ชี้พิกัด! 12 ที่เที่ยวคันไซ สุดฮิตแห่งปี 2023



ใครคิดถึงญี่ปุ่นกันบ้างคะ!? ได้เวลาไปเที่ยวญี่ปุ่นกันแล้วค่ะ ✈️ 

ก่อนอื่นเลยเราขอแนะนำภูมิภาคคันไซให้ทุกคนรู้จักกันก่อนนะคะ “คันไซ” (Kansai) เป็นภูมิภาคหนึ่งของญี่ปุ่นที่ถ่ายทอดเสน่ห์ของวัฒนธรรมและธรรมชาติออกมาได้อย่างงดงาม เมื่อนานมาแล้วภูมิภาคคันไซเคยเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงเก่าอย่างจังหวัดเกียวโตและจังหวัดนารา ภูมิภาคคันไซจึงมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของญี่ปุ่นอยู่หลายแห่ง 

ปัจจุบันภูมิภาคคันไซได้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับต้นๆของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร สวนสนุก พิพิธภัณฑ์ และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ซึ่งเราสามารถเดินทางมาเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี รวมถึงสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกอีกมากมาย ยิ่งไปกว่านั้น ทั่วทั้งภูมิภาคคันไซยังเดินทางได้อย่างสะดวกสบายด้วยระบบคมนาคมที่ครบครันและทันสมัย!

ต่อไปเราจะมาชี้พิกัด 12 ที่เที่ยวคันไซสุดฮิตแห่งปี 2023 ! ไปชมกันเลยดีกว่าค่ะว่าคันไซจะมีที่เที่ยวไหนน่าสนใจบ้าง!

1. วัดคิโยมิสึ (Kiyomizu-dera Temple) จังหวัดเกียวโต 

วัดคิโยมิสึ (Kiyomizu-dera Temple) หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ “วัดน้ำใส” เป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่และมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างมากของประเทศญี่ปุ่น หากจะให้กล่าวถึงเหตุผลว่าทำไมวัดนี้ถึงโด่งดัง? เราคิดว่าแค่ได้เห็นภาพของวัดหลายๆคนก็คงจะพอเดาออกกันแล้ว ด้วยทัศนียภาพอันงดงามและเลอค่านี้ ไม่ว่าจะเป็นชาวต่างชาติหรือแม้แต่คนญี่ปุ่นเองก็คงอยากมาชมความงามของวัดคิโยมิสึกันให้ได้สักครั้งแน่นอนค่ะ


วัดคิโยมิสึมีจุดไฮไลต์สุดตระการตาคืออาคารไม้แบบดั้งเดิม หลายๆคนคงยังไม่ทราบมาก่อนว่าวัดแห่งนี้สร้างด้วยวิธีการล็อกข้อต่อไม้แบบญี่ปุ่นโบราณแทบทั้งหลัง หรือถ้าจะอธิบายให้เข้าใจง่ายมากขึ้นก็คือ วัดนี้สร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปูเลยสักดอกค่ะ


นอกจากอาคารไม้แบบดั้งเดิมที่เป็นกิมมิคของวัดคิโยมิสึแล้ว บริเวณภายในวัดก็ยังมีเจดีย์ญี่ปุ่นสีแดงชาดอันงดงามอยู่อีกหลายองค์ ไม่ว่าจะมองไปในทิศทางใดเราก็จะเจอมุมสวยๆให้ถ่ายรูปเยอะมากค่ะ และที่ยิ่งไปกว่านั้น วัดคิโยมิสึยังติดอันดับจุดชมวิวซากุระและใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่นอีกด้วย


สำหรับการเดินทางมาที่วัดคิโยมิสึจะเน้นการเดินเท้าเป็นหลัก นั่นเป็นเพราะว่าวัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาค่ะ

ก่อนจะเดินขึ้นไปยังด้านบนของวัดนั้น เราจะได้เดินผ่านถนน Kiyomizu-Zaka Street ย่านถนนคนเดินที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารเรียงรายอยู่เต็มสองข้างทางค่ะ ระหว่างทางเราจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของบ้านเมืองสไตล์ญี่ปุ่นย้อนยุคกันอย่างใกล้ชิดเลย


หากใครมาเที่ยววัดคิโยมิสึเป็นครั้งแรกก็คงแปลกใจว่าทำไมผู้คนถึงใส่ชุดกิโมโนมาเดินเล่นที่นี่กัน เหตุผลก็เป็นเพราะว่าการใส่ชุดยูกาตะหรือชุดกิโมโนมาเดินเล่นที่นี่เป็นกิจกรรมยอดฮิตของย่านนี้เลยค่ะ อีกทั้งที่นี่ยังมีร้านเช่าชุดกิโมโนให้เราใส่ถ่ายรูปสวยๆกันอีกด้วยค่ะ
หากทุกคนมาเที่ยวที่วัดคิโยมิสึแล้ว ลองแวะเช่าชุดกิโมโนมาใส่ถ่ายรูปกันดูสักครั้งนะคะ

🌸 อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> Must See Place! ชมวัดน้ำใส Kiyomizu และพื้นที่โดยรอบ

🚅 การเดินทาง : หากเริ่มต้นที่สถานี Kyoto Station ให้ขึ้นรถบัสสาย 205, 206 หรือ 207 ไปลงที่ป้าย Kiyomizumichi (ใช้เวลา 20 นาที) จากนั้นเดินต่อประมาณ 12 นาทีก็จะถึงวัด

🚩 เว็บไซต์ : https://www.kiyomizudera.or.jp/

2. ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine) จังหวัดเกียวโต 


ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine) เป็นศาลเจ้าสายอินาริเก่าแก่ของญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าศาลเจ้าแห่งนี้เป็นจุดรับพลังพาวเวอร์สปอต (Power Spot) ในการเสริมดวงด้านการเงินและการงาน

นอกจากความขลังและความศักดิ์สิทธิ์ของที่นี่แล้ว ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอันดับต้นๆของจังหวัดเกียวโตอีกด้วยค่ะ


สำหรับจุดไฮไลต์ยอดฮิตของศาลเจ้าฟูชิมิอินาริก็คงหนีไม่พ้น “Senbon Torii” หรือ “เสาโทริอิพันต้น” ความพิเศษของเสาโทริอิที่นี่ก็คือเสาจะเรียงตัวยาวไปจนเกือบทั่วภูเขาทั้งลูก เป็นทัศนียภาพที่งดงามและดูแปลกตามากเลยทีเดียวค่ะ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงนิยมถ่ายรูปกับเสาโทริอิของศาลเจ้าแห่งนี้ เรียกได้ว่าใครที่มาเยือนคันไซแล้วไม่แวะมาถ่ายรูปตรงจุดนี้ถือว่าพลาดแล้วล่ะค่ะ


ที่มา (Reference) : chuck hsu / Shutterstock

ในช่วงเทศกาลศาลเจ้าฟูชิมิอินาริจะเต็มไปด้วยผู้คนมหาศาล หากใครต้องการแชะภาพตรงมุมถ่ายรูปเสาโทริอิพันต้น ขอแนะนำให้วางแผนเรื่องวันและเวลากันให้พร้อมนะคะ จะได้ไม่พลาดมุมถ่ายรูปสวยๆค่ะ
ส่วนเรื่องการเดินทางมายังศาลเจ้าฟูชิมิอินารินั้น ที่นี่สามารถเดินทางมาได้ง่ายและสะดวกสบายมาก เพราะสถานีรถไฟตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าศาลเจ้าเลยค่ะ

🌸 อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> ไหว้ท่านเทพจิ้งจอก & เทพแห่งน้ำที่ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ ศาลเจ้าชิโมกาโมะ และศาลเจ้าคามิกาโมะ

🚅 การเดินทาง : เดินทางโดยรถไฟนั่งรถไฟจากสถานี Kyoto Station ไปลงที่สถานี Fushimi-Inari Station ใช้เวลาประมาณ 5 นาที จากนั้นเดินต่อประมาณ 2 นาทีก็จะถึงศาลเจ้า

🚩 เว็บไซต์ : http://inari.jp/en/

3. Universal Studios Japan จังหวัดโอซาก้า


ที่มา (Reference) : Universal Studios Japan / © Nintendo TM & © Universal Studios.

Universal Studios Japan หรือ USJ เป็นสวนสนุกยอดฮิตในจังหวัดโอซาก้าที่จะทำให้ทุกคนเพลิดเพลินไปกับเครื่องเล่นสุดอลังการ รวมถึงโชว์การแสดงสุดพิเศษในธีมของภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ระดับฮอลลีวู้ด นอกจากนี้สวนสนุก Universal Studios Japan ยังมีอีเวนต์ประจำฤดูกาลอีกมากมาย ทำให้ไม่ว่าจะมาเที่ยวในช่วงเวลาไหนทุกคนก็สามารถอินไปกับบรรยากาศของอีเวนต์ช่วงนั้นได้ นอกจากนี้ Universal Studios Japan ยังเป็นสวนสนุกที่นักท่องเที่ยวสามารถสนุกสุดเหวี่ยงกันได้ทุกเพศทุกวัยเลยค่ะ


เมื่อเดินทางมาถึงสวนสนุก Universal Studios Japan แล้ว ทุกคนจะตื่นตาตื่นใจไปกับความอลังการของสวนสนุกแห่งนี้อย่างแน่นอน เพราะไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่น ตึกอาคาร ร้านอาหาร หรือห้องน้ำ ทุกสิ่งล้วนออกแบบและสร้างขึ้นในธีมภาพยนตร์หรือแอนิเมชั่นประจำโซนต่างๆทั้งหมดเลยค่ะ


ที่มา (Reference) : Kanuman / Shutterstock

โซนธีมพาร์คยอดฮิตที่เราอยากแนะนำก็คือโซน The Wizarding World of  Harry Potter โซนนี้ถูกออกแบบมาในธีมของภาพยนตร์เรื่อง ‘แฮร์รี่ พอตเตอร์’ ทั้งหมดเลยค่ะ


ภายในโซนนี้มีเครื่องเล่นแสนสนุกที่จะทำให้เราตื่นเต้นสุดๆจนอยากกลับมาซ้ำอีกรอบเลยค่ะ นอกจากนี้ในโซน The Wizarding World of  Harry Potter ยังมีร้านขายของที่ระลึกให้เราได้แวะซื้อของฝากกลับบ้านกันอีกด้วย หากทุกคนมาเที่ยวที่ USJ แล้ว ห้ามพลาดโซนนี้เลยค่ะ


ที่มา (Reference) : Universal Studios Japan/ © Nintendo TM & © Universal Studios.

หลังจากเพลิดเพลินไปกับโซนแฮร์รี่ พอตเตอร์จนเต็มอิ่มแล้ว หากเดินไปอีกประมาณ 10 นาที เราจะพบกับธีมพาร์คโซนใหม่ล่าสุดของสวนสนุกแห่งนี้ ซึ่งก็คือโซน Super Nintendo World ! ธีมพาร์คโซนดังกล่าวนี้เป็นธีม ‘มาริโอ้’ เกมยอดนิยมที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากค่ายนินเทนโด โซนมาริโอ้นี้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2021 ค่ะ


ที่มา (Reference) : Hannari_eli / Shutterstock

ที่มา (Reference) : Usa-Pyon / Shutterstock

นอกจากนี้ฉากของธีมพาร์ค SUPER NINTENDO WORLD ยังถูกออกแบบมาให้เหมือนในเกมเกือบทั้งหมด ราวกับยกฉากในเกมมาริโอ้มาไว้บนพื้นดินให้เราเห็นกันชัดๆเลยค่ะ โดยคอนเซ็ปต์ของฉากในธีมพาร์คที่เราเห็นกันอยู่นี้คือ “#WE ARE MARIO!”

ทันทีที่ได้ก้าวเข้ามาในธีมพาร์คโซนนี้แล้ว เราทุกคนจะกลายเป็นตัวมาริโอ้ที่อยู่ในเกมทันทีค่ะ! 


ที่มา (Reference) : Usa-Pyon / Shutterstock 

นอกจากโซนทางเข้าด้านหน้าที่สร้างขึ้นในธีมปราสาทคุปป้าแล้ว เรายังสามารถสัมผัสประสบการณ์การเล่นเกม Mario Kart ได้แบบสมจริงสุดๆด้วยค่ะ


ที่มา (Reference) : Universal Studios Japan / © Nintendo TM & © Universal Studios.

นอกจากนี้เรายังจะได้พบกับรูปปั้นมาริโอ้ตามจุดต่างๆอีกมากมาย ทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านของที่ระลึก แถมยังมีมุมถ่ายรูปน่ารักๆเต็มไปหมดเลยค่ะ
อย่างไรก็ตาม หากใครต้องการมาเที่ยวโซนนี้ แนะนำว่าให้จองล่วงหน้าในเว็บไซต์ไปก่อนก็ดีนะคะ

Universal Studios Japan มีโซนอื่นๆที่น่าสนใจอีกมากมาย ทุกคนสามารถอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย >> Top 5 เครื่องเล่น & ร้านค้า ใน Universal Studios Japan™ ที่ควรไปโดน !!!

🚅 การเดินทาง
- นั่งรถไฟจากสถานี Osaka-namba Station สาย Hanshin Namba ไปลงที่สถานี Nishikujo Station จากนั้นเปลี่ยนไปนั่งรถไฟ JR สาย Yumesaki แล้วลงที่สถานี Universal City ใช้เวลา 27 นาทีก็จะถึง USJ
- นั่งรถไฟจากสถานี Umeda Station ไปลงที่สถานี Universal City ใช้เวลาประมาณ 11 นาที ก็จะถึง USJ

📍 หมายเหตุ 📍
– Universal Express Pass เป็นตั๋วพิเศษที่ช่วยลดเวลาในการต่อคิวเครื่องเล่น อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> https://www.usjticketing.com/expressPass
– ตั๋วเข้าสวนสนุกมีหลากหลายประเภท ราคาตั๋วจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานที่ สามารถตรวจสอบกิจกรรมอีเวนต์และวันที่เข้าชมได้ที่เว็บไซต์
– แนะนำให้ซื้อตั๋วทางเว็บไซต์ออนไลน์ไปก่อนล่วงหน้า

🚩 เว็บไซต์ : https://www.usj.co.jp/web/en/us

>>> มีต่อด้านล่างจ้า <<<
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่