บังยีคลอดคิว23ก.ย.เลือกตั้ง,8ส.ค.เชิญฟีฟ่าแจงกฎอีก

มาดูกันว่าจะทัน 30 กันยา มั้ย .... หลังจากวันนี้น่าจะมีประเด็นของสองฝ่ายให้เล่นกันอีกเยอะ
เหนื่อยแทนแฟนบอลไทยครับ ...เฮ้อ  หนีไม่พ้นการเมืองที่ลงมาเอี่ยวด้วย


================================================


บังยีคลอดคิว23ก.ย.เลือกตั้ง,8ส.ค.เชิญฟีฟ่าแจงกฎอีก
ที่มา : http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/130701_434.html


        เดินตามแนวทางและคำสั่งของฟีฟ่าเท่านั้น“บังยี” วรวีร์ มะกูดี กำหนดวันและขั้นตอนต่างๆ ออกมาแล้ว 8 ส.ค. เชิญผู้แทนฟีฟ่ามาตอบข้อสงสัยอีกครั้งจากนั้น 9 ส.ค. จัดให้มีการประชุมใหญ่รับรองมติ และให้มีการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ ในวันที่ 23ก.ย.ต่อไป โดยได้มีการส่งหนังสือชี้แจงให้กับ กกท. ได้รับทราบถึงแนวทางปฏิบัติที่จะต้องกระทำตามฟีฟ่าเท่านั้น



         ความคืบหน้าของการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ภายหลังจากที่เลขานุการทั่วไปของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ(ฟีฟ่า) ได้ส่งหนังสือแจ้งให้ดำเนินการทุกอย่างตามระเบียบของธรรมนูญใหม่ที่ฟีฟ่าให้การรับรอง ด้วยการให้มีจัดประชุมใหญ่เพื่อลงมติ และกำหนดวันเลือกตั้งที่จะต้องทำให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 ก.ย.56



         ซึ่งล่าสุด "บังยี" วรวีร์ มะกูดี ในฐานะนายกสมาคมฟุตบอลฯ ที่ยังมีอำนาจนั่งรักษาการตามระเบียบของ พ.ร.บ.กีฬา ก็ได้เผยว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ได้มีการประชุมสภากรรมการ ผ่านทางวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ เพื่อหารือถึงขั้นตอนในการเลือกตั้งภายใต้ธรรมนูญใหม่ที่ฟีฟ่าได้มีคำสั่งลงมา ซึ่งสภากรรมการได้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการจัดประชุมใหญ่พิเศษรับรองข้อบังคับใหม่ พร้อมจัดการเลือกตั้งตามที่ฟีฟ่ากำหนด



         ทั้งนี้เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.56 เลขาธิการฟีฟ่ามีหนังสือถึงเลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ให้ดำเนินการจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปตามข้อบังคับ (ฉบับแก้ไข) ข้อ 26 วรรค 2 และข้อ 28 วรรค 3 ยืนยันว่าจะต้องจัดการเลือกตั้งภายในวันที่ 30 ก.ย.56 และเน้นย้ำว่าสมาคมฟุตบอลฯ จะต้องจัดประชุมใหญ่พิเศษให้ที่ประชุมรับรองข้อบังคับ เพื่อจัดการเลือกตั้งต่อไป



         ซึ่ง "บังยี" ได้กำหนดวันที่จะดำเนินการออกมาแล้ว โดยกล่าวว่า "ในขั้นแรกหลังจากที่สโมสรสมาชิกยังไม่เข้าใจถึงความจำเป็นที่จะปรับมาใช้ธรรมนูญใหม่ จึงได้เชิญผู้แทนฟีฟ่าเดินทางมาแถลงด้วยตัวเองอีกครั้ง รวมถึงตอบข้อซักถามที่ยังสงสัยในหลายๆ ประเด็นวันที่ 8 ส.ค.56 จากนั้นวันรุ่งขึ้น 9 ส.ค.56 จะจัดประชุมใหญ่ให้มีการลงมติรับรอง และกำหนดให้วันที่23 ก.ย.56 เป็นวันเลือกตั้งต่อไป"



         ส่วนประเด็นที่ถูกค้านว่าสามารถที่จะมีอำนาจในการนั่งรักษาการได้ถึงวันที่ 16 ก.ค.56 จากนั้นทางการกีฬาแห่งประเทศไทยจะเข้ามาดำเนินการ เรื่องนี้นายวรวีร์ มะกูดี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. สมาคมฟุตบอลฯ มีหนังสือแจ้งให้การกีฬาแห่งประเทศไทยทราบเหตุผล และอุปสรรคที่ไม่สามารถดำเนินการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสมาคมฟุตบอลฯ ชุดใหม่ได้เนื่องจากฟีฟ่ากำหนดให้ต้องจัดการแก้ไขข้อบังคับให้เสร็จสิ้นเสียก่อนจึงจะจัดการเลือกตั้งได้



      
อรรณพยื่นหนังสือให้ ส.บอล2ก.ค.



         ด้าน นายอรรณพ สิงห์โตทอง รองประธานสโมสรชลบุรี เอฟซี ในฐานะแกนนำฝ่ายคัดค้านการใช้ธรรมนูญใหม่ ก็เผยว่า ขณะนี้ได้รวบรวมเสียงจากสโมสรสมาชิกมากกว่า 100 เสียงเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งทั้งหมดมีประธานสโมสรของแต่ละทีมเป็นผู้ลงนามมอบอำนาจ และเตรียมที่จะเข้ายื่นหนังสือต่อทางสมาคมฟุตบอลฯ ในวันที่ 2 ก.ค.นี้ เวลา 14.00 น. เพื่อให้ทางสมาคมดำเนินการจัดการเลือกตั้งตามข้อบังคับปัจจุบันฉบับ พ.ศ.2546 พร้อมทำสำเนาถึงการกีฬาแห่งประเทศไทยให้ได้รับทราบเช่นกัน



         ขณะที่ "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้าเลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ เผยถึงเรื่องนี้ว่า ทางสมาคมฟุตบอลฯ รับเรื่องเอาไว้ได้แล้วส่งให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาก่อน รวมทั้งศึกษาระเบียบข้อบังคับต่างๆ ให้ละเอียดอีกครั้งหนึ่งว่าขั้นตอนต่างๆถูกต้องหรือไม่ เพื่อดำเนินการต่อไป


    
ลีกภูมิภาคปลื้มมีส่วนชี้ทิศทางบอลไทย


         อ.โสภิต ภาโนมัย สภากรรมการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันฟุตบอลเอไอเอส ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ได้ออกมากล่าวว่า จากการที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย จะนำธรรมนูญหรือข้อบังคับใหม่ของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ มาใช้ในการเลือกตั้งนายกสมาคม และสภากรรมการสมาคมชุดใหม่นั้น ตนเองในฐานะที่เป็นรองประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันฯและเป็นประธานศูนย์ฯ ภาคกลางและตะวันตก เห็นด้วยกับข้อบังคับของธรรมนูญใหม่ฟีฟ่า ซึ่งเป็นข้อบังคับที่ทุกประเทศที่เป็นสมาชิกจะต้องนำมาใช้และปฏิบัติให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันทั่วโลก



         อ.โสภิต กล่าวต่อว่า จากธรรมนูญใหม่ของฟีฟ่า ที่จะมีสโมสรสมาชิกของสมาคมฟุตบอลรวม 72สโมสร มีสิทธิ์ในการลงคะแนนเลือกตั้งนายกสมาคมฯและสภากรรมการนั้น ถือได้ว่าเป็นสัดส่วนที่เหมาะสมกับบริบทของฟุตบอลอาชีพในประเทศไทย ณ ปัจจุบันเพราะข้อบังคับของฟีฟ่า ที่กำหนดให้มีตัวแทนจากลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 จำนวน 30 ทีม จาก 6 ภาคทั้งหมด 84 ทีม จะเป็นการให้โอกาสกับทีมฟุตบอลที่เป็นทีมฟุตบอลอาชีพได้มีสิทธิ์มีเสียงในการเลือกตั้งและยังเป็นการกระจายตัวแทนของสโมสรฟุตบอลอาชีพออกไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เป็นการคัดกรองทีมที่ถือเป็นตัวแทนของแต่ละภาคมาลงคะแนน ในขณะที่ธรรมนูญเก่าที่กำหนดให้ทีมจากฟุตบอลถ้วย ข, ค และง ที่เป็นทีมสมัครเล่น และส่วนใหญ่ก็กระจุกตัวอยู่แต่ในกรุงเทพมหานคร มีสิทธิ์ลงคะแนน ทำให้มองได้ว่านายกสมาคมฯ และสภากรรมการที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาเป็นแค่ตัวแทนของทีมในกรุงเทพมหานครเท่านั้น แต่การให้สิทธิ์ตัวแทนจากลีกภูมิภาคมีสิทธิ์ลงคะแนนครั้งนี้ สภากรรมการที่ได้รับเลือกเข้ามา จะถือได้ว่าเป็นตัวแทนของทีมฟุตบอลจากสโมสรฟุตบอลอาชีพจากทุกภูมิภาคของประเทศอย่างแท้จริง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่