ยังไม่ต้องรีบซื้อทอง ศูนย์วิจัยทองคำชี้ปี"59 ยังขาลง อาจเห็นหลุด 1,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในประเทศบาทละ 17,500 บาท เหตุเฟดกดดันแม้ธนาคารกลางหลายประเทศทยอยตุน เทศกาลซื้อทองช่วงปีใหม่หนุนราคาไม่มาก เศรษฐกิจไม่อำนวย ยังชะลอกระทบกำลังซื้อ
นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า การปรับตัวลงต่อเนื่องของราคาทองตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน นับเป็นขาลงของราคาทองที่ยาวนานที่สุดในรอบ 40-50 ปี ประเมินว่าราคาทองในปี 2559 ยังเป็นขาลงต่อเนื่อง และจะลงแรงรับข่าวธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับเพิ่มดอกเบี้ยในช่วงต้นปี 2559 เวลาดังกล่าวมีโอกาสสูงที่ราคาทองโลกจะลงไปต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เพราะปัจจุบันราคาต้นทุนหน้าเหมืองช่วงกลางปี 2558 ลงไปเหลือ 885 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยประเมินกรอบราคาทองทั้งปี 2559 จะเคลื่อนไหวที่ 1,000-1,350 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่วนทองคำในประเทศจะซื้อขายที่บาทละ 17,500-21,500 บาท จึงแนะนำให้นักลงทุนที่จะซื้อเพื่อสะสมระยะสั้นเข้าซื้อในราคาต่ำกว่าบาทละ 1.8 หมื่นบาท และขายทำกำไรหากราคาเกินบาทละ 1.9 หมื่นบาท ส่วนหลังจากปี 2559 แนวโน้มทองคำจะเป็นอย่างไรนั้นยังประเมินไม่ได้ เพราะหากดูตามอุปสงค์ราคาทองต้องปรับขึ้น ผลจากธนาคารกลางหลายประเทศพยายามซื้อทองเก็บ แต่ด้วยแรงกดดันเรื่องความไม่แน่นอนของเฟดทำให้ราคายังคงผันผวนอยู่ในช่วงขา ลง สำหรับพอร์ตการลงทุนทองคำนั้นตั้งแต่ต้นปี 2558 ถึงปัจจุบัน ทองคำให้ผลตอบแทนประมาณ 1% ตามปกติหากไม่ใช่ช่วงขาลงทองจะให้ผลตอบแทนประมาณ 7-10% ต่อปี ส่วนปี 2559 แนะนำให้นักลงทุนถือครองทองคำในพอร์ตประมาณ 15-20% คาดว่าจะได้ผลตอบแทนประมาณ 5-10% ต่อปี
นายกมลธัญกล่าวอีกว่า ราคาทองคำในช่วงปลายปี 2558 ถึงต้นปี 2559 คาดว่าจะมีอุปสงค์ทองเพื่อสวมใส่ในเทศกาลปีใหม่ เทศกาลแต่งงานของอินเดีย ตรุษจีน และการเข้าลงทุนของกองทุนหนุนให้ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นบ้างเหมือนเช่นทุกปี ที่เดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ราคาทองคำจะปรับสูงที่สุด แต่ยังคงมีแรงกดดันของเฟดทำให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า ราคาทองจึงปรับขึ้นได้ไม่มาก ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศจีน ทำให้อุปสงค์จะน้อยกว่าทุกปี ขณะที่ประเทศไทยยอดขายทองคำรูปพรรณยังคงต่ำต่อเนื่อง
สำหรับความคิด เห็นโดยรวมของผู้ค้าทองคำจากผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ ผู้ค้าส่งทองคำ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า คาดว่าราคาซื้อขายทองในเดือนพฤศจิกายนนี้ในกรอบระดับบนจะอยู่ที่บาทละ 19,500-20,500 บาท และกรอบล่างที่บาทละ 18,000-19,000 บาท ทองคำโลกที่ 1,080-1,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
JJNY : "ทอง" ไม่สดใสซึมยาวถึงปีหน้า อาจเห็นบาทละ17,500 / หลุด1พันดอลล์ ศก.ในปท.ยังชะลอ
นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า การปรับตัวลงต่อเนื่องของราคาทองตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน นับเป็นขาลงของราคาทองที่ยาวนานที่สุดในรอบ 40-50 ปี ประเมินว่าราคาทองในปี 2559 ยังเป็นขาลงต่อเนื่อง และจะลงแรงรับข่าวธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับเพิ่มดอกเบี้ยในช่วงต้นปี 2559 เวลาดังกล่าวมีโอกาสสูงที่ราคาทองโลกจะลงไปต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เพราะปัจจุบันราคาต้นทุนหน้าเหมืองช่วงกลางปี 2558 ลงไปเหลือ 885 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยประเมินกรอบราคาทองทั้งปี 2559 จะเคลื่อนไหวที่ 1,000-1,350 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่วนทองคำในประเทศจะซื้อขายที่บาทละ 17,500-21,500 บาท จึงแนะนำให้นักลงทุนที่จะซื้อเพื่อสะสมระยะสั้นเข้าซื้อในราคาต่ำกว่าบาทละ 1.8 หมื่นบาท และขายทำกำไรหากราคาเกินบาทละ 1.9 หมื่นบาท ส่วนหลังจากปี 2559 แนวโน้มทองคำจะเป็นอย่างไรนั้นยังประเมินไม่ได้ เพราะหากดูตามอุปสงค์ราคาทองต้องปรับขึ้น ผลจากธนาคารกลางหลายประเทศพยายามซื้อทองเก็บ แต่ด้วยแรงกดดันเรื่องความไม่แน่นอนของเฟดทำให้ราคายังคงผันผวนอยู่ในช่วงขา ลง สำหรับพอร์ตการลงทุนทองคำนั้นตั้งแต่ต้นปี 2558 ถึงปัจจุบัน ทองคำให้ผลตอบแทนประมาณ 1% ตามปกติหากไม่ใช่ช่วงขาลงทองจะให้ผลตอบแทนประมาณ 7-10% ต่อปี ส่วนปี 2559 แนะนำให้นักลงทุนถือครองทองคำในพอร์ตประมาณ 15-20% คาดว่าจะได้ผลตอบแทนประมาณ 5-10% ต่อปี
นายกมลธัญกล่าวอีกว่า ราคาทองคำในช่วงปลายปี 2558 ถึงต้นปี 2559 คาดว่าจะมีอุปสงค์ทองเพื่อสวมใส่ในเทศกาลปีใหม่ เทศกาลแต่งงานของอินเดีย ตรุษจีน และการเข้าลงทุนของกองทุนหนุนให้ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นบ้างเหมือนเช่นทุกปี ที่เดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ราคาทองคำจะปรับสูงที่สุด แต่ยังคงมีแรงกดดันของเฟดทำให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า ราคาทองจึงปรับขึ้นได้ไม่มาก ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศจีน ทำให้อุปสงค์จะน้อยกว่าทุกปี ขณะที่ประเทศไทยยอดขายทองคำรูปพรรณยังคงต่ำต่อเนื่อง
สำหรับความคิด เห็นโดยรวมของผู้ค้าทองคำจากผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ ผู้ค้าส่งทองคำ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า คาดว่าราคาซื้อขายทองในเดือนพฤศจิกายนนี้ในกรอบระดับบนจะอยู่ที่บาทละ 19,500-20,500 บาท และกรอบล่างที่บาทละ 18,000-19,000 บาท ทองคำโลกที่ 1,080-1,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์