.
สวัสดีครับ : )
ผมนัท นัด ณัฐ ณัฐไหนก็ด้ายยยยยยย
หลังจากอ่านรีวิวมาเยอะ วันนี้มีโอกาสอยากจะแชร์ประสบการณ์ฮะ ^^
นี้เป็นรีวิวกระทู้แรก ถ้าผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ด้วยนะค้าบบบ ____/\____
เรามาเริ่มกันเลย ^0^
นี้เป็นการแบคแพคครั้งแรกของผม
ผมก็เป็นคนนึงที่ชอบอ่านรีวิวที่ต่างๆ แต่ที่สนใจก็ที่นี้แหละครับ
"ภูทับเบิก"

ทริปครั้งนี้ผมคิดตั้งแต่ยังไม่ทันได้ปิดเทอม ไฮลาาาา
เรื่องเท่วขอให้บอ555+ ปล.ไฮลาเป็นภาษาใต้ ภาษากลางก็คง ไงละ มั้งครับ
ทริปนี้ไปวันที่ 11 - 13 พฤศจิกายน 2558 , 3 วัน 2 คืนครับ
รูปทุกรูปถ่ายด้วย canon 700D + 18-135 | iPhone6 ครับ
เริ่มแรกเราหาที่พักไปเรื่อยโทรไปหลายที่มาก เต็ม เต็ม เต็ม เต็ม
จนมาได้ที่ ภูกระต๊อบเงิน ค่าห้อง 2000.- มัดจำไว้ 1000 ครับแล้วไปจ่ายเพิ่มที่ภู และค่าประกันห้องอีก 200 จะได้คืนตอนออกครับ
ที่พักอยู่ห่างจากจุดชมวิวประมาณ 1 กิโล ตอนแรกก็คิดหนักจะเอาดีมั้ย สุดท้ายก็ต้องเอาเพราะอยากไปมว๊ากกกก
ทริปนี้เดินตลอดภูครับ ขึ้นเขา ลงเขา แนะนำให้ใส่รองเท้าผ้าใบนะครับสำหรับคนที่จะต้องเดินแบบเราฮ่าแก้หนาวได้ด้วยครับ
มาภูครั้งนี้หนาวใจไม่เท่าไหรครับ แต่หนาวกายนี้ต้องหาคนกอดไปด้วยนะครับ ฮี้ววววว^^
ในห้องมีทีวี ผ้าเช็ดตัว เครื่องทำน้ำอุ่น มีอาหารเช้าให้ครับเป็นข้าวต้ม กาแฟ โอวัลติน
ปล.เครื่องทำน้ำอุ่นที่นั้นเค้าใช้แก๊สหุ้งต้มตามที่ใช้ในบ้านอะครับ ดูน่ากลัวนิดๆ นึกว่าทริปจะล่มสะแล้ววว อิอิ
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2558
การเดินทางของเราไปด้วย บ.เพชรประเสริฐทัวร์ รอบ 23.30 น. ครับ จากหมอชิตไปหล่มสัก ราคา 289 บาท
เราถึงบขส.หล่มสักประมาณตีห้าครับ เราสามารถโทรไปจองตั๋วที่คอลเซนเตอร์ได้นะครับ [เบอร์ติดต่อ 056-720720]
เเต่เราต้องไปเอาตั๋วก่อน 22:30น. ที่หมอชิต2 ครับ บริษัทอยู่ชั้น1 หน้าลิฟท์เลยครับ
เช้าวันที่ 12 พฤศจิกายน 2558
พอถึง บขส.หล่มสัก เราก็ข้ามถนนมาฝั่งตรงข้าม เพื่อที่จะโบกรถชาวบ้านที่ตลาดผักเพื่อที่จะขึ้นภู
ไปครั้งนี้เราบังเอิญเจอคนอีกกลุ่มนึงที่จะขึ้นภูเหมือนกันเลยมีเพื่อนร่วมทางเพิ่มอีก 2 คน
ตอนเราหารถชาวบ้านแถวนั้นใจดีมาก ช่วยถามให้เราด้วย ^^ และแล้วเราก็ได้รถขึ้นภูเย้!!!!!
ระหว่างที่หารถก็เจอร้านน้ำเต้าหู้ กับปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ถุงละ 3 บาท ปาท่องโก๋ตัวละ 1 บาท คือ อร่อย และ ถูกกกกก
เราถามเค้าไปสองครั้งว่าเท่าไหรนะครับ นึกว่าฟังผิดฮ่าาาา
ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการฮะ ^^ พี่เค้าจอดปั๊มให้เราเข้าห้องน้ำ เข้า 7-11 ด้วย ใจดีมากๆเลยย

ต่อไปเราก็ไปดูบรรยากาศระหว่างทางขึ้นภูกันยาวๆเลยครับ
พี่เค้าขับเร็วมาก หนาวมาก มือชา หน้าชา กันเลยทีเดียวฮะ

พี่เค้าใจดีจอดให้พวกเราถ่ายวิวด้วยฮะ ของจริงคือสวยมากกกกกกกกกกก

เรามาถึงภูประมาณแปดโมงครับ พี่เค้าพาเราไปส่งที่จุดชมวิวทั้งๆที่พี่เค้าไม่ผ่านทางนั้น คนที่นั้นใจดีมากๆครับ
ตอนเดินไปพูดแล้วมีควันออกจากปากด้วย คือ ตื่นเต้น ฮ่าาาาาา หลังจากนั้นเราก็โทรถามที่พักว่าเราจะไปที่พักยังไงฮะ
ในใจก็นึกขึ้นมาตอนแรกที่จองที่พัก ห่างจากจุดชมวิว 1 กิโล 1 กิโล T T
เดินสิครับเดิน ขึ้นเขาลงเขาบ้าง แต่ระหว่างทางที่เดินไปก็มีร้านข้างทางเรื่อยทำให้เดินแล้วไม่ร็สึกว้าเหว่เท่าไหรอิอิ

พอถึงร้านนี้เราก็ได้เสียค่าเสียหายไป 40 บาท ได้ไข่ปิ้งมา 6 ลูก อิอิ

ในที่สุดเราก็มาถึงที่พัก T T

เห็นจุดสูงสุดนั้นมั้ย ในใจก็นึกเราเดินมาได้ยังไง
ถึงเวลารีวิวร้านอาหารแล้วครับ ^0^ ชื่อร้าน ไร่สุวิทย์ ครับ

หลังจากกินเสร็จก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้เป็นเวลา 20 นาทีจริงๆ จับเวลาอยู่นั่งพองอยู่ในร้าน 555+
หลังจากนั้นเราก็เดินขึ้นไปที่จุดสูงสุดครับ
เดินผ่านแปลงกะหล่ำขอถ่ายสักหน่อยเด่วเค้าหาว่ามาไม่ถึง แฮ ^^
พอถึงจุดชมวิวแล้วอยากกลับไปสั่งขาหมูอีกขาเลยยยครัชฮ่าาาา
ดูจากเหงื่อแล้วบอกเลยว่าเหนื่อยครัช หอบ เหงื่อออก แต่อากาศเย็นมาก ลมพัดเย็นตลอด เลยไม่รู้สึกเหนื่อยมากเท่าไหรอิอิ
ไปดูวิวจากจุดชมวิวกันฮะ ^^
เดินกลับที่พักละ ทำใจแปป 1 กิโล พักดื่มน้ำแก้เหนื่อยแพร้พพพพพพ

วิวที่ร้านกาแฟครับ
ถึงห้องก็สลบเหมือนซ้อมตายเลยครับที่กินไปรู้สึกหายไปหมด T T
ตื่นมาก็ประมาณหกโมงกว่าาาละ นึกได้ว่ายังไม่มีรูปกลางคืนเลยจับกล้องมาถ่ายสักนิดอิอิ
หลังจากถ่ายรูปเสร็จก็รู้สึกหิวเลยเดินขึ้นไปทางจุดชมวิวไปตามรีวิวร้าน โรงเตี๊ยม ครับ GO!!!
ระหว่างทางตอนกลางคืนหนาวมากกกกกกก เลยได้หมวกมาใบนึง 220 แก้หนาววอิอิ กับซื้อมันปิ้ง 5 บาทมาอุงมือให้อุ่นๆ ^^
ร้านที่สองโรงเตี๊ยมครับ

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2558 ก็จบเท่านี้ฮะ ^^ ฝันดีค้าบบบบบบ
เช้าวันที่ 13 พฤศจิกายน 2558
ต้องกลับแล้วหรอ
ความหนาวไม่ต้องพูดถึง แต่ก็ฟินดีนะครับ
ตื่นไปดูทะเลหมอกไม่ทัน แต่ก็มีหมอกมาให้เห็นถึงหน้าห้องเลย
เราเช็คเอ้าท์ ประมาณ 10 โมง โชคดีตอนกลับไม่ต้องเดินแบกกระเป๋าไปที่จุดสูงสุดของภู
เจ้าของที่พักใจดีให้ติดรถไปด้วย กราบงามๆครับ ____/\____
พอถึงจุดสูงสุดเราเลยขึ้นไปที่จุดชมวิวอีกครั้งก่อนกลับ มันสดชื่นจริงๆ อากาศดี๊ดี อยากเอากลับบ้าน
หลังจากถ่ายรูปเสร็จเราก็เดินลงไปหารถที่จะลงภู
โบกคันแรกไม่จอดใจแห้วๆละ จะได้กลับบ้านมั้ยกุ

ยืนอยู่เฉยๆ มีรถคันที่สองมาจอด แล้วลงกระจก...
A : ลงภูหรอครับ
เรา : ครับ
A : ขึ้นรถเลยเด่วไปส่ง
เรา : ขอบคุณค้าบบบบบ ____/\____
คนที่นั้นใจดีมากๆครับ ถ้ามีโอกาสอยากกลับไปอีกครั้ง
สำหรับผมทริปครั้งนี้จัดว่าเป็นครั้งแรกและสนุกมากเลยครับ อยากให้ลองไปกัน ไปไม่ยาก
ทริปนี้นั่งรถเฉพาะตอนขึ้นภู ลงภู เท่านั้นเลยครับเวลาที่อยู่บนภูเดินเท้าตลอด ทำให้เห็นการอยู่ของคนที่นั้นดูเรียบง่าย ไม่วุ่นวาย
สงบดี ส่วนตัวชอบมาก ชาวบ้านที่นั้นก็ใจดีมาก ถ้ามีโอกาสกลับไปอีกแน่นอนครับ ^^'
แนะนำว่าอย่าไปติดช่วงวันหยุด ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ นะครับคนจะเยอะมาก
ขอบคุณที่ติดตามกันมาจนจบนะครับ : )
อ่านรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง ขอโทษนะค้าบบบอิอิ ^_______^
อยากดูรูปอื่นๆตามได้ที่ ig : chindonut ครับ
" เพราะรูปถ่ายคือความทรงจำ "
[CR] ปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น แบคแพค...ภูทับเบิก ^0^"
ผมนัท นัด ณัฐ ณัฐไหนก็ด้ายยยยยยย
หลังจากอ่านรีวิวมาเยอะ วันนี้มีโอกาสอยากจะแชร์ประสบการณ์ฮะ ^^
นี้เป็นรีวิวกระทู้แรก ถ้าผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ด้วยนะค้าบบบ ____/\____
เรามาเริ่มกันเลย ^0^
นี้เป็นการแบคแพคครั้งแรกของผม
ผมก็เป็นคนนึงที่ชอบอ่านรีวิวที่ต่างๆ แต่ที่สนใจก็ที่นี้แหละครับ "ภูทับเบิก"
ทริปครั้งนี้ผมคิดตั้งแต่ยังไม่ทันได้ปิดเทอม ไฮลาาาา
เรื่องเท่วขอให้บอ555+ ปล.ไฮลาเป็นภาษาใต้ ภาษากลางก็คง ไงละ มั้งครับ
ทริปนี้ไปวันที่ 11 - 13 พฤศจิกายน 2558 , 3 วัน 2 คืนครับ
รูปทุกรูปถ่ายด้วย canon 700D + 18-135 | iPhone6 ครับ
เริ่มแรกเราหาที่พักไปเรื่อยโทรไปหลายที่มาก เต็ม เต็ม เต็ม เต็ม
จนมาได้ที่ ภูกระต๊อบเงิน ค่าห้อง 2000.- มัดจำไว้ 1000 ครับแล้วไปจ่ายเพิ่มที่ภู และค่าประกันห้องอีก 200 จะได้คืนตอนออกครับ
ที่พักอยู่ห่างจากจุดชมวิวประมาณ 1 กิโล ตอนแรกก็คิดหนักจะเอาดีมั้ย สุดท้ายก็ต้องเอาเพราะอยากไปมว๊ากกกก
ทริปนี้เดินตลอดภูครับ ขึ้นเขา ลงเขา แนะนำให้ใส่รองเท้าผ้าใบนะครับสำหรับคนที่จะต้องเดินแบบเราฮ่าแก้หนาวได้ด้วยครับ
มาภูครั้งนี้หนาวใจไม่เท่าไหรครับ แต่หนาวกายนี้ต้องหาคนกอดไปด้วยนะครับ ฮี้ววววว^^
ในห้องมีทีวี ผ้าเช็ดตัว เครื่องทำน้ำอุ่น มีอาหารเช้าให้ครับเป็นข้าวต้ม กาแฟ โอวัลติน
ปล.เครื่องทำน้ำอุ่นที่นั้นเค้าใช้แก๊สหุ้งต้มตามที่ใช้ในบ้านอะครับ ดูน่ากลัวนิดๆ นึกว่าทริปจะล่มสะแล้ววว อิอิ
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2558
การเดินทางของเราไปด้วย บ.เพชรประเสริฐทัวร์ รอบ 23.30 น. ครับ จากหมอชิตไปหล่มสัก ราคา 289 บาท
เราถึงบขส.หล่มสักประมาณตีห้าครับ เราสามารถโทรไปจองตั๋วที่คอลเซนเตอร์ได้นะครับ [เบอร์ติดต่อ 056-720720]
เเต่เราต้องไปเอาตั๋วก่อน 22:30น. ที่หมอชิต2 ครับ บริษัทอยู่ชั้น1 หน้าลิฟท์เลยครับ
เช้าวันที่ 12 พฤศจิกายน 2558
พอถึง บขส.หล่มสัก เราก็ข้ามถนนมาฝั่งตรงข้าม เพื่อที่จะโบกรถชาวบ้านที่ตลาดผักเพื่อที่จะขึ้นภู
ไปครั้งนี้เราบังเอิญเจอคนอีกกลุ่มนึงที่จะขึ้นภูเหมือนกันเลยมีเพื่อนร่วมทางเพิ่มอีก 2 คน
ตอนเราหารถชาวบ้านแถวนั้นใจดีมาก ช่วยถามให้เราด้วย ^^ และแล้วเราก็ได้รถขึ้นภูเย้!!!!!
ระหว่างที่หารถก็เจอร้านน้ำเต้าหู้ กับปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ถุงละ 3 บาท ปาท่องโก๋ตัวละ 1 บาท คือ อร่อย และ ถูกกกกก
เราถามเค้าไปสองครั้งว่าเท่าไหรนะครับ นึกว่าฟังผิดฮ่าาาา
ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการฮะ ^^ พี่เค้าจอดปั๊มให้เราเข้าห้องน้ำ เข้า 7-11 ด้วย ใจดีมากๆเลยย
พี่เค้าขับเร็วมาก หนาวมาก มือชา หน้าชา กันเลยทีเดียวฮะ
พี่เค้าใจดีจอดให้พวกเราถ่ายวิวด้วยฮะ ของจริงคือสวยมากกกกกกกกกกก
เรามาถึงภูประมาณแปดโมงครับ พี่เค้าพาเราไปส่งที่จุดชมวิวทั้งๆที่พี่เค้าไม่ผ่านทางนั้น คนที่นั้นใจดีมากๆครับ
ตอนเดินไปพูดแล้วมีควันออกจากปากด้วย คือ ตื่นเต้น ฮ่าาาาาา หลังจากนั้นเราก็โทรถามที่พักว่าเราจะไปที่พักยังไงฮะ
ในใจก็นึกขึ้นมาตอนแรกที่จองที่พัก ห่างจากจุดชมวิว 1 กิโล 1 กิโล T T
เดินสิครับเดิน ขึ้นเขาลงเขาบ้าง แต่ระหว่างทางที่เดินไปก็มีร้านข้างทางเรื่อยทำให้เดินแล้วไม่ร็สึกว้าเหว่เท่าไหรอิอิ
พอถึงร้านนี้เราก็ได้เสียค่าเสียหายไป 40 บาท ได้ไข่ปิ้งมา 6 ลูก อิอิ
ในที่สุดเราก็มาถึงที่พัก T T
เห็นจุดสูงสุดนั้นมั้ย ในใจก็นึกเราเดินมาได้ยังไง
ถึงเวลารีวิวร้านอาหารแล้วครับ ^0^ ชื่อร้าน ไร่สุวิทย์ ครับ
หลังจากกินเสร็จก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้เป็นเวลา 20 นาทีจริงๆ จับเวลาอยู่นั่งพองอยู่ในร้าน 555+
หลังจากนั้นเราก็เดินขึ้นไปที่จุดสูงสุดครับ
เดินผ่านแปลงกะหล่ำขอถ่ายสักหน่อยเด่วเค้าหาว่ามาไม่ถึง แฮ ^^
พอถึงจุดชมวิวแล้วอยากกลับไปสั่งขาหมูอีกขาเลยยยครัชฮ่าาาา
ดูจากเหงื่อแล้วบอกเลยว่าเหนื่อยครัช หอบ เหงื่อออก แต่อากาศเย็นมาก ลมพัดเย็นตลอด เลยไม่รู้สึกเหนื่อยมากเท่าไหรอิอิ
ไปดูวิวจากจุดชมวิวกันฮะ ^^
เดินกลับที่พักละ ทำใจแปป 1 กิโล พักดื่มน้ำแก้เหนื่อยแพร้พพพพพพ
วิวที่ร้านกาแฟครับ
ถึงห้องก็สลบเหมือนซ้อมตายเลยครับที่กินไปรู้สึกหายไปหมด T T
ตื่นมาก็ประมาณหกโมงกว่าาาละ นึกได้ว่ายังไม่มีรูปกลางคืนเลยจับกล้องมาถ่ายสักนิดอิอิ
หลังจากถ่ายรูปเสร็จก็รู้สึกหิวเลยเดินขึ้นไปทางจุดชมวิวไปตามรีวิวร้าน โรงเตี๊ยม ครับ GO!!!
ระหว่างทางตอนกลางคืนหนาวมากกกกกกก เลยได้หมวกมาใบนึง 220 แก้หนาววอิอิ กับซื้อมันปิ้ง 5 บาทมาอุงมือให้อุ่นๆ ^^
ร้านที่สองโรงเตี๊ยมครับ
วันที่ 12 พฤศจิกายน 2558 ก็จบเท่านี้ฮะ ^^ ฝันดีค้าบบบบบบ
เช้าวันที่ 13 พฤศจิกายน 2558
ต้องกลับแล้วหรอ
ความหนาวไม่ต้องพูดถึง แต่ก็ฟินดีนะครับ
ตื่นไปดูทะเลหมอกไม่ทัน แต่ก็มีหมอกมาให้เห็นถึงหน้าห้องเลย
เราเช็คเอ้าท์ ประมาณ 10 โมง โชคดีตอนกลับไม่ต้องเดินแบกกระเป๋าไปที่จุดสูงสุดของภู
เจ้าของที่พักใจดีให้ติดรถไปด้วย กราบงามๆครับ ____/\____
พอถึงจุดสูงสุดเราเลยขึ้นไปที่จุดชมวิวอีกครั้งก่อนกลับ มันสดชื่นจริงๆ อากาศดี๊ดี อยากเอากลับบ้าน
หลังจากถ่ายรูปเสร็จเราก็เดินลงไปหารถที่จะลงภู
โบกคันแรกไม่จอดใจแห้วๆละ จะได้กลับบ้านมั้ยกุ
ยืนอยู่เฉยๆ มีรถคันที่สองมาจอด แล้วลงกระจก...
A : ลงภูหรอครับ
เรา : ครับ
A : ขึ้นรถเลยเด่วไปส่ง
เรา : ขอบคุณค้าบบบบบ ____/\____
คนที่นั้นใจดีมากๆครับ ถ้ามีโอกาสอยากกลับไปอีกครั้ง
สำหรับผมทริปครั้งนี้จัดว่าเป็นครั้งแรกและสนุกมากเลยครับ อยากให้ลองไปกัน ไปไม่ยาก
ทริปนี้นั่งรถเฉพาะตอนขึ้นภู ลงภู เท่านั้นเลยครับเวลาที่อยู่บนภูเดินเท้าตลอด ทำให้เห็นการอยู่ของคนที่นั้นดูเรียบง่าย ไม่วุ่นวาย
สงบดี ส่วนตัวชอบมาก ชาวบ้านที่นั้นก็ใจดีมาก ถ้ามีโอกาสกลับไปอีกแน่นอนครับ ^^'
แนะนำว่าอย่าไปติดช่วงวันหยุด ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ นะครับคนจะเยอะมาก
ขอบคุณที่ติดตามกันมาจนจบนะครับ : )
อ่านรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง ขอโทษนะค้าบบบอิอิ ^_______^
อยากดูรูปอื่นๆตามได้ที่ ig : chindonut ครับ
" เพราะรูปถ่ายคือความทรงจำ "
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น