เมื่อก่อน ตอนเป็นนักเรียน ผมเคยเห็นคนนั่งเขียนไดอารี ช่วงพักเที่ยง ช่วงเลิกเรียน เค้าก็จะหยิบมาเขียน
เค้าไม่ให้ผมดูอยู่แล้วล่ะ เพียงแต่เค้าบอกคร่าวๆ ว่า เค้าเขียนอะไร
พวกงาน รายงานที่ต้องทำ กิจกรรมในโรงเรียน เรื่องที่บ้าน พี่ น้อง เค้า และเรื่องกุ๊กกิ๊ก อนาคต อะไร เรื่อยเปื่อย
เค้าบอกว่า เค้าพยายามจะเขียนอะไรที่มันไม่หยาบ อนาคต ที่เค้าอาจะตายลง และคนอื่นได้พบและอ่าน หรือกลับมาอ่านเอง จะได้รู้สึกดี
สิบกว่าปีผ่านมา บล๊อก เว็บไซต์ ก็ให้บริการ ใครจะประยุกต์ใช้เขียนบล๊อกก๊ดี
แต่ปัญหาคือ มันไม่ได้ทำให้เขียนเรื่องของตัวเองจริงๆ พึ่งพาเทคโนโลยีมากไป และวันดีคืนดีถูกถูกปิด
ผมไม่คิดว่าตัวเองจะอยากกลับมาเขียนไดอารี หรือบันทึกอะไรเลย
เพราะลายมือไม่สวย เข้าขั้นอ่านไม่ออก และผมไม่สามารถเขียนอะไรที่มีความคิดเชิงบวกได้เลย
ชีวิตครอบครัวที่ผมอยู่ สังคมที่ผมอยู่ มันทำให้ผมคิดและเขียนอะไรดีๆ ได้ยากมาก
คือมีเรื่องให้เขียน แต่มักเป็นสภาพความทุกข์ใจ ระบายกับใครไม่ได้
ไม่ได้อยากเขียนให้คนที่มีความสำคัญกับเราได้อ่าน เมื่อผมตายลงสักวัน
แต่บางทีก็มีเรื่องอยากพูดกับเค้า จนตายแล้วไม่ได้สื่อสารเลย
แบบว่าวันนี้ถูกหวย ขึ้นเงินแล้วใช้คนเดียว วันก่อนโดนคนข้ามถนนยึกยักเต้นแร๊ป วันนู้นจ่ายค่าซ่อมบ้าน วันนั้นส้วมกดไม่ลง มวลสารล้นลงพื้น ปีก่อนเลิกกับคนนั้น แล้วเบี้ยวหนี้ ปีนู้นทำงานที่นั่น ได้มีอะไรกับหัวหน้า บลาๆๆ
ผมไม่เข้าใจ
คนที่เขียนไดอารี่อยู่ เคยเขียนเรื่องของคนอื่นที่เราไม่เกี่ยวด้วยเลยไหมครับ
เขียนกันถี่ไหม ปีนึงจะเขียนได้กี่หน้า กี่เล่ม
เวลาอยากแทรกรูป ทำยังไง ไปอัดรูปที่ร้าน แนบใส่หนังสือหรือเปล่า
และท่านเขียนลงสมุดอยู่หรือเปล่า หรือทำสำเนาในอินเตอร์เน็ตไหม
ในยุคที่ใครๆ ใช้อินเตอร์เน็ต ทำให้ความเป็นส่วนตัวรั่วไหลด้วยตัวเอง ท่านจะยังเขียนไดอารี่ลงสมุดอยู่มั๊ย
ขอบคุณครับ
แก้ไข : เพิ่มเติม
ท่านเขียนความจริงลงในสมุดไดอารีขนาดไหนครับ
มีใครยังเขียนไดอารีลงสมุดไดอารีบ้างครับ
เค้าไม่ให้ผมดูอยู่แล้วล่ะ เพียงแต่เค้าบอกคร่าวๆ ว่า เค้าเขียนอะไร
พวกงาน รายงานที่ต้องทำ กิจกรรมในโรงเรียน เรื่องที่บ้าน พี่ น้อง เค้า และเรื่องกุ๊กกิ๊ก อนาคต อะไร เรื่อยเปื่อย
เค้าบอกว่า เค้าพยายามจะเขียนอะไรที่มันไม่หยาบ อนาคต ที่เค้าอาจะตายลง และคนอื่นได้พบและอ่าน หรือกลับมาอ่านเอง จะได้รู้สึกดี
สิบกว่าปีผ่านมา บล๊อก เว็บไซต์ ก็ให้บริการ ใครจะประยุกต์ใช้เขียนบล๊อกก๊ดี
แต่ปัญหาคือ มันไม่ได้ทำให้เขียนเรื่องของตัวเองจริงๆ พึ่งพาเทคโนโลยีมากไป และวันดีคืนดีถูกถูกปิด
ผมไม่คิดว่าตัวเองจะอยากกลับมาเขียนไดอารี หรือบันทึกอะไรเลย
เพราะลายมือไม่สวย เข้าขั้นอ่านไม่ออก และผมไม่สามารถเขียนอะไรที่มีความคิดเชิงบวกได้เลย
ชีวิตครอบครัวที่ผมอยู่ สังคมที่ผมอยู่ มันทำให้ผมคิดและเขียนอะไรดีๆ ได้ยากมาก
คือมีเรื่องให้เขียน แต่มักเป็นสภาพความทุกข์ใจ ระบายกับใครไม่ได้
ไม่ได้อยากเขียนให้คนที่มีความสำคัญกับเราได้อ่าน เมื่อผมตายลงสักวัน
แต่บางทีก็มีเรื่องอยากพูดกับเค้า จนตายแล้วไม่ได้สื่อสารเลย
แบบว่าวันนี้ถูกหวย ขึ้นเงินแล้วใช้คนเดียว วันก่อนโดนคนข้ามถนนยึกยักเต้นแร๊ป วันนู้นจ่ายค่าซ่อมบ้าน วันนั้นส้วมกดไม่ลง มวลสารล้นลงพื้น ปีก่อนเลิกกับคนนั้น แล้วเบี้ยวหนี้ ปีนู้นทำงานที่นั่น ได้มีอะไรกับหัวหน้า บลาๆๆ
ผมไม่เข้าใจ
คนที่เขียนไดอารี่อยู่ เคยเขียนเรื่องของคนอื่นที่เราไม่เกี่ยวด้วยเลยไหมครับ
เขียนกันถี่ไหม ปีนึงจะเขียนได้กี่หน้า กี่เล่ม
เวลาอยากแทรกรูป ทำยังไง ไปอัดรูปที่ร้าน แนบใส่หนังสือหรือเปล่า
และท่านเขียนลงสมุดอยู่หรือเปล่า หรือทำสำเนาในอินเตอร์เน็ตไหม
ในยุคที่ใครๆ ใช้อินเตอร์เน็ต ทำให้ความเป็นส่วนตัวรั่วไหลด้วยตัวเอง ท่านจะยังเขียนไดอารี่ลงสมุดอยู่มั๊ย
ขอบคุณครับ
แก้ไข : เพิ่มเติม
ท่านเขียนความจริงลงในสมุดไดอารีขนาดไหนครับ