[CR] 2 สาว ตะลุยโอซาก้า-เกียวโต : กินอิ่ม เที่ยวครบ หลับสบาย คนละ 12,031 บาท

สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวทริปคันไซ (โอซาก้า-เกียวโต) ระยะเวลา 6 วัน 5 คืนค่ะ

นี่เป็นการเที่ยวแบบ Bagpacker ครั้งแรกของเราทั้ง 2 คนค่ะ
เริ่มจากสายการบินสีแดง ออกโปรโมชั่นเมื่อช่วงต้นเดือนตุลา โดยการแลก Big points

Ar-pae เอาข่าวมาแจ้งในเพจเฟสบุ๊ค ราคายั่วยวนมาก
ใจนึงก็อยากไป ตั๋วถูกมาก ได้ไปดูใบไม้แดง  อีกใจนึงก็คิดหนัก...จะมีเงินไหมเนี่ย มีเวลาเก็บเงินแค่เดือนเดียว
แต่ก็รีบตัดสินใจจองมันคืนนั้นเลย กลัวตั๋วหมดค่ะ ^^

(ถึง Ar-Pae : ตอนแรกก็ รักแปะนะคะ แต่ตอนนี้ขอสารภาพตรงๆเลยว่า ชักจะเกลียดแปะแล้ว  มีแต่โปรฯ ตั๋วเครื่องบินราคาถูกมากกก
มายั่วตลอด เรียกว่า เก็บเงินกันไม่ทันเลยทีเดียว ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะแปะ) อมยิ้ม01



หัวใจ ทริปนี้ไปกัน 2 สาวนะคะ เราเตรียมตัวล่วงหน้าดังนี้ค่ะ หัวใจ :
1. List สถานที่ ที่อยากจะไป , สถานที่ ที่มีคน recommend แล้วก็จัดทริปในแต่ละวัน  โดยจัดสถานที่ ที่เดินทางใกล้ๆกัน ไว้ด้วยกัน
(ใช้แผนที่ช่วย)

2. เช็คสภาพอากาศล่วงหน้า จะได้รู้ว่า วันไหน ฝนตก แดดออก เพื่อจะได้เตรียมแผนการเดินทางและเสื้อผ้าให้เหมาะสม

3. รีบจองที่พักแต่เนิ่นๆนะคะ จะได้ห้องยาว ไม่ต้องเปลี่ยนห้องทุกคืน
(หาได้ตาม Agoda, Booking, Airbnb หรือ จองกับทางเว็บไซต์โรงแรมโดยตรง)

- ถ้าไม่ได้ห้องยาว ก็จองเป็นโรงแรมเดียวกันทุกคืน ตอนเช้าก่อนออกเที่ยว ลากกระเป๋าลงมา check-out ฝากกระเป๋าไว้
แล้วกลางคืนกลับมา check-in จะสะดวกและประหยัดเวลากว่า เปลี่ยนโรงแรมทุกคืนค่ะ

4. แลกเงินที่ Value Plus สาขา Central Ladprao

5. ซื้อ Kansai Thru Pass (KTP) ล่วงหน้าไว้แล้ว จาก HIS  เพื่อที่เช้าวันแรก จะได้เดินทางออกจากสนามบินคันไซ
ได้ตั้งแต่รถไฟเที่ยวแรก โดยไม่ต้องรอซื้อบัตร KTP

6. เช่า Pocket Wifi ไปด้วย อุ่นใจกว่าเยอะค่ะ  ถึงแม้ว่า จะมี Osaka Free wifi – Kyoto Free Wifi เกือบตลอดเวลา
แต่บางทีมันก็ต่อไม่ค่อยติด หลุดบ้างอะไรบ้าง เสียเวลาคอย Connect  

- เราใช้ของ 4G Pocket Wifi สามารถนัดรับได้วันเดินทาง ที่สนามบินดอนเมืองค่ะ สะดวกดี
ค่าบริการวันละ 200฿ ช่วงนี้มีโปรฯ ใช้ฟรี 1 วัน  

(นับตั้งแต่วันที่ 7-11 Nov เป็นเวลา 5 วัน แต่บริษัทคิดเงินแค่ 4 วัน 800 บาท เฉลี่ยคนละ 400฿  
ถ้าไปหลายคนยิ่งถูกลง เพราะสามารถแชร์ได้ 10 เครื่อง)

7. จอง Kimono ผ่านเว็บไซต์ร้าน Yumeyakata จองล่วงหน้ามีส่วนลดค่ะ
http://www.yumeyakata.com/english/plan.html

หัวใจ สิ่งของจำเป็น :
1. Plug Adapter ปลั๊กแปลงไฟ
2. ปลั๊ก 3 ตา
3. Power Bank แบตเตอรี่สำรอง (ไม่โหลดใต้เครื่องนะคะ พกติดตัวขึ้นเครื่องไปด้วยเลยจ้ะ)
4. ยาต่างๆ ปวดหัว-ตัวร้อน ลดน้ำมูก ยาแก้ท้องเสีย ยาแก้ปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอก ฯ
5. คุณผู้หญิง เตรียมผ้าอนามัยไปด้วยก็ได้นะคะ (ของเมืองนอกมันแพง ^^)

การแต่งกาย : ช่วง Fallนี้ (กันยา-พฤศจิ)  เค้าแต่งกายสีทึมๆ ถ้าอยากสดใสเล่นสีสันที่ผ้าพันคอได้ค่ะ งานหมวกไหมพรม ที่คาดหู พวกเฟอร์ขนสัตว์ต่างๆ ยังไม่มานะคะ ยังไม่ winter

ส่วนใครที่คิดไม่ออกจะแต่งตัวแบบไหน ก็ไปดูแฟชั่นที่ญี่ปุ่น มีร้านเสื้อผ้าเยอะมาก เช่นร้าน Uniqlo, H&M, Gu, Forever21, Zara
ไปหาซื้อที่ญี่ปุ่น ใส่แบบไม่ต้องซักได้เลยค่ะ (ไม่ต้องซื้อที่ไทยแล้วขนไปใส่)

นี่คือแพลนตอนแรกที่ตั้งไว้ แน่นเอี้ยดกันเลยทีเดียว กลัวไม่คุ้ม ^^

เอาเข้าจริง กว่าจะอาบน้ำ แต่งหน้า แต่งตัว เสด็จออกจากโรงแรมในแต่ละเช้า สายมากค่ะ เลยเก็บไม่ได้ครบ
แต่ไม่เป็นไร ยืดหยุ่น ปรับได้ตามสภาพสังขารเจ้าของทริปค่ะ ^^

Day 1 : ศุกร์ที่ 6 พ.ย.58
ไปถึงสนามบินดอนเมืองประมาณ 12.00 น.  Scan กระเป๋า แล้วไปเข้าแถว Check-in เสร็จประมาณ 13.00 น.
เดินไปทานอาหารกลางวันที่ Food Court ของพนักงาน ชั้นล่าง ของอีกอาคารนึงค่ะ มื้อแรกอิ่มท้องกันโดยไม่ถึง 100 บาท
แลกคูปองคืนเงินเสร็จก็เดินเลาะจากหน้าอาคาร food court ไปเรื่อยๆ
จะเจอธนาคาร สำหรับใครที่ไม่ได้แลกเงินมา แลกที่นี่ได้เลยค่ะ เรทดีกว่าบน terminal นิ๊ดดดนึง

เดินทางออกจากสนามบินดอนเมือง วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2558 เวลา 15.20 น.
ถึงสนามบินคันไซ วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2558 เวลา 22.40 น.


เรา ตัดสินใจนอนที่สนามบินกันค่ะ เพราะ ไม่รู้ว่ากว่าจะได้กระเป๋า กว่าจะผ่าน ตม. จะเสร็จตอนไหน
เลยตัดสินใจไม่จองโรงแรม เพราะกลัวจะไม่ทันรถไฟรอบสุดท้าย (ทุกคืนเราพักที่ Hotel Chuo สถานี Dobutsuen Mae)

ปล.มีรถบัส Airport Limousine Bus จากสนามบินคันไซไปสถานี Namba, Umeda, JR Osaka
แต่ถ้าใครพักแถวสถานีอื่น สามารถต่อ Taxi ไปได้ค่ะ  (ค่ารถ Taxi แพงน่าดูเลย)

หลังจากเดินผ่าน ตม. ของญี่ปุ่นเข้ามาจากชั้น 1 ให้เดินไปยังชั้น 2-3 เพื่อจับจองเก้าอี้ที่พัก
หรือจะเดินไปหาที่นอนแถวอาคาร Aero Plaza อยู่เลยอาคารรถไฟ Nankai-JR ไปก็ได้ค่ะ  
สามารถไปลงชื่อยืมผ้าห่มได้ที่ อาคาร Aero Plaza บริเวณนี้มีที่อาบน้ำหยอดเหรียญ,ตู้กด เช่าผ้าเช็ดตัว, บริการเช่าไดร์เป่าผม ไว้บริการด้วยค่ะ (ใกล้ๆ Burger King)




เรานอนกันที่ ชั้น 2 อาคารผู้โดยสาร ใกล้ๆกับทางออกไปอาคารขาย Pass รถไฟ Nankai-JR
แสงไฟสว่างเจิดจ้า ไม่อันตรายแน่นอนค่ะ  
หาอะไรทานที่ Lawson พอกรุบกริบ (โอเด้งอร่อยดีจัง)  
ไปห้องน้ำ ล้างหน้า-แปรงฟันให้เรียบร้อย

(แนะนำหาเก้าอี้นอนที่ใกล้เสาที่มีรูเสียบปลั๊ก หาผ้าปิดตา-ที่อุดหูไปให้พร้อม ไม่งั้นนอนไม่หลับแน่นอน  
เอาปลั๊ก 3 ตาออกมา ชาร์จแบตอุปกรณ์ต่างๆให้เรียบร้อย แล้วนอนได้เลยจ้า)

Convenience Strore : Mc Donald , Lawson  และ Family Mart เปิดบริการตลอด 24 ชม.

Day 2 : เสาร์ที่ 7 พ.ย.58

นอนหลับๆตื่นๆ เลยลุกไปเดินสำรวจรอบๆอาคารตั้งแต่ 4.00 น. หาที่อาบน้ำ,ล้างหน้า,แปรงฟัน
เรากะว่าจะออกจากสนามบิน KIX โดยรถไฟ Nankai รอบแรก 5.47 น.  ต้องเตรียมตัวไปรอขึ้นรถไฟประมาณ 5.40 น.
เพราะเวลาใน Hyperdia ที่โชว์ คือ เวลาที่รถไฟออก ดังนั้นต้องเผื่อเวลาล่วงหน้าด้วยนะคะ

1. เปิด Hyperdia เช็คการเดินทางไปสถานีปลายทาง Dobutsuen mae เพราะเราจะไปฝากกระเป๋าไว้ที่ โรงแรม
แล้วสามารถออกไปเที่ยวได้เลย กลางคืนค่อยกลับมาเช็คอินเข้าที่พัก

เราใช้เว็บนี้ ตลอดการเดินทางในญี่ปุ่น เลย Add to Home Screen ไว้ที่หน้าจอโทรศัพท์เลยค่ะ
From - ช่องนี้พิมพ์ชื่อสถานีต้นทาง ที่เราอยู่ลงไปนะคะ
To - ช่องนี้ พิมพ์สถานีปลายทาง ที่เราจะไป
- ปรับ วันและเวลาให้เหมาะสม

เราเอา ติ๊ก ช่อง Shinkansen กับ Japan Railway (JR) ออกนะคะ
เพราะทริปนี้เราใช้บัตร Kansai Thru Pass


การเดินทางไป Hotel Chuo Osaka :

– สถานีปลายทาง Dobutsuen Mae ทางออกที่ 1 หรือ 3 ก็ได้ค่ะ
(หลังจากสอดบัตรออกจากสถานีแล้ว จะไม่มีลิฟต์หรือบันไดเลื่อนนะคะ ขั้นตอนนี้ทุลักทุเลมาก สำหรับสาวบอบบาง
น่าทะนุถนอมอย่างเรา 2 คน ขามาว่าแทบตายแล้ว ขากลับคือจะตายให้ได้) ร้องไห้

ถึงโรงแรม ก็ติดต่อขอฝากกระเป๋าไว้กับพนักงานที่ Front (เช็คอินได้ตั้งแต่ 10โมงเช้า – เที่ยงคืนค่ะ)
- ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม พูดว่า Can I leave my luggagยิ้ม? (แคน ไอ ลีฟ มาย ลักเกจ เฮียร์)

2. เดินทางไปทานอาหารเช้า ที่ Sushi Endo Jyo Maze (ร้านเปิดตั้งแต่ 5.00น.)
เข้า Hyperdia พิมพ์สถานีต้นทางที่เราอยู่ และสถานีปลายทาง Tamagawa (S12) ออก Exit 6 เดินไปทางตลาดปลาโอซาก้า
เดินตรงไปเรื่อยๆจนถึง แยกใหญ่ๆที่ข้ามแม่น้ำ เลี้ยวขวา  มุ่งหน้าตรงไปทางตลาดปลา จะเห็นหอนาฬิกา ร้านอยู่ทางซ้ายค่ะ

เค้าจะมีเมนูมาให้ มีทั้งหมด 4set ตามภาพ เลือกได้เลยค่ะ จะเอาเซ็ตไหน

ซูชิอร่อยมากกก  เนื้อปลาชิ้นใหญ่ ข้าวปั้นรสชาติดี  ด้วยความตะกละ จัดไป 2 เซ็ตเลยค่ะ

(ราคา Sushi เซ็ทละ 1,050 yen + Miso Soup 300 yen + Vat 8 %) อิ่มท้องมื้อเช้าไป 2,592 yen ค่ะ

3. เดินทางไปปราสาท โอซาก้า Osaka Castle (เปิด 9.00-17.00น.)
เข้า Hyperdia พิมพ์สถานีต้นทางที่เราอยู่ และสถานีปลายทาง Morinomiya (C19) ออก Exit 1

เดินผ่านสวนสาธารณะ ลัดเลาะย้อนขึ้นไปทางปราสาท

ขากลับ เดินวนๆ มั่วๆ ไปโผล่แถว Aoyamon Gate เลยไปขึ้นรถไฟที่สถานี Osaka Business park

4. เดินทางไป Shitennoji Temple  สถานีปลายทาง Shitennoji-maeYuhigaoka (เทนโนจิมาเอะยูฮิกาโอกะ T26) Exit 4

ขากลับต้องไปขึ้น Subway ที่สถานี Tennoji
เลยเดินเลยไปแถวสถานี JR-Tennoji แป๊ปนึง เพื่อไปซื้อ บัตรรถไฟ JR-Sagano Torokko ที่ต้องใช้ในวันที่จะไปเที่ยว Arashiyama  
จองตั๋วไป-กลับ ล่วงหน้าแต่เนิ่นนะคะ จะได้มีที่นั่ง
- แนะนำให้ขาไปนั่งฝั่งซ้ายมือเก้าอี้เลขคู่ – ขากลับนั่งเก้าอี้เลขคี่ ค่าตั๋วขาละ 620 yen  = ตั๋วไป-กลับ 1,240 yen
- ตั๋วล่วงหน้าของรถไฟ Torokko-Saga สามารถซื้อล่วงหน้าที่ JR-West line ทุกสถานีค่ะ

เดินผ่านร้านอาหารในสถานีรถไฟใต้ดิน  ลองทาน ทงคัตสึ เป็นมื้อเที่ยงดู อร่อยดีค่ะ ไม่อมน้ำมัน
สั่งคนละเซ็ท หมูและไก่ ราคาเซ็ทละ 500 yen

>>> อิ่มแล้วเดินทางต่อ  ขึ้นรถไฟที่สถานี Tennoji

แถว South Gate ของกินเยอะมาก อลังการงานสร้างมากค่ะ อื้ออึงไปหมด อยากลองมันทุกอย่าง แต่ท้องก็รับไม่ไหว

เห็นคนเขียนรีวิวไว้เยอะ เลยขอแวะซื้อเค้กกับพุดดิ้ง ร้าน Rikuro’s มาลอง
(Cake 675 yen + Pudding 200 yen = 875 yen) คนละ 437 yenค่ะ
ภาพสุดท้าย - ฝั่งตรงข้ามกับร้าน Rikuro เห็นคนเข้าแถวยาว อ่อ ร้านซาลาเปาหมู เจ้าดัง 551 นี่เอง

5. แวะไป Check-in ที่โรงแรมจูโอะ Chuo Hotel ขอเข้าห้องน้ำและพักขา แป๊ปนึง
มาแค่ครึ่งวันแรกก็เมื่อยขาจะหลุดซะแล้ว คนญี่ปุ่นเดินเก่ง เดินไวมาก สุดยอดดด

- ห้องพักของเราคืนแรก เป็นแบบ Japanese Style Twin Non-Smoking จองจาก Agoda ค่ะ คืนนี้ 1,410 บาท คนละ 705 บาท
(จองแต่เนิ่นๆ เช็คหลายๆเว็บ จะได้ราคาถูกกว่านี้ค่ะ)

-ถ้าจองกับ website ของโรงแรมโดยตรง ห้องนี้จะได้คืนละ 3,400 yen ค่ะ  >> คืนละ 1,020฿ ถูกลงไปอีก ยิ้ม
ในแต่ละชั้นจะมีห้องน้ำรวมอยู่ประมาณ 3 ห้อง ส่วนห้องอาบน้ำอยู่ชั้น 1 มี 3 ห้องค่ะ

- ห้องน้ำสะอาดดี ตามมาตรฐานโรงแรมญี่ปุ่น มีแปรงสีฟัน ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดผม ไดร์เป่าผม ชุดยูกาตะ (ไม่ต้องพกชุดนอนไปก็ได้ค่ะ)
ส่วนสบู่ ยาสระผม ครีมนวด ยืมได้ที่ reception ฟรีค่ะ (มี Dove, Tsubaki , Pantene , Asience )  
มีเตารีดกับโต๊ะรีดผ้าให้ยืมด้วยนะคะ (บริเวณห้องอาบน้ำ มีเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าหยอดเหรียญ)

- คืนนี้หลับสบายมากค่ะ ถึงแม้ว่าแอร์จะไม่เย็น ไม่เป็นไร เราเปิดหน้าต่างนอน จะเอาไรมากมายกับห้องราคาแค่นี้เนอะ
ชื่อสินค้า:   osaka,kyoto
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่