"ดุสิตโพล"หนุนข้อเสนอ กรธ. ชี้คุณสมบัตินายกฯ ขอเป็นคนดี-ซื่อสัตย์-จงรักภักดี จะเป็น ส.ส.หรือไม่ก็ได้
เมื่อวันที่ 15 พ.ย. สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,232 คน ระหว่างวันที่ 12-14 พ.ย.ที่ผ่านมา ถึงที่มานายกรัฐมนตรี ที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้พรรคการเมืองระบุรายชื่อบุคคลที่จะสนับสนุนเป็นนายกฯ ก่อนเลือกตั้ง 1-5 รายชื่อ โดยจะเป็น ส.ส.หรือไม่ก็ได้นั้น พบว่าคุณสมบัตินายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนต้องการ ส่วนใหญ่ร้อยละ 87.65 ระบุเป็นคนดี ซื่อสัตย์ จงรักภักดี มีคุณธรรมจริยธรรม ยุติธรรม เป็นกลาง รองลงมาร้อยละ 83.94 ระบุเป็นคนเก่ง มีฝีมือ มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ วิสัยทัศน์ ทักษะไหวพริบดี และร้อยละ 72.09 มีความเป็นผู้นำ โดดเด่น มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับนับถือของคนทั่วไป
เมื่อถามว่าประชาชนคิดว่าคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี จำเป็นต้องเป็น ส.ส.หรือไม่ พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 36.78 ระบุจะเป็น ส.ส.หรือไม่เป็น ส.ส.ก็ได้ เพราะขึ้นอยู่ที่ตัวบุคคลมากกว่า ขอให้เป็นคนดี ซื่อสัตย์ มีความเสียสละ ทำเพื่อบ้านเมืองและประชาชน รองลงมา ร้อยละ 34.63 ไม่จำเป็นต้องเป็น ส.ส. เพราะอาจมาจากการพิจารณาแต่งตั้งหากเห็นว่าเป็นผู้ที่เหมาะสมและสามารถบริหารบ้านเมืองได้จริง ขณะที่ร้อยละ 28.59 ระบุต้องเป็น ส.ส.
เพราะเป็นบุคคลที่ประชาชนเป็นผู้เลือกเข้ามาเอง ใกล้ชิดประชาชน รู้และเข้าใจปัญหาดี มีประสบการณ์
เมื่อถามถึงสูตรการเลือกนายกรัฐมนตรีที่ กรธ.เสนอ 3 แนวทาง พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 63.42 ระบุนายกรัฐมนตรีมาจาก ส.ส. หรือไม่ก็ได้ เพราะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เปิดโอกาสให้คนเก่ง มีความรู้ความสามารถ และเหมาะสมกับตำแหน่งเข้ามาทำงาน ในอดีตมีนายกรัฐมนตรีหลายท่านที่ไม่ได้เป็น ส.ส. แต่มีผลงานดีและเป็นที่ยอมรับ ร้อยละ 28.21 ระบุต้องมาจาก ส.ส. เพราะเป็นคนที่ประชาชนเลือกเข้ามาทำหน้าที่เพื่อเป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง เพื่อความยุติธรรม ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน ที่ผ่านมาก็เคยใช้วิธีนี้ และร้อยละ 8.37 ระบุ นายกรัฐมนตรี ควรมาจากรายชื่อที่พรรคการเมืองเสนอ เพราะก่อนที่จะเสนอชื่อได้ต้องมีการพิจารณากลั่นกรองคุณสมบัติอย่างละเอียด นักการเมืองน่าจะรู้ดีที่สุดว่าใครคือผู้ที่เหมาะสม ประชาชนได้รู้รายชื่อของผู้ที่จะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีก่อนล่วงหน้า.
ที่มา:
http://www.dailynews.co.th
'ดุสิตโพล'ชี้นายกฯ เป็นส.ส.หรือไม่ก็ได้/ขอเป็นคนดี
เมื่อวันที่ 15 พ.ย. สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,232 คน ระหว่างวันที่ 12-14 พ.ย.ที่ผ่านมา ถึงที่มานายกรัฐมนตรี ที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้พรรคการเมืองระบุรายชื่อบุคคลที่จะสนับสนุนเป็นนายกฯ ก่อนเลือกตั้ง 1-5 รายชื่อ โดยจะเป็น ส.ส.หรือไม่ก็ได้นั้น พบว่าคุณสมบัตินายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนต้องการ ส่วนใหญ่ร้อยละ 87.65 ระบุเป็นคนดี ซื่อสัตย์ จงรักภักดี มีคุณธรรมจริยธรรม ยุติธรรม เป็นกลาง รองลงมาร้อยละ 83.94 ระบุเป็นคนเก่ง มีฝีมือ มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ วิสัยทัศน์ ทักษะไหวพริบดี และร้อยละ 72.09 มีความเป็นผู้นำ โดดเด่น มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับนับถือของคนทั่วไป
เมื่อถามว่าประชาชนคิดว่าคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี จำเป็นต้องเป็น ส.ส.หรือไม่ พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 36.78 ระบุจะเป็น ส.ส.หรือไม่เป็น ส.ส.ก็ได้ เพราะขึ้นอยู่ที่ตัวบุคคลมากกว่า ขอให้เป็นคนดี ซื่อสัตย์ มีความเสียสละ ทำเพื่อบ้านเมืองและประชาชน รองลงมา ร้อยละ 34.63 ไม่จำเป็นต้องเป็น ส.ส. เพราะอาจมาจากการพิจารณาแต่งตั้งหากเห็นว่าเป็นผู้ที่เหมาะสมและสามารถบริหารบ้านเมืองได้จริง ขณะที่ร้อยละ 28.59 ระบุต้องเป็น ส.ส.
เพราะเป็นบุคคลที่ประชาชนเป็นผู้เลือกเข้ามาเอง ใกล้ชิดประชาชน รู้และเข้าใจปัญหาดี มีประสบการณ์
เมื่อถามถึงสูตรการเลือกนายกรัฐมนตรีที่ กรธ.เสนอ 3 แนวทาง พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 63.42 ระบุนายกรัฐมนตรีมาจาก ส.ส. หรือไม่ก็ได้ เพราะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เปิดโอกาสให้คนเก่ง มีความรู้ความสามารถ และเหมาะสมกับตำแหน่งเข้ามาทำงาน ในอดีตมีนายกรัฐมนตรีหลายท่านที่ไม่ได้เป็น ส.ส. แต่มีผลงานดีและเป็นที่ยอมรับ ร้อยละ 28.21 ระบุต้องมาจาก ส.ส. เพราะเป็นคนที่ประชาชนเลือกเข้ามาทำหน้าที่เพื่อเป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง เพื่อความยุติธรรม ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน ที่ผ่านมาก็เคยใช้วิธีนี้ และร้อยละ 8.37 ระบุ นายกรัฐมนตรี ควรมาจากรายชื่อที่พรรคการเมืองเสนอ เพราะก่อนที่จะเสนอชื่อได้ต้องมีการพิจารณากลั่นกรองคุณสมบัติอย่างละเอียด นักการเมืองน่าจะรู้ดีที่สุดว่าใครคือผู้ที่เหมาะสม ประชาชนได้รู้รายชื่อของผู้ที่จะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีก่อนล่วงหน้า.
ที่มา: http://www.dailynews.co.th