นี่ไงครับ ที่ทำให้พรรค ปชป. ไม่ชนะเลือกตั้งมานานจนลืม
เพราะไม่มีแนวทางที่สร้างสรรค์ ไม่มีแนวทางที่โดนใจสังคม (ยกเว้นกองเชียร์) มีแต่แนวทางเพื่อผลได้ทางการเมือง
ไม่มีนโยบายและแนวคิดอันเป็นประโยชน์ที่ทำให้สังคมเห็นพ้อง
นอกจากสร้างวาทกรรม จุดกระแส สร้างกระแสเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปวัน ๆ
ที่สำคัญ การกระทำกับคำพูด สวนทางกันตลอด
ระยะนี้ ในขณะที่สังคมกำลังสนใจในเรื่องบางเรื่อง
แต่ ปชป. ไม่สน เพราะสนแล้ว จะทำให้ตัวเองขัดแย้งกับผู้มีอำนาจ จะทำให้ตัวเองสูญเสียผลได้ทางการเมือง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(มีเพียงนายสาธิต ปิตุเดชะ และนายวัชระ เพชรทอง ออกมาทักท้วง เรียกร้องนิดหน่อย เหมือนเป็นพิธี ตามเกม
แต่ในภาพรวมของ ปชป. นับตั้งแต่ประธานที่ปรึกษาพรรคอย่างนายชวน หัวหน้าพรรคอย่างแหลลงตับ คือเงียบกริบ)
ปชป. กลับทำตัวเป็นกระบอกเสียง พยายามสร้างกระแสไปอีกทาง หันไปเล่นเรื่องจำนำข้าว
โดยไม่สนใจเรื่องที่สังคมสนใจสักนิด
ไม่แสดงบทบาทให้สังคมเห็นสักนิดว่า ปชป. ต่อต้านความไม่ถูกต้องอันมิบังควร
สั้น ๆ แค่นี้แหละ ขี้เกียจสาธยาย
ปชป. มีมิติเดียว
คือมิติทางการเมืองเรื่องผลประโยชน์ ประดิดประดอยวาทกรรมทำลายล้าง ใช้เหลี่ยมคูทางการเมืองหลอกไปวัน ๆ
เพราะยังงี้แหละ ถึงมีคำว่า ถ้าไม่มีพันธมิตร ชาติหน้า ปชป. ก็ไม่ได้เป็นรัฐบาล
เหลี่ยมคูทางการเมืองเรื่องผลประโยชน์ตนของพรรคประชาธิปัตย์
เพราะไม่มีแนวทางที่สร้างสรรค์ ไม่มีแนวทางที่โดนใจสังคม (ยกเว้นกองเชียร์) มีแต่แนวทางเพื่อผลได้ทางการเมือง
ไม่มีนโยบายและแนวคิดอันเป็นประโยชน์ที่ทำให้สังคมเห็นพ้อง
นอกจากสร้างวาทกรรม จุดกระแส สร้างกระแสเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปวัน ๆ
ที่สำคัญ การกระทำกับคำพูด สวนทางกันตลอด
ระยะนี้ ในขณะที่สังคมกำลังสนใจในเรื่องบางเรื่อง
แต่ ปชป. ไม่สน เพราะสนแล้ว จะทำให้ตัวเองขัดแย้งกับผู้มีอำนาจ จะทำให้ตัวเองสูญเสียผลได้ทางการเมือง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปชป. กลับทำตัวเป็นกระบอกเสียง พยายามสร้างกระแสไปอีกทาง หันไปเล่นเรื่องจำนำข้าว
โดยไม่สนใจเรื่องที่สังคมสนใจสักนิด
ไม่แสดงบทบาทให้สังคมเห็นสักนิดว่า ปชป. ต่อต้านความไม่ถูกต้องอันมิบังควร
สั้น ๆ แค่นี้แหละ ขี้เกียจสาธยาย
ปชป. มีมิติเดียว
คือมิติทางการเมืองเรื่องผลประโยชน์ ประดิดประดอยวาทกรรมทำลายล้าง ใช้เหลี่ยมคูทางการเมืองหลอกไปวัน ๆ
เพราะยังงี้แหละ ถึงมีคำว่า ถ้าไม่มีพันธมิตร ชาติหน้า ปชป. ก็ไม่ได้เป็นรัฐบาล