นายภีมเดช อมรสุคนธ์ หรือ ทนายอ๊อด ที่คนในวงการฟุตบอลรู้จัก เป็นตัวแทนของทีมในลีกภูมิภาค กับ ดิวิชั่น 1 ออกมาเรียกร้องให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ทำให้ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับ เพราะผู้บริหารทำผิดหลายข้อ จนทำให้เปิดประชุมวิสามัญไม่ได้
เริ่มจากการผิดข้อบังคับข้อ 22 เรื่องตัวแทนและการออกเสียงลงคะแนน ที่กำหนดให้ตัวแทนจากลีกภูมิภาค 6 โซน โซนละ 5 ทีมเป็นตัวแทน แต่ผู้บริหารสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ชุดนี้กลับเปลี่ยนรูปแบบใหม่ เป็น 8 โซน รวมถึงยกเลิกการแข่งขันถ้วย ข ค ง ทำให้ตัวแทนที่จะมาทำหน้าที่ในการประชุมของแต่ละถ้วย หายไปด้วยเช่นกัน เป็นการเปิดศึกด้านแรกของสมาคมกีฬาฟุตบอลกับสโมสรสมาชิก
อีกเรื่องการตั้งคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท และคณะอุทธรณ์ ไม่มีขั้นตอนการสมัคร เลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่ จึงเป็นคณะทำงานที่มาอย่างไม่ถูกต้อง
ศึกอีกด้านที่สมาคมกีฬาฟุตบอลเปิด คือกับทีมในลีกภูมิภาค ประเด็นที่เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้สโมสรสมาชิกในลีกภูมิภาค 60 ทีม ไม่พอใจเตรียมเข้าชื่อร่วมยื่นให้ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. ตรวจสอบให้สมาคมกีฬาฟุตบอลออกมาขอโทษ และ นับหนึ่งใหม่ จัดแข่งแบบแชมเปี้ยนส์ลีก และให้ทีมลีกภูมิภาคที่เหลือไปแข่งขัน ดิวิชั่น 3 รวมถึง ระงับการจ่ายเงินดิวิชั่น 1 และ ดิวิชั่น 2 โดยอ้างว่าสมาคมฯมีภาระจ่ายเงินค่าภาษี
ประเด็นจริยธรรมผู้นำของเลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จะถูกสโมสรยื่นเรื่องต่อ กกท. หลังจากพูดถึงการเสพกัญชาของนักเตะ 16 ปี รวมถึงการถูกชี้มูลความผิดจาก ปปช. และยังไม่ยอมพักการทำหน้าที่เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอล
สัปดาห์หน้า นายภีมเดช จะเป็นตัวแทนสโมสรสมาชิกยื่นเรื่องต่อ ผู้ว่า กกท.เพื่อให้ผู้บริหารสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ออกมาขอโทษ เริ่มนับหนึ่งใหม่ทุกขั้นตอน ในขณะเดียวกันจะยื่นหนังสือให้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯด้วย และหลังจากยื่นหนังสือจะให้เวลา 1 เดือนกับการดำเนินตามขั้นตอน จากนั้นหากทุกอย่างยังนิ่งเฉยจะเข้าชื่อสโมสรสมาชิกเพื่อขอปลด นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และ ผู้บริหารทั้งชุด
แต่หาก กกท. ไม่ดำเนินการใดๆ หลังจาก นายภีมเดช ยื่นฟ้อง กกท.ก็จะถูกฟ้องร้องฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
Cr. PPTV Thailand
รอดูพ่ออ๊อดและทีมกฎหมายออกมาตอบละกันครับ ผมว่าน่าจะยาวแน่เรื่องนี้
ได้เวลาเปิดศึก "ทนายอ๊อด" vs "พ่ออ๊อด"
เริ่มจากการผิดข้อบังคับข้อ 22 เรื่องตัวแทนและการออกเสียงลงคะแนน ที่กำหนดให้ตัวแทนจากลีกภูมิภาค 6 โซน โซนละ 5 ทีมเป็นตัวแทน แต่ผู้บริหารสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ชุดนี้กลับเปลี่ยนรูปแบบใหม่ เป็น 8 โซน รวมถึงยกเลิกการแข่งขันถ้วย ข ค ง ทำให้ตัวแทนที่จะมาทำหน้าที่ในการประชุมของแต่ละถ้วย หายไปด้วยเช่นกัน เป็นการเปิดศึกด้านแรกของสมาคมกีฬาฟุตบอลกับสโมสรสมาชิก
อีกเรื่องการตั้งคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท และคณะอุทธรณ์ ไม่มีขั้นตอนการสมัคร เลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่ จึงเป็นคณะทำงานที่มาอย่างไม่ถูกต้อง
ศึกอีกด้านที่สมาคมกีฬาฟุตบอลเปิด คือกับทีมในลีกภูมิภาค ประเด็นที่เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้สโมสรสมาชิกในลีกภูมิภาค 60 ทีม ไม่พอใจเตรียมเข้าชื่อร่วมยื่นให้ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. ตรวจสอบให้สมาคมกีฬาฟุตบอลออกมาขอโทษ และ นับหนึ่งใหม่ จัดแข่งแบบแชมเปี้ยนส์ลีก และให้ทีมลีกภูมิภาคที่เหลือไปแข่งขัน ดิวิชั่น 3 รวมถึง ระงับการจ่ายเงินดิวิชั่น 1 และ ดิวิชั่น 2 โดยอ้างว่าสมาคมฯมีภาระจ่ายเงินค่าภาษี
ประเด็นจริยธรรมผู้นำของเลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จะถูกสโมสรยื่นเรื่องต่อ กกท. หลังจากพูดถึงการเสพกัญชาของนักเตะ 16 ปี รวมถึงการถูกชี้มูลความผิดจาก ปปช. และยังไม่ยอมพักการทำหน้าที่เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอล
สัปดาห์หน้า นายภีมเดช จะเป็นตัวแทนสโมสรสมาชิกยื่นเรื่องต่อ ผู้ว่า กกท.เพื่อให้ผู้บริหารสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ออกมาขอโทษ เริ่มนับหนึ่งใหม่ทุกขั้นตอน ในขณะเดียวกันจะยื่นหนังสือให้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯด้วย และหลังจากยื่นหนังสือจะให้เวลา 1 เดือนกับการดำเนินตามขั้นตอน จากนั้นหากทุกอย่างยังนิ่งเฉยจะเข้าชื่อสโมสรสมาชิกเพื่อขอปลด นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และ ผู้บริหารทั้งชุด
แต่หาก กกท. ไม่ดำเนินการใดๆ หลังจาก นายภีมเดช ยื่นฟ้อง กกท.ก็จะถูกฟ้องร้องฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
Cr. PPTV Thailand
รอดูพ่ออ๊อดและทีมกฎหมายออกมาตอบละกันครับ ผมว่าน่าจะยาวแน่เรื่องนี้