คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
เราว่าพี่เค้าเป็นคนทะเยอทะยานเฉย ๆ ไม่เกี่ยวกับว่าเคยโดนจ้างให้ออกมาเลยอยากเป็นใหญ่เร็ว ๆ หรอก
ใคร ๆ ก็อยากมีตำแหน่งสูง ๆ ทั้งนั้น นอกจากเงินเดือนที่เพิ่มขึ้น มันก็คือความภูมิใจ
ที่สำคัญเวลาสมัครงานใหม่ที่ไหนมันก็มีภาษีดีกว่า
แล้วการที่พี่เค้าไปเสนอเจ้านายว่าจะให้ตำแหน่งเค้าที่ดีขึ้น หรือจะปล่อยให้เค้าไปมันก็เป็นเรื่องที่แฟร์ๆทั้งสองฝ่าย
ยิ่งบริษัทรับข้อเสนอ แสดงว่าพี่เค้ามีค่ากับองค์กรจริง ๆ จากจุดนี้เรามองว่าเจ้านายคงมองคนไม่ผิด
ส่วนใครที่ทำมาสิบปีแล้วแต่ยังไม่ได้เลื่อนขั้นมันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้
ฉะนั้นถ้าพี่เค้าเป็นนายคุณ เราอยากแนะให้คุณพยายามลดอคติลง และเข้ากับเธอในเรื่องงานให้ได้
ใครจะแบ่งฝักฝ่ายยังไงก็ทำเป็นกลางไว้ คือทำดีกับทั้งสองฝ่ายนั่นแหละ แต่อย่าแสดงว่าเราเข้าข้างใครออกนอกหน้า
เราเคยทำงานกับสองฝ่ายที่ไม่ถูกกันมาก่อน แบบคุณนี่แหละ อีกฝ่ายคือหัวหน้า อีกฝ่ายคือลูกน้องที่เหลือ
ตอนใครนินทาอีกฝ่ายเราก็ฟังเงียบ ๆ ไม่ออกความเห็น ใจเราเข้าข้างใครเก็บไว้ในใจ
ตอนเค้ายกพวกกันไปฟ้องเจ้านายเรื่องของอีกฝ่ายเราขอตัวเลย
บอกว่าเราไม่ขอยุ่ง เราอยากแค่มาทำงานแล้วก็กลับบ้าน ไม่อยากมีปัญหากับใคร
เวลาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพยายามถามว่าอีกฝ่ายพูดถึงตนว่าไง เราบอกว่าเราขอไม่เล่า
เพราะเวลาพวกเธอพูดถึงเค้าเราก็ไม่บอกเค้าเหมือนกัน ซึ่งทั้งสองฝ่ายก็เข้าใจเรา
แต่ถ้าคุณอึดอัดมาก ก็ลองหางานใหม่ให้ได้ก่อน เพื่อเอามาเปรียบเทียบกันว่าที่ไหนดีกว่า
ซึ่งเราบอกเลยว่าที่ไหนก็มีปัญหาทั้งนั้น แค่ว่าจะเจอปัญหาอะไร
คุณมีปัญหากับพี่เค้ายังไม่ร้ายเท่าพี่คนนั้นหรือเจ้านายใหญ่มีปัญหากับคุณ
ไม่ถูกกับเจ้านายนี่นรกแท้ ๆ เลยนะคุณ รับรองโดนบีบโดนแกล้งสารพัด แถมแป๊กด้วย
กับแค่เพื่อนร่วมงานเราไม่กลัวหรอก ยิ่งคนละแผนกแบบนี้ยิ่งไม่เท่าไหร่ เรามีวิธีจัดการได้
ตราบใดที่คุณยังเป็นพนักงาน พวกนั้นก็ยังดีกับคุณ แต่ถ้าคุณได้ตำแหน่งสูงขึ้น คุณจะเข้าใจพี่คนนั้นเอง
ว่าการเป็นหัวหน้ามันโคตรทำตัวลำบาก จะทำตัวให้เจ้านายชอบด้วยและลูกน้องตัวเองก็ชอบด้วยนี่ยากนะ
ลูกน้องก็ชอบหัวหน้าใจดี (จะได้ทำอะไรได้ตามใจ) แต่เจ้านายใหญ่ก็มองว่าคุมคนไม่เป็น เอาลูกน้องไม่อยู่ ซวยอีก
แถมตลอดเวลาก็จะมีลูกน้องพยายามวัดรอยเท้าตลอด แอบเปรียบเทียบลับหลังว่าตัวเองเก่งกว่าหัวหน้าไปโน่น
สรุปเขียนซะยืดยาว หวังว่าคงตอบคำถามจขกท.ครบ แม้จะไม่เป็นข้อ ๆ ทั้งหมดมาจากประสบการณ์เรา
เพราะเราเคยอยู่ในฐานะแบบพี่คนนั้นมาก่อน และในฐานะคุณเราก็เคย มีอะไรปรึกษาได้ค่ะ
ใคร ๆ ก็อยากมีตำแหน่งสูง ๆ ทั้งนั้น นอกจากเงินเดือนที่เพิ่มขึ้น มันก็คือความภูมิใจ
ที่สำคัญเวลาสมัครงานใหม่ที่ไหนมันก็มีภาษีดีกว่า
แล้วการที่พี่เค้าไปเสนอเจ้านายว่าจะให้ตำแหน่งเค้าที่ดีขึ้น หรือจะปล่อยให้เค้าไปมันก็เป็นเรื่องที่แฟร์ๆทั้งสองฝ่าย
ยิ่งบริษัทรับข้อเสนอ แสดงว่าพี่เค้ามีค่ากับองค์กรจริง ๆ จากจุดนี้เรามองว่าเจ้านายคงมองคนไม่ผิด
ส่วนใครที่ทำมาสิบปีแล้วแต่ยังไม่ได้เลื่อนขั้นมันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้
ฉะนั้นถ้าพี่เค้าเป็นนายคุณ เราอยากแนะให้คุณพยายามลดอคติลง และเข้ากับเธอในเรื่องงานให้ได้
ใครจะแบ่งฝักฝ่ายยังไงก็ทำเป็นกลางไว้ คือทำดีกับทั้งสองฝ่ายนั่นแหละ แต่อย่าแสดงว่าเราเข้าข้างใครออกนอกหน้า
เราเคยทำงานกับสองฝ่ายที่ไม่ถูกกันมาก่อน แบบคุณนี่แหละ อีกฝ่ายคือหัวหน้า อีกฝ่ายคือลูกน้องที่เหลือ
ตอนใครนินทาอีกฝ่ายเราก็ฟังเงียบ ๆ ไม่ออกความเห็น ใจเราเข้าข้างใครเก็บไว้ในใจ
ตอนเค้ายกพวกกันไปฟ้องเจ้านายเรื่องของอีกฝ่ายเราขอตัวเลย
บอกว่าเราไม่ขอยุ่ง เราอยากแค่มาทำงานแล้วก็กลับบ้าน ไม่อยากมีปัญหากับใคร
เวลาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพยายามถามว่าอีกฝ่ายพูดถึงตนว่าไง เราบอกว่าเราขอไม่เล่า
เพราะเวลาพวกเธอพูดถึงเค้าเราก็ไม่บอกเค้าเหมือนกัน ซึ่งทั้งสองฝ่ายก็เข้าใจเรา
แต่ถ้าคุณอึดอัดมาก ก็ลองหางานใหม่ให้ได้ก่อน เพื่อเอามาเปรียบเทียบกันว่าที่ไหนดีกว่า
ซึ่งเราบอกเลยว่าที่ไหนก็มีปัญหาทั้งนั้น แค่ว่าจะเจอปัญหาอะไร
คุณมีปัญหากับพี่เค้ายังไม่ร้ายเท่าพี่คนนั้นหรือเจ้านายใหญ่มีปัญหากับคุณ
ไม่ถูกกับเจ้านายนี่นรกแท้ ๆ เลยนะคุณ รับรองโดนบีบโดนแกล้งสารพัด แถมแป๊กด้วย
กับแค่เพื่อนร่วมงานเราไม่กลัวหรอก ยิ่งคนละแผนกแบบนี้ยิ่งไม่เท่าไหร่ เรามีวิธีจัดการได้
ตราบใดที่คุณยังเป็นพนักงาน พวกนั้นก็ยังดีกับคุณ แต่ถ้าคุณได้ตำแหน่งสูงขึ้น คุณจะเข้าใจพี่คนนั้นเอง
ว่าการเป็นหัวหน้ามันโคตรทำตัวลำบาก จะทำตัวให้เจ้านายชอบด้วยและลูกน้องตัวเองก็ชอบด้วยนี่ยากนะ
ลูกน้องก็ชอบหัวหน้าใจดี (จะได้ทำอะไรได้ตามใจ) แต่เจ้านายใหญ่ก็มองว่าคุมคนไม่เป็น เอาลูกน้องไม่อยู่ ซวยอีก
แถมตลอดเวลาก็จะมีลูกน้องพยายามวัดรอยเท้าตลอด แอบเปรียบเทียบลับหลังว่าตัวเองเก่งกว่าหัวหน้าไปโน่น
สรุปเขียนซะยืดยาว หวังว่าคงตอบคำถามจขกท.ครบ แม้จะไม่เป็นข้อ ๆ ทั้งหมดมาจากประสบการณ์เรา
เพราะเราเคยอยู่ในฐานะแบบพี่คนนั้นมาก่อน และในฐานะคุณเราก็เคย มีอะไรปรึกษาได้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ขอคำปรึกษา แนวคิด แง่คิด เมื่อเราร่วมงานกับ คนที่ฝากงาน
ต่อมาพี่เค้ามีเหตุให้ถูกจ้างออก ทำให้เราไม่ได้ติดต่อกัน ต่อมาเราได้ลาออกมาเลี้ยงลูก ผ่านไปได้สัก 1 ปี เราเริ่มออกหางาน ทีนี้พี่เค้ารู้ข่าวว่าเราหางาน จึงได้ชวนเรามาทำงานที่เดียวกับพี่เค้า เราก็คิด ไตร่ตรอง ก่อนมานะว่าจะมีปัญหาอะไรมั้ย เพราะพี่แกก็อารมณ์ร้อนใช่เล่น (พื้นฐานพี่เค้าเป็นคนอารมณ์ร้อนมากกกก ที่อยู่กันได้เพราะเราใจเย็นมั้ง) จากเพื่อนร่วมงาน มาเป็นหัวหน้า ซึ่งทบทวนแล้ว ทำงานด้วยกันมาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร คิดว่าปัญหาคงมีอาจน้อย (เราไม่ค่อยเห็นด้วยกับระบบฝากงานเท่าไหร่ ตอนนั้นจำเป็น จึงต้องเอางานก่อน เพราะมีลูกมีภาระแล้ว)
เราได้ตอบตกลงว่าร่วมงานกัน ซึ่งไปเป็นลูกน้องโดยตรงของพี่เค้า ซึ่งมีเราคนเดียว
พอมาทำงานร่วมกัน พี่เค้าทำมาก่อนได้ปีครึ่ง ซึ่งมีอะไรพี่เค้าจะเล่าให้เราฟังหมดทุกอย่างพี่เค้าคงไม่มีใครด้วย เหมือนนินทาลับหลัง ว่าคนอื่นเสมอๆ ซึ่งตรงนี้เราไม่ใส่ใจเลยนะ ถ้าการที่พี่เค้าได้พูด ได้ระบาย แล้วดีขึ้น เราพร้อมรับฟังนะ ซึ่งเรื่องส่วนใหญ่ที่ฟังเราก็เก็บไว้ไม่เคยพูดต่อ ออกจากบริษัทก็จบ
ทีนี้เข้าเรื่อง พี่เค้าบอกเราว่า เค้ากำลังหางานใหม่ และเกมส์ของพี่เค้าเริ่มด้วยการ ยื่นข้อเสนอกับนายว่า ตอนนี้หางานใหม่ ถ้าได้ก็จะไป ถ้าไม่อยากให้พี่เค้าไป ก็ต้องแลกกับตำแหน่งที่พี่เค้าต้องการ ซึ่งนายก็ยอมให้ตำแหน่งมา ในระยะเวลา 1 เดือน ข้อนี้เราเห็นด้วยกับคนทำงานนะ ใครทำงานก็อยากโตขึ้น อยากก้าวหน้า แต่เราไม่ค่อยโอเครกับวิธีของพี่เค้า ซึ่งตามผังโครงสร้างบริษัท 2 ปี โปรโมท และปรับ 1 ขั้น (ตำแหน่งใหม่มีผล 1 พย) ซึ่งพี่เค้าได้ตำแหน่งมาก็ไม่ได้มีผลอะไรกับเรานะ แต่!!! มีผลกับงานมาก (กอไก่ล้านตัว)
พอแผนกอื่น คนอื่นรู้เท่านั้นแหละ ทำงานยากมากกกก (กอไก่ล้านตัว) ซึ่งคนอื่นมองว่ามันไม่ยุติธรรมกับเค้า คนอื่นเค้ารอกันเป็น 10 ปี ถึงได้ตำแหน่งนี้
เราก็เข้าใจพี่เค้านะ ว่าการได้ตำแหน่งใหม่มาต้องมีผลงาน ต้องActive ทีนี้เราเป็นลูกน้องทำงานอะไรก็ติด เรื่องเยอะ ซับซ้อนด้านเอกสาร คนนอกแผนกหมั่นไส้มาลงมาแขวะเรา ซึ่งอันนี้ไม่มีผลกับเรา แต่กับงานมันไม่ไหลลื่น ยิ่งพี่เค้ามีตำแหน่ง ยิ่งกล้าชนกับคนอื่น ชนได้เป็นชน พอพี่เค้ารู้ว่าคนอื่นหมั่นไส้ อะไรๆ ก็ยาก เราเป็นคนกลาง ตอนนี้เริ่มเหนื่อยใจ เหนื่อยงานไม่เท่าไหร่ เหนื่อยกับคนนี่ไม่รู้จะแก้ไขยังไง เบื่อหน่าย มันเกิดขึ้นซ้ำ ๆ วน ๆ เวียน ๆ
ถ้าไม่ติดว่ามีภาระคงได้ออกไปแล้ว ประจวบกับเศรษฐกิจอย่างนี้ ออกจากงานคงลำบาก
ซึ่งเราวิเคราะห์ว่าพี่เค้าต้องการตำแหน่ง เพราะพี่เค้าฝังใจกับที่เดิมที่ออกไม่ค่อยสวย และอยากได้ตำแหน่งที่ใหญ่กว่าเดิม เพื่อที่จะไปคุยกับที่ทำงานเดิม
จากเนื้อเรื่องข้างบน มีคำถาม
1.มีวิธีคิด หรือวิธีทำงาน วิธีการจัดการ หรือวิธีรับมืออย่างไร กับเหตุการณ์นี้ ทุกวันนี้ไม่อยากตื่นมาทำงาน ไม่เคยเป็นนะ คิดว่าตัวเองเป็นคนสนุกกับงาน แต่มาเจอคนประเภทนี้ ไม่ไหว
2.เราคงหางานใหม่ แต่ติดตรงที่พี่เค้าฝากเราเข้ามา อยากหาทางออก ทางลงสวย ๆ ถ้าได้งานใหม่ จะบอกพี่เค้ายังไงดี
3.ทำใมตอนเป็นเพื่อนร่วมงานอะไรๆ ก็แก้ไขได้ แต่พอมาเป็นลูกพี่กับลูกน้อง ทำใมทำงานด้วยแล้วร้อน อะไร ๆ ก็ติด (หรือว่าเราคิดลบมากไป) สรุปว่า เหนื่อยกาย เหนื่อยใจจริงๆ
เป็นแม่คนว่าเหนื่อยแล้วมาเจอคนประเภทนี้ ยิ่งเหนื่อยไปอีก
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกๆ คำตอบ หรือวิธีคิดค่ะ (หากผิดตกหล่นประการใดขออภัยด้วยค่ะ) ....