กรณี Retime เที่ยวบินไปเชียงใหม่ (เพราะปล่อยโคมลอย) ความผิดใคร?

สอบถามมุมมองของคนในห้องนี้ค่ะ
เหตุการณ์ผ่านมาแล้ว ยอมรับสภาพและเดินทางเรียบร้อยแล้ว แต่ยังคาใจอยู่มาก


เมื่อวานนี้พ่อแม่ดิชั้นเดินทางจาก ฟุกุโอก่ะ - กทม. (การบินไทย) เครื่องลง 15.30 น. ต่อเครืองไป ชม.โดยสายการบินไทยสไมล์ เดิมเป็นเวลา 20.30 น. (ประมาณ) แต่ช่วงอาทิตย์ก่อนมีการแจ้งทาง SMS มาว่าขอเลื่อนบินเร็วขึ้นเป็น 19.45 น. คุณพ่อคุณแม่ก็รับทราบดีค่ะว่ามีการเปลี่ยนเวลาแต่ไม่ได้กระทบกับการเดินทาง (โดยที่วันต่อมา ก็คือ วันนี้มีงานด่วนต้องทำ)


ทีนี้พอถึงเวลาเดินทางก็แจ้งขอเช็คทรูกระเป๋าจากที่ฟุกุโอก่ะ เจ้าหน้าที่ญป.ก็งงๆ บอกว่าทำไม่ได้ ให้รับกระเป๋าที่สุวรรณภูมิแล้วต่อเครื่องเอง ทำให้พอรับกระเป๋าเสร็จก็เข็นของไปเช็คอินที่  Domestic ไทยสไมล์ สายการบินบอกว่า เที่ยวบินสุดท้ายของเมื่อวานนี้ไปเชียงใหม่นั้นออกไปแล้ว 16.15 น. (ไปถึงเคาน์เตอร์ 16.15 น.) พอดี ไม่สามารถทำไรได้แล้ว เนื่องจากประกาศของกระทรวงคมนาคม


ทางแก้ของสายการบิน คือ ให้ไปเที่ยวที่มีที่ว่าง และบอกว่าไปได้วันอาทิตย์นี้ (ตลกมั๊ย) ดิชั้นโทรศัพท์บอกพ่อแม่ว่าให้ยืนกรานจะบินให้ได้ จะให้บินยังไงก็เอา เพราะเรามีธุระต้องทำ ไม่เดินทางเราเสียหายอย่างแรง....น้องที่เคาน์เตอร์สายการบินก็ค้นหาที่นั่งต่อไป....และสรุปมาว่าได้บินวันนี้เช้าสุด 6.50 น.


ทีนี้ดิชั้นก็เลยโทรศัพท์คุยกับน้องที่เคาน์เตอร์เลย  น้องเค้าบอกว่า (สรุปความนะคะ)
- สายการบินไม่รับผิดชอบค่าที่พัก 1 คืน เพราะถือว่าไม่ได้เป็นความผิดของสายการบิน สายการบินไม่ได้ยกเลิกการบิน ไม่ได้มีเหตุเครื่องบินดีเลย์  แต่เปลี่ยนเวลาตามกระทรวงคมนาคมสั่งมา และได้พยายามติดต่อผู้โดยสารทุกทางแล้ว (พ่อแม่เราอยู่ ญป. ปิดเครื่อง ไมได้โรมมิ่ง  ต่อ wifi ก็ไม่เป็น (สว.น่ะค่ะ โปรดเข้าใจ) เบอร์โทรที่บ้าน ชม.ก็ไม่มีใครรับสาย ไม่มีใครอยู่บ้านเลย)
- เจ้าหน้าที่ทำไรไม่ได้เพราะไม่ได้รับคำสั่งให้แก้ปัญหาที่นอนในส่วนนี้ ทั้งการจัดหา และการชดเชย
- สายการบิน ก็ให้ความช่วยเหลือผู้โดยสารแล้ว โดยการยกเว้นค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน (อันนี้ปริ๊ดสุด)


ประเด็นที่เล่ามาทั้งหมด (จากใจผู้บริโภคนะคะ (อารมณ์ล้วนๆ แบบไม่มีเหตุผล)) ทำให้ปริ๊ดสุด เนื่องจากคำตอบจากเจ้าหน้าที่ที่พูดทำนองว่า
- โบ๊ยให้เป็นความผิดของกระทรวงคมนาคม (จะไปเอาผิดใครได้คะ)
- ช่วยไม่ได้ที่ผู้โดยสารติดต่อไม่ได้ (โง่เองไม่ทำโรมมิ่งไว้)
- ถ้าไม่โวยวาย ยืนกรานจะไปให้ได้ คงได้ไปในเที่ยวบินที่ "ตามแต่จะมี"

แต่....ในแง่เหตุผล
ใครผิดกันคะ ???

พ่อแม่เรา? สายการบิน?
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
ผิดหมดครับ

เวลาปัญหาเกิด มันมักเกิดจากข้อผิดพลาดของทุกๆจุดเสมอครับ

swiss cheese model

สายการบินผิด ที่ไม่มีวิธีการเยียวยา เอะอะก็หวังแต่ กำไร (หรือต้นทุน) แทนที่จะคืนค่าตั๋วเลยก็จบ

ประเพณีปล่อยโคมลอย ก็ผิดกฏข้อบังคับการบิน ไม่ควรปล่อยขึ้นน่านฟ้า ... แต่อันนี้ต้องยอมรับว่า คงเป็นข้ออนุโลม

รัฐบาลไทย ก็ผิด ไม่ออกกฏหมายห้ามเล่นโคมลอย ที่ไหน ที่ไหน ก็ว่าไป ตั้ง goal ไว้เลยว่า ปี 2600 ยกเลิกโคมลอยทั้งประเทศ ... หรือ หากไม่ยกเลิก ก็ไม่ยกเลิก จบ

แค่ ขอความแน่นอน !

กรมการท่า กับท่าอากาศยาน ก็ผิด ... ประเพณีนี้มีมาไม่รู้กี่ปี หาเรื่องแก้ไขกันทุกปี  พี่ก็ประกาศเลยว่า ให้สายการบินยกเลิกเที่ยวไป เชียงใหม่ เวลาใด วันใด ของทุกปี

คนทำโคมลอยก็ผิด ... ทำไมไม่ทำโคม GPS และสื่อสารกับเครื่องบินได้ หรือไม่ก็ต้องมีใบอนุญาตบังคับโคม  เหมือนใบอนุญาต drone (บ้าไปแล้ว)

คุณ ก็ผิด ไม่ติดตามข่าว พ่อแม่ไม่สะดวก แทนที่ จขกท จะรู้ตัวโทรไปประสานสายการบินก่อน

ระบบจองตั๋วสายการบินก็ผิด แทนที่จะให้กรอก "เบอร์โทรที่ติดต่อได้ยามฉุกเฉิน" ซึ่งนอกจากกรณีอุบัติเหตุแล้ว อาจใช้ติดต่อในกรณีติดต่อผู้โดยสารไม่ได้ ไหม (Airasia มีให้กรอก)

ผมก็ผิดด้วย ที่มาบ่น บ้าๆ อะไรเนี่ย ....

แต่นั่นแหละคือ "รูรั่ว" ตาม  swiss cheese model



ปล หากคิดว่าแรงไปให้ใช้คำว่า "บกพร่อง" แทนคำว่า "ผิด"


ปล2 หลักนี้ปรกติใช้กับ การเกิดอบัติเหตุ แต่ก็เอามาเทียบเคียงกับ "ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น" ได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่