เรียกร้องความเป็นธรรม ฝ่ายกฏหมายสมาคมจี้"เสธ.โต"ไม่เป็นกลางอย่างชัดเจน
ประธานฝ่ายกฏหมายสมาคมฟุตบอลฯ "นรินท์พงศ์ จินาภักดิ์" ออกโรงทวงถามคณะกรรมการกลางการเลือกตั้ง เพราะอะไร ทำไม ถึงตอบคำถามไม่ได้เรื่องที่ว่าจะต้องเปลี่ยนแปลง 30 เสียงลีกภูมิภาค แต่ยืนยันจะเปลี่ยนอย่างเดียว อ้างต้องรอฟีฟ่า หากจะเปลี่ยนก็ต้องตอบได้ว่าเพราะอะไร แจงต้องเป็นกลางแบบ 50-50 ไม่ใช่ 60-40
"นรินพงศ์ จินาภักดิ์"ประธานฝ่ายกฏหมายสมาคมฟุตบอลฯ พร้อมด้วย "วิมล กาญจนะ"ประธานเอไอเอสลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 และ ประธานศูนย์ภูมิภาคทั้ง 6 ภูมิภาค ร่วมกันแถลงข่าวที่โรงแรม โกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอริน เมื่อวันอังคารที่ 1 ธ.ค.58 เพื่อตอบโต้การให้ข่าวของ"เสธ.โต"พลเรือเอกสุรวุฒิ มหารมณ์ ประธานคณะกรรมการกลางจัดการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่มีมติให้เลือกตัวแทนผู้มีสิทธิ์ออกเสียง 30 เสียงจากลีกภูมิภาคใหม่
โดยประธานฝ่ายกฏหมายสมาคมฟุตบอลฯแถลงว่า "ผมเรียนชี้แจงเรื่องตัวแทนลีกภูมิภาค 30 สโมสร/องค์กร ได้รับเลือกจากทั้ง 6 ภูมิภาคโดยถูกต้องตามข้อบังคับลีกภูมิภาคที่เราทำให้สอดคล้องกับที่ฟีฟ่ากำหนด โดยตัวแทน 30 สโมสรมีหน้าที่ร่วมประชุมและออกเสียงลงคะแนนเพื่อแก้ไขข้อบังคับวันที่ 17 กันยายน 2558 และ ลงคะแนนเลือกตั้ง วันที่ 17 ตุลาคม 2558ซึ่งตัวแทน 30 สโมสรได้ทำหน้าที่ลงมติแก้ไขข้อบังคับฯเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2558 แล้ว ฟีฟ่า และ กกท. ได้รับรองสิทธิการเป็นตัวแทนผู้ลงมติแก้ไขข้อบังคับฯและกกท.รับจดทะเบียนแก้ไขข้อบังคับฯในวัน 13 พฤศจิกายน 2558 แล้ว เท่ากับว่า กรรมการกลางที่ดูแลการเลือกตั้งได้ให้ความรับรองถึงความถูกต้องของที่มาและอำนาจหน้าที่ของตัวแทนทั้ง 30 เสียงแล้ว แต่เมื่อมีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไป ดังนั้น สิทธิและหน้าที่ของตัวแทน 30 สโมสรจึงยังคงอยู่ตราบจนกระทั่งการเลือกตั้งเสร็จสิ้น"
"แต่ในการที่ พลเรือเอกสุรวุฒิได้แถลงข่าวไปว่า หลังจากหมดปี 56 แล้วทำใหม่กัน 58 อยากมีข้อสังเกตว่าข้อบังคับนี้มันของปี 58 แล้วก็รับรองข้อบังคับฯวันที่ 17 กันยายน ก็ในปี 58 เพราะข้อบังคับปี 56 มันจบไปนานแล้ว ซึ่งเราได้ส่งเอกสารทุกอย่างให้คณะกรรมการกลางแล้วแต่ไม่พยายามดู กลับมาบอกว่ามีปัญหา เพราะเหตุใดกรรมการชุดนี้หรือพลเรือเอกสุรวุฒิพยายามจะบอกว่าต้องเลือกใหม่ ถ้าเลือกใหม่เขาต้องตอบกลับมาว่าของเก่าที่ผมเสนอไปผิดอะไร"
"หากท่านตอบได้ว่ากระบวนการตั้งแต่การทำข้อบังคับลีกภูมิภาค กระบวนการเลือกตั้งผู้แทน และเขาไปใช้สิทธิ์แล้วไปตัดสิทธิ์ไม่ให้เขาไปเลือกตั้ง เราในฐานะฝ่ายกฏหมายสมาคมฯและลีกภูมิภาคจะได้ชี้แจงกับตัวแทนสมาชิกว่าเพราะอะไร ถ้าไม่ถูกตรงไหนท่านบอกเรา เราจะมีการแก้ไขและแจ้งให้สังคมทราบว่าสิ่งที่สมาคมฟุตบอลและลีกภูมิภาค ดำเนินการสรรหาตัวแทนจากลีกภูมิภาคไม่ถูกต้องอย่างไร ซึ่งถ้าท่านได้ดำเนินการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว จึงถือว่าท่านได้ทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการกลางอย่างชัดเจน การเป็นกลางมันต้องอยู่ 50 -50 นะครับ ไม่ใช่ 60-40 และไม่ใช่กลางเฉพาะคำพูดนะคับ ต้องกลางทั้งคำพูดและกลางทั้งพฤติกรรมการแสดงออก"
"และถ้ามีการเลือกใหม่โดยตอบคำถามไม่ได้ว่ากระบวนการที่ผ่านมาผิดอะไร ลีกภูมิภาคทั้ง 83 สโมสรทั่วประเทศจะโดนประณามว่าพวกคุณไปทำการทุจริต ไม่โปร่งใส่ไม่ชัดเจนจึงเกิดการเลือกตั้งใหม่ขึ้นมาอันนี้เป็นความห่วงใย"
"ทิ้งท้ายที่หนึ่งในคณะกรรมการกลางการเลือกตั้งอย่าง คุณพินิจ สะสินิน ทำไมถึงอยากจะลงสมัครรับเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ ทั้งๆที่อยู่ในการทำงานของคณะกรรมการกลางฯ แล้วที่ผ่านมาการทำงานของคณะกรรมการกลางจะมีความชอบธรรมหรือไม่อย่างไร"
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1302600
เรียกร้องความเป็นธรรม ฝ่ายกฏหมายสมาคมจี้"เสธ.โต"ไม่เป็นกลางอย่างชัดเจน
ประธานฝ่ายกฏหมายสมาคมฟุตบอลฯ "นรินท์พงศ์ จินาภักดิ์" ออกโรงทวงถามคณะกรรมการกลางการเลือกตั้ง เพราะอะไร ทำไม ถึงตอบคำถามไม่ได้เรื่องที่ว่าจะต้องเปลี่ยนแปลง 30 เสียงลีกภูมิภาค แต่ยืนยันจะเปลี่ยนอย่างเดียว อ้างต้องรอฟีฟ่า หากจะเปลี่ยนก็ต้องตอบได้ว่าเพราะอะไร แจงต้องเป็นกลางแบบ 50-50 ไม่ใช่ 60-40
"นรินพงศ์ จินาภักดิ์"ประธานฝ่ายกฏหมายสมาคมฟุตบอลฯ พร้อมด้วย "วิมล กาญจนะ"ประธานเอไอเอสลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 และ ประธานศูนย์ภูมิภาคทั้ง 6 ภูมิภาค ร่วมกันแถลงข่าวที่โรงแรม โกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอริน เมื่อวันอังคารที่ 1 ธ.ค.58 เพื่อตอบโต้การให้ข่าวของ"เสธ.โต"พลเรือเอกสุรวุฒิ มหารมณ์ ประธานคณะกรรมการกลางจัดการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่มีมติให้เลือกตัวแทนผู้มีสิทธิ์ออกเสียง 30 เสียงจากลีกภูมิภาคใหม่
โดยประธานฝ่ายกฏหมายสมาคมฟุตบอลฯแถลงว่า "ผมเรียนชี้แจงเรื่องตัวแทนลีกภูมิภาค 30 สโมสร/องค์กร ได้รับเลือกจากทั้ง 6 ภูมิภาคโดยถูกต้องตามข้อบังคับลีกภูมิภาคที่เราทำให้สอดคล้องกับที่ฟีฟ่ากำหนด โดยตัวแทน 30 สโมสรมีหน้าที่ร่วมประชุมและออกเสียงลงคะแนนเพื่อแก้ไขข้อบังคับวันที่ 17 กันยายน 2558 และ ลงคะแนนเลือกตั้ง วันที่ 17 ตุลาคม 2558ซึ่งตัวแทน 30 สโมสรได้ทำหน้าที่ลงมติแก้ไขข้อบังคับฯเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2558 แล้ว ฟีฟ่า และ กกท. ได้รับรองสิทธิการเป็นตัวแทนผู้ลงมติแก้ไขข้อบังคับฯและกกท.รับจดทะเบียนแก้ไขข้อบังคับฯในวัน 13 พฤศจิกายน 2558 แล้ว เท่ากับว่า กรรมการกลางที่ดูแลการเลือกตั้งได้ให้ความรับรองถึงความถูกต้องของที่มาและอำนาจหน้าที่ของตัวแทนทั้ง 30 เสียงแล้ว แต่เมื่อมีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไป ดังนั้น สิทธิและหน้าที่ของตัวแทน 30 สโมสรจึงยังคงอยู่ตราบจนกระทั่งการเลือกตั้งเสร็จสิ้น"
"แต่ในการที่ พลเรือเอกสุรวุฒิได้แถลงข่าวไปว่า หลังจากหมดปี 56 แล้วทำใหม่กัน 58 อยากมีข้อสังเกตว่าข้อบังคับนี้มันของปี 58 แล้วก็รับรองข้อบังคับฯวันที่ 17 กันยายน ก็ในปี 58 เพราะข้อบังคับปี 56 มันจบไปนานแล้ว ซึ่งเราได้ส่งเอกสารทุกอย่างให้คณะกรรมการกลางแล้วแต่ไม่พยายามดู กลับมาบอกว่ามีปัญหา เพราะเหตุใดกรรมการชุดนี้หรือพลเรือเอกสุรวุฒิพยายามจะบอกว่าต้องเลือกใหม่ ถ้าเลือกใหม่เขาต้องตอบกลับมาว่าของเก่าที่ผมเสนอไปผิดอะไร"
"หากท่านตอบได้ว่ากระบวนการตั้งแต่การทำข้อบังคับลีกภูมิภาค กระบวนการเลือกตั้งผู้แทน และเขาไปใช้สิทธิ์แล้วไปตัดสิทธิ์ไม่ให้เขาไปเลือกตั้ง เราในฐานะฝ่ายกฏหมายสมาคมฯและลีกภูมิภาคจะได้ชี้แจงกับตัวแทนสมาชิกว่าเพราะอะไร ถ้าไม่ถูกตรงไหนท่านบอกเรา เราจะมีการแก้ไขและแจ้งให้สังคมทราบว่าสิ่งที่สมาคมฟุตบอลและลีกภูมิภาค ดำเนินการสรรหาตัวแทนจากลีกภูมิภาคไม่ถูกต้องอย่างไร ซึ่งถ้าท่านได้ดำเนินการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว จึงถือว่าท่านได้ทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการกลางอย่างชัดเจน การเป็นกลางมันต้องอยู่ 50 -50 นะครับ ไม่ใช่ 60-40 และไม่ใช่กลางเฉพาะคำพูดนะคับ ต้องกลางทั้งคำพูดและกลางทั้งพฤติกรรมการแสดงออก"
"และถ้ามีการเลือกใหม่โดยตอบคำถามไม่ได้ว่ากระบวนการที่ผ่านมาผิดอะไร ลีกภูมิภาคทั้ง 83 สโมสรทั่วประเทศจะโดนประณามว่าพวกคุณไปทำการทุจริต ไม่โปร่งใส่ไม่ชัดเจนจึงเกิดการเลือกตั้งใหม่ขึ้นมาอันนี้เป็นความห่วงใย"
"ทิ้งท้ายที่หนึ่งในคณะกรรมการกลางการเลือกตั้งอย่าง คุณพินิจ สะสินิน ทำไมถึงอยากจะลงสมัครรับเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ ทั้งๆที่อยู่ในการทำงานของคณะกรรมการกลางฯ แล้วที่ผ่านมาการทำงานของคณะกรรมการกลางจะมีความชอบธรรมหรือไม่อย่างไร"
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1302600