนักงานร้านกาแฟ ทำขนมแล้วไปส่งโต๊ะนั้นให้หน่อย
แต่คือคุยกับพี่ๆเขาแล้วนะว่า "พี่ ทำเสร็จบอกผมก่อนนะ ผมอาย" และแล้วผ่านไป... 10กว่านาที เร็วเฟร่อออ
พี่ทางร้านส่งซิกมากปุ๊บ เรานี่ลุกไปแบบยิ้มๆ (ไม่ได้ไปหยิบ มาเสริฟนะ) พุ้งตัวออกหลังร้านด้วยความอายมากๆ ปล่อยให้เพื่อนนนั่งเฝ้าโต๊ะไว้ คนนึงข้อหาพึงมา เราก็ไปหลังร้านแล้ว นั่งสูบบุหรี่เพลินๆ แล้วทันใดนั้นแม่จ้าวจ้อดดด.. เขามาหลังร้านผมนี่พุ้งตัวเขาหาห้องน้ำ เผลอตัวอีกทีเข้ายืนรอหน้าห้องน้ำ
คือๆ ทำไมต้องเขาห้องนี้ว้ะ แล้วเขาพูดกับเราว่า "คุณ นี่ห้องน้ำหญิงน้ะ" อ่าวววกำซวยแล้วตรู......
เราได้แต่เดินอายๆไปห้องน้ำชาย นั่งคุกกับชักโครกเลย อีกประมาณสิบนาที คงได้เพื่อนใหม่เป็นฝารองก้นล้ะ
พอเวลาต่อมา เรากลับไปนั่งที่โต๊ะ อยู๋โทรสับดังเข้าของเรา ซึ่งริงโทน นี่สนั่นทั้งร้านหันทุกโต๊ะ ถ้าปกติคงไม่อายหรอก แต่นี้ ทั้งเขิลทั้งอาย
เราก็รับโทรสับ พอดีว่า เราเอารถไปซ่อม ซึ่งเสร็จแล้วก็เลยรีบออกไปเอา ร้านก็อยู่ไกลพอสมควรนะ แต่เราสวมวิญาณนั่งซิ่ง (ผมขับรถมอไซใหญ่อ่านะ)
ก็เลยใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ แต่รถก็ติดมากเลยล้ะเพราะอยู่ตัวเมืองใหญ่ ใช้เวลาไปเกือบ30นาทีนู้นเลย กลับมาอีกที เอ้าเขาไปไหน
ถามเพื่อน "เขาไปไหนแล้วว้ะ " เพื่อนที่น่ารักตอบกลับ "อ้อเข้าไปแล้วว้ะ" ..... กำจริง หลังจากนั้น ผมระดมความสามารถในการส่องเฟสบุ๊ก หาเฟสเขาจนเจอ ซึ่งใช้เวลา2วัน เต็มๆ (จริงๆก็วันเดียวล้ะ มาหาเจอวันที่2เฉยๆ)



หมดกันวันนี้
วันที่เจออีกครั้ง
ในที่สุดเราก็จะได้เจอเขาอีกครั้งแล้ว มันเป็นงานโรงเรียน จัดให้เด็ก ม.6 ที่จบ ของสถาบันเขา เราก็รออะไรล้ะครับ เรื่องไปโรงเรียนเขาเลย
ด้วยความที่เราชอบถ่ายภาพ และก็มีฝีมือ (โม้ไปนั้น) เราเลยมีคนติดต่อให้ไปถ่ายซึ่งก็เป็นเพื่อนๆกันนี่ล้ะ เพราะรู้ว่าจะ มีโอกาศได้เจอเขา เราเลยแต่งตัวหล่อที่สุดในชีวิต ปกติเวลาไปไหน ขับรถยนย์ ชุดกีฬาตลอด แต่ถ้ามอไซก็กางเกงยืนผ้าใบเสื้อคอกลมพอให้ลมมันผ่าน เย็นดี เราชอบ
แต่วันนี้เหมือนไปเจอรักแท้ หู้ยยยยยย... จัดเต็มครับ
ตอนนั้นเรายังไม่มีเบอร์โทรเขาเลยก็ทักเฟสไปเลยสิ อุส่าใช้พลังนิ้วจิ้มๆ จนเจอ แฮร่
แล้วก็ได้นัดที่หมายเจอกัน เราก็พุ้งไปหาเขาก่อนไปเจอเพื่อนที่จ้างเรามาถ่าย เลยสิครับ เพราะงานยังไม่เริ่มเท่าไหร่เลยน่าจะมีเวลาคุย
วันนั้นเรามีช่อดอกไม้อยู่ที่รถให้เพื่อนถือไว้กะเซอไพร์แบบในหนังอ้ะ
พอเมื่อเจอหน้าปุ๊บก็เลย ทักเลย แล้วบอกแบบ หล่อๆเลย "สวัสดี" (คนมัน คิดคำไม่ออกเลยโว้ยยยย)
แล้วก็ก็พูดรัวมาก ปุ๊บปั๊บรู้สึกอีกที เขาไม่อยู่ตรงหน้าแล้ว จำได้แค่ "แกรๆเด๋วเราต้องไปเข้างานก่อนนะ"
เราก็ได้แค่ พูดออกไป ครับ คำเดียวเลย จริงๆ
และแล้ววันนี้ก็เจอกันไม่ถึง5นาที แต่ใช้เวลาเตรียมตัวเตรียมใจเกือบๆ 5ปี ถรุ้ยยยย โอเวอร์ไปแล้วเรา....

วันที่เริ่มรู้จักกัน
เวลาต่อ ยังไม่เข็ด แอดไปทักแชทไปคุยจากวันนั้น เราบอกเป็นคนที่ซื้อให้เอง วันนั้นที่เจอก็เราเอง ก็อธิบายไป ว่า ชอบนะแกรร ไรเงี้ยย คงเข้าใจนะ คนกำลังจะมีรัก แต่ไม่ได้บอกเรื่องเซอไพร์เพราะเราคิดว่าบอกไปให้มันได้อะไรว้ะ ผ่านมาแล้วผ่านไปเถอะ
แต่ที่สำคัญ เขาคุยกับเราดีมากๆ เลยนะ ก็เลยได้มีการแลกเบอร์โทร พยยามโทรไปหาน้ะแต่พ่อเขาโหดพอดูเลยล้ะ
แล้วเราชอบเขามากๆ คือเวลาเขาเห็นของหวาน จะตาใสเชียวล้ะ ขนาดเห็นแค่ครั้งเดียวยังจำได้เลย(เราเป็นคน ช่างสังเกตอ่าน้ะ) และอีกอย่างคือเขาเป็นคนกลัวผี เวลาจะขึ้นห้องนอนหรือไปอาบน้ำเขาจะให้เราฟังเขาวิ่ง คือๆเสียงวิ่งนี่ เป็นตาสดุดกระไดหัวแต่ตายมาก
แต่เราก็นอนฟังไง บ้าเหมือนกันเนอะเราแต่เราก็ไม่ได้โทรหาทุกวันหรอกนะเพราะ เขาเป็นเด็กขยันเรียน ไม่ค่อยมีเวลาเรามันเด็กเกเรเวลาเลยมีมากกว่าปกติ ก็ไม่เป็นไร เราอยู่กับเพื่อนได้ แต่พอหลังๆ มาก็ไม่ค่อยได้คุยกันเลยเพราะเขาจะสอบ เข้ามหาลัยเลยไม่ทักไปกวนเราก็อยู่ๆปกติอยู่แล้ว ไม่ซี ๆ
ก็ได้แต่ คิดๆว่า เขาอาจทักเรามาบ้างนะไรเงี้ย (ถึงมันจะไม่เคยเกิดขึ้นก็เถอะ) ก็เลยนอยล์ๆไปเลยล้ะ ไม่ค่อยทักไปเลยด้วยซ้ำ แต่ช่วงเวลาในวันนั้นก็ โอเครดีนะ อย่าน้อยก็ไม่เคยทุกข์ใจเลยที่ได้คุย
ณ ตอนนี้นะ ก็ ไม่มีเรื่องของเขาเลย เพราะเราก็ เข้ามหาลัยแล้ว เวลาเรียนสอบ ก็ไม่ค่อยว่างจับโทรสับแล้วล้ะ ก็ได้แต่เห็นเขาอัพรูป ไปกดไลค์ แค่นั้นล้ะ ไปโพส กวนๆบ้าง ว่า อ้วน กลมๆ ไรเงี้ย
แล้วมีอยู่วันนึง ซึ่งเป็นวันเกิดเรา เราเกิด27 เดือนไม่บอกน้ะ(เดี๋ยวเขารู้ตัว) เขาแบบโทรมาส่งข้อความมาหาไง แต่ตอนนั้น เรามั่วแต่ ดื่มกินกับเพิ้ลๆ เนื่องใจวันเกิด เพราะเป็นวันเกิดนี่ล้ะ จึงเลือกปิดเสียงโทรสับ คือๆทั้งเฟส ไลน์ ข้อความ เด้งกัน จนนึกว่าโทรสับเต้นได้แล้ว แต่พอเห็นปุ๊บเรานี่รีบติดต่อเขาเลย ตอนนั้นก็ดึกอยู่นะ ไม่ตี1ก็ตี2 โทรไปทักไป เอ้าเหยยยย เขาตอบมาด้วย แล้วแค่ได้ยินเสียงจาก แบบ เมาๆนี่ตื่นแบบมีสติเลย คุยกับเขา แล้วรู้สึกปีนี้ สุขใจมากเลยจริงๆ
จนมาถึงวันนี้ ก็พึงคุยกับเขาเสร็จล้ะ ถึงแป๊ปเดียวแต่ ก็ยังรู้สึกดีมากๆเลยคือ เขาก็ยังจำเราได้ ถึงไม่ว่างคุยไม่ว่างตอบ เราก็โอเครนะ เพราะจุดนี้ แม้งก็สุขใจแล้ว ก็ไม่ได้หวังอะไร ได้คบก็ดี แต่ได้รู้จักไปจนแก่ก็คงจะดีกว่า
ปล. อ่านกัน งงๆไหมเอ๋ย เรื่องจริง90%เติมแต่ง10% คือเราพยยามเขียนให้มันเขาใจ ถ้าผิดพลาดยังไง ขอโพยขอหวย เอ้ยขอโทนนะเอ่ออ
ปล. เราเป็นคนกวนๆ นะ แต่พอเขียนกลัวจะหยาบคายไป
รักที่ไม่หวัง (มั้ง)
ตามหัวเรื่องเลยนะ
คือผมมีเรื่องความรักฟรุ้งฟริ้งกรุ๊งกริ้งกระดิ่งแมวจะมาเล่าให้พวกคุณได้ฟังนะเอ่อออออออ
นี่คือการหัดเขียนพันทิปครั้งแรกและคงเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตเลยย ล้ะ อายที่จะเล่า คุณๆที่มาอ่าน
เอาเป็นว่า โอเล่า เลยแล้วกันนะ ของเล่ายาวหน่อยนะ ด้ะแบ่งเป็นตอนๆให้
คือตอนนั้นเราอยู่ ม.ปลาย ม.5กำลังเข้าม.6 เราเป็นคนที่ชอบดื่มกาแฟ พอสมควรครับแต่ว่าไม่ได้ชอบรสเข้มๆนะ
ชอบ แค่กลิ่นมันเฉย โดยปกติ พอตกเย็นปุ๊บหลังเรียนเสร็จ เราก็ชวนเพื่อนไปบ่อยๆ (ถ้าไม่มีคนไป เราไปคนเดียวก็ได้หว้าาาา)
.... แล้วเราไปเรื่อยๆ แถบทุกวันเลยครับ ไม่ว่าจะหลังเรียนเสร็จหรือ ตอนที่มีเรื่องแล้วโดดไป เพราะเป็นร้านที่บรรยากาศดีมากๆเลย
ปกติผมก็เป็นคนชอบ คนน้อยๆอยู่แล้วนะ เพราะมันไม่วุ่นวายดี
โอ้ววบร๊ะแล้ววว ๆ วันนั้นก็มาถึงครับ เราได้เจอ ผู้หญิงคนนี้ครับท่าน เธอมาที่ร้านกาแฟร้านที่ผมชอบไปมากๆเลย
เขาชื่อ R แล้วกันเนอะง่ายดี คุณ R นี่ก็แบบ อายุเท่ากันเลยเขาอยู่ ม.6 จะเข้ามหาลัยแล้วด้วยเขาและอยู่โรงเรียนหญิงล้วน(ถึงจะมีผู่ชายอยู่ในนั้น แค่ระดับ ม.ปลายก็เถอะ) พอเรานี่เห็นหน้าเขานะ โหยยยย คุณผิวเขาแลดูมีออร่าเลยล้ะ คือ แบบๆ ภาพเบลอโฟกัสเขาคนเดียว
คือๆ เหมือนถ่ายรูปแล้วโฟกัสจุดเดียว แล้วขอบดำๆในจอภาพเลย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปกติเป็นคนเฟรนลี่อยู่แล้ว เราไม่รีรอ เลยครับ คิดวิธีจีบเลย ทั้งหากลอนใน โทรศัพท์ ยูทูป บลาๆ เยอะแยะ ด้วยความเขิลๆอายๆ
เรา ไปหาใน กูเกิ้ล จีบหญิงร้านกาแฟ ไรเงี้ยเลยล้ะ
สุดจะจนปัญญา เลยเอาวิธีนี้เลย ซื้อขนมเลี้ยงเขา (จริงๆยังไม่รู้จักกันหรอก) ได้แต่คิดว่า เขาอาจสนใจเรา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรา ใช้ความสนิทสนมกับทางร้านเลยไม่อายเท่าไหร่ จึงไปรบกวนให้พี่ๆพนักงานร้านกาแฟ ทำขนมแล้วไปส่งโต๊ะนั้นให้หน่อย
แต่คือคุยกับพี่ๆเขาแล้วนะว่า "พี่ ทำเสร็จบอกผมก่อนนะ ผมอาย" และแล้วผ่านไป... 10กว่านาที เร็วเฟร่อออ
พี่ทางร้านส่งซิกมากปุ๊บ เรานี่ลุกไปแบบยิ้มๆ (ไม่ได้ไปหยิบ มาเสริฟนะ) พุ้งตัวออกหลังร้านด้วยความอายมากๆ ปล่อยให้เพื่อนนนั่งเฝ้าโต๊ะไว้ คนนึงข้อหาพึงมา เราก็ไปหลังร้านแล้ว นั่งสูบบุหรี่เพลินๆ แล้วทันใดนั้นแม่จ้าวจ้อดดด.. เขามาหลังร้านผมนี่พุ้งตัวเขาหาห้องน้ำ เผลอตัวอีกทีเข้ายืนรอหน้าห้องน้ำ
คือๆ ทำไมต้องเขาห้องนี้ว้ะ แล้วเขาพูดกับเราว่า "คุณ นี่ห้องน้ำหญิงน้ะ" อ่าวววกำซวยแล้วตรู......
เราได้แต่เดินอายๆไปห้องน้ำชาย นั่งคุกกับชักโครกเลย อีกประมาณสิบนาที คงได้เพื่อนใหม่เป็นฝารองก้นล้ะ
พอเวลาต่อมา เรากลับไปนั่งที่โต๊ะ อยู๋โทรสับดังเข้าของเรา ซึ่งริงโทน นี่สนั่นทั้งร้านหันทุกโต๊ะ ถ้าปกติคงไม่อายหรอก แต่นี้ ทั้งเขิลทั้งอาย
เราก็รับโทรสับ พอดีว่า เราเอารถไปซ่อม ซึ่งเสร็จแล้วก็เลยรีบออกไปเอา ร้านก็อยู่ไกลพอสมควรนะ แต่เราสวมวิญาณนั่งซิ่ง (ผมขับรถมอไซใหญ่อ่านะ)
ก็เลยใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ แต่รถก็ติดมากเลยล้ะเพราะอยู่ตัวเมืองใหญ่ ใช้เวลาไปเกือบ30นาทีนู้นเลย กลับมาอีกที เอ้าเขาไปไหน
ถามเพื่อน "เขาไปไหนแล้วว้ะ " เพื่อนที่น่ารักตอบกลับ "อ้อเข้าไปแล้วว้ะ" ..... กำจริง หลังจากนั้น ผมระดมความสามารถในการส่องเฟสบุ๊ก หาเฟสเขาจนเจอ ซึ่งใช้เวลา2วัน เต็มๆ (จริงๆก็วันเดียวล้ะ มาหาเจอวันที่2เฉยๆ)
ในที่สุดเราก็จะได้เจอเขาอีกครั้งแล้ว มันเป็นงานโรงเรียน จัดให้เด็ก ม.6 ที่จบ ของสถาบันเขา เราก็รออะไรล้ะครับ เรื่องไปโรงเรียนเขาเลย
ด้วยความที่เราชอบถ่ายภาพ และก็มีฝีมือ (โม้ไปนั้น) เราเลยมีคนติดต่อให้ไปถ่ายซึ่งก็เป็นเพื่อนๆกันนี่ล้ะ เพราะรู้ว่าจะ มีโอกาศได้เจอเขา เราเลยแต่งตัวหล่อที่สุดในชีวิต ปกติเวลาไปไหน ขับรถยนย์ ชุดกีฬาตลอด แต่ถ้ามอไซก็กางเกงยืนผ้าใบเสื้อคอกลมพอให้ลมมันผ่าน เย็นดี เราชอบ
แต่วันนี้เหมือนไปเจอรักแท้ หู้ยยยยยย... จัดเต็มครับ
ตอนนั้นเรายังไม่มีเบอร์โทรเขาเลยก็ทักเฟสไปเลยสิ อุส่าใช้พลังนิ้วจิ้มๆ จนเจอ แฮร่
แล้วก็ได้นัดที่หมายเจอกัน เราก็พุ้งไปหาเขาก่อนไปเจอเพื่อนที่จ้างเรามาถ่าย เลยสิครับ เพราะงานยังไม่เริ่มเท่าไหร่เลยน่าจะมีเวลาคุย
วันนั้นเรามีช่อดอกไม้อยู่ที่รถให้เพื่อนถือไว้กะเซอไพร์แบบในหนังอ้ะ
พอเมื่อเจอหน้าปุ๊บก็เลย ทักเลย แล้วบอกแบบ หล่อๆเลย "สวัสดี" (คนมัน คิดคำไม่ออกเลยโว้ยยยย)
แล้วก็ก็พูดรัวมาก ปุ๊บปั๊บรู้สึกอีกที เขาไม่อยู่ตรงหน้าแล้ว จำได้แค่ "แกรๆเด๋วเราต้องไปเข้างานก่อนนะ"
เราก็ได้แค่ พูดออกไป ครับ คำเดียวเลย จริงๆ
และแล้ววันนี้ก็เจอกันไม่ถึง5นาที แต่ใช้เวลาเตรียมตัวเตรียมใจเกือบๆ 5ปี ถรุ้ยยยย โอเวอร์ไปแล้วเรา....
เวลาต่อ ยังไม่เข็ด แอดไปทักแชทไปคุยจากวันนั้น เราบอกเป็นคนที่ซื้อให้เอง วันนั้นที่เจอก็เราเอง ก็อธิบายไป ว่า ชอบนะแกรร ไรเงี้ยย คงเข้าใจนะ คนกำลังจะมีรัก แต่ไม่ได้บอกเรื่องเซอไพร์เพราะเราคิดว่าบอกไปให้มันได้อะไรว้ะ ผ่านมาแล้วผ่านไปเถอะ
แต่ที่สำคัญ เขาคุยกับเราดีมากๆ เลยนะ ก็เลยได้มีการแลกเบอร์โทร พยยามโทรไปหาน้ะแต่พ่อเขาโหดพอดูเลยล้ะ
แล้วเราชอบเขามากๆ คือเวลาเขาเห็นของหวาน จะตาใสเชียวล้ะ ขนาดเห็นแค่ครั้งเดียวยังจำได้เลย(เราเป็นคน ช่างสังเกตอ่าน้ะ) และอีกอย่างคือเขาเป็นคนกลัวผี เวลาจะขึ้นห้องนอนหรือไปอาบน้ำเขาจะให้เราฟังเขาวิ่ง คือๆเสียงวิ่งนี่ เป็นตาสดุดกระไดหัวแต่ตายมาก
แต่เราก็นอนฟังไง บ้าเหมือนกันเนอะเราแต่เราก็ไม่ได้โทรหาทุกวันหรอกนะเพราะ เขาเป็นเด็กขยันเรียน ไม่ค่อยมีเวลาเรามันเด็กเกเรเวลาเลยมีมากกว่าปกติ ก็ไม่เป็นไร เราอยู่กับเพื่อนได้ แต่พอหลังๆ มาก็ไม่ค่อยได้คุยกันเลยเพราะเขาจะสอบ เข้ามหาลัยเลยไม่ทักไปกวนเราก็อยู่ๆปกติอยู่แล้ว ไม่ซี ๆ
ก็ได้แต่ คิดๆว่า เขาอาจทักเรามาบ้างนะไรเงี้ย (ถึงมันจะไม่เคยเกิดขึ้นก็เถอะ) ก็เลยนอยล์ๆไปเลยล้ะ ไม่ค่อยทักไปเลยด้วยซ้ำ แต่ช่วงเวลาในวันนั้นก็ โอเครดีนะ อย่าน้อยก็ไม่เคยทุกข์ใจเลยที่ได้คุย
ณ ตอนนี้นะ ก็ ไม่มีเรื่องของเขาเลย เพราะเราก็ เข้ามหาลัยแล้ว เวลาเรียนสอบ ก็ไม่ค่อยว่างจับโทรสับแล้วล้ะ ก็ได้แต่เห็นเขาอัพรูป ไปกดไลค์ แค่นั้นล้ะ ไปโพส กวนๆบ้าง ว่า อ้วน กลมๆ ไรเงี้ย
แล้วมีอยู่วันนึง ซึ่งเป็นวันเกิดเรา เราเกิด27 เดือนไม่บอกน้ะ(เดี๋ยวเขารู้ตัว) เขาแบบโทรมาส่งข้อความมาหาไง แต่ตอนนั้น เรามั่วแต่ ดื่มกินกับเพิ้ลๆ เนื่องใจวันเกิด เพราะเป็นวันเกิดนี่ล้ะ จึงเลือกปิดเสียงโทรสับ คือๆทั้งเฟส ไลน์ ข้อความ เด้งกัน จนนึกว่าโทรสับเต้นได้แล้ว แต่พอเห็นปุ๊บเรานี่รีบติดต่อเขาเลย ตอนนั้นก็ดึกอยู่นะ ไม่ตี1ก็ตี2 โทรไปทักไป เอ้าเหยยยย เขาตอบมาด้วย แล้วแค่ได้ยินเสียงจาก แบบ เมาๆนี่ตื่นแบบมีสติเลย คุยกับเขา แล้วรู้สึกปีนี้ สุขใจมากเลยจริงๆ
จนมาถึงวันนี้ ก็พึงคุยกับเขาเสร็จล้ะ ถึงแป๊ปเดียวแต่ ก็ยังรู้สึกดีมากๆเลยคือ เขาก็ยังจำเราได้ ถึงไม่ว่างคุยไม่ว่างตอบ เราก็โอเครนะ เพราะจุดนี้ แม้งก็สุขใจแล้ว ก็ไม่ได้หวังอะไร ได้คบก็ดี แต่ได้รู้จักไปจนแก่ก็คงจะดีกว่า
ปล. อ่านกัน งงๆไหมเอ๋ย เรื่องจริง90%เติมแต่ง10% คือเราพยยามเขียนให้มันเขาใจ ถ้าผิดพลาดยังไง ขอโพยขอหวย เอ้ยขอโทนนะเอ่ออ
ปล. เราเป็นคนกวนๆ นะ แต่พอเขียนกลัวจะหยาบคายไป