
สวัสดีกันอีกครั้ง คือครั้งนี้มาแบบ เอามันส์เลย 555 คิดถึงจึงโพส
ครั้งนี้จะมาพูดถึงการเดินป่าครั้งเเรกกเลยในชีวิต เลย อยากเดินมานานน
.
ขอเกริ่นหน่อยก่อนเริ่มเดินกัน
คือเเม๊งมันส์มากจริงๆสำหรับเราเว้ย 555
ประมาณช่วงเปิดเทอม 6 เดือน - ใครอยู่ยุคนี้บ้าง 555 -
ปลายเดือน กรกฎาคม 2557
ก่อนไปป่านั้นเราคิดมาเสมอว่า ป่า...ทำไมวะไม่เหนื่อยหรอก ทางราบเเน่นอน คงเดินเหมือนปกติ
(ก่อนมาเพื่อนบอกให้ฟิต) เอ้ยย สบายยๆ ( นี่ผ่านมาเกือบ 2 ปี ยังจำรสชาติได้อยู่ )
อ่านไปเรื่อยๆนะ อย่าพึ่งด่า 555
คือครั้งนี้ด้วยความเป้นครั้งเเรก เลยมีเรื่อง " เสร่อ " หลายอย่าง
ขนเเม้งไปหมด ขาตั้งกล้องเอย เลนส์เอย คืออยากจะเล่าความเสร่อให้อ่าน
นี่เลย ถอยเลนส์มาใหม่ เลนส์กล้องฟิล์ม Tokina AT-x 35 - 200 mm เพื่องานนี้เลย

คือหนักมาก
ครั้งเเรกก็ล่อไปเลย เอาฟิล์มไป Fm2n คือใช้ก็ไม่ค่อยเป็นด้วย เเล้วพอมาใช้กะเลนส์นี้นะ โอ้ยย พลาดมาก
มาคิดตอนนี้ก็คิดสะว่ามันคือ
ประสบการณ์
ขออภัยสำหรับรูปภาพในครั้งนี้ คุมไม่ได้จริงๆ 5555
ครั้งนี้เป็นการเดินทางครั้งเเรก กับ
ตะกอนป่าาา คือกลุ่มเพื่อนๆเค้าเอง
สมาชิกในการร่วมบันทึกความทรงจำนี้ มี 5 คน
โอม เเหลม เม่น มัส เเละเราเอง
ไปกันเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ลักษณะภูมิประเทศ
มีสภาพเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนทอดยาวตามแนวเหนือ-ใต้ มียอดเขาที่สำคัญ ได้แก่ เขาใหญ่ เขานันใหญ่ เขานันเมีย เขาเหล็ก เขาช่องลม และเขาใด เป็นต้น โดยมียอดสูงที่สุด คือ ยอดเขาใหญ่ โดยสูงประมาณ 1,438 เมตร จากระดับน้ำทะเล โดยเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขานครศรีธรรมราช สภาพป่าโดยทั่วไปเป็นป่าดงดิบชื้นที่อุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญประกอบด้วยพันธุ์ไม้ที่สำคัญและมีค่า ทั้งยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลายชนิด อยู่เป็นจำนวนมากและยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ มากมาย เช่น ดีบุก แบไรต์ วุลแฟรม
ลักษณะภูมิอากาศ
สภาพโดยทั่วไปเป็นป่าดิบชื้น ที่อุดมสมบูรณ์จึงทำให้มีความชื้นสูง ส่วนใหญ่จะมีฝนตกชุกจึงมีอากาศเย็นสบายตลอดปี ไม่ร้อนอบอ้าว
พืชพรรณและสัตว์ป่า
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าดงดิบชื้นที่อุดมสมบูรณ์ครอบคลุมกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ มีพันธุ์ไม้ที่มีค่าหลายชนิดเช่น ยาง หลุมพอ ตะเคียนทอง ไข่เขียว ตะเคียนทราย เสียดช่อ และจำปาป่า เป็นต้น นอกจากนี้พื้นที่ป่าบริเวณบ้านทับน้ำเต้า บ้านหน้าพระเจ้า บ้านห้วยพริก และบ้านห้วยแห้ง จะพบไม้ประ (Elaleriospermum tapos Bl.) ซึ่งเป็นไม้ที่นิยมเก็บเมล็ดมารับประทาน และเมล็ดดังกล่าวมีราคาสูง ขึ้นอยู่ในบริเวณป่าดังกล่าวเป็นกลุ่มใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ค่อยพบเห็นไม้ประขึ้นเป็นกลุ่ม กลุ่มไม้ประในบริเวณนี้อาจถือได้ว่าเป็นแหล่งเมล็ดพันธุ์ และชุกชุมด้วยสัตว์ป่านานาชนิด เช่น เลียงผา สมเสร็จ เก้ง หมูป่า กระจง อีเห็น ชะมด นอกจากนี้ยังมีนกมากกว่า 150 ชนิด ซึ่งรวมถึงนกขนาดใหญ่อย่างนกกก และนกเฉพาะถิ่นที่พบบนทิวเขานครศรีธรรมราช คือ นกกินปลีหางยางเขียว

โอมเอง
เรานัดเจอกันที่หัวลำโพง ขาไปนี้เรานั่งรถไฟเสียเงินไป เพราะว่าเรา ตกรถไฟฟรี
นั่งกันสบายตูด นอนหลับกลิ้งเกลือกกันสบายยมาก

มัสเอง

เม่น เเละ เเหลม
เรานั่งรถไฟกันโคตรนาน เเม๊งเอ้ย นานจริงดีนะได้นั่งสบาย ฮ่า ๆ เราถึงสุราษกันตอนเช้า อากาศดีมาก
เเล้วเราก็นั่งรถสองเเถวไปที่ท่ารถทัวร์ เพื่อจะไปสิชลกัน
พอถึงสิชลเราก็ไปหาอะไรกินกัน จำได้ว่าตอนนั้นไปร้านข้าวขาหมู อยู่เเถวๆ เซเว่น เเละโลตัส ถ้าเเวะไปเเถวนั้นก็ไปอุดหนุนป้าด้วยนะ
ทานข้าวเสร็จเราก็ไปซื้อเสบียงที่ตลาดเเละโลตัส เช่น ข้าวสาร อาหารเเห้ง เนื้อหมู พริกเเกง ลูกอม ขนม
ซื้อของกันเสร็จเรียบร้อย เราก็รอ จนท.ที่อุทยานมารับ เราเข้าไปที่หน่วย
ทางเข้าหน่วยเป็นสวนยางค่อนข้างเยอะ เรียงกันงดงาม เราใช้เวลานั่งรถจากตลาดเข้าหน่วยประมาณชั่วโมงกว่า
ถึงเเว้ว

เย็นนี้เราจะนอนกันที่นี่ พี่ๆ เจ้าหน้าที่บอกเราว่าด้านหลังจะมีน้ำตกอยู่ให้ไปอาบกัน เเละถัดจากหน่วย จะเป็นที่พักของพี่ที่อุทยาน
ก็ไปอาบน้ำอาบท่ากันเสร็จ พี่เจ้าหน้าที่เลยชวนเราไปทานข้าวกับพี่เค้า ทางไปบ้านของพี่เจ้าหน้าที่จะต้องเดินข้ามน้ำตกไป บบรยากาศดีมาก ลุงวินัย ให้ลูกสาวของพี่เค้า พาเราเข้าไปเก็บสะตอในป่า เกิดมาพึ่งเคยเห็นต้นสะตอครั้งเเรก ต้นใหญ่มากเลย เเล้วก็สูงมากด้วย ในนั้นมีทั้งต้นสะตอ / ทุเรียน / เงาะ เราเก็บกันมาเป็นอาหารเย็นในคืนนี้
หลังจากทานข้าวก็กลับไปนอนกันที่หน่วย เตรียมของสำหรับขึ้นในตอนเช้า ครั้งนี้เราเเชร์เสบียงกันเเบก
ทางขาขึ้นนั้นโหดมาก ด้วยการเป็นครั้งเเรกอีก แบบโอ้ยยตื่นตาตื่นใจ 5555555
-
เขานันนั้นได้ปิดทำการไป 2 - 3 ปี เพราะว่าดินบนภูเขาถล่มลงมา หมู่บ้านที่เคยอยู่ตีนเขานั้นได้เสียหายเป็นจำนวนมาก จากที่พี่เค้าชีให้ดูคือ มันมีเค้าเป็นบ้านนะ เเต่เหลือเเต่กำเเพง เศษอิฐ ไรงี้ คือดูเเล้วมันค่อนข้างหนัก ละคือมันจะมีเหมือนเป็นทางน้ำ ยาววว มากๆๆ พี่เค้าบอกว่า เนี่ยคือเเต่ก่อนคือบ้านหมดเลย เชี่ยคือ ภาพมันมา ) เเต่ไม่ได้ถ่ายเอาไว้เพราะตอนนั้นยังไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราว 555เอ๋ออสั่ด --
เช้าวันนี้เราขึ้นกันรวมทั้งหมด 9 คน
พี่เจ้าหน้าที่ 4 คน เเละพวกเราอีก 5 คน
เราได้นั่งข้างหน้า เพราะเป็นผู้หญิง ดีเเล้วที่นั่งข้างหน้า ไม่งั้นมีตกรถ คือ ทางจะเป็นก้อนหินทั้งเล็กเเละใหญ่ เส้นทางขาขึ้นจะขรุขระเป็นระยะ
นั่งข้างหน้ารถจะมีสตอวางอยู่ 1 พวง รถที่นั่งขึ้นไป มันเเหง๋นเกือบจะตั้งฉากจนสะตอร่วงลงมา 5555 นึกเเล้วก็ฮา
เกิดมาไม่เคยนั่งรถที่หวาดเสียวอย่างงี้ ละมันจะมีอยู่ช่วงนึง รถดับในขณะที่มันกำลังขึ้น ใจนี่ล่วงไปที่ตาตุ่ม...
ขึ้นไปซักระยะนึงก็ถึงจุดสตาร์ท ตอนเเรกคิดในใจว่าพี่เค้าจะไม่ให้เราเดินไงวะ มาสะไกล
( คิดในใจ เเล้วก็คิดผิดด้วย ฮ่าาาาๆๆ )
มาละเริ่มเล่าของจริง
ถ้าคนเดินหลายหนแล้วอาจจะคิดถึงตัวเองตอนเดินครั้งแรกหรือปล่าวไม่รู้นะ
เอาเป็นว่าครั้งนี้เล่าสำหรับคนที่เดินครั้งเเรกน้ะ
คือแม้งเหนื่อยสั่ดอะ จากที่คิดมาตลอดว่า เห้ยยไรวะแค่เดินเอง
คือมันไม่ใช่ทางราบไง ไอ่ที่คิดมาทั้งหมดอะผิด
คือเดินไปนานนมาก พักบ่อยด้วยแม้งเหนื่อยยแบบจริงจังอะ
ก็ถามเพื่อนว่า เมื่อไหร่ถึงวะ
รู้มั้ยเพื่อนบอกว่าไร
ยังไม่ถึงป่าเลย นี่มันถึงแค่ป่ายาง
หู้ยเท่านั้นแหละ เอาละใจแม๊งเอาละ
เดินไปเรื่อยๆ รูปไม่ค่อยได้ถ่าย เหนื่อยม้ากก จำได้ว่ากระเป๋าก็หนัก กล้องก็หนัก ขาตั้งกล้องอีก

จัดเฟิร์นไป 1 ใบ
ทางตอนนี้จะเป็นทางชันขึ้น step เดินขึ้นอย่างเดียว ลงเล็กน้อย
ถามเจ้าหน้าที่อีก นายหัวค้ะ อีกไกลมั้ยค้ะ (เชื่ยพึ่งเดิน ถามล้ะ)
“ ไม่ไกล ๆๆ “
โอเคได้กำลังใจหน่อย เดินต่อ

ช่วงนี้คือเราได้แวะพักช่วงนี้ นิดหน่อยละก็เดินต่อ
ช่วงนี้เหมือนมีรอยการพักแรม
นายหัวบอกว่า น่าจะเป็นพราน

ป่าค่อนข้างรก เหมือนต้องเปิดเส้นทางใหม่ด้วย เพราะปิดมานานไม่ค่อยมีคนมา
บุกกันไป
ต่อไปได้พักของจริง

ดีใจมากก ได้พักเเล้ว
พอนึกออกปะ แบบเราโคตรเหนื่อยแล้วได้พัก
เราพักกินน้ำกันสักพักนึงแล้วเดินต่อเพื่อที่จะไปทำแคมป์กันด้านบน
เดินต่อ
หลังจากได้พักช่วงตะกี้มานั้น ไม่ได้ชื่นชมธรรมชาติเลย 5555
เหนื่อยย ขึ้น ลง ขึ้น ลง โอ้โห ต้องไปสัมผัสจริงๆ
ทางเดินช่วงนี้ จะมีพี่เจ้าหน้าที่ 2 คนนำหน้าไปก่อน ไปปูเส้นทางรอ เพราะว่าต้นไม้ขึ้นทับทางเดิน
พวกเพื่อนเราต้องคอยสังเกตุรอยหักกิ่งไม้ที่ เจ้าหน้าที่หักเอาไว้ให้
หันไปทางไหนก็มีเเต่ต้นไม้เหมือนกันไปหมดเลย เข้าใจคนที่เดินหลงป่าเลย
และแล้วเราก็ถึง
.
คือมันสวยมาก หายเหนื่อย
เค้าเรียกกันว่า
ผาช่องลม
คืนนี้เราจะพักแรมกันที่นี่ ผูกเปลกันที่ต้นไม้ริมผา บนผาจะเป็นผาที่มีน้ำตกไหลลงมา ด้านล่างจะเป็นทางน้ำไหลยาวไปจนหายลับไปในต้นไม้
ด้านหน้าเป็นภูเขาสลับกัน สีเขียวเข้มไล่สีไปจนถึงสีฟ้าอ่อน น้ำเย็นเจี๊ยบ เหมือนในตู้เย็น (การเจอน้ำตกในป่า มันเหมือนเจอทองเลย สำหรับเรานะ)
กวักน้ำมาล้างหน้า ล้างตา เย็นสบาย ไอที่เหนื่อยๆ จะเป็นจะตายด้านล่างนี่หายไปเลย คือเราชอบบรรยากาศตรงนี้มากก
คืนนี้อาหารอร่อยมาก
มัสกล่าวว่า " กินดีอยู่ดีกว่าอยู่กรุงเทพอีก "

ตั้งกล้องไป 1 รูป (เอาขาตั้งมาน๊ากกกหนักก เอาซักหน่อย)
ห้องน้ำเรากว้างใหญ่ไพรศาล เลยย
เต็มที่ !!
เราขึ้นไปปลดทุกข์กันด้านบน เราเดินไปไกลอยู่พอสมควร 555 ให้เพื่อนเฝ้าอย่าให้ใครขึ้นมานะ
บังเอิญมัสเเยกไปที่น้ำตก เราอยู่บนผา เราปลดทุกข์ไปเราก็เห็นหัวมัส เเว้ปๆ
เราทำธุระเสร้จเราก็ฝังกลบเรียบร้อย ละก็ปักมุดไว้ จะได้ไม่เหยียบ
กลิ่นสะตอเอย พริกเเกงเอย เหลืองง!
.
.
ค่ำคืนนี้เราออกมานอนเล่นกันตรงหินหน้าผา เเสงจันทร์สว่างไปทั่ว
อากาศหนาวเย็น พวกเรานอนเล่นกันสักพักเเล้วก็เข้าเปลนอน
ครั้งนี้เราผูกเปล 2 ชั้น เพราะไม่อยากอยู่ไกลเพื่อน
ทริปนี้เราใช้เปลกันทุกคน เพราะสะดวกในการพกพาเเละไม่หนัก
เปลเราลั่นนิดหน่อย เพราะใช้ครั้งเเรก กลัวตกมาก
คืนนี้นอนหลับสบาย
.
.
.
[CR] เดินป่าครั้งเเรก เขานัน นครศรีธรรมราช - ทะเลขนอม
สวัสดีกันอีกครั้ง คือครั้งนี้มาแบบ เอามันส์เลย 555 คิดถึงจึงโพส
ครั้งนี้จะมาพูดถึงการเดินป่าครั้งเเรกกเลยในชีวิต เลย อยากเดินมานานน
.
ขอเกริ่นหน่อยก่อนเริ่มเดินกัน
คือเเม๊งมันส์มากจริงๆสำหรับเราเว้ย 555
ประมาณช่วงเปิดเทอม 6 เดือน - ใครอยู่ยุคนี้บ้าง 555 -
ปลายเดือน กรกฎาคม 2557
ก่อนไปป่านั้นเราคิดมาเสมอว่า ป่า...ทำไมวะไม่เหนื่อยหรอก ทางราบเเน่นอน คงเดินเหมือนปกติ
(ก่อนมาเพื่อนบอกให้ฟิต) เอ้ยย สบายยๆ ( นี่ผ่านมาเกือบ 2 ปี ยังจำรสชาติได้อยู่ )
อ่านไปเรื่อยๆนะ อย่าพึ่งด่า 555
คือครั้งนี้ด้วยความเป้นครั้งเเรก เลยมีเรื่อง " เสร่อ " หลายอย่าง
ขนเเม้งไปหมด ขาตั้งกล้องเอย เลนส์เอย คืออยากจะเล่าความเสร่อให้อ่าน
นี่เลย ถอยเลนส์มาใหม่ เลนส์กล้องฟิล์ม Tokina AT-x 35 - 200 mm เพื่องานนี้เลย
ครั้งเเรกก็ล่อไปเลย เอาฟิล์มไป Fm2n คือใช้ก็ไม่ค่อยเป็นด้วย เเล้วพอมาใช้กะเลนส์นี้นะ โอ้ยย พลาดมาก
มาคิดตอนนี้ก็คิดสะว่ามันคือ ประสบการณ์
ขออภัยสำหรับรูปภาพในครั้งนี้ คุมไม่ได้จริงๆ 5555
ครั้งนี้เป็นการเดินทางครั้งเเรก กับ ตะกอนป่าาา คือกลุ่มเพื่อนๆเค้าเอง
สมาชิกในการร่วมบันทึกความทรงจำนี้ มี 5 คน
โอม เเหลม เม่น มัส เเละเราเอง
ไปกันเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โอมเอง
เรานัดเจอกันที่หัวลำโพง ขาไปนี้เรานั่งรถไฟเสียเงินไป เพราะว่าเรา ตกรถไฟฟรี
นั่งกันสบายตูด นอนหลับกลิ้งเกลือกกันสบายยมาก
มัสเอง
เม่น เเละ เเหลม
เรานั่งรถไฟกันโคตรนาน เเม๊งเอ้ย นานจริงดีนะได้นั่งสบาย ฮ่า ๆ เราถึงสุราษกันตอนเช้า อากาศดีมาก
เเล้วเราก็นั่งรถสองเเถวไปที่ท่ารถทัวร์ เพื่อจะไปสิชลกัน
พอถึงสิชลเราก็ไปหาอะไรกินกัน จำได้ว่าตอนนั้นไปร้านข้าวขาหมู อยู่เเถวๆ เซเว่น เเละโลตัส ถ้าเเวะไปเเถวนั้นก็ไปอุดหนุนป้าด้วยนะ
ทานข้าวเสร็จเราก็ไปซื้อเสบียงที่ตลาดเเละโลตัส เช่น ข้าวสาร อาหารเเห้ง เนื้อหมู พริกเเกง ลูกอม ขนม
ซื้อของกันเสร็จเรียบร้อย เราก็รอ จนท.ที่อุทยานมารับ เราเข้าไปที่หน่วย
ทางเข้าหน่วยเป็นสวนยางค่อนข้างเยอะ เรียงกันงดงาม เราใช้เวลานั่งรถจากตลาดเข้าหน่วยประมาณชั่วโมงกว่า
ถึงเเว้ว
เย็นนี้เราจะนอนกันที่นี่ พี่ๆ เจ้าหน้าที่บอกเราว่าด้านหลังจะมีน้ำตกอยู่ให้ไปอาบกัน เเละถัดจากหน่วย จะเป็นที่พักของพี่ที่อุทยาน
ก็ไปอาบน้ำอาบท่ากันเสร็จ พี่เจ้าหน้าที่เลยชวนเราไปทานข้าวกับพี่เค้า ทางไปบ้านของพี่เจ้าหน้าที่จะต้องเดินข้ามน้ำตกไป บบรยากาศดีมาก ลุงวินัย ให้ลูกสาวของพี่เค้า พาเราเข้าไปเก็บสะตอในป่า เกิดมาพึ่งเคยเห็นต้นสะตอครั้งเเรก ต้นใหญ่มากเลย เเล้วก็สูงมากด้วย ในนั้นมีทั้งต้นสะตอ / ทุเรียน / เงาะ เราเก็บกันมาเป็นอาหารเย็นในคืนนี้
หลังจากทานข้าวก็กลับไปนอนกันที่หน่วย เตรียมของสำหรับขึ้นในตอนเช้า ครั้งนี้เราเเชร์เสบียงกันเเบก
ทางขาขึ้นนั้นโหดมาก ด้วยการเป็นครั้งเเรกอีก แบบโอ้ยยตื่นตาตื่นใจ 5555555
-
เขานันนั้นได้ปิดทำการไป 2 - 3 ปี เพราะว่าดินบนภูเขาถล่มลงมา หมู่บ้านที่เคยอยู่ตีนเขานั้นได้เสียหายเป็นจำนวนมาก จากที่พี่เค้าชีให้ดูคือ มันมีเค้าเป็นบ้านนะ เเต่เหลือเเต่กำเเพง เศษอิฐ ไรงี้ คือดูเเล้วมันค่อนข้างหนัก ละคือมันจะมีเหมือนเป็นทางน้ำ ยาววว มากๆๆ พี่เค้าบอกว่า เนี่ยคือเเต่ก่อนคือบ้านหมดเลย เชี่ยคือ ภาพมันมา ) เเต่ไม่ได้ถ่ายเอาไว้เพราะตอนนั้นยังไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราว 555เอ๋ออสั่ด --
เช้าวันนี้เราขึ้นกันรวมทั้งหมด 9 คน
พี่เจ้าหน้าที่ 4 คน เเละพวกเราอีก 5 คน
เราได้นั่งข้างหน้า เพราะเป็นผู้หญิง ดีเเล้วที่นั่งข้างหน้า ไม่งั้นมีตกรถ คือ ทางจะเป็นก้อนหินทั้งเล็กเเละใหญ่ เส้นทางขาขึ้นจะขรุขระเป็นระยะ
นั่งข้างหน้ารถจะมีสตอวางอยู่ 1 พวง รถที่นั่งขึ้นไป มันเเหง๋นเกือบจะตั้งฉากจนสะตอร่วงลงมา 5555 นึกเเล้วก็ฮา
เกิดมาไม่เคยนั่งรถที่หวาดเสียวอย่างงี้ ละมันจะมีอยู่ช่วงนึง รถดับในขณะที่มันกำลังขึ้น ใจนี่ล่วงไปที่ตาตุ่ม...
ขึ้นไปซักระยะนึงก็ถึงจุดสตาร์ท ตอนเเรกคิดในใจว่าพี่เค้าจะไม่ให้เราเดินไงวะ มาสะไกล
( คิดในใจ เเล้วก็คิดผิดด้วย ฮ่าาาาๆๆ )
มาละเริ่มเล่าของจริง
ถ้าคนเดินหลายหนแล้วอาจจะคิดถึงตัวเองตอนเดินครั้งแรกหรือปล่าวไม่รู้นะ
เอาเป็นว่าครั้งนี้เล่าสำหรับคนที่เดินครั้งเเรกน้ะ
คือแม้งเหนื่อยสั่ดอะ จากที่คิดมาตลอดว่า เห้ยยไรวะแค่เดินเอง
คือมันไม่ใช่ทางราบไง ไอ่ที่คิดมาทั้งหมดอะผิด
คือเดินไปนานนมาก พักบ่อยด้วยแม้งเหนื่อยยแบบจริงจังอะ
ก็ถามเพื่อนว่า เมื่อไหร่ถึงวะ
รู้มั้ยเพื่อนบอกว่าไร
ยังไม่ถึงป่าเลย นี่มันถึงแค่ป่ายาง
หู้ยเท่านั้นแหละ เอาละใจแม๊งเอาละ
เดินไปเรื่อยๆ รูปไม่ค่อยได้ถ่าย เหนื่อยม้ากก จำได้ว่ากระเป๋าก็หนัก กล้องก็หนัก ขาตั้งกล้องอีก
จัดเฟิร์นไป 1 ใบ
ทางตอนนี้จะเป็นทางชันขึ้น step เดินขึ้นอย่างเดียว ลงเล็กน้อย
ถามเจ้าหน้าที่อีก นายหัวค้ะ อีกไกลมั้ยค้ะ (เชื่ยพึ่งเดิน ถามล้ะ)
“ ไม่ไกล ๆๆ “
โอเคได้กำลังใจหน่อย เดินต่อ
ช่วงนี้คือเราได้แวะพักช่วงนี้ นิดหน่อยละก็เดินต่อ
ช่วงนี้เหมือนมีรอยการพักแรม
นายหัวบอกว่า น่าจะเป็นพราน
ป่าค่อนข้างรก เหมือนต้องเปิดเส้นทางใหม่ด้วย เพราะปิดมานานไม่ค่อยมีคนมา
บุกกันไป
ต่อไปได้พักของจริง
ดีใจมากก ได้พักเเล้ว
พอนึกออกปะ แบบเราโคตรเหนื่อยแล้วได้พัก
เราพักกินน้ำกันสักพักนึงแล้วเดินต่อเพื่อที่จะไปทำแคมป์กันด้านบน
เดินต่อ
หลังจากได้พักช่วงตะกี้มานั้น ไม่ได้ชื่นชมธรรมชาติเลย 5555
เหนื่อยย ขึ้น ลง ขึ้น ลง โอ้โห ต้องไปสัมผัสจริงๆ
ทางเดินช่วงนี้ จะมีพี่เจ้าหน้าที่ 2 คนนำหน้าไปก่อน ไปปูเส้นทางรอ เพราะว่าต้นไม้ขึ้นทับทางเดิน
พวกเพื่อนเราต้องคอยสังเกตุรอยหักกิ่งไม้ที่ เจ้าหน้าที่หักเอาไว้ให้
หันไปทางไหนก็มีเเต่ต้นไม้เหมือนกันไปหมดเลย เข้าใจคนที่เดินหลงป่าเลย
และแล้วเราก็ถึง
.
คือมันสวยมาก หายเหนื่อย
เค้าเรียกกันว่า ผาช่องลม
ด้านหน้าเป็นภูเขาสลับกัน สีเขียวเข้มไล่สีไปจนถึงสีฟ้าอ่อน น้ำเย็นเจี๊ยบ เหมือนในตู้เย็น (การเจอน้ำตกในป่า มันเหมือนเจอทองเลย สำหรับเรานะ)
กวักน้ำมาล้างหน้า ล้างตา เย็นสบาย ไอที่เหนื่อยๆ จะเป็นจะตายด้านล่างนี่หายไปเลย คือเราชอบบรรยากาศตรงนี้มากก
คืนนี้อาหารอร่อยมาก
ตั้งกล้องไป 1 รูป (เอาขาตั้งมาน๊ากกกหนักก เอาซักหน่อย)
เต็มที่ !!
เราขึ้นไปปลดทุกข์กันด้านบน เราเดินไปไกลอยู่พอสมควร 555 ให้เพื่อนเฝ้าอย่าให้ใครขึ้นมานะ
บังเอิญมัสเเยกไปที่น้ำตก เราอยู่บนผา เราปลดทุกข์ไปเราก็เห็นหัวมัส เเว้ปๆ
เราทำธุระเสร้จเราก็ฝังกลบเรียบร้อย ละก็ปักมุดไว้ จะได้ไม่เหยียบ
กลิ่นสะตอเอย พริกเเกงเอย เหลืองง!
.
ค่ำคืนนี้เราออกมานอนเล่นกันตรงหินหน้าผา เเสงจันทร์สว่างไปทั่ว
อากาศหนาวเย็น พวกเรานอนเล่นกันสักพักเเล้วก็เข้าเปลนอน
ครั้งนี้เราผูกเปล 2 ชั้น เพราะไม่อยากอยู่ไกลเพื่อน
ทริปนี้เราใช้เปลกันทุกคน เพราะสะดวกในการพกพาเเละไม่หนัก
เปลเราลั่นนิดหน่อย เพราะใช้ครั้งเเรก กลัวตกมาก
คืนนี้นอนหลับสบาย
.
.
.