ขอระบายหน่อยนะคะคุณผู้อ่านขาา....

คนเราเวลาซื้อของย่อมอยากได้มาซึ่งของดีๆกันทั้งนั้นจริงมั้ย ...โดยเฉพาะของที่เราเก็บเงินซื้อเอง เราก็แค่นักศึกษาธรรมดาๆคนนึง ไม่มีงานพิเศษ พ่อแม่ส่งเงินให้ใช้อย่างจำกัดจำเขี่ย แต่เราก็ไม่เคยไปงอแงขอนั่นโน่นนี่พ่อแม่เลย เรายอมอดขนมมาเป็นเวลาพอสมควร เพื่อให้ได้มาซึ่งปัจจัยที่ห้า นั่นคือ
โทรศัพท์มือถือ จริงๆก็เป็นความผิดของเรานี่แหละ ที่เลือกร้านไม่ดี ใจร้อน พอเก็บเงินครบก็อยากได้ของเร็วๆ...

.....วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558 เราจึงตัดสินใจซื้อโทรศัพท์มือถือไอโฟนห้า ที่ร้านขายโทรศัพท์ร้านนึงในบิ๊กซีสาขาหัวหมาก (ให้เกียรติไม่ระบุชื่อร้านละกัน แต่ร้านอยู่ชั้น G ตรงข้ามกะ ธ.กรุงไทยอ่ะ) วันซื้อก็โอเค พี่ผู้หญิงคนขายพูดดี เครื่องที่เราซื้อเป็นเครื่องมือหนึ่ง ประกัน 1 ปี
.....
ผ่านไปไม่ถึงสัปดาห์ ปุ่มพาวเวอร์กดไม่ได้ เราก็เอาไปเคลม แต่ปรากฎว่าเปลี่ยนเครื่องไม่ได้ เพราะเครื่องมีตำหนิ ....จ้าาา... ไม่ถึงสัปดาห์เครื่องมีตำหนิ นี่เราใช้เครื่องสะบักสะบอมขนาดนี้เลยหรอ แต่ไม่เป็นไร คนสวยใจดี... เปลี่ยนเครื่องไม่ได้ซ่อมให้เราก็ได้ เค้าก็เอาไปซ่อมให้ เข้าศูนย์ไปหลายวัน
พอได้กลับมาก็เป็นเหมือนเดิม และก็เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ เอาไปให้ดูจนเหนื่อย นับครั้งไม่ถ้วนจริงๆ... จนกระทั่งล่าสุด ประมาณเดือนมิถุนา เป็นเหมือนเดิมอีก ก็เอาไปอีก.... คราวนี้กลับมาก็ใช้ได้ปกติแต่ก็แอบมีรวนๆบ้าง แต่เราก็เอ้อ...โล่งใจไป คงไม่เป็นไรอีกแล้วมั้ง
....
จนกระทั่ง....วันที่ 30 พฤศจิกายน สดๆร้อนๆเลย ขณะที่เรากำลังจะตั้งนาฬิกาปลุก หน้าจอโทรศัพท์ ก็ค่อยๆ มืดลง มืดลง มืดลงจนแทบไม่มองไม่เห็นอะไรเลย แต่เครื่องยังใช้งานได้นะ ...แต่อารมณ์ตอนนั้นคือ ปิดเครื่องดีกว่า เผื่อเปิดมาจะดีขึ้น... จนเช้าอีกวัน เราเลยลองเปิดเครื่องดู ก็ยังเป็นเหมือนเดิม เลยกะว่าจะเอาไปให้ร้านดูให้อีกเพราะยังไม่หมดประกัน ......
"แต่....ไปถึงร้านคือ อีตาผู้ชายเจ้าของร้านบอกว่า เครื่องมันเกินหกเดือนแล้วปัญหาเยอะจริงๆ เลย มันหมดประกันแล้ว" เราก็แบบ ....สตั้นจ้าาาา... ยืนเอ๋อแป๊บนึง เลยนึกได้ว่าต้องเถียงกลับไปเลยบอกว่า
"ก็ตอนที่มาซื้อพี่บอกประกันปีนึงไม่ใช่หรอคะ" อีผู้ชายเจ้าของร้านก็ชักสีหน้าใส่ สบถเบาๆ ด่าเราอยู่รึเปล่าไม่รู้ แล้วก็ทำฟึดฟัดๆใส่ จนพี่ผู้หญิงที่ขายให้เราช่วยคอนเฟิร์มครื่องยังไม่หมดประกัน อีผู้ชายคนนั้นก็ยิ่งฟึดฟัดใหญ่เลย
........คือมันใช่หรอคะ ที่ไอโฟนมือหนึ่งจะมีปัญหาบ่อยขนาดนี้ เครื่องซื้อมาไม่ถึงปี มีปัญหานับครั้งไม่ถ้วน แล้วมันสมควรแล้วหรอคะ ที่คนขายจะทำกิริยาใส่ลูกค้าแบบนี้ คือคุณเป็นผู้ให้บริการ ถ้าไม่มี service mind ก็เลิกทำงานบริการซะดีมั้ย เราเลือกซื้อของร้านคุณแต่คุณเอาของไม่ดีมาขาย อย่างงี้เรียกว่าหลอกลวงรึเปล่า เข้าใจว่าพ่อค้าแม่ค้าก็หวังกำไร แต่นี่เรียกว่าเอาเปรียบลูกค้าไปมั้ยอ่ะ จรรยาบรรณเค้ารู้จักรึเปล่า เสียเงินแล้วยังต้องมาเสียความรู้สึกอีกซ้ำซาก แบบนี้ก็ไม่ไหวนะ........ 
[SR] บริการหลังการขายยอดแย่
คนเราเวลาซื้อของย่อมอยากได้มาซึ่งของดีๆกันทั้งนั้นจริงมั้ย ...โดยเฉพาะของที่เราเก็บเงินซื้อเอง เราก็แค่นักศึกษาธรรมดาๆคนนึง ไม่มีงานพิเศษ พ่อแม่ส่งเงินให้ใช้อย่างจำกัดจำเขี่ย แต่เราก็ไม่เคยไปงอแงขอนั่นโน่นนี่พ่อแม่เลย เรายอมอดขนมมาเป็นเวลาพอสมควร เพื่อให้ได้มาซึ่งปัจจัยที่ห้า นั่นคือ โทรศัพท์มือถือ จริงๆก็เป็นความผิดของเรานี่แหละ ที่เลือกร้านไม่ดี ใจร้อน พอเก็บเงินครบก็อยากได้ของเร็วๆ...
.....วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558 เราจึงตัดสินใจซื้อโทรศัพท์มือถือไอโฟนห้า ที่ร้านขายโทรศัพท์ร้านนึงในบิ๊กซีสาขาหัวหมาก (ให้เกียรติไม่ระบุชื่อร้านละกัน แต่ร้านอยู่ชั้น G ตรงข้ามกะ ธ.กรุงไทยอ่ะ) วันซื้อก็โอเค พี่ผู้หญิงคนขายพูดดี เครื่องที่เราซื้อเป็นเครื่องมือหนึ่ง ประกัน 1 ปี
.....ผ่านไปไม่ถึงสัปดาห์ ปุ่มพาวเวอร์กดไม่ได้ เราก็เอาไปเคลม แต่ปรากฎว่าเปลี่ยนเครื่องไม่ได้ เพราะเครื่องมีตำหนิ ....จ้าาา... ไม่ถึงสัปดาห์เครื่องมีตำหนิ นี่เราใช้เครื่องสะบักสะบอมขนาดนี้เลยหรอ แต่ไม่เป็นไร คนสวยใจดี... เปลี่ยนเครื่องไม่ได้ซ่อมให้เราก็ได้ เค้าก็เอาไปซ่อมให้ เข้าศูนย์ไปหลายวัน พอได้กลับมาก็เป็นเหมือนเดิม และก็เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ เอาไปให้ดูจนเหนื่อย นับครั้งไม่ถ้วนจริงๆ... จนกระทั่งล่าสุด ประมาณเดือนมิถุนา เป็นเหมือนเดิมอีก ก็เอาไปอีก.... คราวนี้กลับมาก็ใช้ได้ปกติแต่ก็แอบมีรวนๆบ้าง แต่เราก็เอ้อ...โล่งใจไป คงไม่เป็นไรอีกแล้วมั้ง
....จนกระทั่ง....วันที่ 30 พฤศจิกายน สดๆร้อนๆเลย ขณะที่เรากำลังจะตั้งนาฬิกาปลุก หน้าจอโทรศัพท์ ก็ค่อยๆ มืดลง มืดลง มืดลงจนแทบไม่มองไม่เห็นอะไรเลย แต่เครื่องยังใช้งานได้นะ ...แต่อารมณ์ตอนนั้นคือ ปิดเครื่องดีกว่า เผื่อเปิดมาจะดีขึ้น... จนเช้าอีกวัน เราเลยลองเปิดเครื่องดู ก็ยังเป็นเหมือนเดิม เลยกะว่าจะเอาไปให้ร้านดูให้อีกเพราะยังไม่หมดประกัน ......"แต่....ไปถึงร้านคือ อีตาผู้ชายเจ้าของร้านบอกว่า เครื่องมันเกินหกเดือนแล้วปัญหาเยอะจริงๆ เลย มันหมดประกันแล้ว" เราก็แบบ ....สตั้นจ้าาาา... ยืนเอ๋อแป๊บนึง เลยนึกได้ว่าต้องเถียงกลับไปเลยบอกว่า "ก็ตอนที่มาซื้อพี่บอกประกันปีนึงไม่ใช่หรอคะ" อีผู้ชายเจ้าของร้านก็ชักสีหน้าใส่ สบถเบาๆ ด่าเราอยู่รึเปล่าไม่รู้ แล้วก็ทำฟึดฟัดๆใส่ จนพี่ผู้หญิงที่ขายให้เราช่วยคอนเฟิร์มครื่องยังไม่หมดประกัน อีผู้ชายคนนั้นก็ยิ่งฟึดฟัดใหญ่เลย
........คือมันใช่หรอคะ ที่ไอโฟนมือหนึ่งจะมีปัญหาบ่อยขนาดนี้ เครื่องซื้อมาไม่ถึงปี มีปัญหานับครั้งไม่ถ้วน แล้วมันสมควรแล้วหรอคะ ที่คนขายจะทำกิริยาใส่ลูกค้าแบบนี้ คือคุณเป็นผู้ให้บริการ ถ้าไม่มี service mind ก็เลิกทำงานบริการซะดีมั้ย เราเลือกซื้อของร้านคุณแต่คุณเอาของไม่ดีมาขาย อย่างงี้เรียกว่าหลอกลวงรึเปล่า เข้าใจว่าพ่อค้าแม่ค้าก็หวังกำไร แต่นี่เรียกว่าเอาเปรียบลูกค้าไปมั้ยอ่ะ จรรยาบรรณเค้ารู้จักรึเปล่า เสียเงินแล้วยังต้องมาเสียความรู้สึกอีกซ้ำซาก แบบนี้ก็ไม่ไหวนะ........