SAMTEL-SIMกำไรวูบ สวนทางรายได้โต-มาร์จิ้นหด ไอ-โมบายเซ็นกสทฯขายส่งมือถือ
โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
โพสต์ทูเดย์ กลุ่มสามารถฯ กอดคอกำไรร่วง SAMTEL เหลือ 121 ล้านบาท SIM ทำได้ 20 ล้าน
บริษัท สามารถเทลคอม (SAMTEL) เปิดเผยผลงานไตรมาส 3 ปี 2558 กำไรสุทธิ 121 ล้านบาท ลดลงจำนวน 36 ล้านบาท คิดเป็น 22.92% เมื่อเปรียบเทียบกำไรสุทธิ 157 ล้านบาท รวม 9 เดือนปีนี้กำไรสุทธิ 372 ล้านบาท ลดลง 182 ล้านบาท หรือประมาณ 33% จากระยะเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 554 ล้านบาท
บริษัทมีรายได้รวม 1,763 ล้านบาท ในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 12% มาจากรายได้จากการขายและบริการจำนวน 1,749 ล้านบาท เติบโต 12.3% สาเหตุหลักเกิดจากการรับรู้รายได้จากงานโครงการเพิ่มขึ้น แต่มีรายได้อื่นเพียง 14 ล้านบาท ลดลง ขณะที่มีต้นทุนขายและบริการจำนวน 1,443 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 193 ล้านบาท คิดเป็น 15.4% ทำให้กำไรขั้นต้นลดลงเล็กน้อยเหลือจำนวน 306 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนกำไรขั้นต้น 17.5% เทียบกับ 19.7% จากระยะเดียวกันของปีก่อน
ด้านบริษัท สามารถ ไอ-โมบาย (SIM) มีกำไรสุทธิเพียง 20 ล้านบาท ทรุดหนักจากที่มีกำไรสุทธิ 151 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีผลต่อ 9 เดือน กำไรสุทธิ 209 ล้านบาท จากระยะเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 638 ล้านบาท
สำหรับในไตรมาส 3 บริษัทมีรายได้รวม 1,974 ล้านบาท ลดลงถึง 26.8% จากไตรมาสเดียวกันของ ปีก่อน และลดลง 7.6% จากไตรมาส 2 ส่วนใหญ่มาจากการลดลงของรายได้ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ตามการลดลงของจำนวนเครื่องที่จำหน่าย และรายได้ของธุรกิจการให้บริการโทรคมนาคมลดลง บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงาน 42 ล้านบาท ลดลง 75.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือลดลง 58.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา
ขณะที่อัตรากำไรจากการดำเนินงานลดลง 4.1% เมื่อเทียบกับ ช่วงเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ 2.1% หรือลดลง 2.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการลดลงของอัตรากำไรขั้นต้นของทุกสายธุรกิจ โดยเฉพาะสายธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมถึงการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารรวมค่าใช้จ่ายทางการเงิน
บริษัทแจ้งว่า เมื่อวันที่ 22 ต.ค. บริษัทได้ลงนามในสัญญา การขายส่งบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่กับบริษัท กสท โทรคมนาคม การลงนามสัญญาครั้งนี้จะทำให้ บริษัทสามารถให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบ MVNO ที่มีเครือข่ายครอบคลุม ทำให้มีโอกาสในการทำ การตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น และเพิ่มรายได้ประจำ โดยบริษัทตั้งเป้าหมายจะเริ่มให้บริการภายในเดือน ม.ค. 2559 ซึ่ง บริษัทจะเร่งทำการตลาด และ บริหารช่องทางการจัดจำหน่ายเพื่อขยายตลาดให้ได้ตามเป้าหมาย
ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 (หน้า B8)
SAMTEL-SIM กำไรวูบ สวนทางรายได้โต-มาร์จิ้นหด ไอ-โมบายเซ็น กสทฯ ขายส่งมือถือ
โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
โพสต์ทูเดย์ กลุ่มสามารถฯ กอดคอกำไรร่วง SAMTEL เหลือ 121 ล้านบาท SIM ทำได้ 20 ล้าน
บริษัท สามารถเทลคอม (SAMTEL) เปิดเผยผลงานไตรมาส 3 ปี 2558 กำไรสุทธิ 121 ล้านบาท ลดลงจำนวน 36 ล้านบาท คิดเป็น 22.92% เมื่อเปรียบเทียบกำไรสุทธิ 157 ล้านบาท รวม 9 เดือนปีนี้กำไรสุทธิ 372 ล้านบาท ลดลง 182 ล้านบาท หรือประมาณ 33% จากระยะเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 554 ล้านบาท
บริษัทมีรายได้รวม 1,763 ล้านบาท ในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 12% มาจากรายได้จากการขายและบริการจำนวน 1,749 ล้านบาท เติบโต 12.3% สาเหตุหลักเกิดจากการรับรู้รายได้จากงานโครงการเพิ่มขึ้น แต่มีรายได้อื่นเพียง 14 ล้านบาท ลดลง ขณะที่มีต้นทุนขายและบริการจำนวน 1,443 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 193 ล้านบาท คิดเป็น 15.4% ทำให้กำไรขั้นต้นลดลงเล็กน้อยเหลือจำนวน 306 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนกำไรขั้นต้น 17.5% เทียบกับ 19.7% จากระยะเดียวกันของปีก่อน
ด้านบริษัท สามารถ ไอ-โมบาย (SIM) มีกำไรสุทธิเพียง 20 ล้านบาท ทรุดหนักจากที่มีกำไรสุทธิ 151 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีผลต่อ 9 เดือน กำไรสุทธิ 209 ล้านบาท จากระยะเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 638 ล้านบาท
สำหรับในไตรมาส 3 บริษัทมีรายได้รวม 1,974 ล้านบาท ลดลงถึง 26.8% จากไตรมาสเดียวกันของ ปีก่อน และลดลง 7.6% จากไตรมาส 2 ส่วนใหญ่มาจากการลดลงของรายได้ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ตามการลดลงของจำนวนเครื่องที่จำหน่าย และรายได้ของธุรกิจการให้บริการโทรคมนาคมลดลง บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงาน 42 ล้านบาท ลดลง 75.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือลดลง 58.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา
ขณะที่อัตรากำไรจากการดำเนินงานลดลง 4.1% เมื่อเทียบกับ ช่วงเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ 2.1% หรือลดลง 2.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการลดลงของอัตรากำไรขั้นต้นของทุกสายธุรกิจ โดยเฉพาะสายธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมถึงการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารรวมค่าใช้จ่ายทางการเงิน
บริษัทแจ้งว่า เมื่อวันที่ 22 ต.ค. บริษัทได้ลงนามในสัญญา การขายส่งบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่กับบริษัท กสท โทรคมนาคม การลงนามสัญญาครั้งนี้จะทำให้ บริษัทสามารถให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบ MVNO ที่มีเครือข่ายครอบคลุม ทำให้มีโอกาสในการทำ การตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น และเพิ่มรายได้ประจำ โดยบริษัทตั้งเป้าหมายจะเริ่มให้บริการภายในเดือน ม.ค. 2559 ซึ่ง บริษัทจะเร่งทำการตลาด และ บริหารช่องทางการจัดจำหน่ายเพื่อขยายตลาดให้ได้ตามเป้าหมาย
ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 (หน้า B8)