จากความในใจของลูกคนหนึ่งสู่พ่อแม่ทุกครอบครัว
ก่อนอื่นไม่รู้กระทู้นี้จะกลายเป็นกระทู้ฆ่าตัวตายหรือไม่ ผมขอยอมรับคำแนะนำจากคุณพ่อ/แม่ครับ
คุณหรือผู้ปกครองที่กำลังอ่านอยู่เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งเหล่านี้ที่ผมกำลังจะพูดถึงอยู่หรือไม่? ผมขอพูดสั้นๆเลยละกันครับอาจจะไม่ได้ยกตัวอย่างอะไรมากมายนะครับ
1.พ่อ/แม่ไม่เข้าใจกัน ทะเลาะกันไม่ว่าด้วยเรื่อง การปฏิบัติตัวของพ่อแม่เองหรือลูก / ค่าใช้จ่าย
2.พ่อ/แม่แอบมีคนอื่น
3.พ่อ/แม่ชอบว่า พูดจาไม่ดีใส่กันต่อหน้าลูก
4.พ่อ/แม่พูดจาไม่ดีต่อหน้าลูกในสถาณการณ์ต่างๆเช่น ตอนขับรถ
5.พ่อแม่บังคับลูก
ถ้าคุณหรือพ่อแม่ผู้ปกครองที่กำลังอ่านอยู่เข้าข่ายในห้าข้อที่ผมพูดถึงนี้ ผมมีความในใจหรืออาจจะมาจากความในใจของเด็กหลายๆคนที่อาจรู้สึกเหมือนกันมาบอกกล่าวครับ ถ้าไม่ได้อยู่ก็ข้ามไปเลยครับ ไม่ต้องอ่านก็ได้ โลกสวยก็อย่าอ่านนะครับ เดี๋ยวผมจะโดนด่าเอาได้ง่ายๆ เริ่มเลยแล้วกันครับ
เด็กๆหรือลูกๆของคุณพ่อแม่ไม่เคยที่จะไม่เคารพสิ่งที่คุณพ่อแม่พูดเลยครับ เพียงแค่การที่เด็กไม่เคารพอาจจะเกิดจากการกระทำบางอย่างของคุณพ่อ/แม่ที่แสดงออกมาให้ลูกได้เห็น พอลูกเห็นจึงเกิดความไม่เคารพออกมา อยากให้คุณพ่อแม่ช่วยพิจารณาตัวเองว่าทำสิ่งที่ไม่ดี แสดงภาพลักษณ์ที่ไม่ดีให้ลูกของคุณได้เห็นหรือเปล่า (ไม่ได้มีเจตนาที่จะว่าหรือสั่งสอนนะครับ)เพราะสิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเด็กมากครับ ผมเป็นหนึ่งในนี้ที่รู้สึกแบบนั้น
พูดถึงข้อแรกกันก่อนแล้วกันครับข้อเดียวอาจจะยาวหน่อย เป็นเรื่องปกติที่หลายๆครอบครัวประสพพบเจอกับปัญหาระดับชาติแบบนี้ ผมอยากจะบอกความในใจว่า คุณพ่อแม่อาจจะคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เด็กไม่เกี่ยว ไม่ใช่เรื่องของเด็ก เด็กไม่ควรที่จะเข้ามายุ่ง มันก็อาจจะถูกอยู่บางส่วนนะครับ เพราะมันเป็นชีวิตของคุณ แต่อย่าลืมลูกก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคุณด้วย สิ่งที่คุณทำ ทะเลาะกัน ด่าทอกัน อาจมีถึงขั้นทำร้ายร่างกาย ส่งผลต่อสภาพจิตใจของเด็กเป็นอย่างมาก อาจถึงขั้นบอบช้ำและเก็บกดได้ ถึงภายนอกเด็กอาจจะดูไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ผมเป็นคนนึงที่เวลาพ่อแม่ทะเลาะกันผมอยากจะหนีออกมาจากบ้าน เพราะทั้งสองคนพูดคุยกันไม่รู้เรื่อง และไม่อยากจะกลับเข้าบ้านหลังนี้อีกแล้ว เพราะบ้านหลังนี้พ่อแม่ทะเลาะกัน ไม่รักกัน ไม่รักลูก ทั้งสองคนไม่เคยฟังซึ่งกันและกัน ใช้อารมณ์เข้าหากันตลอด แล้วลูกควรจะอยู่ทำไมกันครับ บางคนอาจจะเก็บเอาไว้ ถ้าคุณพ่อแม่ยิ่งทะเลาะเอามากๆระวังเด็กๆจะรับไม่ไหว รอครั้งใดครั้งหนึ่งที่จะระเบิดออกมากนะครับ (ไม่ได้สนับสนุนให้เด็กหนีออกจากบ้าน แต่บอกให้รู้ว่ามันทำให้เด็กรู้สึกไม่อยากอยู่บ้าน) มันทำให้การกลับมาบ้าน ภาพลักษณ์บ้านไม่มีความสุขครับ เช่น คุณพ่ออาจจะไปทำงานและกินเหล้าทุกวันอังคารเป็นต้น แล้วก็จะเมาหาเรื่องทะเลาะกับคุณแม่ ซึ่งเด็กก็อาจจะเบื่อวันอังคารไปเลยครับ ออกจะดูตลกๆไปหน่อย แต่มันกระทบจิตใจมากครับ ผมอยากจะหนีไปให้ไกลๆ ตะโกนระบายแหกปากให้คอแตกตายไปเลยครับ
พูดถึงเรื่องค่าใช้จ่าย อันนี้ผมไม่ทราบว่าครอบครัวอื่นเป็นกันหรือไม่ที่ค่าใช้จ่ายของพ่อแม่แยกกัน ขอไม่เอ่ยถึงละกันครับแต่จะพูดถึงเรื่องการโยนความรับผิดชอบของค่าใช้จ่าย เวลาเด็กจำเป็นที่ต้องใช้ หรือ ขอให้คุณพ่อแม่ซื้อของให้จะเป็นของที่จำเป็นหรือไม่จำเป็นก็ตาม ผมรู้สึกไม่ดีอย่างนึงคือคุณพ่อแม่ชอบโยนบอกว่า “ไม่มีตังไปขอพ่อ” พอขอพ่อ “ไม่มีตังไปขอแม่” หรืออาจจะบอกว่า “ซื้อให้บ่อยแล้วให้ไปขอ พ่อ/แม่ แทน” คืออะไรครับ ผมไม่เข้าใจการที่คุณพ่อแม่กระทำแบบนี้สักเท่าไหร่ ส่วนตัวถ้าผมทำงาน สามารถหาเงินได้เอง ก็จะไม่รบกวนคุณพ่อแม่เลยครับ ซึ่งข้อนี้แอบเสียความรู้สึกครับว่า ทำไมต้องโยนกันไปโยนกันมาเหมือนไม่ใช่หน้าที่ที่เราต้องทำ ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆครับ โดนโยนไปให้คนอื่น (อย่าพึ่งว่าผมเลยครับแค่แสดงความรู้สึกในสิ่งที่พ่อแม่ทำ)
ข้อสองเลยครับคุณพ่อแม่แอบมีคนอื่น อันนี้ผมอาจไม่ได้มีประสบการณ์ตรงอะไรมากมายนะครับ แต่ขอบอกไว้เลยว่าคุณพ่อแม่อย่าคิดว่าคนในครอบครัวของตัวเองนั้น โง่ เลยครับ อย่าคิดว่ายังไงเขาก็ไม่รู้ ยังไงเขาก็จับไม่ได้ บางทีเด็กก็อาจรู้ครับ เพียงแต่ไม่พูด จริงอยู่ว่ามันเป็นเรื่องส่วนบุคคล มันเป็นสิทธิ์ของคุณ ชีวิตของคุณ แต่ทำให้ลูกของคุณหมดความศัทธราหรือความเคารพในตัวคุณทันทีครับ (ขอไม่พูดถึงต่างประเทศนะครับ) การที่คุณพ่อแม่มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ระแวงจนผิดสังเกตุ ถึงจะอ้างเหตุผลง่ายๆ แต่เด็กๆหรือคนรอบข้างดูออกครับ แต่ไม่พูด (พูดหรือไม่พูดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละบุคคลนะครับ) เพราะฉะนั้นยังไม่สายเกินไปที่จะเลิก ก็เลิกเถอะครับ กลับาหาครอบครัวที่ถูกต้องตามกฎหมายดีกว่าครับ
ข้อสามครับ ขอรวมกับข้อสี่เลยแล้วกันรู้สึกมันจะเหมือนกัน คุณพ่อแม่พูดจาไม่ดีต่อหน้าลูก เช่น เวลาขับรถ “ไอห่..เอ้ย” “ทำไมขับแบบนี้วะ” “

...” อะไรต่างๆนาๆ ส่งผลอะไร? ลูกก็พูดบ้างสิครับ คุณพ่อแม่พูดเป็นปกติ คุณลูกก็พูดได้บ้างอยู่แล้วครับ ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าเด็กคนอื่นๆจะรู้สึกไม่ชอบหรือรู้สึกเฉยๆกับข้อนี้หรือเปล่า แต่ผมเป็นคนนึงที่ไม่ชอบเลยครับพูดตรงๆ ครอบครัวคุณจะมีความสุขขึ้นเยอะครับ ถ้าพูดจาดีกันอยู่ตลอด เด็กก็ไม่เกิดความเครียด ไม่เกิดการลอกเลียนแบบ พูดก็พูดครับเวลาผมเห็นคุณพ่อแม่พูดจาหยาบคายทีไร เจ็บจี๊ดทุกทีครับ ไม่สมควรพูดเป็นอย่างยิ่ง หรือเวลาคุณพ่อแม่คุยกันแล้วอาจจะแบบคุยกันแล้วงง เกิดอารมณ์ขึ้นเล็กน้อยของการไม่เข้าใจกัน เช่น “พูดแค่นี้ไม่เข้าใจหรอเหรอ(วะ)” “แล้วทำไมถึงต้องพูดแบบนี้” “พูดงี้หมายความว่าไง” อีหรอบเดิมมาอีกแล้วครับ มันเบื่อครับที่ต้องเจออะไรแบบนี้ซ้ำๆทุกวันๆ ผมอยากจะแทรกแผ่นดินหนีจากตรงนี้ไปทันทีเลยครับ เพื่ออะไรกัน จะทะเลาะกันเพื่อให้ได้อะไรขึ้นมา ต้องการหาคำตอบ ต้องการหาผู้ชนะเดอะเฟสไทยแลนด์หรือเปล่าครับไม่แน่ใจ ซึ่งการพูดเล็กๆน้อยๆแบบนี้เป็นการนำไปสู่ข้อแรกคือทะเลาะกันครับ แล้วก็วนกันไปวนกันมา ทำให้เด็กมีปัญหาแน่นอนครับ ถ้าคุณพ่อแม่ทะเลาะกัน แต่ลูกของคุณก็ดูปกติดี ไปโรงเรียน มหาลัย ตามปกติ ลึกๆแล้วเด็กอาจมีปมอยู่ในใจครับ ผมเป็นคนนึงที่เวลาอยู่บ้านแล้ว ต้องคอยภาวนาว่า ขอให้ไม่เกิดเรื่องในบ้าน ขอให้พ่อแม่คุยกันดีดี ขอให้พ่อแม่ไม่ทะเลาะกัน ขอให้พ่อแม่หยุดทำแบบนี้ อึดอัด เหนื่อยใจครับ ไม่อยากต้องทำแบบนี้ไปตลอดชีวิต ปมในใจครับ แล้วแน่นอนว่าถ้าเด็กคุยเรื่องนี้กับพ่อแม่ อาจโดนตอกกลับมาว่า เรื่องของผู้ใหญ่ เด็กไม่เกี่ยว ไม่ต้องมายุ่งได้ครับ
ข้อสุดท้ายก็เรื่องการบังคับ เชื่อว่าพ่อแม่ทุกท่านอยากให้เด็กๆได้ดี หรืออยากให้เด็กได้ทีแบบที่พ่อแม่อยากได้ อยากให้ลูกมีอนาคต หรือ(ตัวพ่อแม่เองไม่ได้ ไม่มีเลยอยากให้ลูกได้แทน) ผมเข้าใจครับ แต่คุณก็ต้องเข้าใจเด็กด้วยครับ เข้าใจครับว่าพ่อแม่มีหน้าที่สั่งสอน แนะนำแนวทางการเดินชีวิต และสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก แต่อย่าเบสออนประสบการณ์ ความต้องการของตนเองมากจนเกินไปเลยครับ บางครั้งการบังคับของคุณอาจเพื่อให้ลูกๆได้ทันตามโลก แฟชั่น กระแสต่างๆ แต่ลองถามลูกสักนิดนึงครับว่าลูกคุณ ต้องการ อยาก ที่จะทำมันหรือเปล่า ไม่งั้นเสียเวลาเปล่าๆครับให้เด็กทำในสิ่งที่ไม่ชอบ แน่นอนว่าทำได้ไม่ดี และเบื่อ และอาจจะมีความรู้สึกไม่ดีที่ถูกบังคับขึ้นมาในจิตใจด้วยครับ อาจทำให้เด็กเกิดการต่อต้าน ไม่เชื่อฟัง และพ่อแม่/ลูกทะเลาะกันได้นะครับ ผมไม่ได้อิงจากข้อมูลเชิงจักรยานอะไรเลยครับ อิงจากความรู้สึกตนเอง (ซึ่งอาจมีหลายคนรู้สึกเหมือนกัน หลายคนไม่ได้รู้สึกเหมือนผมก็ตามนั้นครับแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่อยากให้ทราบถึงคนที่รู้สึกเหมือนผมครับ)
ก็ขอให้คุณพ่อแม่รับพิจารณาความรู้สึกเด็กหน่อยครับ ว่าเด็กจะรู้สึกอย่างไรกับการกระทำของคุณ ถ้าคุณรักลูก รักครอบครัว ไม่อยากให้แตกแยก ก็ขอให้เลิกพฤติกรรมเหล่านี้เถอะครับ ผมรู้ว่าอาจจะขอมากเกินไป แต่ก็พยายามกันสักหน่อยเพื่อความสุขของเด็กและครอบครัวนะครับ พอทีกับการที่เด็กหรือคนในครอบครัวต้องมานั่งเสียน้ำตาทุกวัน ทุกเดือน ทุกปีกับการกระทำซ้ำๆเดิมๆครับ ขอบคุณที่รับฟังครับ
จากความในใจของลูกคนหนึ่งสู่พ่อแม่ทุกครอบครัว
ก่อนอื่นไม่รู้กระทู้นี้จะกลายเป็นกระทู้ฆ่าตัวตายหรือไม่ ผมขอยอมรับคำแนะนำจากคุณพ่อ/แม่ครับ
คุณหรือผู้ปกครองที่กำลังอ่านอยู่เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งเหล่านี้ที่ผมกำลังจะพูดถึงอยู่หรือไม่? ผมขอพูดสั้นๆเลยละกันครับอาจจะไม่ได้ยกตัวอย่างอะไรมากมายนะครับ
1.พ่อ/แม่ไม่เข้าใจกัน ทะเลาะกันไม่ว่าด้วยเรื่อง การปฏิบัติตัวของพ่อแม่เองหรือลูก / ค่าใช้จ่าย
2.พ่อ/แม่แอบมีคนอื่น
3.พ่อ/แม่ชอบว่า พูดจาไม่ดีใส่กันต่อหน้าลูก
4.พ่อ/แม่พูดจาไม่ดีต่อหน้าลูกในสถาณการณ์ต่างๆเช่น ตอนขับรถ
5.พ่อแม่บังคับลูก
ถ้าคุณหรือพ่อแม่ผู้ปกครองที่กำลังอ่านอยู่เข้าข่ายในห้าข้อที่ผมพูดถึงนี้ ผมมีความในใจหรืออาจจะมาจากความในใจของเด็กหลายๆคนที่อาจรู้สึกเหมือนกันมาบอกกล่าวครับ ถ้าไม่ได้อยู่ก็ข้ามไปเลยครับ ไม่ต้องอ่านก็ได้ โลกสวยก็อย่าอ่านนะครับ เดี๋ยวผมจะโดนด่าเอาได้ง่ายๆ เริ่มเลยแล้วกันครับ
เด็กๆหรือลูกๆของคุณพ่อแม่ไม่เคยที่จะไม่เคารพสิ่งที่คุณพ่อแม่พูดเลยครับ เพียงแค่การที่เด็กไม่เคารพอาจจะเกิดจากการกระทำบางอย่างของคุณพ่อ/แม่ที่แสดงออกมาให้ลูกได้เห็น พอลูกเห็นจึงเกิดความไม่เคารพออกมา อยากให้คุณพ่อแม่ช่วยพิจารณาตัวเองว่าทำสิ่งที่ไม่ดี แสดงภาพลักษณ์ที่ไม่ดีให้ลูกของคุณได้เห็นหรือเปล่า (ไม่ได้มีเจตนาที่จะว่าหรือสั่งสอนนะครับ)เพราะสิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเด็กมากครับ ผมเป็นหนึ่งในนี้ที่รู้สึกแบบนั้น
พูดถึงข้อแรกกันก่อนแล้วกันครับข้อเดียวอาจจะยาวหน่อย เป็นเรื่องปกติที่หลายๆครอบครัวประสพพบเจอกับปัญหาระดับชาติแบบนี้ ผมอยากจะบอกความในใจว่า คุณพ่อแม่อาจจะคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เด็กไม่เกี่ยว ไม่ใช่เรื่องของเด็ก เด็กไม่ควรที่จะเข้ามายุ่ง มันก็อาจจะถูกอยู่บางส่วนนะครับ เพราะมันเป็นชีวิตของคุณ แต่อย่าลืมลูกก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคุณด้วย สิ่งที่คุณทำ ทะเลาะกัน ด่าทอกัน อาจมีถึงขั้นทำร้ายร่างกาย ส่งผลต่อสภาพจิตใจของเด็กเป็นอย่างมาก อาจถึงขั้นบอบช้ำและเก็บกดได้ ถึงภายนอกเด็กอาจจะดูไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ผมเป็นคนนึงที่เวลาพ่อแม่ทะเลาะกันผมอยากจะหนีออกมาจากบ้าน เพราะทั้งสองคนพูดคุยกันไม่รู้เรื่อง และไม่อยากจะกลับเข้าบ้านหลังนี้อีกแล้ว เพราะบ้านหลังนี้พ่อแม่ทะเลาะกัน ไม่รักกัน ไม่รักลูก ทั้งสองคนไม่เคยฟังซึ่งกันและกัน ใช้อารมณ์เข้าหากันตลอด แล้วลูกควรจะอยู่ทำไมกันครับ บางคนอาจจะเก็บเอาไว้ ถ้าคุณพ่อแม่ยิ่งทะเลาะเอามากๆระวังเด็กๆจะรับไม่ไหว รอครั้งใดครั้งหนึ่งที่จะระเบิดออกมากนะครับ (ไม่ได้สนับสนุนให้เด็กหนีออกจากบ้าน แต่บอกให้รู้ว่ามันทำให้เด็กรู้สึกไม่อยากอยู่บ้าน) มันทำให้การกลับมาบ้าน ภาพลักษณ์บ้านไม่มีความสุขครับ เช่น คุณพ่ออาจจะไปทำงานและกินเหล้าทุกวันอังคารเป็นต้น แล้วก็จะเมาหาเรื่องทะเลาะกับคุณแม่ ซึ่งเด็กก็อาจจะเบื่อวันอังคารไปเลยครับ ออกจะดูตลกๆไปหน่อย แต่มันกระทบจิตใจมากครับ ผมอยากจะหนีไปให้ไกลๆ ตะโกนระบายแหกปากให้คอแตกตายไปเลยครับ
พูดถึงเรื่องค่าใช้จ่าย อันนี้ผมไม่ทราบว่าครอบครัวอื่นเป็นกันหรือไม่ที่ค่าใช้จ่ายของพ่อแม่แยกกัน ขอไม่เอ่ยถึงละกันครับแต่จะพูดถึงเรื่องการโยนความรับผิดชอบของค่าใช้จ่าย เวลาเด็กจำเป็นที่ต้องใช้ หรือ ขอให้คุณพ่อแม่ซื้อของให้จะเป็นของที่จำเป็นหรือไม่จำเป็นก็ตาม ผมรู้สึกไม่ดีอย่างนึงคือคุณพ่อแม่ชอบโยนบอกว่า “ไม่มีตังไปขอพ่อ” พอขอพ่อ “ไม่มีตังไปขอแม่” หรืออาจจะบอกว่า “ซื้อให้บ่อยแล้วให้ไปขอ พ่อ/แม่ แทน” คืออะไรครับ ผมไม่เข้าใจการที่คุณพ่อแม่กระทำแบบนี้สักเท่าไหร่ ส่วนตัวถ้าผมทำงาน สามารถหาเงินได้เอง ก็จะไม่รบกวนคุณพ่อแม่เลยครับ ซึ่งข้อนี้แอบเสียความรู้สึกครับว่า ทำไมต้องโยนกันไปโยนกันมาเหมือนไม่ใช่หน้าที่ที่เราต้องทำ ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆครับ โดนโยนไปให้คนอื่น (อย่าพึ่งว่าผมเลยครับแค่แสดงความรู้สึกในสิ่งที่พ่อแม่ทำ)
ข้อสองเลยครับคุณพ่อแม่แอบมีคนอื่น อันนี้ผมอาจไม่ได้มีประสบการณ์ตรงอะไรมากมายนะครับ แต่ขอบอกไว้เลยว่าคุณพ่อแม่อย่าคิดว่าคนในครอบครัวของตัวเองนั้น โง่ เลยครับ อย่าคิดว่ายังไงเขาก็ไม่รู้ ยังไงเขาก็จับไม่ได้ บางทีเด็กก็อาจรู้ครับ เพียงแต่ไม่พูด จริงอยู่ว่ามันเป็นเรื่องส่วนบุคคล มันเป็นสิทธิ์ของคุณ ชีวิตของคุณ แต่ทำให้ลูกของคุณหมดความศัทธราหรือความเคารพในตัวคุณทันทีครับ (ขอไม่พูดถึงต่างประเทศนะครับ) การที่คุณพ่อแม่มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ระแวงจนผิดสังเกตุ ถึงจะอ้างเหตุผลง่ายๆ แต่เด็กๆหรือคนรอบข้างดูออกครับ แต่ไม่พูด (พูดหรือไม่พูดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละบุคคลนะครับ) เพราะฉะนั้นยังไม่สายเกินไปที่จะเลิก ก็เลิกเถอะครับ กลับาหาครอบครัวที่ถูกต้องตามกฎหมายดีกว่าครับ
ข้อสามครับ ขอรวมกับข้อสี่เลยแล้วกันรู้สึกมันจะเหมือนกัน คุณพ่อแม่พูดจาไม่ดีต่อหน้าลูก เช่น เวลาขับรถ “ไอห่..เอ้ย” “ทำไมขับแบบนี้วะ” “
ข้อสุดท้ายก็เรื่องการบังคับ เชื่อว่าพ่อแม่ทุกท่านอยากให้เด็กๆได้ดี หรืออยากให้เด็กได้ทีแบบที่พ่อแม่อยากได้ อยากให้ลูกมีอนาคต หรือ(ตัวพ่อแม่เองไม่ได้ ไม่มีเลยอยากให้ลูกได้แทน) ผมเข้าใจครับ แต่คุณก็ต้องเข้าใจเด็กด้วยครับ เข้าใจครับว่าพ่อแม่มีหน้าที่สั่งสอน แนะนำแนวทางการเดินชีวิต และสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก แต่อย่าเบสออนประสบการณ์ ความต้องการของตนเองมากจนเกินไปเลยครับ บางครั้งการบังคับของคุณอาจเพื่อให้ลูกๆได้ทันตามโลก แฟชั่น กระแสต่างๆ แต่ลองถามลูกสักนิดนึงครับว่าลูกคุณ ต้องการ อยาก ที่จะทำมันหรือเปล่า ไม่งั้นเสียเวลาเปล่าๆครับให้เด็กทำในสิ่งที่ไม่ชอบ แน่นอนว่าทำได้ไม่ดี และเบื่อ และอาจจะมีความรู้สึกไม่ดีที่ถูกบังคับขึ้นมาในจิตใจด้วยครับ อาจทำให้เด็กเกิดการต่อต้าน ไม่เชื่อฟัง และพ่อแม่/ลูกทะเลาะกันได้นะครับ ผมไม่ได้อิงจากข้อมูลเชิงจักรยานอะไรเลยครับ อิงจากความรู้สึกตนเอง (ซึ่งอาจมีหลายคนรู้สึกเหมือนกัน หลายคนไม่ได้รู้สึกเหมือนผมก็ตามนั้นครับแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่อยากให้ทราบถึงคนที่รู้สึกเหมือนผมครับ)
ก็ขอให้คุณพ่อแม่รับพิจารณาความรู้สึกเด็กหน่อยครับ ว่าเด็กจะรู้สึกอย่างไรกับการกระทำของคุณ ถ้าคุณรักลูก รักครอบครัว ไม่อยากให้แตกแยก ก็ขอให้เลิกพฤติกรรมเหล่านี้เถอะครับ ผมรู้ว่าอาจจะขอมากเกินไป แต่ก็พยายามกันสักหน่อยเพื่อความสุขของเด็กและครอบครัวนะครับ พอทีกับการที่เด็กหรือคนในครอบครัวต้องมานั่งเสียน้ำตาทุกวัน ทุกเดือน ทุกปีกับการกระทำซ้ำๆเดิมๆครับ ขอบคุณที่รับฟังครับ