สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
DELAG, Deutsche Luftschiffahrts-Aktiengesellschaft was the world's first airline.[1] It was founded on November 16, 1909 with government assistance, and operated airships manufactured by The Zeppelin Corporation. Its headquarters were in Frankfurt. The first fixed wing scheduled air service was started on January 1, 1914 from St. Petersburg, Florida to Tampa, Florida.
เครื่องบินพาณิขย์ลำแรกของโลก ขึ้นบินเมื่อปี 1914 เมื่อประมาณ 1 ร้อยปีมาแล้ว
ส่วนโคมลอยที่เป็นลูกไฟ ตั้งแต่เกิดมาเป็นคนเชียงใหม่ เพิ่งจะเคยเห็นเมื่อไม่กี่ปีมานี่เองค่ะ ไม่ถึง 20 ปีแน่ๆ
ก่อนจะเอาอะไรมาพูดรบกวนหาข้อมูลชัดๆด้วยนะคะ เครื่องบินเขามาก่อน แถมยังมาสร้างความสะดวกสะบายให้กะบประชาชน ส่วนโคมลอยนี่นอกจากจะหาประโยชน์ไม่ได้แล้วยังสร้างความ
ทำไฟไหม้บ้านไปหลายหลังแล้ว
หรือจะรอปล่อยให้มันไหม้บ้านจขกทก่อนดี?
เครื่องบินพาณิขย์ลำแรกของโลก ขึ้นบินเมื่อปี 1914 เมื่อประมาณ 1 ร้อยปีมาแล้ว
ส่วนโคมลอยที่เป็นลูกไฟ ตั้งแต่เกิดมาเป็นคนเชียงใหม่ เพิ่งจะเคยเห็นเมื่อไม่กี่ปีมานี่เองค่ะ ไม่ถึง 20 ปีแน่ๆ
ก่อนจะเอาอะไรมาพูดรบกวนหาข้อมูลชัดๆด้วยนะคะ เครื่องบินเขามาก่อน แถมยังมาสร้างความสะดวกสะบายให้กะบประชาชน ส่วนโคมลอยนี่นอกจากจะหาประโยชน์ไม่ได้แล้วยังสร้างความ

หรือจะรอปล่อยให้มันไหม้บ้านจขกทก่อนดี?
ความคิดเห็นที่ 13
ที่ไล่อ่านมา เจ้าของกระทู้นี้นิสัยแย่นะเนีย
คห. 1 ไม่ได้กล่าวเกินเลยอะไรคุณเลย ความจริงทั้งนั้น คุณต้องถูกโคมตกใส่บ้านก่อนคุณถึงจะรู้
คห. 7 ถามความคิดเห็น ไล่ไปอ่านวิกิซะงั้น ขนาดเปิดโอกาสให้ debate แล้ว แสดงว่าไม่รู้อะไรเลย ไม่มีความเห็นอะไรเลย ไม่มีข้อมูลอะไรเลย ไม่มีเหตผลอะไรเลย กรูอยากล้วนๆ
คห. 8 "ถามยายคุณสิค๊าบ" ตอบแบบนี้ยิ่งไม่งามใหญ่
แล้วภาษาอ่ะ แว้นมาก ใช้ภาษาแว้นๆแบบนี้ ตอบแบบกรูไม่รู้อะไรเลยแบบนี้ ความน่าเชือถือไม่มีเหลือเลยครับ
อะไรก็ตามที่ส่งผลเสียมากกว่าผลดี ไม่ควรเก็บไว้ครับ แม้แต่ตัวคุณเองยังไม่รู้เลยว่ข้อดีของการปล่อยโคมลอยคื่ออะไรนอกจาก อนุรักษ์ซึ่งวัฒธรรมอันดีงามแต่โบราณ.... ร.5 เคยยกเลิกการลอยโคมนะครับ แต่มันกลับมาเมือ 20 กว่าปีที่แล้วเพือใช้เป็นส่วนหนึ่งในการดึงดูดนักท่องเที่ยว
จนทุกวันนี้เชียงใหม่ไม่จำเป็นต้องมีโคมลอยก็ยังมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวอยู่ครับ เพราะเชียงใหม่มีสิ่งอื่นๆที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สร้างประโยชกว่าการปล่อยโคมลอยเยอะเลยครับ โคมลอยจึงไม่จำเป็นต้องมีอีกต่อไป....อะไรก็ตามที่ส่งผลเสียมากกว่าผลดี ไม่ควรเก็บไว้ครับ
คห. 1 ไม่ได้กล่าวเกินเลยอะไรคุณเลย ความจริงทั้งนั้น คุณต้องถูกโคมตกใส่บ้านก่อนคุณถึงจะรู้
คห. 7 ถามความคิดเห็น ไล่ไปอ่านวิกิซะงั้น ขนาดเปิดโอกาสให้ debate แล้ว แสดงว่าไม่รู้อะไรเลย ไม่มีความเห็นอะไรเลย ไม่มีข้อมูลอะไรเลย ไม่มีเหตผลอะไรเลย กรูอยากล้วนๆ
คห. 8 "ถามยายคุณสิค๊าบ" ตอบแบบนี้ยิ่งไม่งามใหญ่
แล้วภาษาอ่ะ แว้นมาก ใช้ภาษาแว้นๆแบบนี้ ตอบแบบกรูไม่รู้อะไรเลยแบบนี้ ความน่าเชือถือไม่มีเหลือเลยครับ
อะไรก็ตามที่ส่งผลเสียมากกว่าผลดี ไม่ควรเก็บไว้ครับ แม้แต่ตัวคุณเองยังไม่รู้เลยว่ข้อดีของการปล่อยโคมลอยคื่ออะไรนอกจาก อนุรักษ์ซึ่งวัฒธรรมอันดีงามแต่โบราณ.... ร.5 เคยยกเลิกการลอยโคมนะครับ แต่มันกลับมาเมือ 20 กว่าปีที่แล้วเพือใช้เป็นส่วนหนึ่งในการดึงดูดนักท่องเที่ยว
จนทุกวันนี้เชียงใหม่ไม่จำเป็นต้องมีโคมลอยก็ยังมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวอยู่ครับ เพราะเชียงใหม่มีสิ่งอื่นๆที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สร้างประโยชกว่าการปล่อยโคมลอยเยอะเลยครับ โคมลอยจึงไม่จำเป็นต้องมีอีกต่อไป....อะไรก็ตามที่ส่งผลเสียมากกว่าผลดี ไม่ควรเก็บไว้ครับ
ความคิดเห็นที่ 49
สำหรับโคมไฟที่ลอยในตอนกลางคืนนั้น ในฐานะที่ เป็นคนวัยเกิน 50 มาหลายปีแล้ว คือไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรกแล้วที่จะมาปล่อยเป็นพันๆหมื่นๆลูก เพราะ สมัยเมื่อ ประมาณ ไม่เกิน 30 ปีที่ผ่าน การทำโคมไฟที่ลอยกลางคืน ก็จะทำเหมือนโคมควันนั่นแหละ เพียงแต่ ตรงปาก จะกว้างกว่า เพราะต้องเอาขี้ไต้ มัดติดตรงปาก และเวลาจุดไฟ เปลวไฟจะไปล้วงไปไหม้ยังตัวโคม และด้วยที่ลูกมันใหญ่ จึงทำให้ลอยไปในอากาศได้นานและไกล เราจึงจะไม่ค่อยเห็นเวลามันตกลง และที่สำคัญ ชาวบ้านศรัทธา จะรวมตัวกันไปทำที่วัด ๆหนึ่งก็ 3-4 โคม แล้วกลางคืนก็ร่วมกันปล่อยที่วัดหลังจากที่จุดประทีปโคมไฟกันเแล้ว ไม่ได่ปล่อยบ้านใครบ้านมัน หรือปล่ายตามท้องถนน เหมือนเช่นทุกวันนี้ .....และถ้าจะให้เดาสามาเหตุที่เฟื่องฟูเอามาก ก็เพราะมีลัทธิจานบินที่มีสำนักงานสาขาอยู่แล้ว หลังมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เขามีกลยุทธทางการตลาดใหม่โดย จัดพิธปล่อยพร้อมๆ กันเป็น หมื่นๆ,ลูก ถ่ายรูปออกมาแล้วยงามมาก แล้วมันถึงยุคกล้องดิจิต้อล เข้ามาการถ่ายรูปก็เป็นเรื่องง่าย และสามารถ เผยแพร่ไปตามสื่อต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว นั่นคือน่าจะเป็นจุดที่ บูมเอามากๆ จนตามมาซึ่งปัญหาในปัจจุบัน...
ยืนยันว่าไม่ใช่ประเพณี มีมาเก่าก่อน ถึงจะมีมามันก็ต้องปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของสภาพสังคมบ้านเมือง
ยืนยันว่าไม่ใช่ประเพณี มีมาเก่าก่อน ถึงจะมีมามันก็ต้องปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของสภาพสังคมบ้านเมือง
ความคิดเห็นที่ 63
แสดงว่า จขกท ไมใช่คนเชียงใหม่จริงๆ
.
อ่อ อ่านบาง คห.ละ จขกท มีกำเมืองตวย.....
กะว่าเป๋นคนเจียงใหม่แต่บ่ะฮู้จักศึกษาวัฒนธรรมเจ้า บะหล้า???
คนเจียงใหม่ คนเหนือ เปิ้นจะนิยมลอยโคมเฉพาะเมื่อตอน เปิ้นฮ้องว่า ว่าวควัน บ่ะได้ใจ๊เจื้อเพลิงในการยะหื้อโคมมันลอยเน่อ บะหล้า...
ปี้เกิดมาจะ 40 ปี๋ละ กะลังมาหันโคมไฟสีขาวติดไฟเนี๊ยะ.... วัฒนธรรมนี้มันมาจากวัดดัง...ที่มีวลีฮิต "นะจ๊ะ"
ลอยกั๋นเมื่อคืน เจ๊ามาเฮี่ยจ้าดลาดเต๋มถนน
https://www.facebook.com/cmmayor/posts/552409291591518?pnref=story
http://library.cmu.ac.th/ntic/lannatradition/yeepeng-wowhome.php
ว่าวฮม หรือ โคมลอย
.
อ่อ อ่านบาง คห.ละ จขกท มีกำเมืองตวย.....
กะว่าเป๋นคนเจียงใหม่แต่บ่ะฮู้จักศึกษาวัฒนธรรมเจ้า บะหล้า???
คนเจียงใหม่ คนเหนือ เปิ้นจะนิยมลอยโคมเฉพาะเมื่อตอน เปิ้นฮ้องว่า ว่าวควัน บ่ะได้ใจ๊เจื้อเพลิงในการยะหื้อโคมมันลอยเน่อ บะหล้า...
ปี้เกิดมาจะ 40 ปี๋ละ กะลังมาหันโคมไฟสีขาวติดไฟเนี๊ยะ.... วัฒนธรรมนี้มันมาจากวัดดัง...ที่มีวลีฮิต "นะจ๊ะ"
ลอยกั๋นเมื่อคืน เจ๊ามาเฮี่ยจ้าดลาดเต๋มถนน
https://www.facebook.com/cmmayor/posts/552409291591518?pnref=story
http://library.cmu.ac.th/ntic/lannatradition/yeepeng-wowhome.php
ว่าวฮม หรือ โคมลอย

แสดงความคิดเห็น
การงดปล่อยโคมลอย ที่เชียงใหม่!
- ผมต้องขอโทษหลายๆความเห็นที่ผมได้ว่าอะไรแรงๆไปด้วยนะครับ และ ขอโทษด้วยความคิดที่แตกต่าง และทำให้ต้องเกิดปัญหา ขึ้น ณ กระทู้นี้ ผมขอโทษอีกครั้งจากใจ ในทุกความเห็นนะครับ และขอบคุณสำหรับข้อคิดเห็นที่หลากหลายครับ