ใครบ้างมีสิทธิ์ถูกเรียกกำลังพลสำรอง กรณีเกิดสงคราม

สรุประเบียบข้อบังคับกองทัพบก กรณีเกิดสงคราม ใครบ้างมีสิทธิ์ถูกเรียกกำลังพลสำรอง มีเกณฑ์ ลำดับการเรียกเข้าประจำการอย่างไร เช็กเลย!

เหตุการณ์ปะทะบริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ระหว่างทหารไทยและกัมพูชาเมื่อไม่นานนี้ สะท้อนถึงความท้าทายด้านการปักปันเขตแดนที่ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการ แม้ทั้งสองฝ่ายจะเน้นย้ำถึงการใช้สันติวิธีและความร่วมมือผ่านการเจรจาทวิภาคี แต่ก็สร้างความกังวลในสังคมไม่น้อย เหตุการณ์นี้จึงเป็นโอกาสให้ประชาชนโดยเฉพาะเหล่าชายไทย ได้ทบทวนความพร้อมในด้านกำลังพลสำรอง รวมถึงกระบวนการเรียกกำลังพลและการจัดเตรียมความพร้อมในสถานการณ์ต่าง ๆ



     จากข้อมูลของ ระเบียบกองทัพบกว่าด้วยการเรียกกำลังพลสำรองเข้ารับราชการทหาร พ.ศ. 2560 และ ข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยกิจการกำลังพลสำรอง พ.ศ. 2559 สามารถสรุปข้อมูลการเรียกกำลังพลสำรองได้ ดังนี้
กำลังพลสำรองคืออะไร?
กำลังพลสำรอง หรือที่เรียกกันว่า ทหารกองหนุน หมายถึง ผู้ที่เคยผ่านการเป็นทหารแล้ว แต่ปลดประจำการกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ ได้แก่

ผู้ที่สำเร็จการฝึกวิชาทหาร (ร.ด.) ตั้งแต่ชั้นปีที่ 3 ขึ้นไป และขึ้นทะเบียนกองประจำการจนปลดเป็นทหารกองหนุน
ผู้ที่ปลดจากกองประจำการ (ทหารเกณฑ์) เมื่อครบกำหนดตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

เมื่อเกิดสงคราม เรียกกำลังพลสำรองอย่างไร?
     เมื่อมีเหตุการณ์สงครามหรือความไม่สงบเกิดขึ้น กระทรวงกลาโหม มีอำนาจในการออกคำสั่ง ระดมพล เพื่อเสริม กำลังพลประจำการ โดยจะดำเนินการเรียกพลกำลังพลสำรองตามขั้นตอน ดังนี้

1.ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกส่งหนังสือผู้ว่าฯ
2.ผู้ว่าราชการจังหวัด ส่งหนังสือถึงนายอำเภอ
3.นายอำเภอ ส่งหนังสือถึง กำนัน/นายกเทศมนตรี
4.กำนัน/นายกเทศมนตรี ส่งหนังสือถึงผู้ใหญ่บ้าน
5.ผู้ใหญ่บ้าน เรียกบุคคลตามบัญชีมารายงานตัว

ลำดับการเรียกทหารกองหนุนจากทหารเกณฑ์
สำหรับ ทหารกองหนุน ที่ปลดจาก ทหารเกณฑ์ (หรือเรียกว่า ทหารกองหนุนประเภทที่ 1) จะมีการจัดลำดับตามอายุ ดังนี้

ชั้นที่ 1: อายุต่ำกว่า 30 ปีบริบูรณ์
ชั้นที่ 2: อายุ 30 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่ถึง 40 ปี
ชั้นที่ 3: อายุ 40 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่ถึง 46 ปี
พ้นกำหนดการรับราชการทหาร: อายุเกิน 46 ปีบริบูรณ์
โดยปกติ กำลังพลสำรอง ที่อายุน้อยกว่ามักถูกเรียกตัวก่อน เนื่องจากมีความพร้อมและทักษะทางทหารยังคงสดใหม่

เกณฑ์การเรียกระดมพลในกรณีสงคราม
เมื่อต้องระดมพลเต็มรูปแบบ กองทัพจะพิจารณาจาก

*ความต้องการกำลังพลเฉพาะทาง เช่น แพทย์สนาม, ช่างซ่อมบำรุง, หน่วยรบพิเศษ
*ความพร้อมด้านสุขภาพ
*ภูมิลำเนาของทหาร
*สถานะครอบครัวและสังคม (บางกรณีอาจขอผ่อนผันได้)

     กำลังพลสำรอง ไม่ว่าจะเป็น ทหารเกณฑ์ปลดประจำการ หรือ นักศึกษาวิชาทหาร (ร.ด.) ต่างถือเป็นส่วนสำคัญในการเสริม กองทัพไทย และมีโอกาสถูกเรียกตัวหากประเทศต้องเผชิญ ภัยคุกคามทางความมั่นคง หรือสงคราม ดังนั้นผู้ที่อยู่ในสถานะนี้ควรรู้สิทธิ หน้าที่ และเตรียมตัวให้พร้อมเสมอ หากวันหนึ่งต้องกลับไปปฏิบัติภารกิจเพื่อชาติอีกครั้ง

ขอบคุณข้อมูล โดย PPTV Online
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่