สนช.ผ่าน กม.กำลังสำรอง ให้อำนาจกองทัพสามารถเรียกเข้ารับราชการทหารได้ อาทิ กรณีภัยพิบัติ สงคราม ประกาศกฎอัยการศึก หากขัดขืนโทษจำคุกไม่เกิน 4ปี แต่หากหนีโดนขึ้นศาลทหาร
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยมีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช.คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธาน ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณา ร่างพ.ร.บ.กำลังพลสำรอง พ.ศ..... ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญมี พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร เป็นประธาน พิจารณาเสร็จแล้ว โดยร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว มีหลักการสำคัญเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม โดยกำหนดประเภทบุคคลที่จะเป็นกำลังพลสำรอง ทั้งนี้ได้บัญญัติคำนิยาม”กำลังพลสำรอง”หมายความว่า บุคคลซึ่งเป็นกำลังสำรองประเภทที่ 1 ตามกฎหมายว่าด้วยการระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม
สำหรับบุคคลที่เข้าเป็นกำลังพลสำรองนั้น ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ได้กำหนดให้รับสมัครจากบุคคลที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม คัดเลือกจากนายทหารสัญญาบัตรกองหนุน นายทหารสัญญาบัตรนอกราชการ นายทหารสัญญาบัตรนอกกอง โดยการเรียกกำลังพลสำรองให้กระทำได้ในกรณีจำเป็นเพื่อปฏิบัติราชการตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหมที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถเป็นการเฉพาะหรือเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาจากภัยพิบัติ การระดมพลให้กระทำได้ในเวลาที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหรือประกาศกฎอัยการศึกหรือมีการรบหรือการสงคราม
ทั้งนี้ กำลังพลสำรองมีสิทธิได้รับค่าตอบแทน ค่าเบี้ยเลี้ยงฯ ตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด แต่หากผู้ใดหลีกเลี่ยงหรือขัดขืนไม่มาหรือมาแต่ไม่เข้ารับราชการทหาร ไม่ว่าเพื่อตรวจสอบ เพื่อฝึกวิชาทหาร เพื่อปฏิบัติราชการ หรือเพื่อทดลองความพรั่งพร้อมหรือในการระดมพล มีโทษปรับและจำคุกไม่เกิน 4 ปี แต่หากอยู่ไม่ครบกำหนดเวลาตามกำหนดในคำสั่งเรียก ถือว่ามีความผิดฐานหนีราชการและต้องโทษตามกฎหมายว่าด้วยอาญาทหาร ทั้งนี้คณะกรรมาธิการฯมีข้อสังเกตว่า กรณีที่กำลังพลสำรองเป็นลูกจ้างจะมีสิทธิได้รับค่าจ้างในขณะที่เข้ารับราชการทหารตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานแต่หากประกอบอาชีพอิสระจะไม่มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนดังนั้นควรมีการกำหนดสิทธิประโยชน์ให้กับบุคคลเหล่านี้ด้วย
หลังจากที่พิจารณาเรียงลำดับรายมาตราแล้วที่ประชุมสนช.ได้มีมติเห็นชอบในวาระ3ด้วยคะแนนเสียง 192 เสียง งดออกเสียง 4 ประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ พล.อ.สิงห์ศึก ได้กล่าวขอบคุณสมาชิกว่า ตั้งแต่ พ.ศ. 2497 จนถึงปัจจุบันผ่านมา 61 ปี ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกำลังพลสำรอง ซึ่งประเทศไทยมีกำลังพลสำรองกว่า 12 ล้านคนแต่ใช้กลับกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องมาบังคับใช้ เมื่อร่างพ.ร.บ.กำลังพลสำรองมีผลบังคับใช้ก็จะมีความชัดเจนเกี่ยวกับการเข้าเป็นกำลังพลสำรอง และความชัดเจนในสิทธิ ผลประโยชน์ต่างของกำลังพลสำรอง
ที่มา :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1447325892
ข่าวเก่าที่เกี่ยวข้อง :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.manager.co.th/AstvWeekend/ViewNews.aspx?NewsID=9580000078333
------------------------------------------
ขอพลังจงอยู่คู่ตัวทุกท่านครับ
ได้เวลาคืนความสุขของจริงแล้วนะ
กม.กำลังสำรองผ่านแล้ว! กองทัพเรียกตัวได้เมื่อจำเป็น ขัดขืนคุก4ปี ใครหนีเจอศาลทหาร
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยมีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช.คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธาน ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณา ร่างพ.ร.บ.กำลังพลสำรอง พ.ศ..... ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญมี พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร เป็นประธาน พิจารณาเสร็จแล้ว โดยร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว มีหลักการสำคัญเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม โดยกำหนดประเภทบุคคลที่จะเป็นกำลังพลสำรอง ทั้งนี้ได้บัญญัติคำนิยาม”กำลังพลสำรอง”หมายความว่า บุคคลซึ่งเป็นกำลังสำรองประเภทที่ 1 ตามกฎหมายว่าด้วยการระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม
สำหรับบุคคลที่เข้าเป็นกำลังพลสำรองนั้น ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ได้กำหนดให้รับสมัครจากบุคคลที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม คัดเลือกจากนายทหารสัญญาบัตรกองหนุน นายทหารสัญญาบัตรนอกราชการ นายทหารสัญญาบัตรนอกกอง โดยการเรียกกำลังพลสำรองให้กระทำได้ในกรณีจำเป็นเพื่อปฏิบัติราชการตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหมที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถเป็นการเฉพาะหรือเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาจากภัยพิบัติ การระดมพลให้กระทำได้ในเวลาที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหรือประกาศกฎอัยการศึกหรือมีการรบหรือการสงคราม
ทั้งนี้ กำลังพลสำรองมีสิทธิได้รับค่าตอบแทน ค่าเบี้ยเลี้ยงฯ ตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด แต่หากผู้ใดหลีกเลี่ยงหรือขัดขืนไม่มาหรือมาแต่ไม่เข้ารับราชการทหาร ไม่ว่าเพื่อตรวจสอบ เพื่อฝึกวิชาทหาร เพื่อปฏิบัติราชการ หรือเพื่อทดลองความพรั่งพร้อมหรือในการระดมพล มีโทษปรับและจำคุกไม่เกิน 4 ปี แต่หากอยู่ไม่ครบกำหนดเวลาตามกำหนดในคำสั่งเรียก ถือว่ามีความผิดฐานหนีราชการและต้องโทษตามกฎหมายว่าด้วยอาญาทหาร ทั้งนี้คณะกรรมาธิการฯมีข้อสังเกตว่า กรณีที่กำลังพลสำรองเป็นลูกจ้างจะมีสิทธิได้รับค่าจ้างในขณะที่เข้ารับราชการทหารตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานแต่หากประกอบอาชีพอิสระจะไม่มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนดังนั้นควรมีการกำหนดสิทธิประโยชน์ให้กับบุคคลเหล่านี้ด้วย
หลังจากที่พิจารณาเรียงลำดับรายมาตราแล้วที่ประชุมสนช.ได้มีมติเห็นชอบในวาระ3ด้วยคะแนนเสียง 192 เสียง งดออกเสียง 4 ประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ พล.อ.สิงห์ศึก ได้กล่าวขอบคุณสมาชิกว่า ตั้งแต่ พ.ศ. 2497 จนถึงปัจจุบันผ่านมา 61 ปี ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกำลังพลสำรอง ซึ่งประเทศไทยมีกำลังพลสำรองกว่า 12 ล้านคนแต่ใช้กลับกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องมาบังคับใช้ เมื่อร่างพ.ร.บ.กำลังพลสำรองมีผลบังคับใช้ก็จะมีความชัดเจนเกี่ยวกับการเข้าเป็นกำลังพลสำรอง และความชัดเจนในสิทธิ ผลประโยชน์ต่างของกำลังพลสำรอง
ที่มา :[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ข่าวเก่าที่เกี่ยวข้อง : [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
------------------------------------------
ขอพลังจงอยู่คู่ตัวทุกท่านครับ
ได้เวลาคืนความสุขของจริงแล้วนะ